Chapter XXXVIII
ณ ห้องนอนของยุนอา
กลุ่มควันสีขาวที่จู่ๆก็ปรากฎขึ้นข้างๆเตียงขนาดคิงไซต์ของเจ้าของห้องนั้น
ส่งผลให้ร่างสูงผอมเพรียวที่นอนเหยียดกายอยู่บนเตียงนุ่มต้องเด้งตัวลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ
ก็แหงล่ะที่จะเด้งตัวอย่างรวดเร็วมันใช่เรื่องปรกติที่ไหนล่ะแบบนี้
ร่างสูงแปลงชุดของตัวเองจากชุดนอนธรรมดาๆให้กลายเป็นชุดหนังสีดำทันที
ตั้งหลักเตรียมจะสู้เต็มที่อย่างเพรียบพร้อมรอเพียงให้กลุ่มควันนั้นจางลงอีกหน่อยเท่านั้นเอง
แต่แล้วยุนอาก็ต้องแปลกใจไม่น้อยเมื่อได้เห็นเจ้าของกายเล็กที่ถูกโอบล้อมไปด้วยหมอกควันสีขาวนั้น
...พี่..แท..ง...กู?...
"ยุนอา ไปกับพี่หน่อย เดี๋ยวนี้เลย"
ไม่เอ่ยเปล่าแทงกูคว้าเรียวแขนของร่างสูงและออกแรงรั้งเพียงเล็กน้อย
ยุนอาก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของเธอแล้ว แทงกูยกยิ้มเล็กน้อยอย่างพึงพอใจกับการที่ได้กอดร่างสูงแบบนี้
"พี่คะ นี่มันอะไรกันคะ"
ดวงหน้าเรียวสวยได้รูปหันไปถามอีกคนที่ยังคงกระชับเรียวแขนรอบเอวเธอจากด้านหลังด้วยความแปลกใจ
แต่ยุนอาก็เดาว่าคงต้องเป็นเรื่องสำคัญมากแน่ๆ แทงกูถึงได้ใช้วิธีนี้เข้ามายังห้องนอนของเธอ
"อย่าเพิ่งถามน่า เดี๋ยวเธอก็รู้เอง"
แทงกูตอบเด็กร่างสูงไปเพียงเท่านั้น ก่อนจะเพยิดหน้าบอกกีกวังให้พาร่างของเธอและยุนอาไปยังที่หมายได้แล้ว
.
.
บึ้ม! บึ้ม! ตูม!!!!
ทั้งเสียงระเบิดเสียงลั่นไกปืนรวมไปถึงเสียงของมีคมกระทบกันดังขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ
เมื่อแทงกูและกีกวังพายุนอามาจนถึงที่หมายโดยใช้เวลาเพียงไม่นานนักก็มาถึง ฝั่งแทสซิสที่จู่ๆก็ถูกพวกอะบิสเข้าโจมตีอย่างหนัก
และเมื่อทันทีที่แทงกูรู้ข่าวจึงคิดว่ามาช่วยหน่อยน่าจะดีไม่มีอะไรเสียหาย
เพราะอย่างไรเสียการที่พวกอะบิสจะจู่โจมใครล้วนแล้วน่าจะมีผลเกี่ยวเนื่องกับตัวแทงกูหรือเจสสิก้าเป็นส่วนใหญ่
"หึ๊มม?พาเด็กมาด้วย?"
กาฮีหันไปถามเชิงจิกแขวะใส่แทงกูทันทีที่พบว่าร่างเล็กนั้นโผล่มากับใครบ้างจะว่าหมั่นไส้ก็คงใช่อ่ะนะ
แต่ถ้าถามความรู้สึกลึกๆแล้วกาฮีเองก็ยังคงตัดใจจากแทงกูไม่ได้อยู่ดี ถึงแม้ว่าจะได้รู้ความจริงแล้วก็ตาม
...นี่สินะ ตัวจริงของเธอ...
"ยุนอาน่ะเร็วกว่าเชลล่าปรกติ ชั้นเลยคิดว่าให้มาดูแลส่วนศาลาของคุณฮโยยอนน่าจะดีกว่า"
ไม่ใช่ว่าแทงกูไม่รู้ว่ากาฮีเพียงแค่จิกแขวะเธอด้วยความหมั่นไส้เท่านั้น แต่ร่างเล็กก็แอ๊บแบ้วตอบไปตามความตรงเสียงอย่างนั้น
พลางหันไปเพยิดหน้าบอกเด็กร่างสูงว่าหน้าที่ของเค้าคืออะไรไปในตัว พลางยื่นเข็มขัดเส้นเรียวเล็กให้ยุนอาไปด้วย
ยุนอาเห็นอย่างนั้นก็พอเข้าใจและรีบปลีกตัวออกไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างรวดเร็ว
โดยที่ไม่ลืมติดตั้งเข็มขัดที่เพิ่งรับไปจากมือเล็กนั้นไว้ที่เอวบางๆของตัวเอง
"งั้นเหรอ คีย์เร็วกว่ายุนอาอีกทำไมไม่ให้คีย์มาแทนล่ะ"
หลังจากที่ยุนอาวิ่งออกไปได้ไกลพอสมควรแล้วกาฮีจึงหันกลับมาที่ร่างเล็กอีกครั้ง
ยิ่งได้รับคำตอบที่แฝงไปด้วยความน่าหมั่นไส้ของแทงกูแล้วกาฮีก็คงอดไม่ได้ที่จะสวนกลับไปเช่นกัน
ส่วนมือเรียวทั้งสองข้างก็ยกขึ้นเหนียวไกปืนใส่พวกอะบิสต่อไป
"ก็ชั้นอยากอยากให้ยุนอามาใครจะทำไม"
กลีบปากสีฉ่ำขยับเอ่ย มือเล็กก็ชักอาวุธออกมาจากเข็มขัดสีเงินเงาขึ้นมาเตรียมพร้อมลั่นใส่ศัตรู
"ระวังตัวจริงของเธอจะเป็นข่าวแล้วกัน หึหึ"
เสียงหัวเราะหึในลำคอนั้นคนฟังคงเข้าใจเป็นแค่การหัวเราะแซวเล่นเท่านั้น
แต่กับเจ้าของน้ำเสียงนั้นน่ะเปล่าเลยกาฮีหัวเราะให้กับความน่าสมเพชของตัวเอง
ที่หลงคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ได้ตั้งนานว่าตัวจริงของแทงกูนั้นคือตัวเอง
กว่าจะได้รู้สึกตัวว่าตัวจริงของแทงกูนั้นคือยุนอาเธอก็ถลำลึกจนแทบถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
"เธอรู้? ตั้งแต่เมื่อไรกัน"
แทงกูถามกลับไปอย่างนั้น ทั้งที่ในใจนั้นอยากถามว่ากาฮีรู้อะไรบ้างเสียมากกว่า
รู้เพียงแค่เรื่องยุนอาหรือรู้เรื่องทั้งหมดของแทงกูกันแน่ ก็แค่ไม่ได้อยากให้ความลับของตัวเองรั่วไหลก็เท่านั้นเอง
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่กาฮีจะรู้ เพราะฮโยยอนผู้เป็นมารดาของกาฮีนั้นรอบรู้ในทุกเรื่อง
เพียงแค่ต้องตีความหมายจากคำพูดกำกวมของฮโยยอนให้ออกเท่านั้นเอง
"ก็ไม่นานเท่าไรหลังจากคืนที่เรามีอะไรกันครั้งสุดท้ายไม่กี่วัน"
กาฮีตอบพร้อมกับลั่นไกปืนใส่พวกอะบีสที่เข้ามาใกล้ในระยะแปดร้อยเมตร
เพื่อปรกปิดความรู้สึกทั้งหมดของตัวเองว่ายังคงอาลับอาวอนร่างเล็กนี้มากแค่ไหน
"อยากให้คืนนั้นเป็นครั้งสุดท้ายแน่เหรอ"
"ฮึ! อย่ามายั่วชั้นให้ยากอีกเลย ต้องการอะไรอีกล่ะ"
แทงกูพ่นลมหายใจออกทางจมูกแรงๆอย่างเซ็งอารมณ์ที่โดนอีกฝ่ายรู้ทันเสียอย่างนั้น
ว่าแล้วก็ระบายอารมณ์ด้วยการลั่นไกปืนใส่พวกอะบิสรัวๆ จนร่วงไปแทบจะเป็นกอง
ก็จะให้ไปบอกตรงๆได้อย่างไรกันล่ะว่าต้องที่จะรู้ในทุกๆเรื่องที่กาฮีรู้มาน่ะ
.
หลายชั่วโมงผ่านไปพวกอะบิสลดน้อยลงจนแทบไม่เหลือนั่นหมายความว่า พวกแทสซิสได้คว้าชัยในการสู้รบกันในครั้งนี้ไป
แต่ถึงจะอย่างนั้นพวกแทสซิสเองก็รับได้ความเสียหายไม่น้อยเลยเช่นกัน ทั้งทรัพยากรและเชลล่า น่าแปลกที่ครั้งนี้ไม่มีคนบงการโผล่มาด้วย
แทงกูก็ได้แต่นึกหงุดหงิดอยู่ในใจถ้าได้เจอตัวบงการการโจมตีครั้งนี้นะแม่จะยิงให้ตัวพรุนเลย
เมื่อเห็นว่าทางโล่งแล้วแทงกูจึงรีบวิ่งไปยังศาลาของฮโยยอนซึ่งตัวเองเป็นคนมอบหมายให้ยุนอาไปคอยดูแลไว้
กวาดสายตาสีครามเช็คความเรียบร้อยก็อดยกยิ้มไม่ได้ ในเมื่อผลงานของยุนอาออกมาดีเลยทีเดียว
จากสภาพของพวกอะบิสนอนเกยกันแทบจะเป็นกองอยู่รอบๆศาลาสีขาวที่ตอนนี้ถูกฉาดไปด้วยของเหลวสีโกเมนแทบจะ80%ของตัวอาคาร
"ยุนอา! ไหวมั้ย พี่ขอโทษพี่ไม่น่าลากเธอให้มาด้วยด้วยเลย"
แทงกูรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างสูงเพรียวที่เหมือนจะเดินเซจากปรกติที่ควรจะเป็น
ซึ่งแทงกูก็เดาสาเหตุได้ไม่ยากต้นเหตุก็เธอเองนั่นแหละที่ทำให้ยุนอาเป็นแบบนี้
ความรู้สึกผิดจับหัวใจทั้งที่เลือกให้คีย์มาด้วยก็ได้อย่างที่กาฮีว่าก็ไม่ได้มีใครท้วงอะไร
แต่แทงกูรั้นเองที่จะให้คนดูแลศาลาของฮโยยอนนั้นเป็นยุนอา
"ไม่เป็นไรค่ะ ยุนไหว"
ถึงปากจะเอ่ยไปอย่างนั้นแต่ยุนอาก็ไม่ได้ปฏิเสธการช่วยเหลือจากแทงกูแต่อย่างใด พ
ลางเผยรอยยิ้มบางๆให้คนตัวเล็กที่ประคองร่างเธออยู่
ทั้งที่ขีดสุดของเธอไม่ใช่แค่นี้แต่เพราะสภาพร่างกายแล้วจิตใจตอนนี้ยังไม่เต็มร้อยดีก็เท่านั้น
ไหนจะพักผ่อนไม่เพียงพออีกเมื่อคืนยุนอาแทบไม่ได้นอนเลยก็ว่าได้
"ชู่ว...ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พี่จะดูแลเธอเองยุนอา ...กีกวัง!"
แทงกูกระซิบเสียงแผ่วข้างๆส่วนรับฟังของคนตัวสูงกว่า เพราะไม่ต้องการให้ยุนอาเหนื่อยไปมากกว่านี้แล้ว
พลางใช้แขนเล็กที่มีพลังมหาศาลนั้นช้อนร่างของยุนอาขึ้นมาอย่างสบายๆ
ก่อนจะหันไปตะโกนเรียกชายหนุ่มที่มากับหมอกควันให้ปรากฎตัวขึ้นตรงหน้า
ไม่ต้องมีคำพูดใดเพียงแค่แทงกูเพยิดหน้าเบาๆกลุ่มควันก็โอบล้อมร่างเล็กที่ยังอุ้มร่างของคนรักเอาไว้อย่างเป็นห่วง
เพื่อกลับไปยังจุดหมาย ...คฤหาสน์สีนิล
.
.
"พายุนมาที่นี่จะดีเหรอคะ"
ยุนอาถามขึ้นหลังจากที่สังเกตไปรอบๆแล้วที่นี่มันไม่ใช่คฤหาสน์ของตัวเองแน่นนอน
และมันก็จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้อีกแล้วนอกจากแล็บของแทงกูที่อยู่ในคฤหาสน์สีนิลอันลึกลับ
ไม่คิดจริงๆว่าจะได้เข้ามาเหยียบทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่ แน่นอนว่าเรื่องของที่นี่ยุนอาก็พอจะรู้อยู่บ้าง อาจจะไม่ได้มากมายอะไร
ก็แค่ข้อมูลทั่วไปที่ใครๆก็สามารถรู้ได้ว่าที่นี่นั้นลึกลับแค่ไหน ไม่มีใครหน้าไหนได้เข้ามาง่ายๆ
ถึงจะเข้ามาส่วนมากเเกือบจะร้อยเปอร์เซนก็กลายเป็นซากไปเสียแล้ว
"แล้วมันจะไม่ดีตรงไหนล่ะ หึ้ม?"
กลีบปากขยับตอบด้วยคำถามมือเล็กก็จัดการจับให้ร่างสูงนั้นนั่งลงยังริมเตียง
ก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะทดลองเพื่อเตรียมสารสำหรับการรักษาอย่างชำนาญการ
ยุนอาก็นั่งมองการกระทำนั้นอยู่บนเตียงไม่ห่างจากจุดที่แทงกูยืนอยู่นัก
มองไปก็รอบยิ้มไปคนอย่างแทงกูน่ะไม่ว่าเมื่อไรตอนไหนทำอะไรก็ดูเจ๋งไปทุกอย่างจริงๆ
กวาดสายตาไปมาทั่วๆอีกครั้งก่อนจะพลันสะดุดตากับร่างที่นอนอยู่บนเตียงอีกฝั่งนึงของห้อง
ซึ่งมีกระจกใสๆกั้นอยู่ด้านบนมีราวผ้าม่านแต่ตอนนี้มันถูกรูดเปิดไว้จนสุด
และให้เดาอีกอย่างนึงยุนอาคิดว่ากระจกใสนี้เก็บเสียงได้ดีเชียวแหละ
ไม่อย่างนั้นคนที่เธอเห็นอยู่คงรู้สึกตัวแล้วล่ะ เอ๊ะ!?หรือว่าตายแล้ว!?
"พี่แทงกู...ตรงนั้น..."
ไม่มัวแต่คิดเองเออเองให้เสียเวลายุนอาหันกลับไปถามคนตัวเล็กที่กำลังยกถาดสารจำนวนนึงมาที่เธอ
พลางยกมือเรียวขึ้นชี้นิ้วไปเตียงอีกฝั่งนึงอย่างสงสัย
"อ่อ จำไม่ได้เหรอ แฟนเก่าเธอน่ะ"
แทงกูไม่จริงจังอะไรนักกับการพูดถึงทิฟฟานี่อย่างนั้นก็แค่
อยากจิกกัดเด็กน้อยที่น่ารักของเธอบ้างก็เท่านั้น และยุนอาก็ดูเหมือนจะเข้าใจดี
"พี่ก็... ว่าแต่ทำไมทิฟฟานี่ถึงมาอยู่นี่ในสภาพแบบนั้นได้ล่ะคะ"
ยิ่งรู้ว่าเป็นทิฟฟานี่แล้วยุนอาก็ยิ่งแปลกใจและอยากรู้สาเหตุที่ทำให้ร่างบางต้องมานอนนิ่งอยู่แบบนั้น
เพราะปรกติก็เห็นว่าทิฟฟานี่นั้นเก่งด้านเอาตัวรอดอย่างกับอะไรดี ไม่น่าจะมีโอกาสมานอนอย่างคนอาการสาหัสแบบนี้ได้ง่ายๆ
แทงกูระบายยิ้มออกมาบางๆให้กับความความสัยของคนอายุน้อยกว่า ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องคร่าวๆถึงสาเหตุที่ทำให้ทิฟฟานี่มานอนนิ่งอยู่อย่างนั้น
พลางใช้มือเล็กยกเข็มขึ้นมาฉีดเข้าที่ข้อมือของยุนอาและกดไล่สารสีเขียวน้ำทะเลในหลอดแก้วนั้นเข้าสู้เส้นเลือดอย่างใจเย็น
"แล้วพี่สิก้าเป็นอะไรหรือเปล่าคะ"
เมื่อฟังเรื่องที่แทงกูเล่าให้ฟังคร่าวๆแล้วยุนอาก็อดห่วงเจสสิก้าไม่ได้เหมือนกัน
ถึงยุนอาเองจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมายแต่เจสสิก้านั้นอ่อนแอยิ่งกว่าเชลล่าปรกติเสียอีก
แต่พอได้รับคำตอบจากแทงกูว่าเจสสิก้าปลอดภัยดียุนอาก็รู้สึกโล่งใจไปด้วย
เพราะระหว่างยุนอากับเจสสิก้านั้นก็เรียกว่าสนิทกะนในระดับนึงเลยก็ว่าได้ก็ไม่แปลกอะไรที่จะมีควาใรู้สึกห่วงใยกัน
"พี่คะ หลอดนี้มัน?"
ยุนอาท้วงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าแทงกูนั้นใช้เข็มดูดสารสีแดงสดขึ้นเต็มหลอด แล้วก็ทำท่าว่าจะมาฉีดที่ข้อมือของเธออีก
ถึงยุนอาจะไม่ได้เก่งเรื่องแล็บกับสารมากนักแต่ก็พอจะเดาไม่ยากว่าสีแดงสดนี่มันธาตุไฟไม่ใช่เหรอ
ซึ่งมันไม่ตรงกับธาตุเชลล่าในร่างกายเธอที่เป็นธาตุลมอย่างเข็มแรกที่แทงกูฉีดให้
"หึ๊ม? คิดว่าพี่จะเอาธาตุไฟจิ้มเธอหรือไง"
แทงกูยกยิ้มอย่างรู้ทัน แต่ไม่ได้หยุดการกระทำนั้นลง และยุนอาก็ทำได้แค่มองปลายเข็มที่จรดเข้ากะบผิวเนื้อของตัวเองอย่างสงสัย
ถึงจะยังไม่รู้ว่าแทงกูจะฉีดสารอะไรเข้ามาในร่างกาย แต่ยุนอาก็ไม่ได้คัดค้านหรือปัดป้องแต่อย่างใจ เธอไว้ใจแทงกูมากพอ...
และเมื่อสารสีแดงสดนั้นถูกไล่เข้ามาในร่างกายแล้วร่างสูงก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าเรี่ยวแรงที่หายไปมันกลับคืนมาอย่างน่าประหลาดใจ
พร้อมกับบาดแผลที่สมานตัวเร็วขึ้นจนเห็นได้ชัดเจนเพียงไม่กี่อึดใจบาดแผลทั้งหมดบนร่างสูงเพรียวนั้นก็หายเป็นปลิดทิ้ง
ยิ่งสร้างความประหลาดในให้กับยุนอามากขึ้นอีก ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มก็เอาแต่จับจ้องใบหน้าขาวซีดของแทงกูอย่างต้องการไขข้อข้องใจ
"ไม่เคยใช้ Red Power สินะถึงได้มองพี่แบบนี้"
แล้วก็เป็นแทงกูที่ทนเห็นเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าเรียวสวยนั้นไม่ได้ จึงต้องอธิบายเพิ่มเติมออกมาอย่างนั้น
ยุนอาย่นคิ้วเล็กน้อยราวกับใช้ความคิดไอ้เคยได้ยินมันก็เคยได้ยินมาอยู่หรอกนะ
สาร Red Power อะไรเนี่ยแต่ก็เพิ่งเคยเห็นของจริงแถมยังได้รับรู้ถึงความรู้สึกการทำงานของมันก็เมื่อกี้
แต่ยุนอาแทบแยกไม่ออกจริงๆนะก็มันไม่เหมือนสารฟื้นฟูที่เป็นสีแดงโกเมนแต่มันกลับเหมือนสารธาตุไฟที่เป็นสีแดงสดเสียมากกว่า
ความคิดของยุนอาถูกเรียกให้กลับมาอยู่กับคนตรงหน้าอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงรั้งเบาๆที่ซิบเสื้อหนังของเธอ
แต่ร่างสูงก็ไม่ได้ปัดป้องอะไรได้แต่สบลึกเข้ากับดวงตาสีฟ้าครามที่ดูเย้ายวนของแทงกูอยู่อย่างนั้น
ช่างจะเป็นดวงตาที่เดาความคิดความรู้สึกได้ยากมากแม้จะเคยสบมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จนรู้สึกได้ถึงฝ่ามือนุ่มที่ลากไล้ไปตามแนวกระดูกไหปลาร้า
"แบบนี้พี่คงต้องทำรอยให้เธอใหม่แล้วมั้ง ยุนอา~"
เสียงหวานๆแบบนั้นของแทงกูมันทำให้คนฟังถึงกับกัดปากล่างของตัวเองอย่างลืมตัว
พลางประมวลผลในคำพูดเหล่านั้นก่อนจะก้มลงมองเนินอกที่โผล่พ้นบราสีเข้มที่มีมือเล็กขาวซีดนั้นลูบไล้อยู่อย่างแปลกใจ
แล้วก็พบว่ารอยประทับจากบทรักที่มันน่าจะยังอยู่บนผิวกายของเธอนั้นหายไปพร้อมกับบาดแผลทั้งหมดแล้ว สารตัวนี้สินะที่จะทำให้รอยนั้นหายได้น่ะ
"ยังเกร็งอยู่เหรอที่รัก"
เมื่อรู้สึกว่าคนอายุน้อยกว่านั้นไม่ได้ปล่อยตัวไปตามสบายอย่างที่ควรจะเป็น แทงกูจึงเอ่ยถามออกไปอย่างเป็นห่วง
มือเล็กที่เคยลูบไล้เนินอกของอีกคนนั้นก็ยกขึ้นทาบเข้ากับข้างแก้มนุ่มของดวงหน่าเรียวสวยได้รูปที่ทำให้แทงกูหลงไหลมาตลอด
"ยุนพยายามจะชินแล้วนะคะแต่มันก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี"
ยุนอาตอบเสียงแผ่วพลางยกมือเรียวขึ้นไปทาบบนหลังมือเล็กที่ยังคงลูบไล้ใบหน้าของเธออยู่ แน่ล่ะเรื่องแบบนี้ใครจะไปชินกันง่ายๆ
ไหนจะเรื่องที่บอกเมื่อวานที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอนอนไม่หลับแทบทั้งคืน แล้วไหนจะวันนี้อีกแค่พาเธอไปที่แทสซิสนั่นก็ใช่ว่าจะไม่มีใครสงสัย
ยุนอารู้ดีว่าสายตาทุกคนที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความแปลกใจแค่ไหน แต่เธอก็ทำได้แค่เพียงมองข้ามสายตาพวกนั้นไป
แล้วไหนจะตอนนี้อีกล่ะก็รู้ว่าคนตัวเล็กนั้นไว้ใจเธอมากแค่ไหนแต่จู่ๆพามาแบบนี้ก็ไม่ดีเท่าไรนักเพราะยุนอาเองก็ไม่ค่อยไว้ใจพี่สาวตัวเองสักเท่าไร
กลัวว่ายูริอาจขึ้นไปที่ห้องแล้วหาเธอไม่เจอถ้าเป็นแบบนั้นยุนอาก็รู้ดีว่ายูริก็คงจะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะหาตัวเธอให้เจอ
แล้วการที่ยูริจะรู้ตำแหน่งของที่นี่นั้น อาจจะไม่เป็นผลดีสักเท่าไรจะกับแทงกูหรือยูริแม้กระทั่งยุนอาเองก็เถอะ
คิดได้ดังมือเรียวก็ละออกตากการกุมส่วนเดียวกันของอีกคนทันทีก่อนจะจัดการปลดเครื่องมือสื่อสารของตัวเองออกมา
"กลัวยูริตามหาหรือไง"
เมื่อเห็นว่ายุนอาปลดเครื่องมือสื่อสารของตัวเองออกมาวางลงบนเตียงจนหมดทุกอย่าง ทั้ง โฟน GPS สมาร์ทโฟน บลาๆ
แทงกูก็เดาได้ไม่ยาก แต่ถ้ายูริจะตามหายุนอาก็ไม่แปลกหรอก ก็เธอเล่นวาปเข้าไปรับยุนอาในห้องนอนแบบนั้นนี่
ใบหน้าขาวซีดนั้นระบายรอยยิ้มบางๆออกมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อได้รับการพยักหน้าของคนอายุน้อยกว่านั้นเป็นคำตอบ
"ไม่ต้องห่วงหรอกไม่ใช่ว่ามีใครไปบอกแล้วแต่ยูริไม่มีทางตามหาเธอเจอหรอก"
ติ๊ด แกร๊ก
"แทง! เป็นไงมั่ง แล้วนี่พายุนอามาทำมิดีมิร้ายหรือยังไงห๊ะ!" (-.-+)
ยังไม่ทันทีาแทงกูและยุนอาจะได้พูดหรือทำอะไรต่อ เสียงแสกนเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงว๊ากแปดหลอดของเจสสิก้า จะว่าขัดจังหวะก็คงได้ล่ะ
เพราะเมื่อแทงกูเห็นว่าเจสสิก้าเดินจ้ำอ้าวเข้ามาแล้ว มือเล็กก็จัดการรูดซิบชุดหนังของยุนอาขึ้นกลับที่ที่มันควรจะเป็น
"รีบปิดเลยนะ ทำไมกลัวชั้นรู้หรือไงว่าเธอกำลังจะกินเด็กอ่ะ"
เดินมายังไม่ทันจะถึงเตียงที่ยุนอาและแทงกูอยู่ก็แว๊ดจิกแขวะคนตัวเล็กไปอีก
ก็แหมอยู่สิมันน่าหมั่นไส้ไหมล่ะ ทิฟฟานี่ก็ยังนอนอยู่ตรงโน้นนี่ยังจะพายุนอามาอีก
"แล้วทำไมชั้นจะต้องกลัวเธอรู้ด้วยล่ะ ที่รีบปิดเนี่ยก็เพราะหวงหรอก"
ก็จริงอยู่ที่ไม่ได้กลัวว่าเจสสิก้าจะรู้เพราะเจสสิก้าก็รู้อยู่แล้วนิ แล้วที่บอกว่าหวงเนี่ยก็ใช่ก็หวงถึงจะกับเจสสิก้าก็เถอะถึงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเจสสิก้าเป็นยังไง
แต่ก็นั่นแหละยังไงแทงกูก็ยังหวงยุนอาอยู่ดี ก็ใครใช้ให้ยุนอาดูดีทุกองศาแบบนี้ล่ะ เป็นใครใครก็หวง
"ชิส์ ไม่คุยด้วยและไปดูฟานี่ดีกว่า ...งอนโว้ย"
ถามว่างอนจริงไหม งอนจริง แต่ไม่ได้มากมายอะไร แต่เพราะตั้งใจมาดูทิฟฟานี่อยู่แล้วด้วยแหละ เพราะนี่มันก็จะค่ำแล้ว สาวเจ้าก็ยังไม่ตื่น
จริงๆแล้วเจสสิก้าก็เข้ามาดูแทบจะทุกครึ่งชั่วโมงนั่นแหละเพราะเกรงว่าคนป่วยนั้นจะหิวหรือเปล่าอยากได้อะไรเพิ่มเติมไหม
แต่คำตอบที่เจสสิก้าได้รับมานั้นมีเพียงการหลับไหลเท่านั้น ยิ่งทำให้ร่างบางนั้นอดห่วงมากขึ้นไม่ได้อีก
ยุนอาที่นั่งมองหน้าเจสสิก้าสลับกับแทงกูทีนั้นก็ต้องระบายลมหายใจออกมาเบาๆพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างช่วยไม่ได้
ก็เล่นไม่เว้นช่องไฟให้เธอได้มีบทบาทอะไรเลยนิ ว่าแล้วก็มองตามร่างบางของเจสสิก้าที่สาวเท้าเดินไปยังกระจกใส
ที่กั้นระหว่างห้องที่พวกเธออยู่กับห้องที่ทิฟฟานี่อยู่ มือบางของเจสสิก้าทาบเข้ากับกระจกเพียงไม่นาน
กระจกใสนั้นก็เลื่อนแยกออกจากกันให้ร่างบางนั้นแทรกตัวเดินเข้าไปอย่างสบายๆ ถ้าวัดขนาดจากสายตาแล้วห้องนี้ใหญ่ไม่เบาเลย
"แทง!! มานี่หน่อยดิ"
นั่นไงยังไม่ทันได้ทำอะไรก็โดนเสียงแปดหลอดนั้นจิกอีกแล้ว
แต่ถึงจะอย่างนั้นแทงกูก็ยอมเดินไปหาเจ้าของเสียงเล็กแหลมนั้น โดยที่ไม่ลืมจูงมือยุนอาให้ลงเดินไปด้วย
"วันนี้ยังไม่ตื่นเลยสักรอบอ่ะ จะเป็นไรป่าว"
พอแทงกูกับยุนอาเดินมาถึง เจสสิก้าก็หันมาถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
แทงกูย่นคิ้วเล็กน้อยอย่างแปลกใจกับสิ่งที่ฟังมาจากเจสสิก้า ยังไม่ตื่นเลยสักรอบงั้นเหรอ
มือเล็กลองสะกิดที่ช่วงแขนเป็นการปลุกเบื้องต้น และเมื่อไม่ได้ผลก็เริ่มออกแรงมากขึ้นอีกหน้าเป็นเขย่าแขนพร้อมกับเรียกชื่อ
แต่เจ้าของชื่อก็ยังนอนแน่นิ่งอยู่อย่างเดิม คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันเป็นปมทันที แบบนี้มันผิดปรกติมากเกินไปแล้ว
ไม่รอให้เวลาเดินผ่านไปเปล่ามือเล็กเลื่อนไปแหวกชุดคลุมที่ทิฟฟานี่ใส่อยู่ทันทีเพื่อดูรอยแผล ก่อนจะทาบฝ่ามือขาวซีดลงไปยังอกข้างซ้าย
เพื่อเช็คอัตตราการเต้นของหัวใจ แต่มันก็ปรกติดีจนแทงกูเริ่มเป็นกังวลมากขึ้นมือเล็กไล่แหวกชุดคลุมออกจนหมดเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าของผู้ป่วย
กวาดสายตาไล่ทุกอนูรูขุมขน น่าแปลกที่สุดทำไมทุกอย่างที่ดูปรกติดีแบบนี้แต่ทำไมถึงปลุกไม่ตื่น
ยุนอาที่ยังคงอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นก็ได้แต่คิดเธอรู้สึกว่าการรักษาดูแลผู้ป่วยของคนฝั่งนี้แตกต่างออกไปจากที่เธอเคยรู้มาไม่น้อยเลย
จนกระทั่งได้เห็นร่างกายเปลือยเปล่าของคงที่เธอเคยหลงใหลเพียงแค่แรกเจอ
และยอมรับจากใจเลยว่าจนถึงตอนนี้ยุนอายังมองว่าทิฟฟานี่ยังเป็นผู้หญิงที่สวยและน่าหลงใหลมากจริงๆ
ถึงแม้ว่าทั้งหัวใจของยุนอาในตอนนี้จะเป็นของแทยอนไปจนหมดสิ้นแล้วก็เถอะนะ
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นยุนอาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าทิฟฟานี่นั้นน่าสัมผัสมากแค่ไหน
ร่างสูงไม่ได้หันหน้าหนีหรือหลบสายตาจากสิ่งที่ปรากฎขึ้นทั้งหมดตรงหน้า หากแต่ดวงตาเรียวไล่สำรวจร่างงดงามนั้นอย่างละเอียด
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแทงกูถึงได้ดูหลงใหลทิฟฟานี่นัก
"สิก้า ลองจูบดูทีสิ"
สุดท้ายแทงกูก็ต้องเลื่อนสายตาขึ้นมามองดวงหน้าสวยของเพื่อนรักที่ยืนอยู่อีกฝั่งของเตียง เพราะยังไงแล้วสกิลของเจสสิก้าก็น่าจะช่วยได้
ถึงจะดูจากภายนอกแล้วทิฟฟานี่ไม่ได้ต่างอะไรจากเชลล่าปรกติที่ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยเลยนี่ ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งคิดหาวิธีรักษายาก
เจสสิก้าเลิกคิ้วเล็กน้องอย่างแปลกใจที่แทงกูบอกให้เธอจูบทิฟฟานี่ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมายก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย
รสจูบแห่งการรักษาถูกป้อนให้กับคนที่ไร้ปฏิกิริยาตอบสนองอยู่หลายอึดใจ มือเรียวของเจสสิก้าที่เคยเท้าเตียงไว้เลื่อนไปประคองดวงหน้าหวาน เป็นห่วงจับใจ
ก็ได้แต่อธิษฐานอยู่ในใจ ขอให้คนตรงหน้านี่ปลอดภัย ที่ทิฟฟานี่ต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอเอง หากจะมีใครต้องเจ็บก็ขอให้เป็นเธอเองยังจะดีเสียกว่า
.
.
"ซอฮยอน เห็นไอ้ยุนมั่งป่ะ หายไปไหนก็ไม่รู้ตั้งแต่เช้า แถมรถก็ยังอยู่เครื่องมือสื่อสารก็ติดต่อไม่ได้สักอย่าง"
ยูริโวยวายออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ก็ดูสิไอ้น้องบ้านี่จะหายไปไหนก็หายไปเสียเฉยๆ แล้วรถก็ไม่เอาไปนี่มันคิดจะทดสอบร่างกายตัวเองหรือไง
เมื่อกลางวันก็เช็คเจอว่ายุนอานั้นไปแถวฝั่งแทสซิสซึ่งยูริก็ได้ยินข่าวมาว่าถูกอะบิสจู่โจมอย่างหนัก แต่ยุนอาจะไปถึงแทสซิสเองได้อย่างไรถ้าไม่ขับรถไป
แล้วพอตกเย็นยูริก็ไม่สามารถเช็คอะไรจากตัวยุนอาได้อีกเลย
แล้วนั่นก็ยิ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นห่วงมากขึ้นเป็นเท่าตัว ถึงจะรู้ดีว่าน้องสาวเธอนั้นเก่งพอจะเอาตัวรอดได้
แต่การหายเงียบไปอย่างนี้จะให้คนเป็นพี่อย่างเธอนิ่งอยู่ได้อย่างไร
"อาจจะไปกับคุณแทงกูหรือเปล่า พี่ยูลใจเย็นๆก่อนสิ พี่ก็รู้อย่างพี่ยุนน่ะไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก"
คำว่าไม่เป็นอะไรง่ายๆที่ซอฮยอนหมายถึงนั้นคือผู้คนที่เข้ามารายล้อมยุนอานั้นไม่มีทางปล่อยให้ยุนอาเป็นอะไรไปง่ายๆแน่นอน
แล้วยิ่งได้รู้ว่ายุนอากับแทงกูนั้นมีซัมติงกันแล้วยิ่งแทบไม่ต้องคิดเลย
"เออว่ะ ชั้นลืมแทงกูไปได้ไงวะเนี่ย ว่าแต่เธอแน่ใจนะว่าไอ้ยุนมันได้กับแทงกูแล้วแน่ๆน่ะ"
"ชั้นก็ยืนยันไม่ได้หรอกนะคะ เพราะถามยังไงพี่ยุนก็ไม่ตอบ แต่หายกันไปทั้งคืนหลังจากที่พี่ยุนเอารถมาเก็บ"
"โผล่กลับมาก็เกือบสว่าง คุณแทงกูก็ขับรถเค้ามาส่ง แล้วที่สำคัญมีรอยแดงที่คอพี่ยุนที่พยายามจะทำให้หายยังไงก็ทำไมได้สักทีด้วยนะ เป็นพี่ยูลจะคิดไงล่ะ"
ซอฮยอนก็ตอบไม่ตามความจริงที่เธอเห็นและรู้สึกได้ ถึงเธอจะไม่ใช่คนหมกมุ่นกับอย่างว่าก็ตามที
ที่สิ่งที่พบนั้นก็ทำให้เธอไม่สามารถคิดไปในทางอื่นได้เลยนอกจาก..
"ก็คิดว่ามันเอากันจนเช้านั่นแหละ ...แล้วแบบนี้ชั้นควรสบายใจใช่ป่ะ"
ยูริยกยิ้มอย่างพึงพอใจกับประโยคที่เพิ่งจะเอ่ยออกมา เพราะอย่างน้อยยุนอาก็สามารถทำตามแผนได้ขั้นนึงแล้ว
เหลือแค่ทำให้แทงกูหลงไว้ใจจนยอมบอกอะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องที่เธออยากรู้
"หรือพี่ยูลจะลองติดต่อไปที่แทสซิสดูมั้ยล่ะคะ"
"เออเป็นความคิดที่ดี"
หลังจากตอบรับข้อเสนอที่ดีของซอฮยอนแล้วยูริก็จัดการติดต่อไปยังฝั่งแทสซิสทันที เพื่อจะถามไถ่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าและสถานการณ์ในตอนนี้
แล้วก็ได้ความว่ายุนอาได้ไปที่นั้นกับแทงกูจริงๆอย่างที่ซอฮยอนเดาไว้ตั้งแต่แรก และนั้นยิ่งทำให้รอยยิ้มของยูริเด่นชัดขึ้นอีก
ส่วนเรื่องสถานการณ์อื่นๆของฝั่งแทสซิสนั้นยูริไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากอยู่แล้ว
ไปกับแทงกูได้โดยที่ยูริและซอฮยอนไม่รู้ว่าแทงกูเข้ามาหรือยุนอาออกไปตอนไหนนี่มันช่างเป็นอะไรที่น่าสนใจเสียจริงๆ
พอคิดถึงเรื่องนั้นแล้วยูริก็นึกอยากจะรู้อะไรขึ้นมาบ้างแล้วสิและไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่ายูริจัดการทดลองติดต่อไปหาแทงกูทันที
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเธอไม่สามารถติดต่อแทงกูได้เช่นกันและนั้นก็ยิ่งทำให้ยูริมั่นใจมากขึ้นว่ายุนอาจะต้องอยู่ที่ไหนสักที่กับแทงกูแน่ๆ
เพราะเธอคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะว่าถ้าจะอ่อยแทงกูน่ะ คนเดียวที่เธอจะเพิ่งได้ก็คือน้องสาวที่รักอย่างยุนอา และเธอก็คิดไม่ผิดจริงๆ
จากการสังเกตุปฏิกิริยาของแทงกูตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ
ยูริก็มักจะสังเกตุเห็นอยู่เรื่องๆว่าแทงกูน่ะชอบแอบมองยุนอาอยู่บ่อยๆ
อีกทั้งที่เจ้าตัวแสดงออกมาว่าเป็นห่วงยุนอาอย่างเห็นได้ชัดและยิ่งวันเวลาผ่านไปยูริก็เริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ
และคำพูดของแทงกูก็ยังคงตราตรึงอยู่ในสมองของยูริได้เป็นอย่างดี
"น้องคุณเนี่ยจะทำให้ชั้นหลงรักเค้าเข้าไปมากขึ้นทุกวันแล้วนะ"
จนในที่สุดยูริก็ตัดสินใจ
บอกยุนอาในสิ่งที่เธอต้องการ และน้องที่ดีอย่างยุนอาก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะทำมันแถมยังเริ่มต้นได้ดีเสียด้วย
ถึงแม้ว่าในตอนแรกยุนอาจะมาอาการยึกยักเล็กน้อยก็ตามที
------------------------------------------------------------------
From Writer...
อร๊ายยยยหลังจากที่หายไปเจ็ดเดือนกว่า แฮ่ๆ
หวังว่ารีดจะยังไม่ลืมหรอกนะคะ
แก้พล๊อตใหม่เล็กน้อยเพื่อให้ความจริงได้ออกมาสู่สายตาประชาชีเร็วขึ้น 555
อย่างที่เคยบอกว่าเท่าที่เราตามไล่อ่านเม้นท์ซึ่งก่อนจะลงนี่ก็ไปไล่อ่านมาอีก แล้วก็พบว่า
งง กันเต็มเบย 555 แล้วก็เต็มไปด้วยคำถามหลายๆข้อ การเดาไปในหลายๆทางซึ่งเราปลื้มมาก
แล้วก็เห็นว่ามีคนอาจจะเดาถูกอยู่หลายคนเหมือนกันนะ ฮริ๊ง
ส่วนแชปนี้หลายคนคงมีคำถามเรื่องของแทงกูกับยุนอาอีกแน่นนอน หุหุ
เรารู้สึกว่าแชปนี้สั้นนะแต่คิดว่าจบแค่นี้ก่อนดีกว่าไม่งั้นเดี๋ยวรีดไม่มีคำถาม 555 #โดนถีบ
ใครเชียร์คู่ไหนขอให้เชียร์ต่อไปนะคะ หุหุ
ถึงช่วงนี้ยุนแทงจะมาเยอะกว่าคู่อื่นๆแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า แทงทิฟ แทงสิค จะหายไปนะคะ
เดี๋ยวกลับมาแน่นอนค่ะ
*ขยายความ
ในช่วงตอนแรกของแชปนี้ที่ยุนอาแปลงชุดนั่นคือสกิลทั่วๆไปที่เชลล่าคนไหนก็สามารถทำได้เหมือนกัน
อย่างที่เราเคยบอกไว้ในแชป XXXII (32) ว่าเชลล่าจะมีสู้ต่อสู้เพียงชุดเดียวเหมือนเป็นชุดเก่ง
เวลาแปลงมาเป็นชุดนี้ก็ไม่ยากเหมือนการแปลงร่างในหนังแอคชั่นทั่วไปอ่ะค่ะ
เพียงแต่อันนี้แปลงแค่ชุดเท่านั้นเอง
เผื่อใครลืม
เรื่องของยูริที่เคยคุยกับยุนอาที่จะให้ไปยุ่งกับแทงกูนั้นต่อเนื่องมาจากแชปXXXIV(34)นะคะ
เรื่องของกาฮีกับแทงกูที่บอกว่ามีสัมพันธุ์กันครั้งสุดท้ายจากแชป XXXI (31)
คำพูดของแทงกูที่บอกว่าหลงรักยุนอาจากแชป XXIX (29)
No comments:
Post a Comment