Chapter XXXXII
"แทยอน!..."
เสียงแหบหวานเปล่งออกมาดังกว่าปรกติถึงจะไม่มากนักแต่ก็พอทำให้เจ้าของชื่อนั้นดึงสติกลับมาอยู่ที่ปจุบันได้เสียที
แทยอนกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่ภาพในความทรงจำที่ถึงแม้ว่าจะผ่านมานานร่วมห้าปีกว่าเกือบหกปีได้
แต่ทุกอย่างกลับคมชัดราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเพียงเมื่อวาน ทุกความรู้สึกในตอนนั้นยังคงชัดเจนว่าปวดร้าวมากเพียงใด
ก่อนจะหันไปมองอีกคนที่ช่วยเรียกสติให้เธอหลุดออกมาจากอดีตที่แสนโหดร้าย
ทิฟฟานี่ขยับตัวขึ้นนั่งเอนหลังพิงหัวเตียงจับจ้องดวงหน้าของคนที่เธอเพิ่งจะเรียกให้เค้าหันกลับมามองเธอนั้นอย่างไม่ปิดบัง
ให้มองยังไงวันนี้แทยอนก็ดูแปลกๆไปจริงๆนั่นแหละ
ทั้งที่ดูนิ่งๆเงียบไม่ค่อยหื่นกวนประสาทเหมือนทุกทีที่พบกัน แถมเมื่อกี้ยังดูเหม่อลอยอีกแหนะ
"เป็นอะไรไป มีอะไรให้ฉันช่วยได้หรือเปล่า"
ทิฟฟานี่ถามออกไปจากความรู้สึกโดยตรง ส่วนหนึ่งก็เพราะอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอและแทยอน
ทำให้ทิฟฟานี่รู้สึกว่าอยากจะช่วยเหลือคนตัวเล็กคนนี้บ้างหากเค้ายินดีรับความช่วยเหลือจากเธอ
และอีกหนึ่งส่วนอาจเป็นเพราะความรู้สึกลึกๆที่ไร้เหตุผลว่าทำไมถึงอยากช่วยคนคนนี้ รู้เพียงแค่อยากช่วยก็เท่านั้น
แทยอนเลิกเรียวคิ้วขึ้นเล็กน้อยให้กับคำถามเชิงเป็นห่วงของร่างบาง เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอแสดงออกไปน่ะมันชัดเจนเสียจนแก้ตัวไม่ขึ้น
คงไม่สามารถพูดออกไปได้ว่า ไม่มีอะไร แต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีว่าอยากจะให้ทิฟฟานี่ช่วยอะไร
เพราะแทยอนเองก็ยังพกความไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจว่าควรจะตัดสินใจทำมันลงไปเลยดีไหม
ผลที่ออกมาจะเป็นอย่างที่เธอหวังหรือเปล่า หรือเธอแค่คิดไปเองคนเดียว อีกใจก็คิดว่าถ้าไม่ลองทำก็คงไม่ได้รู้คำตอบสักที
แต่หากทำมันก็ต้องแลกกับความลับของเธอถูกเผยออกมาให้คนตรงหน้านี้ได้รับรู้ไปหนึ่งเรื่อง ซึ่งนั่นแหละที่เป็นเหตุที่ทำให้แทยอนไม่กล้าตัดสินใจสักที
เธอสบลึกเข้าไปยังนัยน์ตาสีเงินเงาที่จับจ้องเธออยู่ก่อนแล้ว พลางนึกย้อนกลับไปชั่วโมงก่อนที่ร่างเล็กนะได้ปะทะกับแอมเบอโดยตรง
...ยังไงก็ต้องรีบทำอะไรสักอย่าง...
"และอีกเรื่องนึงที่เธอควรรู้...มีคนคนนึงที่เค้าจะอยู่ข้างๆเธอ
และช่วยเธอได้ แค่เธอนะแทยอน เธอสามารถทำในสิ่งก็เธอคิดได้ทุกอย่างแค่ไม่ผิดต่อคำสาบานของตัวเอง"
หนึ่งประโยคบอกเล่าของฮโยยอนที่ยังตามหลอกหลอนไปด้วยทุกที่ คิ้วบางขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อต้องไตร่ตรองอย่างหนัก
ใช่ ก่อนหน้านี้แทยอนเคยคิดว่าคนที่ฮโยยอนพูดถึงนั้น อาจจะเป็น ยุนอา เจสสิก้า หรือโบอา มาตลอด
แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้มีความรู้สึกชัดเจนมากขึ้นว่าจริงๆแล้วมันคือคนตรงนั้นนี่ต่างหากล่ะ
ถึงจะเคยนึกถึงสเต็งอายมาบ้างเป็นบางครั้งคราวแต่มันก็ไม่ได้แน่ชัดในความรู้สึกขนาดนี้
"ร่างนี้ร่างจริงใช่ไหม"
หลังจากที่พยายามครุ่นคิดหลายๆอย่างแทยอนก็ได้ถามคนที่นอนอยู่บนเตียงไปแบบนั้น
มันอาจดูไม่เกี่ยวกับการรักษาหรือการช่วยเหลือที่เธอต้องการจากทิฟฟานี่
แต่นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่แทยอนต้องการจากทิฟฟานี่ต่างหากล่ะ
ร่างบางได้แต่พยักหน้ารับ ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าแทยอนจะถามถึงร่างจริงของเธอทำไม
"แล้ว...ฉันไว้ใจเธอได้ใช่มั้ย?"
กลีบปากบางขยับเอ่ยถามไปอย่างงั้นแหละ เพราะใบหน้าขาวนั้นโน้มเข้าไปใกล้อีกฝ่ายจนช่องว่างนั้นเหลือไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ
สบลึกเข้านัยน์ตาสีเงินเงาที่ยังจับจ้องกันอยู่อย่างเดิม และทิฟฟานี่ก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือถอยหนีแม้แต่น้อย
พร้อมกับนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องเจสสิก้าเมื่อหลายเดือนก่อนทิฟฟานี่ก็สามารถเก็บมันไว้ได้อย่างมิดชิด
กลีบปากบางแตะสัมผัสส่วนเดียวกันแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มขยับป้อนจูบให้กันทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มใจ
ทิฟฟานี่เลื่อนสองมือขึ้นโอบรอบคอคนตัวเล็กกว่าไว้ปลายนิ้วก็แตะไล้ผิวเนื้อนุ่มหลังต้นคออย่างเย้ายวน
แม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างที่ครั้งนี้แทยอนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทั้งที่ท่าทางสีหน้าของร่างเล็กนั้นดูนิ่งเฉยกว่าปรกติ
แต่ก็นั่นแหละในเมื่อแทยอนเริ่มเปิดทางให้เธอแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องปฏิเสธนี่ จริงมั้ย
สองแขนรั้งร่างที่ยืนอยู่ข้างเตียงนั้นให้แนบชิดเข้ามาอีก ไม่นานแทยอนก็ก้าวขึ้นเตียงมาคร่อมร่างของทิฟฟานี่ไว้
ทั้งที่กลีบปากของเรายังดูดดุนกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เรียวลิ้นร้อนถูกส่งออกมาเกี่ยวกระหวัดกันให้อารมณ์ของทั้งสองนั้นปะทุขึ้น
มือเล็กของคนด้านบนลากแหวกสาปเสื้อของคนที่นั่งกึ่งนอนพิงหัวเตียงอยู่ให้แหวกออก
ก่อนจะผละจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่งนึกเสียดายความหอมหวานของคนสวยบาดใจตรงหน้า
สบลึกเข้าไปภายในดวงเนตรสีเงินที่ตอนนี้กลับมาดูมีพลังและดูแข็งแกร่งเช่นเดิมแล้ว
แทยอนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยทั้งที่ยังสบตากัน
"จะว่าอะไรมั้ยถ้าตอนนี้ชฉันจะทวงคำพูด ในวันนั้น"
ทิฟฟานี่ไม่ได้ตอบอะไรออกมาเป็นคำพูด หากแต่มุมปากอิ่มนั้นกระตุกยกขึ้นสูงทันทีที่ฟังจบประโยคนั้น
มือเรียวก็เลื่อนลงจากต้นคอของคนด้านบน ก่อนจะไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่แทยอนสวมใส่อยู่อย่างเนิบนาบเย้ายวนทั้งการกระทำและทางสายตาที่ยังไม่ละออกจากกัน
ใช่...หลังจากวันนั้นที่เธอและแทยอนได้จูบกันในห้องแล็บนี้อีกครั้งและได้พูดคุยถึงเชิงเรื่องอย่างว่า ซึ่งทิฟฟานี่ก็พอจะเดาออกว่าวันนั้นแทยอนพูดจริง
ที่เคยบอกว่าจะรอให้เธอหายดีก่อน และนั่นทำให้เธอได้คิดทบทวนมาเป็นอย่างดีแล้วว่าจะตอบรับอย่างไร
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยคิดเล่นๆอยู่บ้างเวลาที่ได้เราอยู่ด้วยกันตามลำพังว่าถ้าหากเราจะมีอะไรเกินเลยต่อกันไปถึงขั้นนั้นเธอเองจะโอเคหรือเปล่า
แน่นอนว่าคำตอบในเมื่อก่อนนั้นทิฟฟานี่ยังคงไม่มั่นใจ
เพราะหากจะยอมมีอะไรกับแทยอนเพียงเพราะแค่รู้สึกว่าแทยอนเหมือนแทงกู ทิฟฟานี่รู้สึกว่าเหตุผลมันมีน้ำหนักไม่เพียงพอ
แต่ตอนนี้ที่เธอคิดว่าโอเคได้อาจเป็นเพราะไม่ได้มีแค่เหตุผลข้อนั่นเพียงข้อเดียว
เพราะอีกข้อนึงมันเพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นานและทิฟฟานี่เองก็ยอมรับความรู้สึกตัวเองได้ว่า
เธอต้องการแทยอนในแบบที่เป็นแทยอนเช่นกัน ไม่ใช่ว่าต้องการเพียงเพราะเหมือนแทงกู
เสียงครางอื้ออึงในลำคอถูกเปล่งออกมาเมื่ออารมณ์ที่มีเพิ่มขึ้นมันอัดอั้นเสียจนรู้สึกร้อนไปทั่วทั้งร่าง
และมันก็ทำให้คนใจร้อนอย่างทิฟฟานี่ทนแทบไม่ไหว มือเรียวถูกส่งไปเร่งเร้าคนด้านบนอีกครั้งด้วยการปลดกระดุมกางเกงยีนส์ขาสั้นของแทยอน
และรูดมันลงจากเอวบางเล็กน้อยเพื่อให้ฝ่ามือร้อนได้สอดเข้าไปลูบไล้บั้นท้ายนุ่มที่มีผ้าลูกไม้สีดำชิ้นบางขวางกั้นอยู่อีกชั้นนึง
ปลายนิ้วลากต่ำลงมายังโคนขาเรียว ก่อนจะเลื่อนไปยังขาอ่อนด้านใน ลูบไล้วนไปมาอยู่อย่างนั้น
จนกลายเป็นคนที่โดนปลุกเร้าอย่างแทยอนที่ทนไม่ไหว ผละใบหน้าขาวใสออกจากช่วงต้นคอของอีกฝ่าย
ยันกายเล็กขึ้นยืนเข่าก่อนจะจัดการกับสิ่งขัดใจบนร่างของตัวเองออกไปอย่างรีบร้อน แล้วก้มลงซุกไซร้เนินอกอิ่มของคนใต้ร่างราวกับหิวกระหายมานาน
กลีบปากบางงับเอาส่วนปลายยอดดูดเม้มจนเกิดเสียง พลางใช้ปลายลิ้นตวัดรัวใส่ จนได้ยินเสียงครางหวานเรียกชื่อเธอ
แม้จะเป็นเสียงผะแผ่วแต่ความเซ็กซี่ที่ซ่อนอยู่นั้นมันมากเสียจนแทยอนแทบคลั่ง
ทิฟฟานี่...ผู้หญิงอันตราย ผู้หญิงที่สามารถทำให้แทยอนแทบคลั่งได้เพียงเพราะได้ยินแสบพร่าเบานั้นร้องเรียกชื่อเธอช้าๆ แทยอนอาห์~
"อ๊ะ~"
เหมือนถูกล่อลวงให้เคลิ้มด้วยเสียงครางหวานๆนั่น แต่แทยอนก็ต้องครางตอบออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
เพราะนิ้วเรียวที่เคยลากไล้วนไปมาอยู่แถวขาอ่อนด้านในของเธอนั้น
ถูกเปลี่ยนมาลากผ่านกลางกายที่ฉ่ำเยิ้ม พร้อมถูไถย้ำๆอยู่ที่จุดร้อนรุ่มนั้นไม่ลดละ
ทิฟฟานี่เปรยยิ้มอย่างพึงพอใจให้กับร่างเล็กที่คร่อมร่างเธออยู่นั้นช้อนสายตาเร้าอารมณ์ขึ้นมามองหน้ากัน
เฉกเดียวกับตรงนั้นของแทยอนที่เรียวนิ้วของเธอสัมผัสอยู่
"ฉันไม่ใช่เคะ"
แทยอนคว้าข้อมือของทิฟฟานี่แล้วชักออกจากกลางกายของตัวเองก่อนที่นิ้วเรียวยาวนั้นจะถูกดันเข้าไปในช่องทางร้อนของเธอ
พลางขยับเปลี่ยนเป็นคร่อมหน้าขาของคนใต้ร่างไว้เพียงข้างเดียว
และนั่นก็ทำให้ทิฟฟานี่ต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ
"หึ้ม? แล้วกับยุนอาล่ะ"
อดไม่ได้ที่จะถามออกไปอย่างนั้น ถึงทิฟฟานี่จะพอรู้อยู่บ้างว่าแทยอนก็เคยเป็นเมะมาก่อน จากที่เคยฟังเจสสก้าเล่าวีรกรรมความเจ้าชู้ของแทยอน
แต่ยุนอาก็เป็นเมะเหมือนกัน และปจุบันนี้แทยอนเคะให้ยุนอาอยู่นี่ ใครๆก็รู้ แถมท่วงท่าของเราเมื่อครู่นี้เธอก็ไม่สามารถคิดไปได้หรอกว่าแทยอนจะยังเมะอยู่
"ฉันยอมให้แค่ยุนอาคนเดียว"
พูดจบก็ขยับกายสอดขาพาดสลับแล้วกดสะโพกลงให้จุดอ่อนไหวของเราสัมผัสกัน แทยอนไม่ได้แปลกใจอะไรที่ทิฟฟานี่จะคิดแบบนั้น
แน่นอนว่าแทยอนยอมรับว่าเธอเคะให้ยุนอา แต่ก็แค่กับยุนอาคนเดียวไง ยังไม่ทันที่แทยอนจะได้บดเบียดส่วนนั้นให้แนบชิดกันมากขึ้น
ก็ถูกมือเรียวของทิฟฟานี่รั้งสะโพกไว้เสียก่อน ร่างเล็กเหนี่ยวคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยอย่างขัดใจ พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง
เพราะอารมณ์ของแทยอนในตอนนี้นั้นไม่สามารถหยุดไว้ได้แล้ว ความต้องการมันมีมากพอทีจะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อถูกขัดอารมณ์แบบนี้
"ทำไมถึงต้องเป็นยุนอา... / ...เธอไม่อยากรู้หรอก"
แทยอนไม่รอให้ทิฟฟานี่ได้พูดจนจบประโยค เธอเอ่ยสวนตัดบทพลางพุ่งเข้าประกบจูบที่กลีบปากอวบอิ่มนั้นอย่างหนักหน่วง โทษฐานที่พ่นคำถามออกมาไม่รู้เวร่ำเวลา
มือเล็กทั้งสองข้างก็ยึดข้อมือเรียวของคนใต้ร่างออกจากสะโพกผ่ายของตัวเอง แล้วจัดการกดเข้ากับหัวเตียงที่ทิฟฟานี่พิงอยู่
ก่อนจะขยับส่ายร่อนสะโพกเพื่อบดเบียดจุดอ่อนไหวของเราเข้าด้วยกัน
คนหน้าหวานที่แม้จะถูกตัดบทด้วยการประกบปากหากแต่ทิฟฟานี่ก็ไม่ได้ยอมให้แทยอนนั้นดูดดุนอยู่ฝ่ายเดียว
ร่างเพรียวจูบตอบกลับคนบนร่างไปอย่างไม่ยอมแพ้ สบลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลทองหยาดเยิ้มในระยะประชิด
เพียงอึกใจเดียวแทยอนก็ปิดเปลือกตาลงช้าๆ ราวกับสู้สายเธอเธอไม่ไหว พร้อมกับเสียงครางอืมในลำคอที่ดังถี่ขึ้น
เช่นเดียวกับส่วนล่างที่เร่งจังหวะกระแทกบดขยี้กันและกันอย่างไม่หวงแรง
แทยอนปล่อยข้อมือของทิฟฟานี่ให้เป็นอิสระ ก่อนที่เธอจะเผลอบีบมันแรงไปมากกว่านี้ให้อีกคนต้องเจ็บตัว แล้วเปลี่ยนเป็นไปท้าวยันหัวเตียงไว้แทน
ร่างเล็กผละจูบออกอีกครั้งพร้อมกับเสียงครางที่ถูกเปล่งออกมาให้อีกฝ่ายได้ยิน แล้วก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างหื่นกระหาย
"ทิฟฟานี่~...อาห์~ ขออะไรอย่างสิ~"
กระซิบเสียงพร่าทั้งที่ปลายจมูกโด่งรั้นนั้นยังคงซุกไซร้สูดดมกลิ่นกายหอมๆแถวซอกคอของอีกฝ่าย อยู่อย่างนั้น
ทิฟฟานี่เพียงแค่ครางอืมรับในลำคอเชิงให้อีกฝ่ายพูดต่อถึงสิ่งที่เค้ากำลังจะขอจากเธอ
มือเรียวก็เลื่อนขึ้นไปกอบกุมเนินอกขนาดพอดีมือของแทยอนไว้ นวดคลึงมันอย่างสนุกมือ
เธอไม่รู้หรอกว่าแทยอนจะขออะไร แล้วก็ไม่แน่ใจด้วยว่าจะให้ได้หรือเปล่า
"สิ่งที่จะเกิด ขึ้นต่อจากนี้ ถ้าฉันไม่อนุญาติ เธอห้ามบอกใครทั้งนั้น"
ทิฟฟานี่นิ่งไปเล็กน้อยค่อนข้างไม่เข้าใจสักเท่าไร สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้งั้นเหรอ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดอยู่ตอนนี้
เรื่องที่เรามีอะไรกันมันก็ไม่น่าให้ใครรู้อยู่แล้ว แต่เรื่องอะไรกันแทยอนถึงต้องมากำชับในเวลาแบบนี้
เวลาที่ส่วนนั้นของเราเสียดสีกันอย่างเร่าร้อนจนแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ
"อื้ม~ เรื่องอะไรล่ะ"
แทยอนไม่ได้ตอบอะไรออกมาเป็นคำพูด เพียงแต่ไล้ลากปลายลิ้นขึ้นไปตามแนวสันกรามมาจนถึงปลายคางมน
ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นสบเข้ากับดวงเนตรสีเงินเงาตรงหน้าที่ปรือตามองเธออยู่ก่อนแล้ว
!!!
ทิฟฟานี่ถึงกับนิ่งไปชั่วขณะหนึ่งเพียงแค่ได้สบตากับคนบนร่างอีกครั้งรู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งร่างกายและใบหน้า หัวคิ้วถูกเหนี่ยวเข้าหากันแน่นอย่างห้ามไม่ได้
ในสมองตอนนี้มันขาวโพลนไปหมด ที่เด่นชัดก็เห็นจะเป็นเสียงการบีบรัดตัวของก้อนเนื้อภายในอกข้างซ้าย
ที่กระตุกรัวเสียจนแทบจะหายใจไม่ทัน ความร้อนรุ่มที่เคยมีในอารมณ์อยู่ก่อนแล้วในตอนนี้กลับมีกว่ากว่าเดิมไม่รู้กี่เท่าตัว
ภาพที่โฟกัสได้ในตอนนี้มีเพียงแก้วตาสีฟ้าเข้มที่มองแล้วรู้สึกเหมือนคลื่นยักษ์ใต้ทะเลลึก
กว่าจะตั้งสติได้ก็ถูกสัมผัสนุ่มนวลที่ริมฝีปาก ทิฟฟานี่จูบตอบคนตรงหน้าไปด้วยความเต็มใจที่คุ้นเคย
แม้ในความคิดจะยังรู้สึกสับสนอยู่บ้างราวกับมีคำถามมากมายที่ผุดเข้ามาในความรู้สึก
แต่เพราะตอนนี้เธอมั่นใจว่าเธอรู้ดีพอว่าคนตรงหน้านี้ไม่ชอบให้ขัดอารมณ์มากแค่ไหน
ทิฟฟานี่จึงเลือกให้ความร่วมมือเพื่อให้จังหวะร้อนนั้นถึงขีดสุดทั้งที่สายตาของเรายังสบลึกเข้าด้วยกันอยู่อย่างเดิมในระยะปะชิด
"อาห์~"
เสียงครางดังขึ้นประสานกันเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับร่างทั้งสองกระตุกเกร็ง ก่อนจะเหลือเพียงเสียงหอบหายใจ
"แทงกู..."
ทิฟฟานี่เงียบไปเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก ทั้งที่คนตรงหน้านั้นยังคงซบใบหน้าไว้ที่ไหล่ผายของเธอ สองมือเรียวโอบกอดร่างเล็กไว้ด้วยความรู้สึกมากมาย
ส่วนล่างของเรายังคงแนบชิดกันอยู่โดยไร้การเคลื่อนไหวบดเบียดกันเหมือนก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที
แม้ว่าในตอนนี้เราจะไม่ได้สบตากันแล้วก็ตาม แต่ภาพของดวงเนตรสีฟ้าเข้มเมื่อครู่นั้นยังคงจำติดใจ ตอกย้ำให้มั่นใจว่าคนตรงหน้านี้เป็นใคร
"ว่าไง?"
คนตัวเล็กผละออกมามองหน้าคนที่เรียกชื่อที่สองของเธอ คิ้วบางถูกยกขึ้นเล็กน้อยเชิงถามว่าเรียกทำไมเหรอ
ทิฟฟานี่ส่ายหน้าไปมาช้าๆ จริงๆก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะเรียกชื่อแทงกูออกไปทำไม
พลางกวาดสายตาไล่สำรวจอีกคนอย่างละเอียดด้วยความใคร่รู้ เพราะเมื่อครู่นี้เธอยังไม่สามรถสังเกตุเห็นความแปลกไปได้ทั้งหมด
ถึงตอนนี้จะเห็นดวงตาเรียวนั้นจะเป็นสีฟ้าครามในแบบ อความารีน ของแทงกูก็เถอะนะ แต่ส่วนอื่นในร่างกายนั้นยังดูเป็นแทยอนเสียมากกว่า
ผิวพรรณขาวใสเหมือนมนุษย์ธรรมดาเรือนผมสีบลอนด์สว่างประบ่าที่เพิ่มเติมขึ้นมาเล็กน้อยก็เห็นจะเป็นแถบสีแดงเพลิงด้านข้างนั่น
ทิฟฟานี่ไล่สายตาต่ำลงมาก็ต้องสะดุดอยู่ที่กลางอกของอีกฝ่าย คิ้วเรียวถูกเหนี่ยวเข้าหากันเล็กน้อย
พร้อมกับปลายนิ้วที่เลื่อนขึ้นมาแตะสัมผัสยังรอยไหม้นั้นอย่างแปลกใจ
นี่มันสัญญาลักษณ์อะไรกันทำไมถึงได้อยู่ตรงกลางอกแถมในตอนแรกที่เธอเพิ่งจะถอดเสื้อของแทยอนออกไปก็ยังไม่มีด้วย
และถึงจะเป็นร่างของแทงกูที่เธอคุ้นเคยดีก็ไม่เคยพบเห็นรอยไหม้นี้เช่นกัน
"ของเธอก็มี"
แทยอนเอ่ยขึ้นหลังจากที่ก้มลงมองช่วงอกของตัวเองที่อีกฝ่ายไล้สัมผัสอยู่ พลันสายตาเหลือบไปเห็นว่าอีกคนนั้นก็มีเหมือนกัน
ทั้งรูปร่าง หน้าตา ขนาด และตำแหน่งของรอยไหม้นั้นอยู่ที่จุดเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด
"นี่มันอะไรกัน?"
ทิฟฟานี่ดูจะตกใจปนแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อก้มลงมองตำแหน่งเดียวกันของตัวเอง
แน่นอนว่าเธอไม่เคยมีมาก่อนและก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร ก่อนจะเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะไม่ได้แปลกใจอะไรมากมายนั้นอย่างต้องการคำอธิบาย
"ฉันก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะฉันก็ไม่เคยมี"
แทยอนตอบไปตามตรง ใช่แทยอนไม่เคยมีสัญญาลักษณ์นี้ ไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้ด้วยว่ามันคือสัญญาลักษณ์อะไร
แต่ตอนนี้มีเพียงเรื่องเดียวที่เธอจะเดานั่นก็คือการมีเซ็กซ์ระหว่างเธอและทิฟฟานี่ ในร่างที่แท้จริงทั้งคู่
อาจจะเป็นอย่างที่เธอคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วก็อาจจะเป็นได้ ว่านี่คือกุญแจสำคัญที่ฮโยยอนเคยบอกไว้
' หยดน้ำอันทรงเสน่ห์ เหล็กไหลที่ทรนง เปรวไฟสุดเร่าร้อน '
แทยอนพยายามตีความหมายเอาเอง
ว่ามันคือ ' อความรีนอาย สเต็งอาย และ เซ็กซ์ ' นั่นคือเหตุผลหลักที่แทยอนจำเป็นต้องลองมีอะไรกับทิฟฟานี่
เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะอความารีนที่แท้จริงนั้นอยู่ในร่างแทยอนน่ะสิ ส่วนที่เห็นในดวงตาตอนเป็นร่างแทงกูนั้นมันเป็นเพียงแค่วิญญาณของอความารีนด้วยซ้ำ
"แท..."
ซุ่มเสียงนั้นเงียบไปพร้อมกับสองร่างเปลือยเปล่านั้นหันขวับไปยังประตูห้องแล็บที่ถูกเปิดตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
แค่ได้ยินเสียงไม่ดังนักแทยอนก็มั่นใจได้ว่าคนที่เปิดประตูบานใหญ่เข้ามานั้นคือใคร...
และเมื่อหันไปพบร่างสูงคุ้นตาผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรัก แทยอนจึงทำได้เพียงระบายลมหายใจออกมาเบาๆ
นึกโกรธตัวเองขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แม้รู้อยู่ว่ายุนอาไม่ว่าอะไรและพร้อมจะเข้าใจว่ามันคือเรื่องจำเป็น
แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ควรให้ยุนอาต้องมาเห็นตำตาแบบนี้ ถึงแทยอนจะเคยพูดเกริ่นเรื่องนี้กับยุนอาไปบ้างแล้ว
และยุนอาก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกแค่ไม่เป็นไรเพราะยังไงเธอก็เคยมีอะไรกับทิฟฟานี่ในระหว่างที่คบกับเค้าอยู่แล้ว
ส่วนทิฟฟานี่ที่นิ่งไปเล็กน้อยตวัดสายตามองหน้าของยุนอาและกลับมามองแทยอนที่กำลังก้าวลงจากเตียงสลับกัน อย่างแปลกใจ
เพราะยุนอาดูนิ่งจนเหมือนกับว่าร่างสูงนั้นรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้วทั้งเรื่องเซ็กซ์ระหว่างแทยอนกับทิฟฟานี่
แล้วก็รวมไปถึงร่างที่แท้จริงของแทยอนด้วย และแทยอนก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะกังวลอะไรมากมายอย่างที่ควรจะเป็น
ยุนอาเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าแทยอนที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างเตียงที่ทิฟฟานี่นั่นกึ่งนอนอยู่
พลางโน้มกายลงประทับจูบที่ริมฝีปากอิ่มราวกับจะประกาศให้ชัดเจนอีกครั้งว่าคนตัวเล็กนี่เป็นของใคร
และเลื่อนต่ำลงจับจ้องรอยไหม้ตรงกลางอกเปลือย ก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปหนักๆที่กลางรอยไหม้ ค้างไว้อย่างนั้น
เพราะได้ยินทุกประโยคที่ทั้งสองคนคุยกันแล้วมันทำให้ยุนอานั้นรู้สึกวูบโหว่งในใจแปลกๆ กับรอยไหม้นี้บนกายเล็ก
...ทำไมไม่เป็นฉัน...
เนินนานนับนาทีที่ร่างสูงแนบกลีบปากไว้ตรงที่เดิมจนแทยอนอดไม่ได้ที่จะยกสองแขนขึ้นมาโอบกอดร่างสูงที่มีหัวใจของเธอทั้งดวงไว้ในครอบครอง
ร่วมถึงความรู้สึกที่พุ่งพล่านอยู่ในกาย นับตั้งแต่ยุนอาประทับริมฝีปากลงมายังกลางอกที่มีรอยไหม้รูปร่างน่าตาแบบที่ไม่เคยพบเจอนี้
แทยอนรู้จักตัวเองดีพอว่าความรู้สึกนี้มันไม่ใช่แค่ความสวาทวาบหวามอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับยุนอาแน่นอน
แต่ความเสียวปราบที่กระชากซ่านราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั่วภายในนั้นพาให้ดวงตาเรียวกระตุกตามไปด้วย
ทิฟฟานี่ที่จัดการกับตัวเองจนเรียบร้อยตั้งแต่ที่แทยอนขยับลุกออกจากร่างเธอนั้นก็ได้หันหน้าเบี่ยงไปอีกทาง
เลี่ยงที่จะเห็นภาพทั้งสองคนข้างๆเตียง ใช่ เธอได้คำตอบแล้วว่าทำไมถึงต้องเป็นยุนอา
ทั้งเรื่องที่ร่างสูงนั้นเป็นเจ้าของแทงกูและแทยอนในเวลาเดียวกัน และรวมถึงเรื่องที่แทงกูไม่เคยเลือกเธอเป็นตัวจริงเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ถึงแม้ว่าจะได้ออกสื่อสาธารนะชนต่างรู้เรื่องระหว่างทิฟฟานี่และแทงกูว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งแน่นอน
แต่ที่คนพวกนั้นไม่เคยรู้เลยทั้งที่พยายามจับตามองพวกเธออยู่นั้น ว่าความจริงแล้วคนที่อยู่ใกล้ๆแทงกูอีกคนต่างหากล่ะที่เป็นตัวจริง
คนที่เป็นเจ้าของแทงกูจริงๆคือยุนอา ที่มักจะยืนอยู่ข้างหลังแทงกูเสมอ
ในเวลาที่สองข้างขนาบร่างเล็กนั้นจะมีทิฟฟานี่และเจสสิก้ายืนอยู่
คงไม่มีใครทันสังเกตุว่าคนที่อยู่ข้างหลังของร่างเล็กนั้นจะเป็นเจ้าของมือเรียวที่โอบกอดแทงกูไว้ตลอดมา
รวมไปถึงตัวทิฟฟานี่เองที่แม้จะยืนอยู่ในวงโคจรเดียวกันแต่กลับไม่เคยเอะใจอะไรเลยจนได้มารู้จากปากและการกระทำของแทงกู
ที่ดูเหมือนว่าในหลายครั้งอีกฝ่ายนั้นจะตั้งใจพยายามให้เธอรู้เสียด้วยซ้ำ
"ยุนมาตั้งแต่เมื่อไร"
แทยอนเอ่ยถามออกไปเสียงเบาหวิวเมื่อเห็นว่าร่างสูงนั้นยังคงกดกลีบปากแนบเข้าตรงกลางอกของเธออยู่อย่างนั้นไม่ผละออกมาเสียที
ทั้งที่ยังมีรู้สึกวูวาบอย่างประหลาดอยู่ในกาย แต่แทยอนก็เลือกที่จะไม่แสดงอะไรออกมา
มือเล็กข้างนึงก็เอื้อมไปหยิบเสื้อเชิ้ตที่กองอยู่ปลายเตียงขึ้นมาสวมไว้โดยที่ยังไม่ติดกระดุม
ก่อนที่ยุนอาจะผละออกมามองหน้ากันนิ่งๆ แล้วดวงหน้าดูดีนั้นก็ได้เผยรอยยิ้มบางๆออกมา
เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นในแบบฉบับของยุนอา ที่ตอนนี้เล่นแทยอนเสียจนอยากจะเป็นฝ่ายร่ำไห้เสียใจเสียเอง ด้วยความรู้สึกผิด
"พี่ไม่อยากรู้หรอก... ไปกินข้าวกันได้แล้วทั้งสองคนเลย"
ใช่ความจริงแทยอนอาจจะไม่อยากรู้เพราะไม่อยากรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ แต่ประโยคที่ว่า 'พี่ไม่อยากรู้หรอก' นั้นของยุนอา
ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าร่างสูงนั้นเห็นทุกอย่างตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว เพราะฟังดูก็รู้ได้ไม่ยากว่ายุนอายืมประโยคที่เธอใช้เมื่อครู่นี้มา
From...Writer
เอิ๊กสส เซอร์ไพร้ มั้ยคะรีดดด
ไหนใครเดาไว้แล้วถูกบ้างงง แต่เท่าที่จำได้คือเห็นคนเดาถูกหลายคนอยู่นะ
อีกไม่กี่ตอนจะจบแล้วว ฮิ้ววว
มาถึงตรงนี้ไม่รู้จะทอร์คอะไรดี แฮ่ๆ
เอาเป็นว่าใครมีคำถามก็ถามไว้แล้วกันเดี๋ยวมาตอบ
.
.
No comments:
Post a Comment