Chapter XXXXI [Pt.2]
คำเตือน!
เนื้อหาบางส่วน อาจไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก เนื่องจากเนื้อหาประกอบไปด้วย...
ความรุนแรง สยดสยอง ภาษาไม่เหมาะสม หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
แทยอนปรือเปลือกตาขึ้นมองร่างเปลือยเปล่าของตัวเองและอีกกายข้างๆ ที่นอนราบอยู่ข้างกัน พร้อมกับสายอะไรต่อมิอะไรละโยงละยางเต็มไปหมด
แต่สุดท้ายมันก็ถูกรวบให้บรรจบกัน หลังจากนั้นโบอาบอกว่าเธอจะหมดสติไป หลังจากที่โบอาเริ่มจัดการเชื่อมสายชีพจรของเธอและเจสสิก้า
เนื่องจากแทยอนได้ตัดสินใจแล้วว่าจะทำวิธีเดียวที่เหลืออยู่ เธอไม่ต้องการสูญเสียเพื่อนรักคนเดียวของเธอ ไม่ว่าต้องทำอย่างไรเธอก็จะยอม
ตามที่กฎบอกไว้ข้อแรกในทั้งหมอดเพียงสองข้อนั้นคือถ้าผู้ที่ตาย ตายด้วยการกระทำใดก็ต้องใช้สิ่งนั้นนั่นแหละเป็นการรักษา
ซึ่งมองปาดเดียวก็รู้แล้วว่าเจสสิก้านั้นโดนอะไร ก็แหมเลือดไหลออกมาจากระหว่างขามากขนาดนั้นแถมยังมีบาดแผลเหวอะหวะน่ากลัวนั่นอีก
ถึงโบอาก็ได้จัดการปิดปากแผลไปแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดการสมานตัวของบาดแผล
มันเป็นเพียงแค่การเย็บปากแผลให้ติดกันเพื่อไม่ให้เกิดการฉีกขาดมากขึ้น หรือเพื่อให้สภาพหน้าตาส่วนที่ได้รับบาดเจ็บนั้นคงอยู่ในรูปร่างที่ควรจะเป็น
ตอนแรกแทยอนก็เหมือนจะทำใจไม่ได้ตั้งแต่เห็นกฎข้อแรกแล้วแหละก็คิดดูดิเจสสิก้าถูกข่มขืนจนตาย
มันก็แน่ล่ะที่เธอจะต้องทำแบบนั้นกับเพื่อนสาวตอนที่เค้ายังไม่หายใจ พูดง่ายๆให้มันไม่น่าฟังก็คือ
เธอต้องมีอะไรกับศพเพื่อนตัวเองนั่นแหละ แต่เพราะเจสสิก้าเป็นเพื่อนคนเดียวที่สนิทมากที่สุด
เพราะแทยอนไม่ได้มีเพื่อนง่ายๆเหมือนคนอื่นๆเพราะงั้นมันจึงทำให้เธอรักเจสสิก้ามากนั่นเอง
ส่วนกฎข้อที่สองนั้นก็คือปฏิบัติตามคำสาบานที่จะปรากฎขึ้นมาสู่สายตาเมื่อผู้ตายมีสติครบถ้วนแล้ว
หากไม่ยอมรับในคำสาบานผู้ที่เพิ่งถูกต่อลมหายใจจะสิ้นลมไปตลอดกาล
หรือหากยอมรับแต่กระทำมิได้ก็จะมีบทลงโทษตามชะตากรรมที่แตกต่างกันออกไป
โบอานั่งคิดหาวิธีเพราะในร่างแทยอนนั้นมีแต่สารธาตุพิษทั่วทั้งร่าง และบาดแผลที่ร่างเจสสิก้าก็ยังไม่สมานกันจนกว่าร่างบางจะฟื้นตัว
และถ้าพิษของแทยอนไปกัดเซาะร่างของเจสสิก้าล่ะ นี่เธอพลาดเองหมดเลยใช่มั้ยเนี่ย
เธอกำลังคิดว่าถ้ามีสารล้างพิษอยู่ในร่างเจสสิก้า เจสสิก้าก็จะไม่เป็นอะไรแต่แทยอนเนี่ยสิเพราะพวกธาตุพิษโดยตรงท่าเจอสารล้างพิษก็แทบชักดิ้นชักงอแล้ว
แล้วนี่เธอควรจะทำยังไงดีเนี่ย หญิงสาวพยายามลองผสมสารข้ามหลักสูตรปกติอยู่หลายสิบครั้ง
จนในที่สุดเธอก็พบว่าความผิดพลาดครั้งนี้มันน่ากลัวมาก แต่เธอก็คิดว่ามันคุ้มค่ามากเช่นกัน
เพราะยังไม่มีใครสามารถผสมพิษและโฮลิเข้าด้วยกันได้แต่ตอนนี้เธอทำได้
เมื่อทดลองสารกับสิ่งมีชีวิตที่มีไว้เพื่อทดลองแล้วผลลัพธ์ของมันคือใช้งานได้แล้ว
โบอาก็จัดการเตรียมสารที่เพิ่งจะค้นพบสดๆร้อนๆนี้ไปยังเตียงที่มีแทยอนนั่งอยู่กับร่างไร้วิญญาณของเจสสิก้า
เธอปักเข็มลงบนร่างน้องสาวทั้งสองคนอย่างระมัดระวัง และเพราะความผิดพลาดพวกนี้
จึงทำให้เธอจำเป็นจะต้องดึงพลังจากเจสสิก้ามาใส่ร่างแทยอนไว้เพราะถ้าแทยอนไม่แข็งแกร่งพอเค้าอาจจะตายตามเจสสิก้าไป
.
.
ร่างเล็กปรือตาขึ้นช้าๆรู้สึกวืดๆไปทั้งร่างอีกแล้ว โบอาถอดสายอะไรต่อมิอะไรออกจากร่างเธอไปจนหมดแล้ว
เค้าบอกให้เธอกินข้าวกินน้ำก่อนเพราะเธอหมดสติไปหนึ่งวันเต็มโดยที่ไม่ได้อะไรเลยนอกจากสารเคมีที่เพิ่มเข้าไปในกระแสเลือด
เธอก็ไม่ได้คัดค้านอะไรนั่งกินไปมองร่างเพื่อนสาวไปพลางทำใจไปด้วย เพราะเธอยังต้องทำกิจกรรมอีกยาวนาน
เพราะความไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่แสนทรมานของเจสสิก้านั้นยืดเยื้อมากน้อยแค่ไหน
โบอาบอกว่าไม่แน่ใจว่าเจสสิก้าจะฟื้นตั้งแต่รอบแรกเลยมั้ย แต่ที่แน่ๆและแย่มากสำหรับแทยอนก็คือ
ร่างเล็กนั้นจะต้องทำให้ช่วงเวลามันยาวนานกว่าตอนที่เจสสิก้าทรมาน แค่คิดก็อยากตายแทนแล้วหลังจากกินข้าวกินน้ำเสร็จ
โบอาก็ถามแทยอนว่าจะให้อยู่ด้วยมั้ย เธออยากให้เค้าอยู่แน่ๆแหละ
แต่มันก็เขินๆอยู่นะที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้เค้าเห็นถึงแม้จะมีเหตุผลที่จำเป็นต้องทำก็เถอะ
โบอาเหมือนจะดูออกเค้าเลยบอกว่าเดี๋ยวจะขยับเตียงไปชิดริมๆให้
แล้วเค้าจะทดลองสูตรสารอยู่อีกมุมนึงของห้องแล้วกันมีอะไรค่อยเรียก แทยอนได้ยินอย่างนั้นก็รีบตอบตกลงทันที
แทยอนนั่งคร่อมร่างของเจสสิก้ามาสักพักแล้วเธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี
คิดดูสิเกิดมายังไม่เคยคิดเลยนะว่าจะมีวันที่เธอไปไม่เป็นกับเรื่องหื่นๆ แต่สภาพตรงหน้านี้มันก็ไม่น่าจะไปเป็นนั่นแหละ
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆปิดเปลือกตาลงเหมือนไอ้ที่เคยทำใจไว้มันศูนย์เปล่าจนต้องมาทำใจใหม่อีกครั้ง
จนแทยอนรู้สึกว่าอยากจะหันไปถามโบอาเหลือเกินว่าเค้ามียาปลุกอารมณ์อะไรแบบนั้นมั้ย เผื่อมันจะช่วยเธอได้บ้าง
ทั้งที่ไม่เคยคิดว่ายาพวกนั้นมันจะมีประโยชน์สำหรับคนอย่างเธอ แต่วันนี้กลับนึกถึงมันได้เสียอย่างนั้น
มือเล็กค่อยๆเลื่อนไปกอบกุมก้อนเนื้อของร่างบางไว้โน้มใบหน้าลงพรมจูบไปตามซอกคอขาว
ปลายลิ้นค่อยๆลากไปตามสันกรามขึ้นไปและเล็มยังริมฝีปากเรียวที่ซีดเผือกเธอดูดดุนกลีบปากเค้าเบาๆ
เลื่อนไปจูบหน้าผากดวงตาทั้งสองข้างปลายจมูกปลายคางแล้วเลื่อนกลับมายังริมฝีปากอีกครั้งมือก็นวดคลึงก้อนเนื้อขนาดเต็มไม้เต็มมือไว้
แทยอนไล่พรมจูบต่ำลงมายังเนินอกปลายลิ้นตวัดลากวนไปมาช้าๆบนยอดอกสีสวยที่ยังไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง
มือเล็กก็ยังคงนวดเฟ้นทรวงอกขนาดเต็มไม้เต็มมืออยู่ไม่ห่าง เพราะไม่สามารถจะปลุกเร้าสร้างอารมณ์ให้ร่างที่นอนนิ่งอยู่นั้นได้
จึงกลายเป็นว่าแทยอนนั้นต้องพยายามปลุกอารมณ์ดิบของตัวเองให้ตื่นขึ้นมาให้ได้แทน
เมื่อพยายามสร้างอารมณ์กับส่วนบนของเจสสิก้ามาหลายนาทีแล้วแต่ก็ยังไม่เกิดความรู้สึกอย่างที่ต้องการสักเท่าไร
แทยอนจึงเลื่อนกายต่ำลงมาสองมือจับเรียวขาของเจสสิก้าให้ชันเข่าขึ้น แล้วรั้งให้แยกออกจากกันอย่างเบามือ
ก้มลงมองกลางกายที่ยังมีรอยบาดแผลอยู่ ก็ต้องกัดริมฝีปากไว้แน่นบอกตัวเองให้เลิกคิดเรื่องแย่ๆที่อีกคนต้องเจอนั้นแล้ว พยายามทำๆต่อไปให้จบเสียที
ปลายลิ้นแตะสัมผัสลงยังจุดอ่อนไหวที่ไร้ปฏิกิริยาใดๆไร้อารมณ์ใดๆและไม่มีการตอบสนองใดๆ
แม้เธอจะลากปลายลิ้นวนไปมาอยู่ทั้งภายนอก และค่อยๆแทรกปลายลิ้นเข้าไปข้างใน
จนรู้สึกถึงรสเค็มฝาดและกลิ่นคาวคลุ้งเข้ามาในโพรงปากจากโลหิตที่ยังตกค้างอยู่ภายใน
แทยอนหลับตาแน่นพยายามตวัดเรียวลิ้นอยู่ในนั้นต่อไปเพื่อถ่ายเทความชุ่มชื้นจากปลายลิ้นอยู่พักใหญ่
ก็ชักกลับออกมาเธอกำลังคิดอยู่ว่าเธอควรจะส่งเรียวนิ้วเข้าไปดีมั้ย แต่ถ้าไม่มันอาจจะถือว่าไม่ครบทุกกบวนการหรือเปล่า
เธอเลยตัดสินใจยกเรียวนิ้วของตัวเองขึ้นมาไล้เลียให้เปียกชุ่ม แล้วเลื่อนมันลงไปถูไถกับจุดอ่อนไหวของตัวเองก่อน
แทยอนปิดเปลือกตาลงเพื่อสร้างมโนภาพในความคิดแทนความจริงที่โหดร้าย ใครคนนั้น... เพื่อพยายามปลุกเร้าความต้องการของตัวเองอยู่พักใหญ่
จนส่วนอ่อนไหวของแทยอนนั้นเริ่มมีปฏิกิริยาในอารมณ์นั้น ของเหลวลื่นที่ถูกหลั่งออกมานั้นเป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างดีว่าอารมณ์ดิบของเธอมันเริ่มตื่นตัวแล้ว
รอเพียงไม่นานเรียวนิ้วก็กวาดเอาของเหลวของตัวเอง เพื่อให้ได้ความแฉะเยิ้มลื่นนิ้วมา ก่อนจะค่อยๆสอดใส่เข้าไปในร่างของเจสสิก้า
แทยอนขยับนิ้วเบาๆราวกับว่ากลัวว่าเค้าจะเจ็บที่บาดแผล ทั้งที่เจสสิก้านั้นอาจจะไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยก็เป็นได้
เหลือบตามองขึ้นไปมองใบหน้าที่ไร้อารมณ์และสติพลางแม้มปากแน่นกับความรู้สึกปวดร้าว
ที่พวกเราต้องมาพบกับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้โดยเฉพาะ เจสสิก้า...
แทยอนพยายามทำอยู่อย่างนั้นซ้ำไปวนมาอยู่นานหลายนาที จนคิดว่าที่ตัวเองทำอยู่นั้นมันมีจุดบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า
ไม่เพียงแต่ต้องทำให้กับร่างไร้สติของเพื่อนสาว แต่แทยอนต้องทำให้ตัวเองด้วยเพื่อไม่ให้อารมณ์ดิบที่ปลุกขึ้นมานั้นมอดดับลง
ร่างเล็กจึงขยับกายเข้าไปตรงหว่างขาของเจสสิก้า แล้วยกเรียวขาที่ทิ้งตัวนั้นพาดสลับกับขาของตัวเอง แล้วเบียดส่วนอ่อนไหวเข้าแนบชิดกัน
แทยอนหลับตาแน่นแล้วพยายามส่ายร่อนสะโพกบดขยี้ส่วนอ่อนไหวทั้งสอง
แค่อีกคนเป็นเจสสิก้านั้นมันก็เหนือความคาดหมายของแทยอนมากพอแล้ว แต่นี่ยังต้องมาเป็นเจสสิก้าที่อยู่ในสภาพไร้วิญญาณอีก
คิดเพียงเท่านั้นหยดน้ำใสที่พยายามสะกดกลั้นไว้มาตลอดก็ปริ่มล้นออกมาจากดวงตาที่พยายามบีบให้ปิดสนิทอยู่อย่างห้ามไม่ได้อีกเป็นครั้งที่เท่าไรแล้ว
เจสสิก้าไม่ใช่คนที่เธอคิดจะแตะต้องในเชิงชู้สาว เพราะเจสสิก้าคือเพื่อนคนเดียวที่แทยอนรักมากที่สุด
แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอย่างไรกับตัวเองมากกว่าแค่เพื่อนกันมาตั้งแต่แรกเริ่ม
ที่อีกฝ่ายนั้นพยายามเข้ามาทำความรู้จัก เข้ามาสนิท จนกลายมาเป็นเพื่อนกันถึงทุกวันนี้
ความรู้สึกจากสัมผัสที่แปลกไปแม้เพียงเล็กน้อยแต่แทยอนก็สามารถรู้สึกได้นั้น ทำให้ร่างเล็กหลุดออกจากความคิดของตัวเอง ที่คิดไปต่างๆนาๆ
เมื่อเปลือกตาที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำแห่งความรู้สึกปวดร้าวได้ปรือเปิดขึ้นก็ต้องเบิกกว้างทันที
เมื่อเห็นว่าทรวงอกของร่างบางสะท้อนขึ้นลงแม้ผละแผ่วแต่นั่นก็แปลว่าเจสสิก้าหายใจแล้ว
แทยอนเรียกโบอาให้มาดูทันทีแล้วถามว่าเธอต้องทำไงต่อ อาจเป็นเพราะความดีใจและตกใจหรือเปล่าไม่แน่ใจ
ที่พาให้เธอลืมไปว่าเธอตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ และยังต้องทำอะไรกับเจสสิก้าไปอีกหลายชั่วโมง
ความกระดากอายที่ควรมีถูกโยนทิ้งไปตั้งแต่ที่ได้รับรู้ว่าร่างบางที่เธอกำลังบดขยี้ส่วนอ่อนไหวอยู่ด้วยนั้นเริ่มหายใจอีกครั้ง
แม้โบอาจะไม่ได้แสดงสีหน้าหรือท่าทางอะไรออกมาทั้งที่เห็นกายเปลือยเปล่าของเธอและเจสสิก้าทำอย่างนั้นอยู่ก็ตามที
โบอาบอกแค่ว่าทำต่อไปเรื่อยๆไม่ต้องหยุดเดี๋ยวเค้าจะเอาสารฟื้นฟูมาหยดที่บริเวณบาดแผลของเจสสิก้าก่อน
เพราะตอนนี้เจสสิก้าแค่กลับมาหายใจแต่ยังไม่ได้สติ เพียงแต่ร่างกายของเค้าเริ่มมีการตอบสนองขึ้นมาบ้างแล้ว
โบอาถือหลอดหยดสารอยู่ในมือแล้วมาหยุดอยู่ตรงข้างเตียงที่มีทั้งสองร่างเปลือยเปล่าที่ยังคงต้องเนินกิจกรรมที่ทำอยู่ต่อไปเรื่อยๆ
และตอนนั้นเองที่ความรู้สึกกระดากอายของแทยอนถูกดึงกลับมาทั้งหมดเสียจนใบหน้าเห่อร้อน
เพราะโบอาก้มลงมองที่จุดอ่อนไหวของเธอและเจสสิก้าที่ยังบดเบียดกันอยู่อย่างไม่ปิดบัง
"อย่าหยุดเดี๋ยวพี่หยดลงไปเอง ทำต่อไป"
เมื่อเห็นว่าสะโพกผายของแทยอนเริ่มขยับเบาลงและมีท่าทีว่าจะถอนออกไปจากการบดเบียด จึงต้องรีบบอกคนอายุน้อยกว่าออกไปอย่างนั้น
โบอาบอกตัวเองว่านี่คือน่าที่ที่สำคัญ มันคือการช่วยชีวิตเจสสิก้าเธอต้องทำทุกอย่างต่อไปตามขั้นตอนทั้งหมดจนครบ
แม้ว่าตอนนี้เธอเองก็ไม่อาจจะห้ามไม่ให้สายตานั้นมองโลมเลียชิ้นเนื้อบวมเปล่งของแทยอนได้เลย
ยิ่งในตอนนี้ที่ส่วนนั้นมีทั้งของเหลวใสเปรอะเยิ้มอยู่เต็มไปหมด ความมันวาวนั้นยิ่งดึงดูดสายตาให้จับจ้องเหลือเกิน
อีกทั้งลิ่มของเหลวสีโกเมนที่น่าจะมาจากการตกค้างจากบาดแผลของเจสสิก้าปะปลนอยู่บ้างนั้นยิ่งทำให้มันสะดุดตามากขึ้น
ไม่ใช่แทยอนมองสายตาของคนอายุมากกว่าไม่ออกว่าเค้ากำลังจับจ้องอะไร
และเพราะรู้ไงเธอจึงทำได้เพียงหันใบหน้าที่ร้อนผ่าวหนีไปทางอื่น ทั้งที่ยังคงต้องขยับส่ายร่อนสะโพกอยู่อย่างนั้น
"อ๊ะ~"
แทยอนหลุดเสียงครางออกมาจนได้ทั้งที่พยายามกลั้นไว้เสียตั้งนาน พร้อมกับกายเล็กที่สะดุ้งขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเย็นวาบที่ส่วนอ่อนไหว
จนต้องหันกลับไปมอง จึงทำให้รู้ว่าความเย็นนั้นมันมาจากสารที่โบอาได้หยดลงเพื่อจะรักษาบาดแผลให้เจสสิก้า
แต่มันก็คงจะเลี่ยงไม่ให้โดนเธอไม่ได้อยู่แล้ว ตรงนั้นแทยอนก็เข้าใจดี จึงได้แต่หันหน้าหนีกลับไปทางอื่นอีกครั้ง
ผ่านไปพักใหญ่หลังจากที่โบอาจัดการรักษาแผลให้เจสสิก้าแล้ว จนตอนนนี้ปากแผลเริ่มมีการสมานตัวจนใกล้จะหายเป็นปรกติ
แทยอนขยับขึ้นมาดูดดุนยอดอกของร่างบางที่ตอนนี้มันมีตอบสนองด้วยการขยายตัวแข็งขืนชันขึ้นแล้ว
นิ้วเรียวเลื่อนไปลากผ่านกลางกายเปียกแฉะอาจเป็นเพราะของเหลวของแทยอนที่ทิ้งไว้
หรืออาจเพราะร่างกายของเจสสิก้านั้นเริ่มหลั่งออกมาเองตามธรรมชาติเมื่อถูกสัมผัสส่วนอ่อนไหว
.
.
"อ้ะ!~ ท..แท... แทยอ..น~"
เสียงแหบแห้งถูกเปล่งออกมาเพียงผละแผ่วนั้นเข้ากระทบโสตประสาทของร่างเล็กเสียจนชะงักไปเล็กน้อย
ตกใจอีกครั้งเมื่อสาวเจ้านึกจะตื่นก็ตื่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น เรียวนิ้วหยุดทำน่าที่ของมันไปชั่วขณะ จน
รู้สึกถึงสัมผัสที่โอบเกี่ยวเอวบางเพียงแผ่วเบา แทยอนจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอต้องทำต่อไป ก็คงไม่แปลกที่เจสสิก้านั้นจะไร้เรี่ยวแรง
"ส..สิก้าไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่กับเธอแล้ว เจ็บมากหรือเปล่า"
พยายามรวบรวมสติได้ก็รีบเอ่ยปลอบร่างบางทันทีกลัวว่าเค้าจะตกใจ ที่ตื่นมาก็เจอเรื่องแบบนี้อีก
แต่เจสสิก้าก็กอดเธอไว้ พูดแค่ดีใจที่เป็นเธอซ้ำไปซ้ำมา
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจนักอแต่ก็ไม่ได้หยุดพูดปลอบเค้าเบาๆว่าไม่ต้องตกใจนะ ไม่ต้องกลัวเธอจะทำอย่างเบามือที่สุด
เจสสิก้าเพียงพยักหน้ารับช้าๆ เค้าคงยังประติดประต่อเรื่องไม่ถูกแทยอนคิดว่าเป็นอย่างนั้น แต่ร่างบางก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก
มีเพียงแรงรั้งที่แผ่วเบาเหลือเกินที่ดันให้แทยอนขยับขึ้นไปประกบเรียวปากลงกับส่วนเดียวกันของอีกฝ่าย
นิ้วเรียวลากผ่านกลางกายครั้งแล้วครั้งเล่าขยับเข้าออกในร่างเค้ามาไม่รู้กี่ชั่วโมงแล้ว
จนแทยอนเริ่มจะเปลี่ยนเป็นใช้กลางกายเราเบียดเสียดสีกันแทน และเมื่อถึงปลายทางไปอีกสองรอบ
เจสสิก้าก็ดูเหมือนจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมาจากตอนแรกเยอะขึ้นแล้ว และตอนนี้สาวเจ้าก็เริ่มแผงฤทธิ์
ด้วยการเลื่อนมือลงไปใช้ปลายนิ้วลากไล้ผ่านกลางกายของแทยอนบ้าง
ร่างเล็กก็ไม่ได้ปัดป้องอะไรเพราะปรกติแล้วเธอก็ต้องการถูกปลดปล่อยบ้างแม้จะไม่ทุกครั้งแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี
ปลายนิ้วของเจสสิก้าลากถูไถกับร่องกลีบเนื้ออ่อนแฉะฉ่ำของแทยอน ลากขึ้นลงกดขยี้ชิ้นเนื้อนูนที่แข็งขืน
แทยอนกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้แน่นเปล่งเสียงครางในลำคอออกมาให้อีกฝ่ายได้ยิน เจสสิก้ากำลังจะทำให้เธอทนต่อไปไม่ไหว
แต่แล้วแทยอนก็ต้องผละใบหน้าออกมาจากซอกคอของคนใต้ล่าง มือเล็กก็รีบตะครุบเอาข้อมือบางไว้อย่างรวดเร็ว
เมื่อรู้สึกว่าปลายนิ้วนั้นอยู่ในจุดอันตรายเข้าทุกทีๆ
"จะเปิดซิงฉันหรือไง"
เจสสิก้ายกยิ้มยั่วเล็กน้อยขยับยกศีรษะเข้ามาจูบเธอดูดดุนกลีบปากด้านล่างอย่างออดอ้อน ก่อนจะกระซิบชิดริมฝีปาก
"ไม่ให้ฉันเปิด เธอจะเก็บไว้ให้ใครเปิดล่ะแทยอน" ...ก็เก็บไว้ให้คนที่ฉันรอมาตลอดนั่นไง...
แทยอนได้แค่คิดแบบนั้นและตอบกับตัวเอง แต่มันก็คงไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้วเรื่องนั้นน่ะ
อีกอย่างแทยอนเองก็ยังค่อนข้างสับสนอยู่บ้าง ในเมื่อที่ผ่านมาเธอเป็นฝ่ายทำมาตลอดไม่ว่ากับใคร
ถึงแม้จะเคยถูกสัมผัสมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีใครได้รุกล้ำเข้าไปถึงข้างในนั้นเลยสักคน
แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วยอมให้เพื่อนรักไปสักครั้งก็คงไม่เป็นไร อย่างน้อยก็มั่นใจว่าเรารักกันมากพอ แม้เธอจะไม่ได้คิดกับเจสสิก้าในแบบคนรักก็ตามที
เมื่อคิดอย่างนั้นมือเล็กก็ค่อยๆคลายแรงบีบที่ข้อมือบางออกยังคงมีความลังเลติดอยู่ภายในใจ
สบตากับคนใต้ร่างอยู่เพียงอึดใจเดียวแทยอนก็ปิดเปลือกตาลงเพื่อรอรับสัมผัสแปลกใหม่
เจสสิก้าเห็นอย่างนั้นก็อดยกยิ้มออกมาไม่ได้ จริงๆก็ไม่คิดว่าแทยอนจะยอมเหมือนกัน
แต่เมื่อเค้ายอมให้แล้ว แน่นอนว่าเธอก็จะรีบคว้าไว้ ยอมรับว่าดีใจที่จะได้เป็นคนแรกของแทยอนจริงๆ
เพราะจริงๆแล้วเธอเองก็อยากให้เค้าเป็นคนแรกของเธอเช่นกัน...
แต่มันไม่ทันเสียแล้ว...
นิ้วเรียวลากไปตามร่องกลีบเนื้ออ่อนช้าๆผ่านชิ้นเนื้อนู้นแข็งขืนเข้าไปจนถึงปากช่องทางร้อนของแทยอน ปลายไล้วนไปมารอบๆอย่างใจเย็น
แล้วค่อยๆกดเข้าไปในช่องทางคับแคบที่เต็มไปด้วยของเหลวลื่น เจสสิก้าคงจับจ้องใบหน้าของคนด้านบนอยู่อย่างนั้น ใบหน้าที่ชวนให้เธอหลงใหลตั้งแต่แรกพบ
ในตอนนี้เปลือกตาคู่สวยนั้นได้กดลงปิดกันแน่น เรียวคิ้วบางเหนียวเข้าหากันโดยที่เจ้าของมันอาจจะไม่รู้ตัวเลยก็เป็นได้ลมหายใจกระชากเข้าออกเป่ารดใบหน้าเธอ
และยิ่งเรียวนิ้วถูกดันเข้าไปลึกเท่าไรสีหน้าของแทยอนก็สื่ออารมณ์ออกมาชัดเจนมากเท่านั้น
กลีบปากอิ่มที่เคยเม้มแน่นตอนนี้มันได้เผยอขึ้นราวกับจะยั่วให้คนมองนั้นต้องขยับไปดูดดุนมัน
ในขณะเรียวนิ้วถูกดันเข้าไปจนสุดโคนเจสสิก้าแช่นิ้วค้างไว้อย่างนั้นก่อนจะควงวนไปมาเบาๆเพราะกลัวว่าแทยอนอาจจะเจ็บและเธอก็ไม่ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น
ไม่นานเจสสิก้าก็รู้สึกได้ถึงแรงขยับที่เรียวนิ้ว โดยปล่อยให้แทยอนนั้นควบคุมเอง
เธอคิดว่าประสบการณ์ที่โชกโชนของแทยอนนั้นมากพอที่จะทำให้เค้ารู้ว่าเค้าต้องทำอะไรยังไง แม้ว่าร่างเล็กนั้นจะไม่เคยถูกรุกล้ำมากขนาดนี้ก็ตาม
แล้วยิ่งแทบกับเธอซึ่งประสบการณ์ครั้งแรกนั้นก็แสนจะโหดร้ายทารุนเหลือเกิน
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเธอเอาหวังไปเองอยู่คนเดียว ว่าสักวันคนแรกของเธอจะต้องเป็นแทยอนอย่างแน่นอน แต่ก็เปล่า ...
เจสสิก้าไม่ได้โกรธเคืองแอมเบอที่ทำอย่างนั้นกับเธอ เพราะเธอรู้ว่าแอมเบอก็รู้ว่าทุกครั้งที่เธอบ่ายเบี่ยงเค้านั้นมันเป็นเพราะอะไร และเพราะใคร...
ร่างบางคิดว่ามันคงไม่แปลกอะไรหากแอมเบอจะมีน้ำโหในเมื่อเธอไม่ยอมและยังเอาแต่นึกถึงแทยอนอยู่อย่างนั้น ทั้งๆที่แอมเบอก็อยู่ตรงนั้นกับเธอ
คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนและคนรักก็คือแอมเบอ ไม่ใช่แทยอน
ที่ผ่านมาเธอพยายามบอกใจตัวเองให้สนใจแอมเบอมากกว่าแทยอนสักทีแต่ก็ไม่เคยทำได้เลยสักครั้ง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีใจให้แอมเบอแต่เป็นเพราะเกือบทั้งหัวใจของเธอนั้นได้ยกให้แทยอนไปแล้ว
ก็รู้ตัวมาตลอดว่าไม่ควรทำแบบนี้ มันผิด ผิดตั้งแต่ที่คิดว่าจะพยายามหาใครมาแทนที่แทยอนแล้ว
และมันก็ยิ่งผิดไปมากกว่านั้นเมื่อไม่สามารถลบเลือนร่างเล็กไปจากหัวใจได้ อย่างที่เธอได้แสดงออกมา
และนี่ก็คงเป็นบทลงโทษสัมหรับคนเห็นแก่ตัวอย่างเธอสินะ...
"สิก้า~ อืม~"
เสียงครางต่ำแผ่วเบาของแทยอนนั้นดึงสติของเจสสิก้าให้กลับมาอยู่กับปจุบันอีกครั้ง หัวใจที่เคยแน่นิ่งก็บีบรัดตัวรุนแรงขึ้น
เพียงเพราะแค่ได้ยินเสียงครางของแทยอนที่เรียกชื่อเธอ
ร่างบางหลุบตาลงมองเรียวนิ้วของตัวเองที่ตอนนี้ถูกสะโพกมนของแทยอนขยับขึ้นลงให้ช่องทางร้อนกลืนกินอยู่ไม่ห่าง
ก่อนจะเลื่อนสายตากลับขึ้นมามองหน้าคนบนร่างอีกครั้ง ก็พบว่าอีกคนนั้นได้มองเธออยู่ก่อนแล้ว
เจสสิก้าสบลึกเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของแทยอน มันทั้ง เร่าร้อน หยาดเยิ้ม หวามไหว
เสียจนเรียวขาของเธอต้องหนีบเข้าหากันอย่างห้ามไม่ได้
สายแบบนี้ของคนๆนี้ ที่เธอรอคอยมานานเหลือเกิน รอให้เค้าได้ใช้มันกับเธอสักที...
"แทยอน ตาของเธอ... สวยจัง..."
แต่เมื่อไล่สายตาต่ำลงมาร่างบางก็ต้องหรี่ตาปรับโฟกัส พร้องกับเรียวคิ้วที่ถูกเหนี่ยวเข้าหากันอย่างห้ามไม่ได้
เมื่อพบว่าช่วงกลางอกของร่างเล็กนั้นปรากฎอักษรสีดำคล้ายรอยไหม้ขึ้นมาชัดเจนสู่สายตา
แทยอนเมื่อเห็นสีหน้าของคนใต้ร่างแปรเปลี่ยนไปก็ได้มองตามสายตาอีกฝ่ายลงไปยังช่วงอกของตัวเอง
เมื่อพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมปรากฎขึ้นบนกาย ก็ห้ามไม่ได้ที่จะตวัดสายตามองไปยังส่วนเดียวกันของอีกฝ่าย
เมื่อเห็นว่ามีสิ่งเดียวกัน ก็เดาได้ไม่ยาก ...นี่สินะ คำสาบานระหว่างเรา...
แต่สุดท้ายมันก็ถูกรวบให้บรรจบกัน หลังจากนั้นโบอาบอกว่าเธอจะหมดสติไป หลังจากที่โบอาเริ่มจัดการเชื่อมสายชีพจรของเธอและเจสสิก้า
เนื่องจากแทยอนได้ตัดสินใจแล้วว่าจะทำวิธีเดียวที่เหลืออยู่ เธอไม่ต้องการสูญเสียเพื่อนรักคนเดียวของเธอ ไม่ว่าต้องทำอย่างไรเธอก็จะยอม
ตามที่กฎบอกไว้ข้อแรกในทั้งหมอดเพียงสองข้อนั้นคือถ้าผู้ที่ตาย ตายด้วยการกระทำใดก็ต้องใช้สิ่งนั้นนั่นแหละเป็นการรักษา
ซึ่งมองปาดเดียวก็รู้แล้วว่าเจสสิก้านั้นโดนอะไร ก็แหมเลือดไหลออกมาจากระหว่างขามากขนาดนั้นแถมยังมีบาดแผลเหวอะหวะน่ากลัวนั่นอีก
ถึงโบอาก็ได้จัดการปิดปากแผลไปแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดการสมานตัวของบาดแผล
มันเป็นเพียงแค่การเย็บปากแผลให้ติดกันเพื่อไม่ให้เกิดการฉีกขาดมากขึ้น หรือเพื่อให้สภาพหน้าตาส่วนที่ได้รับบาดเจ็บนั้นคงอยู่ในรูปร่างที่ควรจะเป็น
ตอนแรกแทยอนก็เหมือนจะทำใจไม่ได้ตั้งแต่เห็นกฎข้อแรกแล้วแหละก็คิดดูดิเจสสิก้าถูกข่มขืนจนตาย
มันก็แน่ล่ะที่เธอจะต้องทำแบบนั้นกับเพื่อนสาวตอนที่เค้ายังไม่หายใจ พูดง่ายๆให้มันไม่น่าฟังก็คือ
เธอต้องมีอะไรกับศพเพื่อนตัวเองนั่นแหละ แต่เพราะเจสสิก้าเป็นเพื่อนคนเดียวที่สนิทมากที่สุด
เพราะแทยอนไม่ได้มีเพื่อนง่ายๆเหมือนคนอื่นๆเพราะงั้นมันจึงทำให้เธอรักเจสสิก้ามากนั่นเอง
ส่วนกฎข้อที่สองนั้นก็คือปฏิบัติตามคำสาบานที่จะปรากฎขึ้นมาสู่สายตาเมื่อผู้ตายมีสติครบถ้วนแล้ว
หากไม่ยอมรับในคำสาบานผู้ที่เพิ่งถูกต่อลมหายใจจะสิ้นลมไปตลอดกาล
หรือหากยอมรับแต่กระทำมิได้ก็จะมีบทลงโทษตามชะตากรรมที่แตกต่างกันออกไป
โบอานั่งคิดหาวิธีเพราะในร่างแทยอนนั้นมีแต่สารธาตุพิษทั่วทั้งร่าง และบาดแผลที่ร่างเจสสิก้าก็ยังไม่สมานกันจนกว่าร่างบางจะฟื้นตัว
และถ้าพิษของแทยอนไปกัดเซาะร่างของเจสสิก้าล่ะ นี่เธอพลาดเองหมดเลยใช่มั้ยเนี่ย
เธอกำลังคิดว่าถ้ามีสารล้างพิษอยู่ในร่างเจสสิก้า เจสสิก้าก็จะไม่เป็นอะไรแต่แทยอนเนี่ยสิเพราะพวกธาตุพิษโดยตรงท่าเจอสารล้างพิษก็แทบชักดิ้นชักงอแล้ว
แล้วนี่เธอควรจะทำยังไงดีเนี่ย หญิงสาวพยายามลองผสมสารข้ามหลักสูตรปกติอยู่หลายสิบครั้ง
จนในที่สุดเธอก็พบว่าความผิดพลาดครั้งนี้มันน่ากลัวมาก แต่เธอก็คิดว่ามันคุ้มค่ามากเช่นกัน
เพราะยังไม่มีใครสามารถผสมพิษและโฮลิเข้าด้วยกันได้แต่ตอนนี้เธอทำได้
เมื่อทดลองสารกับสิ่งมีชีวิตที่มีไว้เพื่อทดลองแล้วผลลัพธ์ของมันคือใช้งานได้แล้ว
โบอาก็จัดการเตรียมสารที่เพิ่งจะค้นพบสดๆร้อนๆนี้ไปยังเตียงที่มีแทยอนนั่งอยู่กับร่างไร้วิญญาณของเจสสิก้า
เธอปักเข็มลงบนร่างน้องสาวทั้งสองคนอย่างระมัดระวัง และเพราะความผิดพลาดพวกนี้
จึงทำให้เธอจำเป็นจะต้องดึงพลังจากเจสสิก้ามาใส่ร่างแทยอนไว้เพราะถ้าแทยอนไม่แข็งแกร่งพอเค้าอาจจะตายตามเจสสิก้าไป
.
.
ร่างเล็กปรือตาขึ้นช้าๆรู้สึกวืดๆไปทั้งร่างอีกแล้ว โบอาถอดสายอะไรต่อมิอะไรออกจากร่างเธอไปจนหมดแล้ว
เค้าบอกให้เธอกินข้าวกินน้ำก่อนเพราะเธอหมดสติไปหนึ่งวันเต็มโดยที่ไม่ได้อะไรเลยนอกจากสารเคมีที่เพิ่มเข้าไปในกระแสเลือด
เธอก็ไม่ได้คัดค้านอะไรนั่งกินไปมองร่างเพื่อนสาวไปพลางทำใจไปด้วย เพราะเธอยังต้องทำกิจกรรมอีกยาวนาน
เพราะความไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่แสนทรมานของเจสสิก้านั้นยืดเยื้อมากน้อยแค่ไหน
โบอาบอกว่าไม่แน่ใจว่าเจสสิก้าจะฟื้นตั้งแต่รอบแรกเลยมั้ย แต่ที่แน่ๆและแย่มากสำหรับแทยอนก็คือ
ร่างเล็กนั้นจะต้องทำให้ช่วงเวลามันยาวนานกว่าตอนที่เจสสิก้าทรมาน แค่คิดก็อยากตายแทนแล้วหลังจากกินข้าวกินน้ำเสร็จ
โบอาก็ถามแทยอนว่าจะให้อยู่ด้วยมั้ย เธออยากให้เค้าอยู่แน่ๆแหละ
แต่มันก็เขินๆอยู่นะที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้เค้าเห็นถึงแม้จะมีเหตุผลที่จำเป็นต้องทำก็เถอะ
โบอาเหมือนจะดูออกเค้าเลยบอกว่าเดี๋ยวจะขยับเตียงไปชิดริมๆให้
แล้วเค้าจะทดลองสูตรสารอยู่อีกมุมนึงของห้องแล้วกันมีอะไรค่อยเรียก แทยอนได้ยินอย่างนั้นก็รีบตอบตกลงทันที
แทยอนนั่งคร่อมร่างของเจสสิก้ามาสักพักแล้วเธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี
คิดดูสิเกิดมายังไม่เคยคิดเลยนะว่าจะมีวันที่เธอไปไม่เป็นกับเรื่องหื่นๆ แต่สภาพตรงหน้านี้มันก็ไม่น่าจะไปเป็นนั่นแหละ
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆปิดเปลือกตาลงเหมือนไอ้ที่เคยทำใจไว้มันศูนย์เปล่าจนต้องมาทำใจใหม่อีกครั้ง
จนแทยอนรู้สึกว่าอยากจะหันไปถามโบอาเหลือเกินว่าเค้ามียาปลุกอารมณ์อะไรแบบนั้นมั้ย เผื่อมันจะช่วยเธอได้บ้าง
ทั้งที่ไม่เคยคิดว่ายาพวกนั้นมันจะมีประโยชน์สำหรับคนอย่างเธอ แต่วันนี้กลับนึกถึงมันได้เสียอย่างนั้น
มือเล็กค่อยๆเลื่อนไปกอบกุมก้อนเนื้อของร่างบางไว้โน้มใบหน้าลงพรมจูบไปตามซอกคอขาว
ปลายลิ้นค่อยๆลากไปตามสันกรามขึ้นไปและเล็มยังริมฝีปากเรียวที่ซีดเผือกเธอดูดดุนกลีบปากเค้าเบาๆ
เลื่อนไปจูบหน้าผากดวงตาทั้งสองข้างปลายจมูกปลายคางแล้วเลื่อนกลับมายังริมฝีปากอีกครั้งมือก็นวดคลึงก้อนเนื้อขนาดเต็มไม้เต็มมือไว้
แทยอนไล่พรมจูบต่ำลงมายังเนินอกปลายลิ้นตวัดลากวนไปมาช้าๆบนยอดอกสีสวยที่ยังไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง
มือเล็กก็ยังคงนวดเฟ้นทรวงอกขนาดเต็มไม้เต็มมืออยู่ไม่ห่าง เพราะไม่สามารถจะปลุกเร้าสร้างอารมณ์ให้ร่างที่นอนนิ่งอยู่นั้นได้
จึงกลายเป็นว่าแทยอนนั้นต้องพยายามปลุกอารมณ์ดิบของตัวเองให้ตื่นขึ้นมาให้ได้แทน
เมื่อพยายามสร้างอารมณ์กับส่วนบนของเจสสิก้ามาหลายนาทีแล้วแต่ก็ยังไม่เกิดความรู้สึกอย่างที่ต้องการสักเท่าไร
แทยอนจึงเลื่อนกายต่ำลงมาสองมือจับเรียวขาของเจสสิก้าให้ชันเข่าขึ้น แล้วรั้งให้แยกออกจากกันอย่างเบามือ
ก้มลงมองกลางกายที่ยังมีรอยบาดแผลอยู่ ก็ต้องกัดริมฝีปากไว้แน่นบอกตัวเองให้เลิกคิดเรื่องแย่ๆที่อีกคนต้องเจอนั้นแล้ว พยายามทำๆต่อไปให้จบเสียที
ปลายลิ้นแตะสัมผัสลงยังจุดอ่อนไหวที่ไร้ปฏิกิริยาใดๆไร้อารมณ์ใดๆและไม่มีการตอบสนองใดๆ
แม้เธอจะลากปลายลิ้นวนไปมาอยู่ทั้งภายนอก และค่อยๆแทรกปลายลิ้นเข้าไปข้างใน
จนรู้สึกถึงรสเค็มฝาดและกลิ่นคาวคลุ้งเข้ามาในโพรงปากจากโลหิตที่ยังตกค้างอยู่ภายใน
แทยอนหลับตาแน่นพยายามตวัดเรียวลิ้นอยู่ในนั้นต่อไปเพื่อถ่ายเทความชุ่มชื้นจากปลายลิ้นอยู่พักใหญ่
ก็ชักกลับออกมาเธอกำลังคิดอยู่ว่าเธอควรจะส่งเรียวนิ้วเข้าไปดีมั้ย แต่ถ้าไม่มันอาจจะถือว่าไม่ครบทุกกบวนการหรือเปล่า
เธอเลยตัดสินใจยกเรียวนิ้วของตัวเองขึ้นมาไล้เลียให้เปียกชุ่ม แล้วเลื่อนมันลงไปถูไถกับจุดอ่อนไหวของตัวเองก่อน
แทยอนปิดเปลือกตาลงเพื่อสร้างมโนภาพในความคิดแทนความจริงที่โหดร้าย ใครคนนั้น... เพื่อพยายามปลุกเร้าความต้องการของตัวเองอยู่พักใหญ่
จนส่วนอ่อนไหวของแทยอนนั้นเริ่มมีปฏิกิริยาในอารมณ์นั้น ของเหลวลื่นที่ถูกหลั่งออกมานั้นเป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างดีว่าอารมณ์ดิบของเธอมันเริ่มตื่นตัวแล้ว
รอเพียงไม่นานเรียวนิ้วก็กวาดเอาของเหลวของตัวเอง เพื่อให้ได้ความแฉะเยิ้มลื่นนิ้วมา ก่อนจะค่อยๆสอดใส่เข้าไปในร่างของเจสสิก้า
แทยอนขยับนิ้วเบาๆราวกับว่ากลัวว่าเค้าจะเจ็บที่บาดแผล ทั้งที่เจสสิก้านั้นอาจจะไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยก็เป็นได้
เหลือบตามองขึ้นไปมองใบหน้าที่ไร้อารมณ์และสติพลางแม้มปากแน่นกับความรู้สึกปวดร้าว
ที่พวกเราต้องมาพบกับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้โดยเฉพาะ เจสสิก้า...
แทยอนพยายามทำอยู่อย่างนั้นซ้ำไปวนมาอยู่นานหลายนาที จนคิดว่าที่ตัวเองทำอยู่นั้นมันมีจุดบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า
ไม่เพียงแต่ต้องทำให้กับร่างไร้สติของเพื่อนสาว แต่แทยอนต้องทำให้ตัวเองด้วยเพื่อไม่ให้อารมณ์ดิบที่ปลุกขึ้นมานั้นมอดดับลง
ร่างเล็กจึงขยับกายเข้าไปตรงหว่างขาของเจสสิก้า แล้วยกเรียวขาที่ทิ้งตัวนั้นพาดสลับกับขาของตัวเอง แล้วเบียดส่วนอ่อนไหวเข้าแนบชิดกัน
แทยอนหลับตาแน่นแล้วพยายามส่ายร่อนสะโพกบดขยี้ส่วนอ่อนไหวทั้งสอง
แค่อีกคนเป็นเจสสิก้านั้นมันก็เหนือความคาดหมายของแทยอนมากพอแล้ว แต่นี่ยังต้องมาเป็นเจสสิก้าที่อยู่ในสภาพไร้วิญญาณอีก
คิดเพียงเท่านั้นหยดน้ำใสที่พยายามสะกดกลั้นไว้มาตลอดก็ปริ่มล้นออกมาจากดวงตาที่พยายามบีบให้ปิดสนิทอยู่อย่างห้ามไม่ได้อีกเป็นครั้งที่เท่าไรแล้ว
เจสสิก้าไม่ใช่คนที่เธอคิดจะแตะต้องในเชิงชู้สาว เพราะเจสสิก้าคือเพื่อนคนเดียวที่แทยอนรักมากที่สุด
แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอย่างไรกับตัวเองมากกว่าแค่เพื่อนกันมาตั้งแต่แรกเริ่ม
ที่อีกฝ่ายนั้นพยายามเข้ามาทำความรู้จัก เข้ามาสนิท จนกลายมาเป็นเพื่อนกันถึงทุกวันนี้
ความรู้สึกจากสัมผัสที่แปลกไปแม้เพียงเล็กน้อยแต่แทยอนก็สามารถรู้สึกได้นั้น ทำให้ร่างเล็กหลุดออกจากความคิดของตัวเอง ที่คิดไปต่างๆนาๆ
เมื่อเปลือกตาที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำแห่งความรู้สึกปวดร้าวได้ปรือเปิดขึ้นก็ต้องเบิกกว้างทันที
เมื่อเห็นว่าทรวงอกของร่างบางสะท้อนขึ้นลงแม้ผละแผ่วแต่นั่นก็แปลว่าเจสสิก้าหายใจแล้ว
แทยอนเรียกโบอาให้มาดูทันทีแล้วถามว่าเธอต้องทำไงต่อ อาจเป็นเพราะความดีใจและตกใจหรือเปล่าไม่แน่ใจ
ที่พาให้เธอลืมไปว่าเธอตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ และยังต้องทำอะไรกับเจสสิก้าไปอีกหลายชั่วโมง
ความกระดากอายที่ควรมีถูกโยนทิ้งไปตั้งแต่ที่ได้รับรู้ว่าร่างบางที่เธอกำลังบดขยี้ส่วนอ่อนไหวอยู่ด้วยนั้นเริ่มหายใจอีกครั้ง
แม้โบอาจะไม่ได้แสดงสีหน้าหรือท่าทางอะไรออกมาทั้งที่เห็นกายเปลือยเปล่าของเธอและเจสสิก้าทำอย่างนั้นอยู่ก็ตามที
โบอาบอกแค่ว่าทำต่อไปเรื่อยๆไม่ต้องหยุดเดี๋ยวเค้าจะเอาสารฟื้นฟูมาหยดที่บริเวณบาดแผลของเจสสิก้าก่อน
เพราะตอนนี้เจสสิก้าแค่กลับมาหายใจแต่ยังไม่ได้สติ เพียงแต่ร่างกายของเค้าเริ่มมีการตอบสนองขึ้นมาบ้างแล้ว
โบอาถือหลอดหยดสารอยู่ในมือแล้วมาหยุดอยู่ตรงข้างเตียงที่มีทั้งสองร่างเปลือยเปล่าที่ยังคงต้องเนินกิจกรรมที่ทำอยู่ต่อไปเรื่อยๆ
และตอนนั้นเองที่ความรู้สึกกระดากอายของแทยอนถูกดึงกลับมาทั้งหมดเสียจนใบหน้าเห่อร้อน
เพราะโบอาก้มลงมองที่จุดอ่อนไหวของเธอและเจสสิก้าที่ยังบดเบียดกันอยู่อย่างไม่ปิดบัง
"อย่าหยุดเดี๋ยวพี่หยดลงไปเอง ทำต่อไป"
เมื่อเห็นว่าสะโพกผายของแทยอนเริ่มขยับเบาลงและมีท่าทีว่าจะถอนออกไปจากการบดเบียด จึงต้องรีบบอกคนอายุน้อยกว่าออกไปอย่างนั้น
โบอาบอกตัวเองว่านี่คือน่าที่ที่สำคัญ มันคือการช่วยชีวิตเจสสิก้าเธอต้องทำทุกอย่างต่อไปตามขั้นตอนทั้งหมดจนครบ
แม้ว่าตอนนี้เธอเองก็ไม่อาจจะห้ามไม่ให้สายตานั้นมองโลมเลียชิ้นเนื้อบวมเปล่งของแทยอนได้เลย
ยิ่งในตอนนี้ที่ส่วนนั้นมีทั้งของเหลวใสเปรอะเยิ้มอยู่เต็มไปหมด ความมันวาวนั้นยิ่งดึงดูดสายตาให้จับจ้องเหลือเกิน
อีกทั้งลิ่มของเหลวสีโกเมนที่น่าจะมาจากการตกค้างจากบาดแผลของเจสสิก้าปะปลนอยู่บ้างนั้นยิ่งทำให้มันสะดุดตามากขึ้น
ไม่ใช่แทยอนมองสายตาของคนอายุมากกว่าไม่ออกว่าเค้ากำลังจับจ้องอะไร
และเพราะรู้ไงเธอจึงทำได้เพียงหันใบหน้าที่ร้อนผ่าวหนีไปทางอื่น ทั้งที่ยังคงต้องขยับส่ายร่อนสะโพกอยู่อย่างนั้น
"อ๊ะ~"
แทยอนหลุดเสียงครางออกมาจนได้ทั้งที่พยายามกลั้นไว้เสียตั้งนาน พร้อมกับกายเล็กที่สะดุ้งขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเย็นวาบที่ส่วนอ่อนไหว
จนต้องหันกลับไปมอง จึงทำให้รู้ว่าความเย็นนั้นมันมาจากสารที่โบอาได้หยดลงเพื่อจะรักษาบาดแผลให้เจสสิก้า
แต่มันก็คงจะเลี่ยงไม่ให้โดนเธอไม่ได้อยู่แล้ว ตรงนั้นแทยอนก็เข้าใจดี จึงได้แต่หันหน้าหนีกลับไปทางอื่นอีกครั้ง
ผ่านไปพักใหญ่หลังจากที่โบอาจัดการรักษาแผลให้เจสสิก้าแล้ว จนตอนนนี้ปากแผลเริ่มมีการสมานตัวจนใกล้จะหายเป็นปรกติ
แทยอนขยับขึ้นมาดูดดุนยอดอกของร่างบางที่ตอนนี้มันมีตอบสนองด้วยการขยายตัวแข็งขืนชันขึ้นแล้ว
นิ้วเรียวเลื่อนไปลากผ่านกลางกายเปียกแฉะอาจเป็นเพราะของเหลวของแทยอนที่ทิ้งไว้
หรืออาจเพราะร่างกายของเจสสิก้านั้นเริ่มหลั่งออกมาเองตามธรรมชาติเมื่อถูกสัมผัสส่วนอ่อนไหว
.
.
"อ้ะ!~ ท..แท... แทยอ..น~"
เสียงแหบแห้งถูกเปล่งออกมาเพียงผละแผ่วนั้นเข้ากระทบโสตประสาทของร่างเล็กเสียจนชะงักไปเล็กน้อย
ตกใจอีกครั้งเมื่อสาวเจ้านึกจะตื่นก็ตื่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น เรียวนิ้วหยุดทำน่าที่ของมันไปชั่วขณะ จน
รู้สึกถึงสัมผัสที่โอบเกี่ยวเอวบางเพียงแผ่วเบา แทยอนจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอต้องทำต่อไป ก็คงไม่แปลกที่เจสสิก้านั้นจะไร้เรี่ยวแรง
"ส..สิก้าไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่กับเธอแล้ว เจ็บมากหรือเปล่า"
พยายามรวบรวมสติได้ก็รีบเอ่ยปลอบร่างบางทันทีกลัวว่าเค้าจะตกใจ ที่ตื่นมาก็เจอเรื่องแบบนี้อีก
แต่เจสสิก้าก็กอดเธอไว้ พูดแค่ดีใจที่เป็นเธอซ้ำไปซ้ำมา
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจนักอแต่ก็ไม่ได้หยุดพูดปลอบเค้าเบาๆว่าไม่ต้องตกใจนะ ไม่ต้องกลัวเธอจะทำอย่างเบามือที่สุด
เจสสิก้าเพียงพยักหน้ารับช้าๆ เค้าคงยังประติดประต่อเรื่องไม่ถูกแทยอนคิดว่าเป็นอย่างนั้น แต่ร่างบางก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก
มีเพียงแรงรั้งที่แผ่วเบาเหลือเกินที่ดันให้แทยอนขยับขึ้นไปประกบเรียวปากลงกับส่วนเดียวกันของอีกฝ่าย
นิ้วเรียวลากผ่านกลางกายครั้งแล้วครั้งเล่าขยับเข้าออกในร่างเค้ามาไม่รู้กี่ชั่วโมงแล้ว
จนแทยอนเริ่มจะเปลี่ยนเป็นใช้กลางกายเราเบียดเสียดสีกันแทน และเมื่อถึงปลายทางไปอีกสองรอบ
เจสสิก้าก็ดูเหมือนจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมาจากตอนแรกเยอะขึ้นแล้ว และตอนนี้สาวเจ้าก็เริ่มแผงฤทธิ์
ด้วยการเลื่อนมือลงไปใช้ปลายนิ้วลากไล้ผ่านกลางกายของแทยอนบ้าง
ร่างเล็กก็ไม่ได้ปัดป้องอะไรเพราะปรกติแล้วเธอก็ต้องการถูกปลดปล่อยบ้างแม้จะไม่ทุกครั้งแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี
ปลายนิ้วของเจสสิก้าลากถูไถกับร่องกลีบเนื้ออ่อนแฉะฉ่ำของแทยอน ลากขึ้นลงกดขยี้ชิ้นเนื้อนูนที่แข็งขืน
แทยอนกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้แน่นเปล่งเสียงครางในลำคอออกมาให้อีกฝ่ายได้ยิน เจสสิก้ากำลังจะทำให้เธอทนต่อไปไม่ไหว
แต่แล้วแทยอนก็ต้องผละใบหน้าออกมาจากซอกคอของคนใต้ล่าง มือเล็กก็รีบตะครุบเอาข้อมือบางไว้อย่างรวดเร็ว
เมื่อรู้สึกว่าปลายนิ้วนั้นอยู่ในจุดอันตรายเข้าทุกทีๆ
"จะเปิดซิงฉันหรือไง"
เจสสิก้ายกยิ้มยั่วเล็กน้อยขยับยกศีรษะเข้ามาจูบเธอดูดดุนกลีบปากด้านล่างอย่างออดอ้อน ก่อนจะกระซิบชิดริมฝีปาก
"ไม่ให้ฉันเปิด เธอจะเก็บไว้ให้ใครเปิดล่ะแทยอน" ...ก็เก็บไว้ให้คนที่ฉันรอมาตลอดนั่นไง...
แทยอนได้แค่คิดแบบนั้นและตอบกับตัวเอง แต่มันก็คงไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้วเรื่องนั้นน่ะ
อีกอย่างแทยอนเองก็ยังค่อนข้างสับสนอยู่บ้าง ในเมื่อที่ผ่านมาเธอเป็นฝ่ายทำมาตลอดไม่ว่ากับใคร
ถึงแม้จะเคยถูกสัมผัสมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีใครได้รุกล้ำเข้าไปถึงข้างในนั้นเลยสักคน
แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วยอมให้เพื่อนรักไปสักครั้งก็คงไม่เป็นไร อย่างน้อยก็มั่นใจว่าเรารักกันมากพอ แม้เธอจะไม่ได้คิดกับเจสสิก้าในแบบคนรักก็ตามที
เมื่อคิดอย่างนั้นมือเล็กก็ค่อยๆคลายแรงบีบที่ข้อมือบางออกยังคงมีความลังเลติดอยู่ภายในใจ
สบตากับคนใต้ร่างอยู่เพียงอึดใจเดียวแทยอนก็ปิดเปลือกตาลงเพื่อรอรับสัมผัสแปลกใหม่
เจสสิก้าเห็นอย่างนั้นก็อดยกยิ้มออกมาไม่ได้ จริงๆก็ไม่คิดว่าแทยอนจะยอมเหมือนกัน
แต่เมื่อเค้ายอมให้แล้ว แน่นอนว่าเธอก็จะรีบคว้าไว้ ยอมรับว่าดีใจที่จะได้เป็นคนแรกของแทยอนจริงๆ
เพราะจริงๆแล้วเธอเองก็อยากให้เค้าเป็นคนแรกของเธอเช่นกัน...
แต่มันไม่ทันเสียแล้ว...
นิ้วเรียวลากไปตามร่องกลีบเนื้ออ่อนช้าๆผ่านชิ้นเนื้อนู้นแข็งขืนเข้าไปจนถึงปากช่องทางร้อนของแทยอน ปลายไล้วนไปมารอบๆอย่างใจเย็น
แล้วค่อยๆกดเข้าไปในช่องทางคับแคบที่เต็มไปด้วยของเหลวลื่น เจสสิก้าคงจับจ้องใบหน้าของคนด้านบนอยู่อย่างนั้น ใบหน้าที่ชวนให้เธอหลงใหลตั้งแต่แรกพบ
ในตอนนี้เปลือกตาคู่สวยนั้นได้กดลงปิดกันแน่น เรียวคิ้วบางเหนียวเข้าหากันโดยที่เจ้าของมันอาจจะไม่รู้ตัวเลยก็เป็นได้ลมหายใจกระชากเข้าออกเป่ารดใบหน้าเธอ
และยิ่งเรียวนิ้วถูกดันเข้าไปลึกเท่าไรสีหน้าของแทยอนก็สื่ออารมณ์ออกมาชัดเจนมากเท่านั้น
กลีบปากอิ่มที่เคยเม้มแน่นตอนนี้มันได้เผยอขึ้นราวกับจะยั่วให้คนมองนั้นต้องขยับไปดูดดุนมัน
ในขณะเรียวนิ้วถูกดันเข้าไปจนสุดโคนเจสสิก้าแช่นิ้วค้างไว้อย่างนั้นก่อนจะควงวนไปมาเบาๆเพราะกลัวว่าแทยอนอาจจะเจ็บและเธอก็ไม่ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น
ไม่นานเจสสิก้าก็รู้สึกได้ถึงแรงขยับที่เรียวนิ้ว โดยปล่อยให้แทยอนนั้นควบคุมเอง
เธอคิดว่าประสบการณ์ที่โชกโชนของแทยอนนั้นมากพอที่จะทำให้เค้ารู้ว่าเค้าต้องทำอะไรยังไง แม้ว่าร่างเล็กนั้นจะไม่เคยถูกรุกล้ำมากขนาดนี้ก็ตาม
แล้วยิ่งแทบกับเธอซึ่งประสบการณ์ครั้งแรกนั้นก็แสนจะโหดร้ายทารุนเหลือเกิน
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเธอเอาหวังไปเองอยู่คนเดียว ว่าสักวันคนแรกของเธอจะต้องเป็นแทยอนอย่างแน่นอน แต่ก็เปล่า ...
เจสสิก้าไม่ได้โกรธเคืองแอมเบอที่ทำอย่างนั้นกับเธอ เพราะเธอรู้ว่าแอมเบอก็รู้ว่าทุกครั้งที่เธอบ่ายเบี่ยงเค้านั้นมันเป็นเพราะอะไร และเพราะใคร...
ร่างบางคิดว่ามันคงไม่แปลกอะไรหากแอมเบอจะมีน้ำโหในเมื่อเธอไม่ยอมและยังเอาแต่นึกถึงแทยอนอยู่อย่างนั้น ทั้งๆที่แอมเบอก็อยู่ตรงนั้นกับเธอ
คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนและคนรักก็คือแอมเบอ ไม่ใช่แทยอน
ที่ผ่านมาเธอพยายามบอกใจตัวเองให้สนใจแอมเบอมากกว่าแทยอนสักทีแต่ก็ไม่เคยทำได้เลยสักครั้ง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีใจให้แอมเบอแต่เป็นเพราะเกือบทั้งหัวใจของเธอนั้นได้ยกให้แทยอนไปแล้ว
ก็รู้ตัวมาตลอดว่าไม่ควรทำแบบนี้ มันผิด ผิดตั้งแต่ที่คิดว่าจะพยายามหาใครมาแทนที่แทยอนแล้ว
และมันก็ยิ่งผิดไปมากกว่านั้นเมื่อไม่สามารถลบเลือนร่างเล็กไปจากหัวใจได้ อย่างที่เธอได้แสดงออกมา
และนี่ก็คงเป็นบทลงโทษสัมหรับคนเห็นแก่ตัวอย่างเธอสินะ...
"สิก้า~ อืม~"
เสียงครางต่ำแผ่วเบาของแทยอนนั้นดึงสติของเจสสิก้าให้กลับมาอยู่กับปจุบันอีกครั้ง หัวใจที่เคยแน่นิ่งก็บีบรัดตัวรุนแรงขึ้น
เพียงเพราะแค่ได้ยินเสียงครางของแทยอนที่เรียกชื่อเธอ
ร่างบางหลุบตาลงมองเรียวนิ้วของตัวเองที่ตอนนี้ถูกสะโพกมนของแทยอนขยับขึ้นลงให้ช่องทางร้อนกลืนกินอยู่ไม่ห่าง
ก่อนจะเลื่อนสายตากลับขึ้นมามองหน้าคนบนร่างอีกครั้ง ก็พบว่าอีกคนนั้นได้มองเธออยู่ก่อนแล้ว
เจสสิก้าสบลึกเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของแทยอน มันทั้ง เร่าร้อน หยาดเยิ้ม หวามไหว
เสียจนเรียวขาของเธอต้องหนีบเข้าหากันอย่างห้ามไม่ได้
สายแบบนี้ของคนๆนี้ ที่เธอรอคอยมานานเหลือเกิน รอให้เค้าได้ใช้มันกับเธอสักที...
"แทยอน ตาของเธอ... สวยจัง..."
แต่เมื่อไล่สายตาต่ำลงมาร่างบางก็ต้องหรี่ตาปรับโฟกัส พร้องกับเรียวคิ้วที่ถูกเหนี่ยวเข้าหากันอย่างห้ามไม่ได้
เมื่อพบว่าช่วงกลางอกของร่างเล็กนั้นปรากฎอักษรสีดำคล้ายรอยไหม้ขึ้นมาชัดเจนสู่สายตา
แทยอนเมื่อเห็นสีหน้าของคนใต้ร่างแปรเปลี่ยนไปก็ได้มองตามสายตาอีกฝ่ายลงไปยังช่วงอกของตัวเอง
เมื่อพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมปรากฎขึ้นบนกาย ก็ห้ามไม่ได้ที่จะตวัดสายตามองไปยังส่วนเดียวกันของอีกฝ่าย
เมื่อเห็นว่ามีสิ่งเดียวกัน ก็เดาได้ไม่ยาก ...นี่สินะ คำสาบานระหว่างเรา...
I won't let her die.
She will not let me die.
If we must die, must die simultaneously.
.
Now important.
Tomorrow, it's important.
If lost the important.
will not be there anymore.
เพียงไม่กี่อึดใจหลังจากที่กวาดสายตาอ่านมันจนหมด รอยไหม้นั้นก็ค่อยจางหายไปคล้ายกับซึมลึกลงไปใต้ผิวเนื้อ
แม้มองไม่เห็นแต่มันจะคงอยู่กับทั้งสองไปจนลมหายใจสุดท้าย
ชั่ววินาทีหนึ่งที่แทยอนมีความรู้สึกว่า คำสาบานนี่ไม่เห็นดูยากเย็นสักเท่าไรเลย
ซึ่งต่างจากเจสสิก้า ร่างบางมีความกังวลเกาะกุมหัวใจอยู่เต็มไปหมด หรือเพราะเธออาจจะยังไม่ได้เข้าใจถึงประโยคเหล่านั้นอย่างถ่องแท้ก็ไม่รู้
ไม่สามารถมีได้อีก... มันหมายความว่าอะไรกันแน่?
.
*(ในกรณีของคำสาบานในเรื่องนี้นั้นมันไม่คงที่ นั่นหมายความว่าแม้จะเป็นคำสาบานเพื่อชุบชีวิตใครสักคนเหมือนกันแต่สถานภาพเหตุการณ์ต่างกันคำสาบานก็จะแตกต่างกันออกไป ให้เหมาะสมกับสถานะต่างๆของตัวละครนั้นๆค่ะ)*
.
เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไปกว่าสิบหกชั่วโมง โบอาก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วงคนอายุน้อยกว่าทั้งสองคน เพราะถึงจะเป็นเชลล่าแล้ว
ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งชีวิตความเป็นมนุษย์ปรกติไปได้ ถึงอย่างไรโครงสร้างทุกอย่างก็ยังเป็นมนุษย์
ร่างกายยังคงต้องการรับสารอาหาร ต้องการน้ำ และแน่นอนว่าต้องการพักผ่อนเช่นกัน
เหลือมองทั้งสองร่างเปลือยเปล่าที่ยังคงโรมรันกันอยู่อย่างเดิม พลางระบายลมหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ก่อนจะสาวเท้าก้าวเข้าไปยังเตียงผู้ป่วยที่ดูเหมือนตอนนี้ดูเหมือนจะมีเพียงสองร่างที่ดูแข็งแรงดีบรรเลงเพลงร้อนกันอยู่เสียมากกว่า
"สิก้า พอจะจำได้หรือเปล่าช่วงเวลาที่... เอ่อ นั่นน่ะ ยาวนานประมาณไหน"
โบอาเว้นคำไปอย่างช่วยไม่ได้เพราะเมื่อคิดๆดูแล้วมันอาจจะเป็นการพูดจี้ปมของคนอายุน้อยกว่าหรือเปล่า หรือสภาพจิตใจเค้าโอเคแค่ไหน
เธอพยายามไม่มองร่างทั้งสองโดยตรง เนื่องจากก็รู้อยู่ว่าเจสสิก้านั้นไม่ได้โชกโชนเรื่องอย่างว่าเท่าแทยอน
จึงรู้สึกเกรงใจสาวเจ้าขึ้นมา ส่วนแทยอนน่ะเหรอ...ไม่หรอก
เพราะก็พอรู้ว่าร่างเล็กนั้นเปลือยกายต่อหน้าใครต่อใครมามากมายแล้ว ให้เธอเห็นอีกสักคนคงไม่เป็นไร
"จำได้ว่า ตอนที่ไปถึงที่บ้านแอมเบอก็ประมาณสองทุ่ม เรานั่งคุยกันอยู่ไม่นานแอมเบอก็เริ่มเข้าใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อยๆ..."
เจสสิก้าเหนี่ยวคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อต้องนึกถึงเรื่องเลวร้ายที่เพิ่งพบเจอ หยาดน้ำใสเริ่มปริ่มล้นออกมากจากดวงตาคู่สวย
ทุกความเจ็บปวดนั้นเธอยังจำมันได้แม่น สองแขนเรียวกอดรัดกายเล็กตรงหน้าไว้แน่นราวกับหาที่เพิ่ง
แต่ก็พอจะเดาออกว่าที่โบอาต้องการข้อมูลส่วนนี้นั้นก็เพราะว่ามันคงมีผลต่อการบำบัดเธอเอง
ร่างบางจึงค่อยๆเล่าทุกเหตุการณ์ที่จำได้ให้ทั้งสองคนฟังโดยไม่ปิดบัง เพื่อให้โบอาได้ประติดประต่อวิเคราะห์เหตุการณ์
หลังจากที่ความทรงจำของเธอขาดหายไปจนถึงก่อนที่ทั้งสองคนจะมาเจอร่างเธอ
"อืม งั้นก็คงจะพอได้แล้วแหละ"
โบอาที่นั่งหันหลังพิงเตียงผู้ป่วยเพื่อฟังเรื่องราวโหดร้ายทารุนจากคนอายุน้อยกว่า
พลางใช้ความคิดคาดคะเนช่วงเวลาจากช่วงสองทุ่มไปจนถึงประมาณเก้าโมงเช้าที่เธอและแทยอนไปเจอร่างบาง
คิดไปก็รู้สึกถึงความชื้นแฉะบริเวนดวงตาทั้งสองข้าง มันคงห้ามไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารผู้หญิงบอบบางอย่างเจสสิก้าจนจับใจ
ถึงแม้ว่าเธอเองจะเจอเรื่องเลวร้ายมาเยอะพอสมควร และคิดว่าตัวเองนั้นเข้มแข็งมากในระดับนึงอย่างที่มากกว่าผู้หญิงทั่วๆไปแน่นอน
แต่แบบนี้มัน... ใช่เรื่องเซ็กซ์สำหรับผู้หญิงนั้นมันละเอียดอ่อนและอ่อนไหวมากแค่ไหนทำไมโบอาจะไม่รู้
แค่คิดว่าหากเป็นเธอเองที่ถูกกระทำอย่างที่เจสสิก้าโดนบ้าง แม้คนที่ทำจะขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักก็เถอะนะ
ยังไงก็เจ็บปวดรวดร้าวอย่างห้ามไม่ได้จริงๆ โบอาเลือกที่จะเดินออกมาจากจุดนั้นโดยไม่รอฟังอะไรจากคนอายุน้อยกว่าทั้งสองอีก
เอาไว้เสร็จขั้นตอนนี้ แล้วเราค่อยคุยกันจะดีเสียกว่า
หรืออาจเป็นเพราะเธอเองไม่อยากให้ทั้งสองคนนั้นได้เห็นมุมอ่อนแอของตัวเองแบบนี้ก็ไม่แน่ใจ
"ไม่รู้สึกเหนื่อยอะไรเลยเหรอ?"
โบอาเลิกคิ้วถามอย่างแปลกใจ หลังจากที่รอแทยอนและเจสสิก้ามานั่งร่วมโต๊ะอาหารได้ไม่นาน
เธอก็รัวยิงคำถามใส่ สองสาวทันที ถึงอาการและความรู้สึกระหว่างที่ทำกิจกรรมเมื่อครู่นี้บ้าง
หมายถึงแบบ เหนื่อย ปวด เมื่อย เจ็บ บลาๆๆ อะไรแบบนี้นะ -..-
จนได้คำตอบจากทั้งสอง ไม่ แม้แต่เหนื่อยก็ไม่เลย เธอจึงได้ถามออกไปด้วยแปลกใจมากอย่างนั้น
อย่างแทยอนนะคงไม่แปลกเท่าไรหรอก แต่สัมหรับเจสสิก้านี่สิ เพราะจากคาดว่าหลังจากที่ไปบ้านแอมเบอแล้ว
เจสสิก้าก็คงสูญเสียพลังงานไปมากเสียจนไม่สามารถหายใจต่อได้อีก
และหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการพักผ่อนหรือได้เพิ่มเติมสารอาหารให้ร่างกายอีก
มันดูจะผิดปรกติไปถึงแม้ว่ามันจะดูเป็นเรื่องที่ดีก็ตามที เพราะงั้นเธอจำเป็นจะต้องทำการวิจัยร่างของเจสสิก้าอีก
แต่โบอาก็ไม่ใจร้ายขนาดที่จะดึงสาวเจ้าไปที่แล็บ ณ ช่วงเวลานี้เลย เธอได้แต่บอกให้เค้าไปพักผ่อน เสียก่อน
.
ปัง ปัง ปัง
เสียงปืนดังสนั่นหลายครั้ง จนรถสปอตคันหรูที่แล่นอยู่ด้านหน้าด้วยความเร็วสูงเสียหลักพุ่งไปยังข้างทาง
แทงกูหยุดรถอยู่ใกล้ๆบริเวณนั้นก่อนจะก้าวลงจากรถ หลังจากที่ขับไล่ตามมันมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่
เมื่อเธอดันรู้ทันว่ามันจะแอบลักพาตัวเพื่อนสาวสุดที่รักของเธอไปอีก หึ! ครั้งเดียวมันก็เกินคำว่าให้อภัยแล้ว
"แทง! เดี๋ยวมันอาจจะมีอาวุธนะ"
แทงกูหันไปพยักหน้าให้โบอาแน่นอนเธอไม่คิดว่ามันจะมาตัวเปล่าอยู่แล้ว ก่อนจะค่อยๆเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับของรถสปอตสีดำนั้น
ก็เห็นร่างของใครบางคนที่มันชวนให้เธอก้าวฉับๆเข้าไปยังร่างสูงที่นั่งอยู่หน้าพวงมาลัยและกำลังจะก้าวลงมาจากรถ
ปลายกระบอกปืนอันเล็กสีเงินถูกยกขึ้นจ่อที่กลางศีรษะด้านบนของอีกคนที่ยังไม่ทันจะได้เอาส้นร้องเท้าแตะพื้นดี
จ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยความโกรธเกรี้ยว เคยได้ยินมั้ยว่าเปลวไฟสีน้ำเงินนั้นมีความร้อนมากที่สุด
เฉกเดียวกับดวงตาสีฟ้าเข้มวาววับตอนนี้ราวกับมีประกายไฟสุมอยู่ในนั้นสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ดูฉุนเคืองไม่ต่างกัน
"กูก็ขอโทษมึงไปแล้วไง!! แล้วมึงจะเอาอะไรจากกูอีกวะไอ้แทยอน!!"
น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวหยาบกระด้างของคนที่ยังนั่งอยู่ในรถสปอตคันหรูดังขึ้นด้วยอารมณ์ฉุนเคืองอย่างมาก
โดยไม่ได้สนใจว่าปลายกระบอกปืนที่อีกฝ่ายถืออยู่นั้นจ่ออยู่ที่กลางศีรษะของตัวเอง
"แล้วมึงคิดว่าแค่คำขอโทษมันทำให้สิ่งที่เพื่อนกูเสียไปกลับมาได้ไหมล่ะ
แล้วก็ช่วยจำใส่กระโหลกมึงไว้ด้วยว่ากู 'ไม่ใช่' แทยอน"
ร่างเล็กที่ยืนอยู่หน้าประตูรถที่ถูกเปิดออกจากคนด้านในเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกบวกกับนัยน์ตาสีฟ้าเข้มวาวโรจนั้น
ยิ่งพาให้รู้สึกได้ถึงความโหดเหี้ยมเลือดเย็นของคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี
"แล้วมึงเป็นใครเสือกอะไรด้วยวะ!! และมึงจะให้กูทำยังไงวะเพื่อนมึงก็มัน 'เสีย' ไปแล้ว!!"
ปัง!! ปัง!! ปัง!! ปัง!!
แทงกูไล่ยิงไปที่ช่วงต้นแขนและต้นขาทั้งสองข้าง ก่อนจะเลื่อนขึ้นมายังหน้าอกของร่างที่กำลังร้องโอดครวญอยู่ที่เบาะคนขับในรถสปอตคันหรู
ของเหลวสีแดงไหลออกมาจากจุดที่กะสุนฝังลงบนร่างอีกฝ่ายเยิ้มหยดลงยังบริเวณนั้น
ปลายเส้นประสาทกระตุกรุนแรงทันทีที่ได้ยินคำว่า 'เสีย' จากปากของคนคนนี้
แถมมันยังกล้าพูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาเบาๆ อย่างนั้น ยิ่งกระชากความเดือดด่านในกระแสเลือดของร่างเล็กให้พุ่งขึ้นจนแทบระเบิดออกมา
...ไอ้ว่าเสียไปแล้วนั่นน่ะมึงอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพื่อนกูต้องเสียอะไรไปบ้าง...
"แทงกู...พอเถอะนะ"
ยังไม่ทันที่ร่างเล็กจะได้ลั่นไกปืนฝังกระสุนลงไปที่อกข้างซ้ายของอีกฝ่าย เธอก็ต้องชะงักไป แล้วลดระดับปลายกระบอกปืนลงข้างตัวช้าๆ
เมื่อได้ยินเสียงที่แผ่วเบาเอ่ยขึ้นจากด้านหลังของเธอและแทงกูก็รู้ดีว่าเสียงนั่นคือของเพื่อนรักเธอเอง
ที่เปล่งออกมาราวกับว่าเค้าไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรอีกต่อไป ได้แต่เอ่ยเสียงผละแผ่วอย่างออดอ้อนขอร้องให้เธอหยุดการกระทำโหดร้ายนี้ลงเสียที
" 'แทงกู' ไม่ใช่ 'แทยอน' จำไว้ และสิ่งที่เพื่อนกูต้องเสียไปมึงก็ต้องชดใช้ด้วยสิ่งเดียวกัน"
ซุ่มเสียงถูกกดลงต่ำแทงกูพูดรอดไรฟันใส่หน้าอีกคนที่พยามปรือตามองหน้าเธออยู่แล้วฟาดกระบอกปืนเข้าใบหน้าของเค้าสุดแรงจนหมดสติไป
"บอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าให้รออยู่บนรถน่ะ"
แทงกูเอ่ยออกมาอย่างช่วยไม่ได้พลางสาวเท้าเดินเข้าไปหาร่างบาง ทั้งที่ไม่อยากให้เจสสิก้าต้องเห็นภาพเลวร้ายแบบนี้แท้ๆ แต่สาวเจ้าก็ยังดื้อรั้น
ปลายนิ้วเรียวของคนตัวเล็กถูกยกขึ้นปากหยดน้ำใสๆที่อาบแก้มของเพื่อนรักอย่างเบามือ ราวกับกลัวว่าคนตรงหน้านี้จะแตกสลายหายไปยังไงอย่างนั้น
"น้ำตาเธอมีค่ากว่าคนพรรคนั้นเยอะ อย่าร้องเลยนะ"
พอกลับมายังคฤหาสน์คนตัวเล็กก็อุ้มร่างเพื่อนสาวที่เพิ่งจะอื้นเบาลงไปบ้างแล้วขึ้นไปยังห้องเค้า ร่างบางขอให้เธอนอนด้วยซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร
เพราะแทงกูรู้ว่าตอนนี้สภาพจิตใจของเจสสิก้านั้นย่ำแย่มากแค่ไหน
ทั้งโดนคนที่รักสุดหัวใจกระทำเรื่องเลวซามป่าเถื่อนเพราะเวลาเพียงไม่กี่วันนั้นไม่มีทางลบเรื่องเลวร้ายออกไปจากใจได้
แล้วยังจะต้องมาเห็นเพื่อนรักอย่างเธอยืนปลิดชีวิตคนรักต่อหน้าต่อตาแบบนั้น
แทงกูคิดว่าจนถึงตอนนี้เจสสิก้าก็ยังคงรักแอมเบอมากแม้จะรู้ว่าคนคนนั้นทำอะไรตัวเองไว้รุนแรงแค่ไหนก็ตาม
เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จทั้งคู่กำลังเตรียมตัวจะนอนแทงกูเอื้อมมือไปปิดโคมไฟที่หัวเตียง สักพักก็รู้สึกว่าอีกคนนั้นเริ่มจะกอดเอวเธอไว้แน่นขึ้นจากทางด้านหลัง
เธอจึงพลิกตัวหันกลับไปหาเค้าสอดท่อนแขนลงใต้ศีรษะเค้าแล้วกอดเค้าตอบกลับไป ประทับริมฝีปากลงแผ่วเบาที่กลางหน้าผากมนอย่างปลอบโยน
ร่างบางซุกใบหน้าไว้ที่ลำคอเธออยู่พักใหญ่ ก่อนกดปลายจมูกสูดกลิ่นกายเธอเบาๆไม่ยอมหยุดจนเธอครางฮือเชิงปรามเค้า บอกเค้าว่าเดี๋ยวเธอจะอดใจไม่ไหว
เค้าถึงยอมหยุดไปแล้วจู่ๆเค้าก็เอ่ยออกมาเสียงแผ่วว่าถ้าไม่มีเธอป่านนี้เค้าคง..
แทงกูรีบยกปลายนิ้วไปแตะกลีบปากบางส่งเสียง ชู่ว เชิงห้ามไม่ให้เค้าพูดอะไรต่อจากนั้น
ร่างเล็กขยับเลื่อนใบหน้าออกมาเล็กน้อยเพื่อจะมองหน้าอีกคนแม้แสงไฟจะมีหน่อยจนห้องมืดสลัว
แต่มันก็ยังพอมองเห็นว่าใบหน้าของเจสสิก้านั้นเริ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้ ไม่นานก็รู้สึกถึงความนุ่มอุ่นๆสัมผัสลงบนกลีบปากเธอแผ่วเบา
ก่อนจะเริ่มขยับเนิบนาบและเบียดเข้ามาจนแนบแน่นพร้อมแรงดูดดุนเบาๆที่ริมฝีปากล่างของเธอ
ลิ้นเรียวถูกส่งเข้ามาทักทายลิ้นร้อนตวัดเกี่ยวพันกันราวกับคิดถึงและโหยหากันมานาน
แทงกูค่อยๆถอนจูบออกมาช้าๆมองใบหน้าสวยที่อยู่เพียงแค่กระดาษกั้นบอกเค้าเสียงแผ่ว
"ฉันเริ่มจะมีอารมณ์แล้วนะถ้าไม่อยาก ก็อย่ายั่ว"
เราต่างก็รู้กันอยู่แล้วว่าอีกคนเป็นยังไงและเจสสิก้าก็รู้ดีว่าเธอมีอารมณ์ง่ายแค่ไหน ก็คนมันเคยๆกันอยู่แล้ว
ยิ่งถ้าเป็นเค้าแค่นิดเดียวเค้าก็ทำให้เธอมีอารมณ์กับเค้าได้อย่างง่ายดาย เจสสิก้าหัวเราะเบาๆก่อนจะประทับจูบที่ปลายคางเธอ
"ฉันอยากอ่ะแทง ฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องร้ายๆเพราะงั้นให้ฉันนึกถึงแค่เราได้มั้ย"
เหตุผลเดิมๆที่ทำให้เพื่อนรักคู่นี้มีสัมพันธ์เกินเลยต่อกันอยู่เรื่อยๆ
เพราะสำหรับเจสสิก้าแล้วมีแค่เรื่องของแทยอนและแทงกูเท่านั้นแหละที่ทำให้เธอลืมเรื่องเลวร้ายได้
และทุกครั้งที่เธอต้องการเค้าไม่ว่าเมื่อไรเวลาไหนเค้าก็ให้เธอได้เสมอ
.
แทยอนทิ้งน้ำหนักที่ปลายเท้าลงยังคันเร่งรถสปอตคันหรูจนจมมิด แต่เธอกลับยังรู้สึกว่ามันช้าเหลือเกิน
หากเทียบกับใจที่มันไปถึงยังจุดหมายแล้ว เส้นทางถนนข้างหน้าที่ได้เห็นนั้นมีร่องรอยถูกเนื้อยางบดเบียด
จนเกิดร่อยสีเข้มกว่าปรกติขวักไขว่มาตลอดทาง บ่งบอกได้อย่างดีว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบนเส้นทางนี้บ้าง
จนสุดท้ายรถสปอตสีบลอนด์เงินก็เบี่ยงเข้าหยุดนิ่งข้างทางที่มีรถสปอตคันหรูสีดำจอดอยู่ก่อนแล้ว
มือเล็กกระชากประตูออกอย่างใจร้อน เพราะเกรงว่ารถอีกคันนั้นจะว่างเปล่า อาจเพราะสภาพของเครื่องยนต์นั้นที่ดูเหมือนจะใช่การไม่ได้อีกต่อไป
สภาพโดยรอบมีรูพรุนแม้ว่าเนื้อโครงของตัวรถสปอตคันนั้นจะแข็งแกร่งพอที่จะป้องกันกระสุนธรรมดาๆที่ถูกลั่นออกจากปืนกระบอกธรรมดาๆทั่วไป
สองขาเรียวสาวเท้าก้าวเดินไปหยุดยังฝั่งคนขับของรถสปอตสีดำที่ประตูถูกเปิดอ้าค้างทิ้งไว้อยู่ก่อนแล้ว
แทยอนรีบก้าวเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะดูว่ายังมีร่างสูงที่ควรจะยังนั่งอาบพิษบาดแผลอยู่ตรงนี้
ร่างเล็กยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างพึงพอใจเมื่อได้เห็นแน่ชัดแล้วว่าแอมเบอยังคงนั่งอยู่หลังพวงมาลัย
"แท...ยอ...น!?..."
ซุ่มเสียงแหบพร่าคล้ายกับคนใกล้จะสิ้นลมหายใจถูกเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก พร้อมกับดวงตาที่พยายามจะปรือเปิดขึ้นมองผู้ที่มาเยือนใหม่
แต่ภาพความทรมานของร่างสูงนั้นกลับไม่ได้ทำให้แทยอนรู้สึกสงสารหรือเห็นอกเห็นใจเลยแม้แต่น้อยอีกทั้งยังเปรยรอยยิ้มกว้างขึ้นอีก
เธอรู้สึกแค่ว่าในสิ่งที่แอมเบอเป็นอยู่ตอนนี้ก็สมควรอยู่แล้ว ทั้งยังคิดว่ามันน้อยไปเสียด้วยซ้ำหากเทียบกับสิ่งที่ร่างสูงนั้นได้ทำไว้กับเจสสิก้า
"เจสสิก้าเคยต้องทรมานกว่านี้อีกไม่รู้กี่เท่า..."
แทยอนทำเพียงยืนเหยียดยิ้มให้กับร่างที่อาบไปด้วยของเหลวสีแดงโกเมนส่งเสียงครางครวญ ราวกับจะขอร้องให้เธอเห็นใจและช่วยเค้าเสียที
ช่วยงั้นเหรอ? หึ! คำว่าช่วยของแทยอนในตอนนี้มีเพียงช่วยให้ร่างสูงนั้นสิ้นลมเร็วกว่านี้ก็เท่านั้น แต่เธอคิดว่ายังอยากจะให้เค้าทรมานกว่านี้อีกสักหน่อย
เพื่ออะไรน่ะเหรอ? ก็แค่ให้มันสาแก่ใจเธอก็เท่านั้น แม้มันจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
แต่อย่างน้อยเธอก็ขอเป็นคนงี่เง่าที่ต้องการเพียงแค่ความสะใจหน่อยก็แล้วกัน
จากที่คิดว่าจะไม่ให้สองมือของตัวเองต้องแปดเปื้อน แต่มันก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อคนตรงหน้านี้ยังมีลมหายใจอยู่
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วแต่แทยอนก็ยังคงสนุกกับการได้ใช้ของมีคมวาดบาดแผลไปตามร่างกายและใบหน้าของร่างสูงที่ตอนนี้ไร้หนทางต่อสู้
ราวกับลูกไก่ในกำมือของเธอที่ไม่ว่าเธอจะต้องการให้สิ้นลมหายใจไปเมื่อไรก็ได้
เสียงโอดครวญร้องขอรวามเมตตายังดังขึ้นอยู่เป็นระยะๆ บ่งบอกให้มั่นใจว่าร่างที่ถูกทรมานอยู่นี้ยังมีลมหายใจรู้สึกนึกคิดอยู่ทั้งหมด
เพราะแอมเบอทำได้เพียงเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความรวดร้าวทรมานเท่านั้น เนื่องจากร่างกายส่วนอื่นๆไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
ในตอนนี้ร่างสูงได้แต่คิดว่าให้เธอตสิ้นลมหายใจไป ณ วินาทีนี้เสียยังจะดีเสียกว่า กับความเจ็บปวดทรมานที่แทยอนมอบให้ในตอนนี้
สุดท้ายแอมเบอก็ต้องเปล่งเสียงเอ่ยประโยคที่ไม่เคยคิดว่าทั้งชีวิตนี้จะได้ใช้มัน
"ฆ่า...กู...สักที..."
"เอางั้นเหรอ ใจร้อนไม่เปลี่ยนเลยนะ"
แทยอนแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะบรรจงใช้ปลายแหลมคมของอาวุธในมือ ลากกรีดเสื้อหนังสีดำตรงบริเวณช่วงอกข้างซ้าย
จนเนื้อผ้านั้นแยกออกจากกันเผยให้เห็นผิวเนื้อของอีกฝ่าย ก่อนจะยกปลายโลหะขึ้นและวางลงลากซ้ำจุดเดิมออกแรงกดให้ลึกลงไปในผิวกาย
ชำแหละเนื้อส่วนนั้นให้เปิดออกพร้อมกับของเหลวสีแดงข้นที่หลั่งไหลออกมาจากบาดแผลที่ลึกลงไปเรื่อยๆ จนถึงภายใน
เสียงครวญครางแหบพร่าแห่งความทรมานยังคงถูกเปล่งออกมาให้ได้ยินทุกครั้งที่คมมีดถูกกดกรีดลงไปช้าๆบนผิวเนื้อ
แอมเบอพอจะมองเห็นว่าแทยอนนั้นชำแหละเนื้อเธอออกไปจนเห็นช่องโหว่บริเวณอกข้างซ้าย แต่ถึงจะมองไม่เห็นเธอก็พอจะเดาออก
และตอนนี้ร่างสูงก็สามารถหยั่งรู้ได้ทันทีว่าแทยอนจะทำอะไรต่อไป ก้อนเนื้อภายใต้อกข้างซ้ายถึงแม้ว่าในเวลานี้มันคงจะอ่อนแรงเหลือเกิน
หากแต่มันยังคงดื้อรั้นจะทำตามน่าที่ของมันต่อไป และแอมเบอเองก็ไม่รู้ว่าเธอควรจะดีใจหรือเปล่ากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวินาทีต่อไปนี้
แทยอนชักกระบอกปืนสีเงินคาดแดงเพลิงออกมาจากเข็มขัด ก่อนจะเลื่อนมันไปจ่อยังช่องโหว่งตรงอกข้างซ้ายของร่างสูงช้าๆ
ทั้งที่นัยน์ตาสีน้ำตาลทองนั้นยังคงจับจ้องเรียวหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยบาดแผลเหวอะหวะ
แอมเบอพยายามปรือเปลือกตาที่หนักอึ้งช้อนขึ้นมองร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างประตูรถของเธอ ไม่คิดว่าคนนิ่งๆเฉยๆอย่างแทยอนจะทำอะไรแบบนี้ได้จริงๆ
แต่นั่นก็เป็นเพียงมุมมองที่เธอเคยพบเห็นของแทยอน ซึ่งในตอนนี้เธอก็ได้พบอีกมุมของคนตัวเล็กนี้แล้วด้วยสิ
"แท..ยอน..."
ปัง!
ไม่ทันที่เสียงแหบพร่านั้นจะได้เอ่ยอะไรต่อไปก้อนเนื้อภายใต้อกข้างซ้ายของเจ้าของน้ำเสียงผละแผ่วนั้นก็ถูกปะทะด้วยกระสุนสีแดงเพลิงอย่างจัง
จนทะลุเห็นเป็นช่องโหว่ แทยอนชักกระบอกปืนกลับเข้าเข็มขัดพร้อมเปรยรอยยิ้มพรายออกมาอย่างพึงพอใจ
สายตาก็ไล่สำรวจร่างไร้วิญญาณที่ถูกระบายไปด้วยบาดแผลและของเหลวสีแดงข้นที่บางส่วนก็แห้งเกาะผิวเนื้อขาวเนียนนั้นไปบ้าง
เมื่อเช็คจนแน่ใจแล้วว่าร่างสูงนั้นสิ้นลมหายใจไปแล้วแน่ๆ สองขาเรียวเล็กแต่เปรี่ยมไปด้วยพละกำลังกำจึงสาวเท้าเก้าเดินกลับไปยังรถคันสีบลอนด์เงินของตัวเอง
*(ส่วนแทงกูกับแทยอนในตอนที่ปรากฎตัวออกมานั้นก็ยังเป็นเชลล่าขั้นต่ำอยู่เช่นกัน ไม่ได้เก่ง และยังไม่มีชื่อเสียง อย่างตอนปจุบัน)*
.
From...Writer
สำหรับพาร์ทนี้เราแนะนำให้อ่านแบบ Full Ver. นะคะ
เพราะรู้สึกว่าถ้าอ่านแบบ Clean อาจจะไม่เข้าใจตัวละครทั้งหมด
อย่าลืมคอนเซ็ปเดิมนะค่ะว่าเรื่องนี้ไว้ใจใครไม่ได้ แม้กระทั่งไรท์เตอร์ *ยกยิ้มชั่วร้าย
ได้รู้กันแล้วว่าใครเป็นคนแรกของแทยอน คึคึ
จากที่ยุนอาเคยถามไว้ในแชป XIII
ตอนนี้ได้ขยายความจากอินโทรทั้งหมดแล้ว
แล้วก็เรื่องที่แทยอนยิงหัวใจแอมเบอที่ทิ้งไว้ในแชป XXXX
ปล.1 อย่าแปลกใจถ้าหากรู้สึกว่าฉากไม่ได้รุยแรงอะไรมากเราก็เซ็นเซอร์จากบอร์ด คือเราไม่รู้ Rate ของแต่ละที่อ่ะค่ะ
เรามีปมเพราะเคยโดนแบเรื่องนี้จากบอร์ดอื่นมา ฉะนั้นเราจึงเลือกที่จะเซ็นเซอร์ไว้ก่อน ><
ปล.2สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร
แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่
ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา
---------------------------------------------------------------------------------------------
ด้วยความที่เรากลัวว่ารีดอาจจะลืมเนื้อเรื่องแชปแรกๆไปบ้าง
ช่วงนี้เราเลยพยายามจะมาอัพเนื้อหาส่วนที่ขาดหายไปหรือส่วนที่เคยตัดออกไปก่อนนะคะ (ซึ่งส่วนมากแล้วจะเป็นเอ็นซี)
อาจจะดูเหมือนไม่สำคัญ แต่จริงๆแล้วเอ็นซีสำหรับเรื่องนี้คือเนื้อหาสำคัญค่ะ
มันจะช่วยให้รีดเข้าในตัวละครมากขึ้น ว่าใครรู้สึกยังไงเป็นแบบไหน
ส่วนเนื้อเรื่องต่อจากแชปล่าสุดที่อัพนี้ แน่นอนว่าจะมาต่อให้จบค่ะ
เพราะเราสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่ายังไงเราก็จะเขียนเรื่องนี้ภาคนี้จนจบ
กราบขอบพระคุณรีดทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จริงๆค่ะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นที่ทำให้เรารู้ว่าอย่างน้อยก็ยังมีคนอ่านอยู่
ถึงแม้ว่าแต่ละคอมเม้นจะมีแต่คำว่า งง จากรีดหลายคนก็ตาม 5555
.
.
No comments:
Post a Comment