Chapter XXXXI [Pt.1 Full Ver.]
คำเตือน!
เนื้อหาบางส่วน อาจไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก เนื่องจากเนื้อหาประกอบไปด้วย...
ความรุนแรง สยดสยอง ภาษาไม่เหมาะสม หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
5 ปีก่อน
"แทยอนวันนี้เค้ากลับกับแอมเบอนะ"
เสียงแหลมเอ่ยบอกเพื่อนตัวเล็กของเธอยิ้มๆ แต่ใบหน้าของอีกคนน่ะสิดูเหมือนจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรเลย
คงเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เธอขอกลับกับแฟนสาวที่คบกับมาแปดเดือนเห็นจะได้
แต่คงเพราะเพื่อนสาวตัวเล็กที่เธอรักที่สุดคนนี้ยังคอยเตือนเธออยู่บ่อยๆ ว่าเค้าไม่ไว้ใจแอมเบอ
ก็ไม่ใช่ว่าเจสสิก้าจะไม่เชื่อเซ้นของแทยอนหรอกนะ
แต่เธอก็เกร็งใจแฟนอยู่เหมือนกันเพราะแอมเบอขอร้องจะไปส่งเธอหลายครั้งแล้วแต่เธอก็ปฏิเสธไป จนถึงทุกวันนี้
"อืมๆ ระวังตัวด้วย"
แทยอนพูดอย่างเอือมๆพลางเพยิดหน้าเบาๆเชิงว่า'เอาเหอะ'
เจสสิก้าเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาพลางรวบตัวเพื่อนตัวเล็กมากอดไว้แน่นด้วยความดีใจ
แทยอนได้แต่รอบถอนหายใจเบาๆ แต่จะทำไงได้ล่ะเธอเองก็รู้ว่าเจสสิก้านั้นรักแอมเบอมากแค่ไหน
แต่เพราะเซ้นบางอย่างของเธอมันยังคงร้องบอกว่าเจ้านั่นน่ะมันไม่ได้ดีอย่างที่แสดงออกมาให้เห็น
สุดท้ายเธอก็ทำได้แค่เป็นห่วงและคอยเตือนเจสสิก้าอยู่เรื่อยๆ
"พี่แทยอน...เห?พี่เจสสิก้าไปไหนล่ะคะ"
เสียงเด็กสาวเอ่ยทักขึ้นหลังจากที่เจสสิก้าเดินออกไปได้สักพักแล้วแทยอนหันไปยิ้มหวานให้แฟนเด็กเล็กน้อย
เพราะโดยปรกติแล้วเธอก็ไม่ค่อยจะเคยเห็นว่าแทยอนนั้นจะอยู่ห่างกับเจสสิก้าสักเท่าไรอยู่แล้ว
แล้วยิ่งหลังเลิกเรียนแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่นั่นก็เพราะว่าเจสสิก้าและแทยอนนั้นกลับบ้านด้วยกันทุกครั้ง สาเหตุหลักคงเพราะอยู่คฤหาสน์เดียวกัน
แต่เด็กสาวเองก็ไม่เคยรู้เลยว่าทำไมแทยอนและเจสสิก้าถึงอยู่คฤหาสน์หลังเดียวกัน ทั้งที่ทั้งคู่ก็บอกว่าเป็นเพียงแค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้น
และแม้ว่าเธอเองจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของแทยอนก็ตามที แต่เธอกลับไม่เคยเห็นแม้แต่ร้ัวคฤหาสน์ที่แทยอนอยู่ด้วยซ้ำ
จะว่าง่ายๆก็คือแทยอนไม่เคยพาเธอเข้าคฤหาสน์นั่นเอง
"ไปกับแฟนค่ะ" แทยอนตอบพลางจูงมือเด็กสาวเดินไปยังรถที่จอดไว้ไม่ใกล้ไม่ไกล
"งั้น..วันนี้เราไปกินไอติมกันไหมคะ"
เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นหลังจากที่ร่างเล็กนั้นขับรถออกมาได้ไม่นาน แทยอนหันไปมองหน้าเด็กสาวที่เมื่อไรก็ดูสดใสอยู่ตลอดเวลา
เห็นแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ และคงเพราะน่ารักสดใสแบบนี้ล่ะมั้งเธอถึงรู้สึกชอบเด็กคนนี้และตกลงยอมคบด้วย
แทยอนพยักหน้ายิ้มรับแล้วหันกลับไปสนใจถนนตรงหน้าต่อ
"ไอยูคะ..เคยเบื่อพี่หรือเปล่า"
จู่ๆคนตัวเล็กก็ถามขึ้นมาเสียดื้อๆ สายตาก็ยังคงจ้องมองไปยังถนนข้างหน้า
แฟนเด็กได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมองคนรัก แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่แทยอนถามออกมาอย่างนั้น
"ทำไมถามแบบนี้ล่ะคะ"
ไอยูถามกลับเสียงแผ่วลงเล็กน้อย เธอไม่เคยรู้สึกแย่เลยด้วยซ้ำตั้งแต่ที่คบกับแทยอนมา
ไม่รู้ว่าเพราะแทยอนคือคนที่เธอแอบมองและฝันใฝ่มานานหรือเพราะอะไรก็ตามแต่ ไอยูก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆคนตัวเล็กคนนี้จริงๆ
"ไม่รู้สิ พี่รู้ตัวมั้งว่าเย็นชาแค่ไหน"
แทยอนหันมามองหน้าเด็กสาวที่นั่งทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่เธอเอ่ยอยู่นั้น
"ไม่เบื่อหรอกค่ะ ยูว่าพี่แทยอนเป็นแบบนี้แหละน่ารักแล้ว แล้วมันก็เข้ากับพี่ที่สุดแล้ว"
ไอยูยังคงยิ้มในเวลาเดียวกันก็ตอบคำถามของคนรักไปด้วย แทยอนเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มตามออกมาอย่างอดไม่ได้
"รู้ไหมไม่มีใครคบพี่ได้นานเท่านี้เลย"
แทยอนเอ่ยต่อถึงความในอดีตที่เคยผ่านมา มีคนมากหน้าหลายตาที่มาตามจีบเธอขอคบเธอ
แต่สุดท้ายก็จบด้วยเลิกรากันไปทั้งๆที่เพิ่งคบกันได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ด้วยซ้ำ
แต่นี่เธอคบกับเด็กคนนี้มาจะสองเดือนแล้วก็คงไม่แปลกที่เธอจะสงสัยและเอ่ยถามออกไปอย่างนั้น
ไอยูไม่ได้ตอบอะไรมีเพียงรอยยิ้มสดใสที่ระบายอยู่บนใบหน้าของเด็กสาวไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้
แต่เธอรู้ดีเลยแหละเพราะนับๆดูก็ราวๆสิบกว่าคนได้ที่เตือนเธอเรื่องแทยอนก็ทั้งเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง
บางคนก็บอกว่าแทยอนน่ะเจ้าชู้กระล่อนบางคนก็บอกว่าแทยอนน่ะคบแค่หวังจะฟันแล้วทิ้ง
แต่เธอไม่สนหรอกตราบใดที่เธอยังไม่มั่นใจว่าความจริงแล้วเป็นยังไง
จนเมื่อเธอได้สัมผัสมันกับตัวเองแล้วเธอก็พูดได้เต็มปากเลยว่าสำหรับเธอแล้วแทยอนน่ะเป็นคนที่เพอร์เฟคมากเลยล่ะ
ถึงแม้จะดูเย็นชาไปบ้างก็ตาม และยิ่งที่บอกว่าฟันแล้วทิ้งน่ะไม่มีอะไรใกล้เคียงเลยด้วยซ้ำ
เพราะทุกครั้งที่เธอไปค้างที่ห้อง(คอนโดที่ซื้อทิ้งไว้)ของแทยอนนั้น
ไม่มีครั้งไหนเลยที่แทยอนจะทำอะไรล่วงเกินเธอจะมีก็แต่เธอนั้นแหละที่เป็นคนเริ่มก่อน
.
.
"ทำไมวันนี้ไอ้เตี้ยนั่นมันถึงยอมให้เธอมาได้ล่ะ"
แอมเบอถามเชิงกวนๆ ขณะที่ขับรถพาร่างบางไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆกับมหาลัยฯที่เจสสิห้าเรียนอยู่ ก่อนจะไปส่งที่คอนโด
แม้จะแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่วันนี้เจสสิก้ามาหาเธอได้กลับด้วยกันเหมือนคนเป็นแฟนกันบ้าง
"ไอ้เตี้ยนั่นมันเพื่อนรักฉันนะแอมช่วยเรียกมันให้ดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง"
เจสสิก้าเอ็ดอย่างไม่พอใจเธอยังไม่ค่อยก็กล้าเรียกแทยอนแบบนั้นสักเท่าไรเลย
แต่จู่ๆแอมเบอก็พูดมันออกมาราวกับสนิทสนมอะไรกับแทยอนมากมายงั้นแหละ
"โอเคๆ แทยอนก็แทยอน นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเธอขอเนี่ยฉันไม่ยอมหรอกนะ"
"ย่ะ อายุก็น้อยกว่า ยังจะมาทำแบบนี้อีก"
"โธ่! อายุมันก็แค่ตัวเลขน่าจะไปคิดมากทำไม"
หลังจากที่ทั้งสองไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งไม่ไกลจากมหาลัยที่เจสสิก้าเรียนอยู่นัก
คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้วเจสสิก้าก็ชวนแอมเบอกลับ
แต่ก่อนกลับแอมเบอบอกว่าอยากให้เธอไปไหว้แม่ก่อนได้ไม่เค้าอยากบอกแม่ว่าคนนี้น่ะแฟนเค้า
ได้ยินอย่างนั้นแล้วร่างบางก็ยิ้มจนแก้มปริโดยความรู้สึกว่าร่างสูงนั้นเป็นคนน่ารักมาก
เพราะเธอรู้ว่าแม่ของแอมเบอน่ะเสียชีวิตไปตั้งแต่เค้ายังอายุแค่สิบสองขวบ
และตอนนี้เค้าก็อยู่กับพี่เลี้ยงที่พ่อเค้าส่งมาจากแอลเอแค่สองคนในคฤหาสหลังใหญ่
เจสสิก้าก็ส่งข้อความไปบอกแทยอนไว้ก่อนว่าอาจจะกลับถึงค่ำหน่อย แทยอนก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้ระวังตัว
แต่เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีก
พอเข้ามาในตัวคฤหาสแล้วเธอก็ได้เจอกับพี่เลี้ยงของแอมเบอ จากนั้นเค้าก็พาเธอขึ้นไปยังห้องของแม่เค้า
ซึ่งขึ้นบันไดไปจะผ่านสองแรกไปก่อนเค้าก็ชี้บอกว่าห้องแรกน่ะเป็นห้องของพี่เลี้ยงส่วนห้องที่สองน่ะเป็นห้องเค้าเอง
และถัดไปก็เป็นห้องของแม่เค้า ซึ่งเข้ามาแล้วก็เห็นรูปภาพขาวดำของหญิงไวกลางคนหน้าไม่ต่างไปจากแอมเบอเลย
พอไหว้แม่ฝากฝั่งเรียบร้อยแล้วเค้าก็จูงมือเธอออกมาจากห้องแม่แล้วก็เปลี่ยนเป็นโอบเอวเค้าขโมยจุ๊บแก้มเธอไปทีนึงด้วย
แล้วเค้ากถามว่าอยากดูห้องเค้ามั้ยเธอพยักหน้าตอบเห็นห้องแม่เค้าว่าสวยห้องลูกจะเป็นยังไงนะ
อื้อหือไม่น่าเชื่อว่าห้องแอมเบอจะเรียบร้อยขนาดนี้เดินตามร่างสูงเข้ามาก็มองไปรอบๆ
ร่างบางเดินมาหยุดที่ปลายเตียงเหลือบเห็นอะไรแว๊บๆเอ๊ะหยิบขึ้นมาดู โอ้แม่จ้าวว
"แอมเบอ!!!นี่เธออายุยังไม่สิบแปดเลยนะริอาจมาดูหนังยี่สิบบวกเหรอ"
ร่างสูงรีบวิ่งมาแย่งแผ่นดีวีดีไปจากมือบางทันทีแล้วจัดการเอาไปเก็บใส่ลิ้นชักเจสสิก้าเดินตามไปตีแปะลงยังแผ่นหลังของเค้า
พอกำลังจะอ้าปากแว๊ดต่อเค้าก็เอานิ้วมาแตะที่ปากเธอ
ก่อนที่แอมเบอจะนั่งลงยังเตียงแล้วดึงรั้งกายบางให้ให้ทรุดตัวลงไปนั่งเบี่ยงข้างบนตักเค้า
สองแขนเรียวโอบเอวเธอไว้หลวมๆ แอมเบอโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วขโมยจุ๊บแก้มเธออย่างหมั่นเขี้ยว
"ดูก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนิ"
เสียงกระซิบเบาๆถูกเปล่งออกมาให้ได้ยินตรงข้างส่วนรับฟัง ก่อนที่ร่างสูงกดจมูกลงมาตามลำคอของเธอ เสียงสูดลมหายใจดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง
พร้อมกับสัมผัสวาบหวามที่ช่วงลำคอ ร่างบางรู้สึกได้ถึงความปั่นป่วนในช่องท้องที่เกิดขึ้น
"แอมมม.."
ร่างสูงเริ่มซุกไซร้ลำคอเธอพรมจูบไล่มาตามสันกรามเธอพยายามเบี่ยงหน้าหนีแต่ก็ถูกมือเรียวนั้นเชยคางเธอให้หันกลับมามองหน้าเค้า
แล้วค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้กลีบปากบางถูกทาบทับลงมาแผ่วเบาด้วยส่วนเดียวกัน แค่นั้นสติเธอก็ล่องลอยสมองขาวโพลน
ได้แต่ปล่อยให้เค้าจูบเธอเท่าที่เค้าจะพอใจ มือเรียวละออกจากปลายคางมนลากต่ำลงมาจนถึงเนินอก
"อื้อ...ไม่เอา ไปส่งฉันได้แล้ว"
เจสสิก้าที่พยายามรวบรวมสติที่หลุดหายไปพร้อมกับสัมผัสที่อีกคนมอบให้นั้น
ก็เริ่มเบี่ยงหน้าหนีอีกครั้งเพื่อผละจูบออกมาเมื่อรู้สึกว่าเค้าเริ่มจะปลดกระดุมชุดนักศึกษาเธอแล้ว พอจะลุกขึ้นเค้าก็กอดเอวเธอไว้แน่น
"นิดเดียวเองนะ" เค้าพูดเสียงอ้อนซุกใบหน้าลงกับซอกคอเธออีกครั้ง
"เธอรีบเหรอไหนบอกจะรอฉันพร้อมก่อนไง" เจสสิก้าเอ่ยเสียงแผ่ว
"ก็นี่ไงพร้อมแล้ว ครเป็นแฟนกันอยู่ด้วยกันสองคนบนเตียง"
มือเรียวรีบปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของอีกคนต่ออย่างรวดเร็ว แม้ว่าร่างบางพยามจะปัดป้องเท่าไรแต่ก็ไม่เป็นผล
แอมเบอโยนเสื้อนักศึกษาเธอลงไปกองกับพื้นอย่างง่ายดาย ทำไมจู่ๆเค้าก็แรงเยอะขึ้นมาแบบนี้
หรือว่าเป็นเธอเองที่อ่อนแอ ยิ่งเค้าพรมจูบไล่ไปตามไหล่ผายเลื่อนมายังกระดูกไหปลาร้า
ร่างบางถูกกดลงกับเตียงนุ่มเธอแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าร่างสูงนั้นได้ปลดเปลื้องอาภรของเธอออกไปหมดตั้งแต่เมื่อไร
มารู้ตัวอีกทีร่างกายเราก็เปลือยเปล่าเธอพยามทุกวิถีทางจะปัดป้องเค้าแต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งเธอปัดป้องอีกฝ่ายก็ยิ่งใช้แรงเยอะขึ้นอีก
แอมเบอกดข้อมือเธอไว้แน่นจนรู้สึกเจ็บแปลบ เจสสิก้าได้แต่เอ่ยขอร้องให้เค้าหยุด แต่ร่างสูงก็ไม่สนใจราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงเธอที่ร้องโวยวาย
สุดท้ายน้ำใสๆก็ไหลรินออกจากดวงตาคู่สวย เจ็บปวดหัวใจที่ เชื่อใจเค้า ไว้ใจเค้า รักเค้า แต่เค้ากลับไม่แม้แต่จะสนใจความรู้สึกของเธอเลยแม้แต่น้อย
เจ็บกายที่เค้ากระทำกับเธออย่างไร้เยื่อใย ไม่มีแม้ความอ่อนโยนให้เธอได้รู้สึกถึง ความรัก ความหลงใหล อย่างที่เค้าชอบพร่ำบอกเธอนักหนา
เมื่อรู้ว่าหมดหดทางสู้ เจสสิก้าก็ทำได้แค่จำต้องยอมให้เค้าใช้ร่างกายอันบริสุทธของเธอเป็นเครื่องระบายอารมณ์ดิบของเค้า
ร่างบางเม้มปากแน่นสะกดกลั้นความรู้สึกแย่ๆนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด
ทุกสัมผัสที่ได้รับมานั้นไม่ได้มีความหวามไหวหรือน่าหลงใหลอย่างที่เธอเคยเข้าใจ
...เซ็กซ์ครั้งแรกในชีวิตของฉันนั้นคงจะมีความสุขจนตราตรึงหัวใจไปอีกนานแสนนาน...
แต่ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรกันไปหมด
ในตอนนี้เซ็กซ์ครั้งแรกในชีวิตของเธอมันมีแต่ความหยาบกระด้างน่ารังเกียจขยะแขยง จนชวนให้รู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมา
ทุกสัมผัสที่ได้รับมานั้นมันชัดเจนแม้ว่าเจสสิก้านั้นจะไม่ได้อยากรับรู้ถึงมันเลยสักนิด
ทั้งแรงบีบขย้ำรุนแรงที่ทรวงอก รวมไปถึงลิ้นร้อนชื้นที่กำลังลากไล้ไปทั่วผิวกายของเธออย่างหื่นกระหาย
แรงดูดบนยอดอกที่ฉุดเอาความเจ็บแปลบแล่นเข้ามาในร่างกาย แทนที่จะเป็นความสุขที่หวามไหว
หยาดน้ำใสปริ่มล้นจากเปลือกตาที่ปิดสนิทไหลลินออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมากมาย
แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยอะไร เพราะความเจ็บปวดนั้นยังคงชัดเจนในความรู้สึก
ชั่ววินาทีหนึ่งนั้นเจสสิก้าได้คิดว่าให้เธอตายไปเสียนี้ยังจะดีเสียกว่า...
"โอ๊ย..ฉันเจ็บนะ"
ร่างบางสะดุ้งงอตัวกรีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่อรู้สึกเจ็บช่วงท้องน้อยจนจุกไปทั่วทั้งช่องท้อง ปวดหนึบจนแทบทนต่อไปไม่ไหว
ได้แต่ขอให้เค้าเห็นใจอย่างน้อยๆก็ช่วยถนุถนอมเธอให้เหมือนกับคนรักกันบ้างไม่ใช่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ
.
.
"นี่ครั้งแรกจริงๆเหรอเนี่ย"
แอมเบอมองร่างบางที่นอนขดสะอื้นจนตัวโยนอยู่ข้างๆ
ของเหลวสีแดงปะปนกับน้ำใสๆที่ไหลออกมาจากร่างของอีกคนเยิ้มหยดจนเลอะไปทั่วบริเวณ
เมื่อเห็นว่าร่างบางไม่ตอบ ก็ดึงรั้งให้คนที่นอนหันหลังให้เธออยู่นั้นหันหน้ามาคุยกัน เธอเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นที่เจสสิก้าเอาแต่ร้องไห้
ถามอะไรก็ไม่ตอบ จนเสียงเรียกเข้าของเครื่องมือสื่อสารดังขึ้น
ประโยคแรกที่ได้ยินจากปากเจสสิก้านั้นมันทำให้เธอฉุนเคืองจนแทบอยากจะฉีกร่างบางออกเป็นชิ้นๆ
"แทยอนอาช่วยฉันด้วย ...แทยอนช่วย.."
แม้ว่าเจสสิก้าจะพยามขยับร่างกายอันหนักอึ้งเพื่อไปรับสายเพื่อนรักมากเท่าไรร่างสูงก็ยิ่งกระชากเธอกลับลงไปที่เตียงแรงเท่านั้น
"ทำไมเธอคิดว่าไอ้เตี้ยนั่นมันจะมาช่วยเธอได้เหรอห๊ะ"
ร่างสูงพูดจบก็ปาเครื่องมือสื่อสารของเธอลงไปกระแทกกับพื้นอย่างจังจนมันแตกกระจากออกเป็นเสี่ยงๆ
เจสสิก้ากรีดร้องเรียกชื่อคนตัวเล็กไม่หยุดปากราวกับคนเสียสติมือเรียวกดร่างบางลงกับเตียงอีกครั้ง
"รักกันมากใช่มั้ยกับไอ้เตี้ยนั่นน่ะ ได้!ฉันจะทำได้เธอลืมมันเอง ฉันจะทำให้เธอจำได้แค่ฉัน เธอเป็นของฉันไม่ใช่ของมันเข้าใจมั้ย"
เมื่อสิ้นสุดประโยคที่แฝงไปด้วยความโกรธเกรี้ยวจากร่างสูง
ก็ตามมาด้วยเสียงกรรดร้องปนสะอื้นโอดครวญของร่างบางที่ไร้หนทางสู้
จากความเจ็บปวดรวดร้าวแสนทรมานดังขึ้นไม่หยุดหย่อนแม้ว่าจะผ่านค่ำคืนอันแสนโหดร้ายนี้ไป
.
จนรุ่งเช้าร่างบางก็ยังต้องเจอกับความป่าเถื่อนและเลือดเย็น แอมเบอมัดตึงร่างเธอไว้กับเตียงตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อมอบความเจ็บปวดแสนสาหัสให้เธอ
อย่างไม่แยแสว่าร่างกายและจิตใจเธอจะบอบซ้ำจนทนไม่ไหวหรือยัง
ทุกการกระทำไร้ซึ่งความปราณีแม้ว่าร่างสูงนั้นจะเห็นว่าของเหลวที่ไหลออกมาจากร่างกายเธอนั้นเป็นสีอะไรและมากน้อยแค่ไหน
จึงสามารถส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วห้องได้ถึงเพียงนี้
สิ่งสุดท้ายที่เจสสิก้าเห็นคือใบหน้าที่แสยะยิ้มอย่างสะใจของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักของตัวเอง ก่อนที่สติสัมปชัญญะทั้งหมดของเธอจะดับวูบลง...
*(ตอนเมื่อห้าปีก่อนนั้นเจสสิก้ายังเป็นแค่คนธรรมดาที่ยังไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับวงการของพวกเชลล่า
เพราะงั้นก็ไม่แปลกที่นางจะแทบไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพวกเชลล่าแบบละเอียดเลย รู้แค่ว่ามันมีอยู่เท่านั้น
ในด้านกลับกันแอมเบอในตอนนั้นได้เป็นเชลล่าอยู่ก่อนแล้วแต่นางก็ไม่ได้แสดงตัวออกมาชัดเจนเพราะยังเป็นเชลล่าระดับต่ำๆยังไม่เก่งอะไร
แค่มีภูมิฐานเหนือมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น เช่นแรงเยอะกว่า หนังเหนียวกว่า ตายยากกว่า วิ่งเร็วกว่า เป็นต้น)*
.
.
หลังจากที่โทรไปหาเจสสิก้าแล้วสายตัดไปพอโทรอีกก็พบว่าติดต่อไม่ได้แล้วแทยอนหัวใจกระตุกวูบทันที
เซนส์เธอมันยิ่งบอกว่ายัยนั่นน่ะมันหวังจะทำมิดีมิร้ายเพื่อนเธอแน่ๆ พอตั้งสติได้บุคคลแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคงหนีใครไปไม่พ้น
นอกจาก โบอา ร่างเล็กรีบขับรถไปหาโบอาอย่างเร่งรีบเหยียบจนมิดไม่สนอะไรทั้งนั้น
พอมาถึงคฤหาสหลังงามก็รีบตรงดิ่งไปยังห้องที่คุ้นเคยเคาะเรียกด้วยความร้อนรนจนสาวเจ้าเปิดประตูออกมา
เธอก็รีบเล่าทุกอย่างรวมถึงที่เซนส์เธอมันยังหวิวๆอยู่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่โบอาก็พยายามปลอบเธอบอกว่าเจสสิก้าไม่เป็นอะไรหรอก
อย่าคิดมากวันนี้ไปพักผ่อนก่อนดีกว่า แต่แทยอนก็ยังรั้นบอกมันรู้สึกหวิวๆจริงๆ แต่ทั้งแทยอนและโบอานั้นไม่รู้ว่าบ้านแอมเบออยู่ที่ไหน
แทยอนเลยบอกว่าจะนั่งเฝ้าอยู่นี่แหละรอจนกว่าโบอาจะหาบ้านแอมเบอเจอ หญิงสาวถอนหายใจอย่างระอา
จำต้องพยามสืบค้นให้คนตัวเล็กว่าบ้านของแอมเบอนั้นอยู่ไหนเค้าเป็นใคร
แทยอนรู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีก็ใกล้จะสว่างแล้วเห็นโบอานอนอยู่ข้างๆก็รีบเขย่าร่างปลุกทันที
โบอาสืบเจอแล้วว่าแอมเบอเป็นใครและบ้านอยู่ที่ไหน แต่ที่โบอาหนักใจนั่นก็คือ แอมเบอไม่ใช่คนธรรมดา
ซึ่งแทยอนก็เข้าใจในความหมายนั้นดีว่ายัยนั่นคืออะไร โบอาบอกมีทางเดียวที่จะต่อกรกับมันได้คือต้องเป็นแบบเดียวกับมัน
ตอนนี้แทยอนไม่นึกถึงอะไรทั้งนั้นให้เป็นอะไรก็เป็นแค่ไปช่วยเจสสิก้ากลับมาได้อย่างปลอดภัยก็พอ
โบอาปักเข็มลงที่ผิวขาวเนียนประดุจน้ำนมของช่วงอกกดของเหลวพุ่งเข้าสู่เส้นประสาทและกล้ามเนื้อ
แทยอนรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังวิ่งพล่านอยู่ในร่างกายบางทีก็รู้สึกแปล๊บๆขึ้นมาเฉยๆ
ตามด้วยเข็มที่สอง.....สาม....สี่...และสุดท้ายเข็มที่ห้า
ร่างเล็กเม้มปากแน่นกับความรู้สึกประหลาดในร่างกายไม่รู้จะเรียกว่าเจ็บก็ไม่เชิงจั๊กจี้หรือก็ไม่ใช่
มันวืดๆหนึบๆมึนๆไปทั้งตัว โบอาพาเธอไปรอที่รถบอกอาการแบบนี้สักแป๊บก็จะหายไปเอง
ส่วนเค้าจะไปหยิบเครื่องมือที่ต้องใช้มาให้ แทยอนนั่งหลับตาพิงเบาะพยายามจะผ่อนคลายกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่เพิ่งเคยได้รับเป็นครั้งแรก
ขับรถออกมาได้สักพักแทยอนก็รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ก็ไม่ปานมันรู้สึกกระชุ่มกระชวยเหมือนมีแรงมหาศาลพุ่งพล่านอยู่ภายใน
โบอายื่นปืนสั้นมาให้สองกระบอก เธอก็ใช้ไม่เป็นแต่หญิงสาวบอกต้องพกไว้ใครไม่หน้าไว้ใจยิงใส่มันไปเลยก่อนที่มันจะยิงเรา
มือเล็กรับมาพลิกซ้ายพลิกขวาอย่างชั่งใจ
ไม่นานรถก็จอดสนิทที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่แทยอนสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะก้าวลงจะรถไปพร้อมกับหญิงสาว
ลองขยับรั้วดูปรากฎว่ามันไม่ได้ล็อคก็เปิดเข้าไปทันทีไม่จำเป็นต้องเกรงใจ เดินเข้ามาในตัวคฤหาสที่ดูวางเวงชอบกล
นี่มันมีคนอยู่เปล่าวะทั้งคู่เดินอย่างระมัดระวัง พลางนึกเมื่อครู่เดินเข้ามาก็ไม่เห็นมีรถจอดอยู่เลยนี่
หรือจะไม่มีคนอยู่...แต่เราก็ประมาทไม่ได้ ชั้นสองเป็นเป้าหมายหลักที่จะขึ้นไปเช็คด้วยความน่าจะเป็นห้องนอน
แทยยอนบิดลูกบิดประตูห้องแรกอย่างเบามือและรีบกระชากเปิดออก...
ว่างเปล่า...
เดินไปยังห้องที่สองทำแบบเดียวกัน...
แต่...
"เจสสิก้า...."
ร่างเล็กเรียกชื่อเพื่อนรักออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา ภาพที่เห็นนั้นทำให้ร่างกายรู้สึกชาวาบขึ้นมา
เรี่ยวแรงมหาศาลที่เพิ่งได้รับมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนั้นพลันหายวับไปราวกับโดนสูบวิญญาณออกจากร่างไป
กายเล็กทรุดลงไปกองกับพื้นสองมือเกาะบานประตูไม้เนื้องามไว้ราวกับต้องการให้มันช่วยพยุงร่างตัวเองไว้ แต่ก็ไม่เป็นผล...
หยาดน้ำใสปริ่มล้นออกมาจากดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้มันร้อนผ่าวราวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้คือเปลวเพลิงที่ประทุขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
หยดน้ำร่วงหล่นกระทบหลังมือของเจ้าตัวหยดแล้วหยดเล่าจนชื้นแฉะ
ภายในสมองมันขาวโพลนไปหมด ความรู้สึกที่คล้ายจะไร้การรับรู้
แต่ก้อนเนื้อภายในอกนั้นกลับบีบรัดตัวรุนแรงเสียจนลมหายใจผิดจังหวะ
เมื่อตั้งสติได้แม้เล็กน้อย แต่แทยอนก็พยายามจะยันกายลุกขึ้นและค่อยๆสาวเท้าก้าวเดินเข้าไปในห้องนั้นอย่างยากลำบาก
ยิ่งได้เห็นใกล้ๆยิ่งทำอะไรไม่ถูก ความรู้สึกชาวาบยิ่งชัดเจนขึ้น พร้อมๆกับภาพที่เห็นตรงหน้า มือไม้มันสั่นไปหมด สั่นไปทั้งตัว
ภาพร่างเปลือยเปล่าของเพื่อนสาวถูกพันธนาการแขนและขาทั้งสองข้างตึงไว้กับเตียงสี่ทิศ
กายบางจมอยู่กับของเหลวสีแดงที่เปรอะไปทั่วบริเวรอยู่อย่างไร้สติ...
เพียงเท่านั้นแทยอนก็ปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่ได้ โผลเข้ากอดร่างที่นอนแน่นิ่งของเจสสิก้าไว้แน่นกลิ่นคาวคลุ้งของเลือดตลบอบอวนไปทั่วทั้งห้อง
โบอาที่ได้ยินเสียงจากร่างเล็กก็รีบเดินตามเข้ามาเช็คในห้องอย่างระมัดระวัง
แม้จะตกใจกับภาพที่เห็นไม่น้อยแต่เธอยังควบคุมสติไว้ได้ ถึงจะเคยเห็นภาพหล่านี้มามากมายจนนับไม่ถ้วนแล้ว
แต่ก็ไม่บ่อยนักที่มันจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว
ในขณะที่แทยอนกำลังพยายามจัดการกับสิ่งที่พันธนาการร่างของเจสสิก้าให้หลุดพ้น
มือเล็กสั่นระริกยอมรับเลยว่าทั้งกลัวทั้งตกใจแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น เมื่อจัดการกับโลหะออกจนหมดแล้วแทยอนก็เอาผ้าห่มมาพันร่างบางไว้
ด้วยความลืมตัวร่างเล็กรีบอุ้มเจสสิก้าขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันเอะใจว่าทำไมเธอถึงได้อุ้มร่างบางได้สบายๆขนาดนี้
ทั้งๆที่ปรกติแล้วตัวแทยอนเองก็ไม่ได้แข็งแรงอะไรมากมายนัก
ทั้งสองคนที่ยังคงมีสติอยู่เช็คความเรียบร้อยดู โบอาก็ค่อยๆเดินนำออกจากห้อง
"เฮ่ยยยใครวะ"
เสียงห้าวทุ้มของผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ดังขึ้น โบอาหันขวับลั่นปืนใส่ทันทีร่างสูงเซถลาล้มลงข้างประตูห้องถัดไปแล้วยิงซ้ำไปอีกสองสามครั้ง
แทยอนอุ้มร่างบางเดินตามออกมา หันไปมองร่างที่ทรุดอยู่ดวงตาแดงก่ำทั้งโกรธมัน ทั้งเจ็บใจที่ปล่อยให้เจสสิก้าต้องเจออะไรแบบนี้
แอมเบอมองตามร่างเล็กไปด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวไม่ต่างกันก่อนที่ภาพตรงหน้าจะเลือนลางและดับมืดไปในที่สุด
.
.
"เจ๊!!!สิก้าไม่หายใจแล้ว"
แทยอนโพร่งขึ้นอย่างตกใจจนถึงขั้นช็อคเลยก็ว่าได้ ก็หลังจากที่พาร่างของเพื่อนสาวกลับมายังคฤหาสน์ของโบอาแล้วก็ตรงมาที่แล็บทันที
ในขณะที่แทยอนกำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวของเจสสิก้าอยู่ก็รู้สึกได้ว่าร่างของเพื่อนสาวเธอนั้นนิ่งสนิทจนเกินไป
จึงลองเอามือไปอังจมูกดูก็พบว่าไร้ซึ่งอากาศที่ควรจะถูกพ่นออกมาหรือสูดเข้าไปอย่างที่ควรจะเป็น
หญิงสาวรีบเดินมาดูอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินร่างเล็กบอกแบบนั้นจับชีพจรดูก็นิ่งสนิท
เวรเอ๊ย...โบอานึกโทษตัวเองที่ไม่ยอมเชื่อเซนส์แทยอนตั้งแต่แรก แต่เธอก็ไม่ยอมหรอก
พยายามใช้ความคิดอย่างหนักว่าจะมีอะไรที่ช่วยได้บ้าง
"แทยอน...มันยังมีอีกวิธีนึง"
ซึ่งเป็นวิธีไม้ตายที่ไม่ค่อยมีใครรู้เท่าไรนัก มันอาจจะคล้ายๆกับเป็นการแชร์ชีวิตของอีกคนให้อีกคนล่ะมั้ง
แต่มีข้อแม้คือต้องทำตามคำสาบานให้ได้ทุกข้อถ้าไม่อย่างนั้นผู้ที่เคยตายก็จะไม่มีวันฟื้นขึ้นมาอีกได้
แทยอนนั่งอ่านกฎที่โบอานำมาให้อย่างรวดเร็วและเธอคิดว่าเธอทำได้แน่ แม้อ่านแล้วจะรู้สึกว่ากฎมันงี่เง่ามากก็ตาม
แต่ถ้ามันไม่งี่เง่ามันก็ทำง่ายจริงมั้ยและถ้ามันทำง่ายจะมีใครบ้างล่ะที่จะไม่ทำ
.
.
From...Writer
เจสสิก้ากับอดีตที่แสนโหดร้าย...
เขียนเองก็สะเทือนใจเอง -3- แอมเบอใจโหดดดดดด
สารภาพจากใจเลยค่ะว่าแชปนี้ขุดออกมายากมากกก ก กก ก
แต่ก็ออกมายาวมากเช่นกัน เราจึงตัดสินใจว่า แบ่งเป็นพาร์ท1กับพาร์ท2 ดีกว่า
กะว่าใรเรื่องในอดีตให้จบในแชปนี้ไปเลยแล้วกัน
และด้วยความที่เรากลัวว่ารีดอาจจะลืมเนื้อเรื่องแชปแรกๆไปบ้าง
ช่วงนี้เราเลยพยายามจะมาอัพเนื้อหาส่วนที่ขาดหายไปหรือส่วนที่เคยตัดออกไปก่อนนะคะ (ซึ่งส่วนมากแล้วจะเป็นเอ็นซี)
อาจจะดูเหมือนไม่สำคัญ แต่จริงๆแล้วเอ็นซีสำหรับเรื่องนี้คือเนื้อหาสำคัญค่ะ
มันจะช่วยให้รีดเข้าในตัวละครมากขึ้น ว่าใครรู้สึกยังไงเป็นแบบไหน
ส่วนเนื้อเรื่องต่อจากแชปล่าสุดที่อัพนี้ แน่นอนว่าจะมาต่อให้จบค่ะ
เพราะเราสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่ายังไงเราก็จะเขียนเรื่องนี้ภาคนี้จนจบ
กราบขอบพระคุณรีดทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จริงๆค่ะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นที่ทำให้เรารู้ว่าอย่างน้อยก็ยังมีคนอ่านอยู่
ถึงแม้ว่าแต่ละคอมเม้นจะมีแต่คำว่า งง จากรีดหลายคนก็ตาม 5555
No comments:
Post a Comment