Friday, July 31, 2015

[?-Shot] ___ ~: P l e a s e : ~ ___ [YoonTaeTi], Ft.SNSD [อิงวง] __ Sh.2 __


Sh.2
*สีเทาเอียงคืออดีตนะคะ











รู้ว่าระหว่างเรานั้นมีบางอย่าง ...

ฉันรู้ว่าใจหนึ่งเธอก็ยังมีฉัน ...

รู้ทุกครั้งที่เรามองตา ...

ยังทำให้ใจของเธอสั่น ...

ทุกอย่างที่ผ่านมานั้นมันคือเรื่องจริง ...





"แกแน่ใจเหรอวะ ว่าแกแฮปปี้อ่ะ"

ยูริถามร่างบางตรงหน้าที่กำลังตักอาหารที่เธอเพิ่งจะทำเสร็จเข้าปาก บังเอิญเช้านี้ยูริกลับมาหอเพราะลืมแจ๊กเก็ตตัวเก่งไว้น่ะสิ 
แต่พอเปิดประตูห้องเข้ามาก็ได้ยินเสียงขลุกขลักมาจากในครัว จึงเดินเข้าไปดูก็พบว่าทิฟฟานี่กำลังขุดคุ้ยตู้เย็นอย่างเอาเป็นเอาตาย 
ร่างสูงส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้พลางเดินเข้าไปใกล้เพื่อนสาวอีกหน่อยเพื่อจะเอ่ยปากเสนอตัวว่าจะทำอาหารเช้าให้แล้วกัน
สาวเจ้าได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาทันที พอยูริถามถึงแทยอนที่คิดว่าน่าจะอยู่ด้วยกันแต่กลับไม่เห็น 
ทิฟฟานี่ก็บอกว่าแทยอนยังไม่ตื่นเพราะมัวแต่เฟสไทม์คุยกับยุนอาจนเกือบสว่าง

"แกฉันโอเค แกไม่ต้องห่วงหรอกน่า"

ทิฟฟานี่ระบายรอยยิ้มบางๆออกมาให้ร่างสูงผิวสีเข้มรู้สึกขอบคุณกับความห่วงใยของเพื่อน 
ยูริอาจจะเป็นคนเดียวที่ทิฟฟานี่จะคุยเรื่องนี้ด้วยอย่างเปิดอก
แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ไม่ได้แปลว่าเพื่อนอื่นๆในวงจะไม่รู้เลย เพียงแต่ไม่มีใครคิดจะเอ่ยถึงมันออกมาตรงๆก็เท่านั้น

"แต่ฉันว่าแกไม่โอเคว่ะฟานี่ ไหนแกลองพูดดิว่าแกไม่หวังอะไรเลยอ่ะ"

ยูริไม่มีทางเชื่ออย่างเด็ดขาดแน่นอน ไอ้อาการหลงรักเพื่อนสนิทเนี่ยนะจะแฮปปี้ได้ร้อยเปอร์เซนไม่มีทางอ่ะ แถมแฟนเขาก็ยังเป็นเพื่อนรักกันอีก 
แทบจะไม่ต่างอะไรจากรักสามเศร้าเลยเพียงแต่ตอนนี้มีแค่ทิฟฟานี่ที่จะเจ็บอยู่คนเดียว
เพราะยูริเชื่อว่าทุกคนที่มีความรักก็ย่อมมีความหวัง ทั้งๆที่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้...

"เออใช่ ฉันหวังแล้วไงอ่ะ อย่างน้อยฉันก็ได้อยู่ใกล้ๆแททุกวันป่ะวะ ได้ดูแลได้กอด"

ทิฟฟานี่ก็ยอมรับว่าเธอหวัง หวังว่าสักวันแทยอนจะมองเห็นเธอเป็นมากกว่าเพื่อนสนิทบ้าง รักคนในแบบที่คนรักเขารักกัน
และก็ไม่แปลกเลยทิฟฟานี่จะหวังเพราะในเมื่อแทยอนก็ให้ความหวังเธออยู่เรื่อยๆ แทยอนไม่เคยปฏิเสธหรือห้ามไม่ให้เธอดูแลเขา
หรือแม้กระทั่งความใกล้ชิดระหว่างเธอกับแทยอนนั่นก็ด้วย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆแม้จะผ่านมาหลายปี
แต่ทิฟฟานี่ก็ไม่เคยคิดจะตัดใจเลยแม้แต่ครั้งเดียวไม่เคยท้อในการรักผู้หญิงตัวเล็กๆที่ชื่อ คิม แทยอน 
ถึงแม้จะรู้ทุกอย่างรู้ว่ายังไงเสียแทยอนก็มียุนอาอยู่แล้ว รู้ทั้งรู้ว่าแทบอนรักยุนอามากแค่ไหน

"ฉันก็แค่เป็นห่วงไม่อยากให้แกเสียใจ แล้วก็ไม่อยากให้พวกแกผิดใจกันด้วย แต่แกยังจำได้ใช่ป่ะว่าตอนที่สองคนนั้นมันเคยเลิกกันมาครั้งนึง แล้วแกเป็นยังไง"

ยูริก็พูดไปตามความจริงที่เธอรู้สึก ทั้งไม่อยากให้ทิฟฟานี่เสียใจเพราะดูยังไงแทยอนก็เลือกยุนอา เลือกยุนอามาตลอด 
ทั้งไม่อยากให้เพื่อนผิดใจกันเรื่องนี้ยิ่งสำคัญ ยูริไม่คิดหรอกนะว่ายุนอาจะไม่รู้ว่าทิฟฟานี่คิดยังไงกับแทยอน
ขนาดเพื่อนๆในวงยังรู้แม้จะไม่มีใครพูดออกมา มันก็ไม่แปลกอะไรที่ยุนอาจะรู้แล้วไม่พูดอะไรออกมาเหมือนกัน
แล้วมันก็คงเป็นอะไรที่แย่มากๆเป็นแน่หากต้องมีเรื่องผิดใจกันระหว่างยุนอาและทิฟฟานี่ สุดท้ายยูริก็ยังคงกังวลเรื่องนี้เป็นที่สุด
ก็ดูที่ทิฟฟานี่ทำสิที่คอยตามดูแลเอาใจใส่เทคแคร์ข้อนี้ยังไม่เท่าไรเพื่อนกันก็ทำได้ถึงแม้ว่าบางครั้งทิฟฟานี่ก็อาจจะทำมากไปก็เถอะนะ
แต่ไอ้การหยอกล้อออดอ้อนอย่างใกล้ชิดนี่สิไม่จะกอดหรืออะไรก็ตามแต่ คนเป็นแฟนไม่หึงก็แปลก ถึงยุนอาจะไม่เคยแสดงอาการอะไรออกมาก็เถอะ
แต่ส่วนตรงนั้นยูริก็ไม่อาจหยั่งถึงความคิดของยุนอาได้เช่นกันถึงจะสนิทกันก็เถอะ ยูริยอมรับว่าเธอไม่เคยเห็นยุนอาทำตัวงี่เง่าหึงหวงเป็นเด็กๆเลยจริงๆ

ยิ่งช่วงหลังจากที่สองคนนั้นเคยเลิกกันไปพักนึงซึ่งก็ไม่ถึงครึ่งปีหรอกยูริก็จำได้ไม่แม่นเท่าไรนัก 
จำได้แค่ว่าที่สองคนนั้นเลิกกันเพราะพวกเธอเริ่มรู้แล้วด้วยการพูดจากดดันของเพื่อนๆทุกคนซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเธอด้วย
ตอนที่พูดออกไปน่ะก็ไม่ได้คิดหรอกว่าจะถึงกับเลิกกัน ในตอนนั้นเธอแค่รู้สึกว่ามันอาจจะเป็นผลเสียหากมีคนคบกันเองในวง 
อีกทั้งสังคมก็อาจไม่ยอมรับแล้วถ้าหากว่าเรื่องนี้หลุดออกไปก็อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ได้เช่นกัน 
ใช่เพื่อนๆทุกคนก็แค่เป็นห่วงไม่ได้คิดจะกดดันอะไรเลยจริงๆ แต่ก็ลืมนึกถึงความรู้สึกของคนฟังเช่นกัน 

อย่างฮโยยอนเงี่ยเจสสิก้าเงี่ยซันนี่เงี่ยพูดที่แทงทะลุอกเลยมั้ง
แต่พอยุนอากับแทยอนเลิกกันจริงๆทุกคนกลับรู้สึกได้ถึงความเหงาที่แผ่ซ่านออกมาจากสองคนนั้น 
ทั้งที่แทยอนและยุนอาต่างก็ไม่แสดงอะไรออกมาแถมยังทำงานด้วยกันได้ตามปรกติ พูดคุยกัน หยอกล้อกันเหมือนเดิม
หากแต่ที่ต่างออกไปนั้นคือความใกล้ชิดสังเกตุได้ชัดว่าทั้งสองคนจะรักษาระยะห่างระหว่างกันและกันไว้

ทิฟฟานี่คิดตามที่ยูริพูดทำไมเธอจะจำได้ล่ะเพราะตอนช่วงที่ยุนอากับแทยอนเลิกกันน่ะเป็นช่วงเวลาที่เธอเจ็บปวดที่สุดเหมือนกัน
เพียงแค่ช่วงเวลาไม่กี่เดือนสั้นๆนั่นแหละที่ตอกย้ำให้เธอรู้ว่าแทยอนจะไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจากยุนอาแน่นอน 
และเป็นช่วงเวลาเดียวที่เธอเองก็ได้รับความเฉยชาจากคนตัวเล็กนั้นเช่นกัน พูดง่ายๆคือตอนช่วงเวลานั้นแทยอนก็ปฏิเสธทุกอย่างจะทิฟฟานี่เหมือนกันนั่นเอง
แล้วยิ่งนึกย้อนกลับไปหัวใจก็ยิ่งเจ็บคำพูดของแทยอนวันสุดท้ายที่พูดกับยุนอาก่อนที่สองคนนั้นจะกลับมาคบกัน
มันทำให้หัวใจของทิฟฟานี่เต้นช้าลงเรื่อยๆจนแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น ถึงแม้จะยังมีประตูที่กั้นระหว่างเธอกับอีกสองคนที่อยู่ในห้องนั้น
แต่สิ่งที่ได้ยินกลับชัดเจนและฝั่งลึกลงในหัวใจ...



"ยุน... พี่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว"
เสียงของแทยอนที่ได้ยินไม่ชัดเจนนักเพราะบานประตูที่ขวางกั้นอยู่แต่ทิฟฟานี่กลับรับรู้ได้ถึงความสั่นเครือในน้ำเสียงนั้น
และยังฟังแล้วรู้สึกได้ชัดเจนถึงความเหนื่อยล้าที่มากมายจนแทบจะทนไม่ไหว 
จากตอนแรกที่คิดว่าจะเข้าไปในห้องของแทยอนและยุนอา แต่ไม่รู้เพราะอะไรสองขาเรียวจึงได้แต่นิ่ง
ราวกับจะรอฟังบทสนทนาต่อไปของสองคนนั้น

"รู้ไหมการที่เราเลิกกันแบบนี้มันยิ่งทำให้พี่รู้ว่าพี่ขาดเธอไม่ได้จริงๆ"
เสียงของแทยอนดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับประโยคที่มีเนื้อหาใจความที่เสียดแทงก้อนเนื้อเล็กๆภายในอกจนแทบจะหยุดเคลื่อนไหว
ทิฟฟานี่กดใบหน้าลงต่ำออย่างห้ามไม่ได้รู้สึกว่าขอบตามันร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว
พร้อมกับมือเรียวที่ยกขึ้นมาทาบอกราวกับขาดอากาศหายใจ

"พี่แท... "

เสียงของยุนอาขาดห้วงหายไปก่อนจะถูกแทนที่ด้วยเสียงลมหายใจที่ดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ 
ทิฟฟานี่รู้ได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้องที่มียุนอาและแทยอนอยู่ในนั้น

จากความหวังที่เริ่มก่อตัวมากขึ้นเมื่อตอนที่รู้ว่าสองคนนั้นเลิกกันในในคราแรก
แต่ตอนนี้มันได้พังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดีแล้ว แทยอนขาดยุนอาไม่ได้จริงๆ...
เพียงเท่านั้นก็รู้สึกว่าเรียวแรงที่เคยมีนั้นพลันหายไป 
หายไปกับเสียงลมหายใจที่ยังคงดังขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเสียงอื้ออึงภายในห้อง...




"ฟานี่..."
เสียงของยูรินั้นดึงให้สติของร่างบางที่นั่งนิ่งมีน้ำใสๆคลออยู่ที่ดวงตาคู่สวยนั้นให้กลับมาอยู่กับปจุบัน 
ทิฟฟานี่ระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกปลายนิ้วเกลี่ยหยดน้ำใสๆออกจากดวงตาของตัวเอง

"ขอโทษฉันไม่น่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย"

พูดพลางบีบไหล่ผายของทิฟฟานี่เบาๆ อย่างปลอบโยน ทิฟฟานี่เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากคนนึงในสายตาของยูริเลยล่ะ
ที่ทนรับเรื่องที่มีผลกระทบกับความรู้สึกได้มากขนาดนั้น
ทิฟฟานี่ส่ายหน้าช้าๆไม่คิดจะโทษอะไรยูริอยู่แล้ว 
เพราะทุกทีที่เธอนึกถึงเรื่องวันนั้นหัวใจเธอก็เหมือนโดนบีบขย้ำอย่างรุนแรงทุกครั้งไป

"ฉันอยากรู้ว่ะยูล ว่าถ้าตอนแรกฉันไปบอกชอบแทก่อนที่ยุนจะบอก มันจะเป็นไง"

ทิฟฟานี่พูดออกมานิ่งๆเหมือนจะพูดลอยๆ แต่สุดท้ายก็หันไปมองใบหน้าสวยคมของอีกฝ่ายราวกับต้องการคำตอบ
ยูนิเห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาเบาๆอย่างช่วยไม่ได้เสียจริงๆ
ไม่ได้อยากจะตอกย้ำอะไรเพื่อนสาวหน้าหวานคนนี้หรอกแต่เธอก็ไม่รู้จะหาคำตอบที่ดีกว่านี้ได้อย่างไร

"แกก็รู้ว่าแทมันชอบยุนมาตั้งแต่แรกแล้ว ใครบอกก่อนบอกหลังมันไม่สำคัญหรอก"

ยูริก็พูดไปตามความจริงเพราะแรกๆนั้นแทยอนก็แสดงออกมาอย่างออกนอกหน้าอยู่แล้วว่าชอบยุนอามากมายแค่ไหน
ให้มองดีๆเหมือนแทยอนตามจีบยุนอามากกว่าอีก แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ 
เรื่องตอนเริ่มแรกของสองคนนั้นยูริก็ไม่ได้รู้อะไรมากกว่าที่เห็นเพราะด้วยความที่รู้สึกว่าพวกเราก็ยังเด็ก
เลยไม่ได้คิดอะไรมากมายแล้วก็ยังไม่ได้สนิทกันเท่าตอนนี้ด้วย

แต่พอมองย้อนกลับไปยูริก็รู้สึกอย่างที่พูดนั่นแหละ เหมือนแทยอนนั่นแหละที่ไปเสนอตัวให้ยุนอาชอบก่อน
พอวันเวลาผ่านไปสองคนนั้นก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นตัวติดกันมากขึ้นจนโดนเพื่อนๆในวงแซว แต่ตอนนั้นแซวไปก็ยังไม่ได้คิดอะไรนะ แค่แซวเฉยๆ
แต่เดบิวได้สักพักก็มาจับได้ว่าสองคนนั้นแอบคบกัน โดยคนที่สงสัยคนแรกก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ทิฟฟานี่นั่นแหละ
เพราะทิฟฟานี่ก็คงจะจับตามองแทยอนอยู่ตลอดเวลาล่ะมั้งถึงได้สังเกตุเห็น




"งืออ... อ่าวยูลมาไง"

แทยอนที่เดินงัวเงียคุยโทรศัพท์เดินออกมาจากห้องพอหันไปเห็นว่าทิฟฟานี่ไม่ได้นั่งอยู่คนเดียวอย่างที่ควรจะเป็น 
ร่างเล็กยกมือข้างที่ว่างขึ้นเสยผมอย่างลวกๆก่อนจะเดินไปยังโต๊ะอาหารที่มียูริและทิฟฟานี่นั่งอยู่ก่อนแล้ว

"ยุน แทไปขุดตู้เย็นแป๊บ คุยกะยูลกะฟานี่ไปก่อนนะ"

เมื่อปลายสายตอบรับเสียงหวานมือเล็กก็ยื่นเครื่องมือสื่อสารให้ทิฟฟานี่ไปก่อนจะเดินไปยังตู้เย็นอย่างที่ได้บอกไว้
ทิฟฟานี่กดเปิดโฟนและวางเครื่องสี่เหลี่ยมไว้บนโต๊ะ ก่อนที่บทสนทนาทั่วๆไปจะเริ่มขึ้นโดยครั้งนี้มียูริร่วมด้วย



.



"เออนี่วันนี้แกสองคนเข้าตึกป่ะ"
หลังจากที่รอแทยอนรับประทานอาหารจนเรียบร้อยยูลริก็เอ่ยถามเพื่อนสาวทั้งสองคน 
จริงๆก็แค่พวกเธอนัดกันไปซ้อมเพลงใหม่กันเอง ไม่ได้ซีเรียสอะไรนัก จะไม่ไปก็ได้หรือจะไปก็ดีอะไรแบบนั้น
แต่ด้วยตารางงานที่ว่างๆในช่วงนี้จึงทำให้ทั้ง ซันนี่ ฮโยยอน ยูริ และซอฮยอน ไปกันหมด
จะขาดก็แค่ยุนอาที่ไปถ่าละครที่ประเทศจีน แล้วแทยอนกับทิฟฟานี่ที่ยูริเพิ่งจะเอ่ยชวนออกไปเนี่ยแหละ

"พวกแกไปกันใช่ป่ะ ถ้าไปก็ไปอ่ะ"
แทยอนคิดว่าออกไปก็ดีเหมือนกันเพราะก็ไม่รู้จะอยู่ห้องทำไม อีกอย่างเธอเองก็อยากจะซ้อมเพลงใหม่เหมือนกัน
และเมื่อแทยอนรับคำไปแล้วว่าจะไปหากเพื่อนๆไปก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ทิฟฟานี่ต้องอยู่

ไม่นานหลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้วทั้งสามก็ออกมาจากหอ โดยที่ยูริก็แยกไปยังรถของตัวเอง และทิฟฟานี่นั่งไปกับแทยอน





~ P.A.R.T.Y. P.A.R.T.Y. ~

การซ้อมดำเนินไปอย่างสนุกสนาน มีเสียงหัวเราะดังขึ้นบ้าง เสียงล้อเลียนกันบ้าง
ในเวลาที่มีใครเต้นผิดร้องหรือผิด หรือจะเรียกว่าเป็นการล้อเลียนตัวเองเล่นในกระจกดีล่ะ
อย่างยูริกับฮโยยอนเนี่ยตัวชักนำเลยชอบหาท่าประหลาดๆอะไรก็ไม่รู้มาเต้นเล่นกัน เรียกเสียงหัวเราะได้จากเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี

"เฮ้ยๆ อัดคลิปเล่นกัน"
ทิฟฟานี่พูดขึ้นในขณะที่ร่างกายก็ยังขยับไปตามเพลง แน่นอนทิฟฟานี่ชอบการเซลฟี่ทุกรูปแบบ 
ไม่ว่าจะเป็นถ่ายรูปหรือจะเป็นการถ่ายคลิปวีดีโอต่างๆ ถ่ายตัวเองบ้างถ่ายเพื่อนๆบ้างหรือถ่ายหมู่
และทุกคนก็พร้อมใจกันเล่นด้วยแถมยังมีเสียงแว่วๆจากซูยองบอกว่าให้ส่งไปให้ยุนอาดูด้วยอีกต่างหาก



"พรุ่งนี้พี่ยุนก็กลับมาแล้วนี่นา ใช่ไหมคะพี่แท"
หลังจากที่อัดคลิปเล่นกันจนพอใจแล้วทั้งหมดก็พร้อมใจกันมาพักดื่มน้ำดื่มท่ากัน 
ซอฮยอนจึงหันไปถามแทยอนเมื่อเหลืบมองแล้วได้เห็นว่าแทยอนนั้นกำลังคุยแชทอยู่กันยุนอา 
แทยอนได้ยินคนอายุน้อยกว่าถามออกมาอย่างร่าเริงแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหันไปส่งยิ้มให้พลางพยักหน้ารับ

"แล้วแทจะไปรับยุนที่อินชอนป่ะ"
ทิฟฟานี่เอ่ยถามต่อพาให้ทุกคนต้องหันไปมองแทยอนราวกับอยากรู้คำตอบ 
แต่เปล่าเลยทุกคนกำลังรอลุ้นว่าคนตัวเล็กนี่จะลืมตารางงานของตัวเองไปหรือเปล่าต่างหากล่ะ

"บ้าดิ ไปไงอ่ะติดขึ้นงานนี่"
แทยอนย่นคิ้วตอบอย่างซื่อๆ ก็ไม่รู้ไอ้เพื่อนบ้าพวกนี้มันจะจ้องเธอกันทำไม 
ทำอย่างกับปรกติเธอไม่เคยไปรับไปส่งกันอย่างนั้นแหละ

"พวกฉันนึกว่าแกจะคิดถึงไอ้ยุนจนลืมตารางงานตัวเองซะอีก"
แล้วก็เป็นซันนี่ที่เอ่ยแซวแทนเพื่อนๆทุกคน ถึงแทยอนจะไม่ได้แสดงออกมามากมาย 
แต่ทำไมเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาเป็นสิบปีอย่างพวกเธอจะมองไม่ออกกันล่ะ
ว่าแทยอนนั้นดูไม่ร่าเริงอย่างที่ควรจะเป็นแม้ในเวลาที่ร่างเล็กนั้นยิ้มหรือหัวเราะแต่ในดวงตาเรียวนั้นยังแฝงไปด้วยความคิดถึงใครอีกคน

แทยอนได้ยินคำแซวอย่างนั้นก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับไป ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ถามว่าคิดถึงยุนอาไหม 
แทยอนก็จะตอบอย่างไม่ต้องคิดเลยว่า คิดถึงมาก...
แต่ก็ใช่ว่าจะลืมตารางงานตัวเองซะเมื่อไรล่ะ ถึงจะอยากไปรับอยากเจอหน้าเร็วๆแต่ก็ต้องอดทนรอเสร็จงานก่อนอยู่ดี

"ถ้าคิดถึงยุนมากขนาดนั้นก็แบ่งมาคิดถึงฉันบ้างก็ได้มั้ง"
ทิฟฟานี่เอ่ยพลางนั่งลงข้างๆร่างเล็กที่เงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอ 
รอยยิ้มหวานๆส่งไปให้อีกฝ่ายได้เห็นเช่นทุกครั้ง และแทยอนก็มักจะยิ้มหวานตอบกลับมาเช่นกัน

ทิฟฟานี่ไม่ได้สนใจเท่าไรนักแม้จะรู้ว่าตอนนี้ยูริจะมองเธอด้วยสายตายังไงอยู่ก็ตามที
ก็จะให้ทำไงล่ะในเมื่อเธอเป็นคนเก็บความรู้สึกไม่เก่งนี่ อยากอยู่ใกล้ก็เดินมาอยู่ใกล้ อยากคุยด้วยก็เข้าไปชวนคุย
อยากมองหน้าก็มอง อยากจับมือก็จับ..
และแทยอนก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีเหตุผลอะไรที่มือของเรากุมกันอยู่แบบนี้ก็ตาม

ทิฟฟานี่มองแทยอนที่ยังคงใช้มืออีกข้างกดโทรศัพท์ต่อไปนั้น ไม่รู้ว่าจะรู้สึกดีใจที่แทยอนไม่ปล่อยมือข้างที่กุมกันอยู่เพื่อจะได้กดโทรศัพท์ได้สะดวกขึ้นดี
หรือจะรู้สึกแย่ที่แม้แต่จะจับเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมนั้นลำบากยังไงแต่แทยอนก็ยังจะพยายามคุยแชทกับยุนอาอยู่แบบนั้น
เหลือเห็นประโยคที่สองคนนั้นคุยกันบ้างแต่ก็ไม่ได้อะไร เพราะทั้งแทยอนและยุนอานั้นไม่ใช่พวกปากหวานที่จะมานั่งหยอดกันให้มดขึ้น
แต่กลับเป็นพวกที่ชอบกวนโอ้ยกันทั้งคู่ จึงทำให้ประโยคที่แทยอนและยุนอาคุยกันนั้นเหมือนการใช้คำหวานๆกวนกันไปกวนกันมาเสียมากกว่า


การซ้อมเริ่มต้นอีกครั้งด้วยเวลาที่พอมีแล้วจึงทำให้การซ้อมแค่เพลงใหม่ไม่กี่เพลงติดๆกันเริ่มน่าเบื่อ 
พวกเธอจึงผลัดเวียนไปซ้อมเพลงเก่าบ้าง อย่างไม่จริงจังนัก
เพื่อไม่ให้การซ้อมเต้นซ้อมร้องนั้นน่าเบื่อจนเกินไป เพราะนี่ก็จวนจะมืดค่ำแล้วด้วยสิ 

"ซ้อมเพลงใหม่จบรอบนี้ ไปหาไรกินกันเถอะฉันหิวแล้วว่ะ"
ซูยองพูดขึ้นขณะที่ยือรอเพลงเริ่ม และทุกคนก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ก็ไม่แปลกหรอกถ้าจะหิวกันน่ะ 
ก็ตั้งแต่สายๆจนถึงเย็นก็ออกกำลังกายโยกย้ายไปตามเพลงตลอด แล้วที่รับประทานระหว่างซ้อมนั้นก็มีแค่ขนมและน้ำดื่มเพียงเท่านั้น




หลังจากที่อาหารมื้อค่ำผ่านไปอย่างสนุกสนานตามประสาเพื่อนฝูง 
เพราะช่วงหลังๆมานี้ก็ไม่ค่อยจะได้ออกมารับประทานอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตาสักเท่าไร
และเพราะแบบนั้นชื่อของคนที่ไม่ได้มาร่วมโต๊ะอาหารในวันนี้จึงถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงเยอะเป็นพิเศษ

"ทำไมไม่ลองโทรหาพี่ยุนเลยล่ะคะถ้าจะพูดถึงขนาดนี้" ซอฮยอนเอ่ยอย่างไม่จริงจังนัก

"เออโทรหายุนดิเผื่อมันรับสายได้" 

ซันนี่เสริมต่อจากน้องเล็กของวง จริงๆแล้วทุกคนก็อยากให้อยู่กันครบๆนั้นแหละ
จากแรกๆที่เหมือนจะแกล้งโวยวายกันว่ายุนอาน่าจะอยู่ด้วย ทำไมไม่กลับมาวันนี้นะ 
หลังๆเริ่มกลายเปิดว่าเริ่มจะติดต่อยุนอาเพื่อมาซึมซับบรรยากาศเพียงเล็กน้อยก็ยังดี
แล้วก็พ้นแทยอนอีกนั่นแหละที่จะเป็นคนเฟสไทม์ไปหายุนอา พอยุนอารับได้ไม่นานก็ถูกเรียกไปเข้าฉาก
แต่ก็ไม่ได้ตัดสายไปเพราะยุนอาบอกว่าไม่นานเหลืออีกนิดเดียวก็หมดฉากวันนี้แล้ว เลยฝากเครื่องมือสื่อสารนั้นไว้กับพี่ผู้จัดการก่อน
เพราะเห็นว่าการที่เพื่อนๆอยู่กะนพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วเฟสไทม์มาหานั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร 
และไม่มีอะไรให้น่าสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างยุนอาและแทยอนเลยแม้แต่น้อย
ถึงจะเป็นพี่ผู้จัดการถือสายอยู่แต่สาวๆทั้งเจ็ดก็ชวนคุยพลางถามนู้นถามนี่อย่างสนุกสนาน ให้ปลายสายนั้นต้องมีรอยยิ้มตามไปด้วยทุกที

ไม่นานนักยุนอาก็กลับมาถือสายตามเดิม ซึ่งก็เป็นปรกติว่าถ้าหากมีคนอื่นๆอยู่ด้วยกันหลายคน
ถึงจะเป็นคนที่รู้เรื่องยุนอากับแทยอนแล้วก็ตาม แต่ทั้งสองคนก็ไม่เคยจะแสดงออกมามากมายสักเท่าไร
จึงกลายเป็นว่าสมาร์ทโฟนของแทยอนถูกยื่นไปรอบโต๊ะวนกันไปวนกันมาอยู่อย่างนั้น 
แทยอนเแงก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมายเพราะแบบนั้นก็เป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว
เอาไว้กลับห้องแล้วค่อยเป็นเธอที่คุยกับยุนอาอย่างนั้นจะดีกว่า อีกอย่างพรุ่งนี่ยุนอาก็จะกลับมาแล้วด้วย
ถึงไม่ได้ไปรับไม่ได้เจอทันทีที่กลับมาแต่ยังไงก็ยังได้เจอภายในพรุ่งนี้อยู่ดี 
และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มุมปากของคนตัวเล็กนั้นถูกยกขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
แต่มันก็ยังไม่พ้นสายตาของคนที่นั่งอยู่ข้างๆอยู่ดี

"แอบยิ้มอะไรอยู่คนเดียวเหรอ"

ทิฟฟานี่ถามเบาๆอย่างไม่จริงจังนักพลางคีบเนื้อปิ้งสุกกำลังดีใส่จานให้คนตัวเล็ก อย่างที่เคยทำอยู่บ่อยๆ
แทยอนส่ายหน้าเชิงปฏิเสธในการตอบคำถาม หากแต่มือเล็กที่จับตะเกียบอยู่นั้นก็คีบเนื้อชิ้นเมื่อครู่เข้าปาก
เคี้ยวมันช้าๆพลางหันไปสบตาคนที่คีบมันมาให้ ทิฟฟานี่ไม่ได้หลบสายตาแต่อย่างใดอีดทิ้งยังส่งยิ้มละลายไปให้คนตัวเล็กอีกซะนี่
เธอชอบนะเวลาที่แทยอนมองเธอด้วยสายตาแบบนั้น แม้มันจะไม่ชัดเจนแต่ทิฟฟานี่ก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ได้เหมือนสายตาที่แทยอนมองเพื่อนคนอื่นๆ
แต่ด้วยสถานการณ์และสถาที่แล้วจึงทำให้แทยอนละสายตาไปสนใจกับอาหารบนโต๊ะอีกครั้ง จนในที่สุดเครื่องมือสื่อสารก็กลับมาอยู่ในมือเล็กอีกครั้ง
แทยอนมองหน้ายุนอาผ่านจอมือถือพลางยิ้มให้อีกฝ่ายที่ยิ้มกลับมาเช่นกัน

"เดี๋ยวกลับแล้วพี่โทรหานะ"

แทยอนพูดออกมาเบาๆจนแทบจะกลายเป็นการกระซิบเพียงเท่านั้น จนยุนอาต้องอ่านปากคนรักแทนการฟัง
แต่เมื่อเข้าใจในเนื้อหาใจความที่แทยอนพูดก็พยักหน้าเข้าใจทันทีก่อนที่สายจะถูกตัดไป



.



.


"โอ้ยอิ่มง่ะ จะคีบมาให้อะไรเยอะแยะ"
แทยอนบ่นงุบงิบพลางทิ้งตัวนั้งลงยังโซฟาตัวยาว แทบไม่อยากขยับไปไหน 
ก็ทิฟฟานี่น่ะสิเดี๋ยวก็คีบนู่นมาให้คีบนี่มาให้ บอกว่าพอแล้วๆก็ยังจะคีบมาให้อยู่นั่นแหละ แล้วนี่ยังจะมายิ้มอีก...

"แต่แทก็กินหมดนี่นา"
ทิฟฟานี่ลอยหน้าลอยตาพลางนั่งลงข้างๆร่างเล็ก ที่ทำท่าเหมือนจะหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาจากกระเป๋าใบหรู
ใบหน้าหวานเอียงซบไหล่เล็กพร้อมกับมือเรียวที่เลื้อยไปโอบเอวบางของแทยอนอย่างเนียนๆ 
ราวกับจะบอกว่ายังไม่อยากให้แทยอนนั้นหยิบเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมนั่นขึ้นมากดซักเท่าไร ถึงทิฟฟานี่จะรู้ดีว่ายังไงแทยอนก็ต้องโทรหายุนอา
แต่ขอเวลาให้คนตัวเล็กนี้อยู่กับเธอบ้างเล็กน้อยก็ยังดี

และมันก็ได้ผลเมื่อแทยอนหยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้บนโต๊ะ 
ก่อนจะหลุบตาลงมองช่วงเอวคอดของตัวเองที่โดนมือเรียวของทิฟฟานี่โอบอยู่พลางลูบไล้บ้าง
แต่ก็ไม่ได้มากมายจนกลายเป็นการปลุกเร้าแต่อย่างใด หากแต่เป็นการลูบไล้ด้วยความหลงใหลรักใคร่ในกายเล็กนี้ต่างหาก
ทิฟฟานี่แอบสังเกตุเห็นว่าคนตัวเล็กในอ้อมกอดนั้นรอบยิ้มอยู่เล็กน้อย ในขณะที่ยังไม่หันมามองหน้ากัน 
แบบนี้เธอจะคิดเข้าข้างตัวเองได้หรือเปล่านะว่าแทยอนก็ชอบสัมผัสจากเธอบ้างไม่มากก็น้อย 
แล้วจะขอคิดได้ไหมว่าแทยอนก็แอบมีใจให้เธอเหมือนกัน...

ไม่มีบทสนทนาใดถูกเอ่ยขึ้นระหว่างเรา มีเพียงการเคลือนไหวร่างกายเล็กน้อย 
แทยอนเอียงศีรษะลงซบลงบนส่วนเดียวกันของทิฟฟานี่ 
พาให้คนที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนั้นต้องคิดไปไกลยิ่งกว่าเดิม
ก้อนเนื้อภายในอกที่มันเต้นผิดจังหวะอยู่นั้นก็เริ่มบีบรัดตัวมากขึ้น เมื่อความคิดมันเลยเถิดไปไกล

.

ผ่านไปหลายนาทีแทยอนจึงเอื้อมมือไปหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาแต่พอเห็นเวลาที่โชว์ขึ้นมาแล้วก็เลยคิดว่าไปอาบน้ำก่อนที่น่าจะดีกว่า 
คิดได้ดังนั้นก็วางเครื่องมือสื่อสารกลับลงที่เดิม ให้คนที่นั่งโอบเอวแทยอนอยู่อย่างเนียนๆนั้นต้องเลิกติ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ
แต่แทยอนก็ไม่ได้ตอบอะไรพลางหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูง 
ค่อยใช้มือเล็กทั้งสองข้างนั้นจัดการกับเสื้อคลุมตัวนอก ไม่นานเสื้อตัวนอกก็ถูกถอดออกมาวางไว้ที่โซฟา
ทิฟฟานี่มองร่างเล็กอย่างแปลกใจ ทำไมอยู่ๆแทยอนถึงลุกขึ้นมาถอดเสื้อตัวเองแบบนั้น 
อาจเป็นเพราะนาทีก่อนหน้านี้ทิฟฟานี่ได้คิดอะไรระหว่างเราไปไกล
แต่ก็ไม่ทันได้คิดอะไรต่อแทยอนก็เดินเข้าห้องน้ำไปเสียแล้ว

"บ้าจริง คิดอะไรของแกทิฟฟานี่"

ร่างบางสบถเบาๆให้กับตัวเองพลางหัวเราะออกมาเล็กน้อย เมื่อนึกถึงความคิดอันไกลแสนไกลของตัวเองเมื่อครู่นี้ 



เพราะฉัน รัก รักเธอไปแล้วทั้งใจ ...

รู้ ฉันรู้ว่าเธอต้องไป ...

ก็อยากจะขอร้องเธออีกครั้ง ...




----------------------------------------------------------------






Talk :

กล่าวถึงเรื่องในอดีตกันเล็กๆน้อยๆ พอให้รู้ว่าเป็นไงมาไง 
หลังจากที่เสียงยุนอาเงียบไปนั่นไปต้องเล่ามากกว่านี้ก็เดาออกเนอะว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป 

ตอนหน้าจบ... มั้ง แฮ่~
สังเกตุไหมว่าเราพยายามไม่เขียนในมุมมองแทยอนเท่าไร
นั่นก็เพราะ... เดี๋ยวรีดรู้ว่าแทยอนคิดอะไร 5555 #โดนถีบ
รอลุ้นไปกับฟานี่เอาแล้วกันนะคะ งิงิ แล้วฟานี่ก็เริ่มเพ้อมากขึ้นแล้วด้วยสิ หึหึ *ยกยิ้มชั่วร้าย

ส่วนเอ็นซีตอนหน้าโลดเลยจ้า จากที่ไล่อ่านเม้นแล้วก็เลงเห็นว่าจะต้องเอามาปล่อย
ฮริ๊ง ส่วนคู้ไหนคงไม่ต้องเดามั้ง? หรือต้องเดา? 

รูปประกอบอยากจะไม่เกี่ยวเท่าไรแต่เรารู้สึกว่ามันเข้ากับเรื่องนี้ดี
*ฟานี่ถ่ายคลิป/รูป ยุนแทเกาะกัน อร๊างงงง พฟินน

ย้ำค่ะ อย่าลืมนะคะว่าตารางงานอาจมีไม่ตรงกับความจริงบ้างแต่เราก็พยายามจะไม่พูดถึงเท่าไร 55555
เพราะเอาจริงๆแล้วก็อยากเขียนให้ตรงทั้งหมดและ แต่ช่วงนั้นเราก็ไม่ค่อยได้ตามอย่างละเอียดเพราะทำงานเสริมด้วยแหละ


แล้วที่ขาดไม่ได้ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาติดตามนะคะทั้งเรื่องใหม่เรื่องเก่า
อาจมีคำผิดอยู่บ้างต้องขออภัยด้วยนะคะ 

No comments:

Post a Comment