Tuesday, August 4, 2015

[?-Shot] ___ ~: P l e a s e : ~ ___ [YoonTaeTi], Ft.SNSD [อิงวง] __ Sh.3 __


sh.3






2015.01.25



ร่างสูงเพรียวกวาดสายตาไปรอบๆห้องเพื่อเช็ดความเรียบร้อย ว่าไม่ลืมอะไรแล้ว
ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายใบหรูจับสายเล็กๆขึ้นเกี่ยวกับไหล่ผาย พลางลากกระเป๋าใบโตออกจากห้องพัก
จริงๆแล้ววันนี้เป็นวันส่วนน้อยมากที่ยุนอาจะตื่นเช้าก่อนเวลานัดมากขนาดนี้
แม้ว่าเธอจะอาบน้ำแต่งตัวและลงไปรับประทานมื้อเช้าแล้วก็ยังมีเวลาโทรคุยกับแทยอนอยู่ตั้งนานสองนาน
ซึ่งทางนั้นก็ดูเหมือนจะมีอาการเดียวกับเธอเช่นกัน อ่า...นี่พวกเธอกำลังตื่นเต้นงั้นเหรอ?
การที่ต้องอยู่ห่างกันเกือบเดือนสำหรับพวกเธอเหมือนมันนานมากเพราะปรกติก็ทำงานด้วยกัน นอนก็เลือกที่จะนอนด้วยกันเป็นส่วนมาก
เป็นแบบนี้มาสิบกว่าปีจะไม่ให้คุ้นชินกับการที่มีอีกคนอยู่ข้างๆได้อย่างไรกัน

ยุนอารู้ดีว่าถึงเธอจะเดินทางกลับไปถึงเกาหลีแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถพบแทยอนได้ เนื่องจากร่างเล็กนั้นติดขึ้นงานแสดงของซับยูนิต แททิซอ
และยุนก็คิดว่ากว่าจะเจอกันจริงๆก็คงค่ำๆหลังจากที่งานนั้นจบลงแล้ว เอาน่า อดทนมาได้ตั้งเกือบเดือนทนต่อไปอีกไม่กี่ชั่วโมงจะเป็นไรไปล่ะ

ในขณะที่นั่งรถไปยังสนามบินยุนอาก็ยังคงคุยแชทกับแทยอนอยู่ รอยยิ้มบางๆเผยออกมาเป็นระยะๆ
แทยอนน่ะชอบถามถึงเรื่องในกองถ่ายอยู่เสมอ ซึ่งยุนอาก็ตอบไปทุกคำถามนั่นแหละ ก็มีบ้างที่จะโดนร่างเล็กนั้นจิกแขวะบ้าง
อย่างเรื่องความสนิทสนมกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งยุนอาก็รู้ดีว่าแทยอนแค่แซวเล่น แต่เธอเองก็ไม่วายจะเล่นไปกับคนตัวเล็กอย่างเช่นตอนนี้

TaeTae: 
วันนี้ก่อนขึ้นเครื่องมีนัดกินข้าวกับสาวๆในกองป่ะ

YoonYoon: 
บ้า ไม่ได้มีเวลาขนาดนั้นสักหน่อย

TaeTae: 
ถ้ามีเวลาก็ไม่เหลือสินะ

YoonYoon: 
แน่สิคะ

TaeTae:
อย่าทำตัวฮ็อทในหมู่สาวๆนักได้ไหม

YoonYoon: 
หรือจะให้ฮ็อทในหมู่หนุ่มๆหรือไงล่ะ

TaeTae:
ย๊า! ไม่อนุญาติทั้งสองหมู่นั่นแหละ

YoonYoon: 
แทก็รู้นี่คะ ว่ายุนจะฮ็อทก็ต่อเมื่ออยู่กับแทคนเดียวเท่านั้น

TaeTae:
ให้แน่เถอะ อย่าให้รู้แล้วกันว่าแอบไปฮ็อทกับสาวที่ไหน

YoonYoon: 
หึ๊ม? ยุนไม่ใช่แทนะ ที่พอไม่มียุนนอนด้วยก็มีพี่ฟานี่นอนด้วยตลอดน่ะ

TaeTae:
แล้วไงอ่ะ ก็แค่นอนป๊ะ?

YoonYoon: 
ค่า~ แค่นอนค่ะ ถึงจะมากกว่านั้นยุนก็ไม่รู้หรอกถ้าแทไม่บอก

ยุนอายังคงยิ้มให้กับบทสนทาอันเรื่อยเปื่อยระหว่างเธอกับแทยอน เอาจริงๆแล้วบทสนทาพวกนี้ก็มีส่วนที่เป็นเรื่องจริง
อย่างเช่นเรื่องทิฟฟานี่ซึ่งยุนอาก็รู้ดีและรู้มาตั้งแต่แรกว่าทิฟฟานี่รู้สึกอย่างไรกับแทยอน
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราคงทะเลาะกันห้องแตกไปแล้ว ที่ทิฟฟานี่นอนกับแทยอนทุกคืนที่ไม่มีเธอ
แต่ก็เป็นเพราะเมื่อก่อนทะเลาะกันบ่อยครั้งเพราะเรื่องเดิมๆกับคนเดิมๆที่ไม่สามารถเลี่ยงได้
และจากประสบการณ์เหล่านั้นทำให้พวกเธอได้รู้ว่ามันเปล่าประโยชน์ แถมมีโทษทำให้หัวใจบอบช้ำมากขึ้นเสียอีก

แต่ก็ต้องขอบคุณทิฟฟานี่นะที่ทำให้ระหว่างยุนอาและแทยอนเข้าใจกันมากขึ้น เพราะถ้าไม่มีทิฟฟานี่
ยุนอาเองก็ไม่แน่ใจว่าปจุบันนี้เธอกับแทยอนจะยังหึงกันหน้ามืดตามัวอยู่หรือเปล่า
อย่างเช่นเวลายุนอามาถ่ายละครแบบนี้มีเพื่อนร่วมงานใหม่ๆแบบนี้ สิ่งที่จิกแขวะกันเล่นในแชทอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆก็เป็นได้

แต่ระหว่างแทยอนกับทิฟฟานี่นั้นถามว่ายังหึงอยู่ไหม ยุนอาตอบได้อย่างมั่นใจเลยว่า ยังหึงอยู่
แต่ไม่ได้มากมายพอที่จะสร้างปัญหา ด้วยเพราะสองคนนั้นเป็นจุดขายของวงอยู่แล้วด้วย
จึงทำให้ยุนอาเลือกที่จะเข้าใจอย่างเวลาที่ขึ้นแสดง ออกรายการ ออกสื่อ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าปจุบันนี้จะเห็นแทยอนและทิฟฟานี่คู่กันเป็นส่วนใหญ่
แต่เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เป็นส่วนตัวแล้วแทยอนก็จะอยู่กับยุนอามากกว่า

ซึ่งทั้งแทยอนและยุนอาก็มีความเห็นตรงกันว่าให้มันเป็นไปแบบนี้นั่นแหละดีแล้ว เพราะอะไรน่ะเหรอ
ก็เพราะประสบการณ์ความแตกว่าคบกันจนเพื่อนรู้กันทั้งวงน่ะสิ
และเพราะเรื่องนั้นที่ทำให้เราต้องเคยเลิกกัน ซึ่งมันค่อนข้างแน่ชัดว่าเราสองคนเจ็บปวดทรมานแค่ไหนในช่วงระยะเวลาสองสามเดือนนั้น

จนกลายเป็นว่าทั้งยุนอาและแทยอนนั้นวาดระแวงกับการรับรู้ของคนอื่นๆ
เพราะกลัวว่าความจะแตกอีก กลัวว่าสังคมจะไม่ยอมรับ กลัวว่าบริษัทจะบีบบังคับให้เราต้องเลิกกันอีก และยังอีกหลายๆเหตุผลโลกแตกที่ตามมา
เพราะงั้นยุนอาและแทยอนจึงเลือกที่จะอดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า เพราะคิดว่าทางเลือกนี้มันดีที่สุดแล้ว พวกเราจึงทำมันมาอยู่เรื่อยๆ
เวลาออกสื่อแทยอนจะอยู่กับทิฟฟานี่ แต่นั่นก็ไมใช่ว่าทั้งหมดมันก็อาจจะมีบ้างที่ยุนอาและแทยอนจะออกสื่อ
แต่มันก็เป็นไปในส่วนน้อยกว่าแทยอนกับทิฟฟานี่เท่านั้นเอง และเวลาส่วนตัวแทยอนก็จะอยู่กับยุนอา

ถามว่าแล้วแบบนี้ระหว่างยุนอากับทิฟฟานี่เกาเหลากันไหม ไม่เลยมันกลับทำให้ยุนอากับทิฟฟานี่สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อาจเพราะเวลาที่อยู่ด้วยกันสามคนแล้วพวกเราก็แสดงออกมาเหมือนเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมงานหรือคนในครอบครัวด้วยล่ะมั้ง
แต่ก็มีในบางทีที่ยุนอาและทิฟฟานี่คุยกันเรื่องแทยอนตอนที่เจ้าตัวไม่อยู่
ในสายตายุนอา ทิฟฟานี่เป็นคนดีมากคนนึง ที่เธอนับถือเลยล่ะทั้งดีเก่งแถมยังสวยอีก
แต่สิ่งที่ยุนอาอดแปลกใจไม่ได้ก็คือทำไมทิฟฟานี่ถึงยังรักแทยอนอยู่แบบนี้

คือแบบไม่ใช่อารมณ์อยากผลักไสนะ แต่แบบทั้งสวยทั้งดีทั้งเก่งคนเข้ามาจีบเข้ามาเสนอตัวก็มากมายแต่ทำไมถึงยังปิดใจไว้
ทำไมถึงยังเก็บหัวใจไว้คนที่ไม่ได้รักตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ยุนอาคิดในฐานะเพื่อน ครอบครัวหรืออะไรก็แล้วแต่
เพราะยุนอากับทิฟฟานี่เองก็ผูกพันธ์กันรักกันมากแต่ไม่ใช่ในแบบคนรักกัน และกับคนอื่นๆในวงก็เช่นกัน




.





... โปรด รักฉันรักฉันเถอะนะ ...

... จะไม่ทำให้เธอเสียใจ ...






"แท~ ตื่นนานแล้วเหรอ"

ทิฟฟานี่เคลื่อนกายเข้าไปใกล้ร่างเล็กที่นั่งเอนหลังพิงหัวเตียงอยู่ ปลายนิ้วเรียวก็ไล่สัมผัสหน้าจอเครื่องสี่เหลี่ยมอย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่ทิฟฟานี่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนักเพราะรู้ว่าถ้าไม่เล่นเกมส์ก็คุยกับยุนอาซึ่งมันน่าจะเป็นอย่างหลัง
แขนเรียวเลื่อนขึ้นพาดหน้าท้องแบนราบของร่างเล็กเพื่อโอบกอดกายนุ่มนิ่มนั้นอย่างออดอ้อน
พลางซุกใบหน้าเข้ากับช่วงเอวคอดสูดกลิ่นหอมๆคุ้นเคยที่เธอชอบใจนักหนา

"อะไรเนี่ยตื่นมาก็เนียนเลย"

ถึงจะบ่นออกมาอย่างนั้นแต่แทยอนก็ไม่ได้ปัดป้องหรือขยับหนีแต่อย่างใด
กลับยกยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ ดูสิคอสเพลย์เป็นแมวอยู่หรือไง จะอ้อนเอาอะไร

ทิฟฟานี่ไม่ได้ตอบอะไรออกมาเป็นคำพูดมีเพียงเรียวแขนที่กระชับกอดราวกับจะบอกเจ้าของร่างเล็กว่าเธอจะไม่ปล่อยเขาง่ายๆแน่นอน
และเพราะแทยอนก็ยังคงเป็นแทยอนอยู่วันยันค่ำ ปากก็บ่นงุบบ่นงิบไปเรื่อยเปื่อย แต่ก็ปล่อยให้เธอกอด ให้สัมผัสทุกครั้ง
หรืออาจเป็นเพราะที่ทิฟฟานี่ทำนั้นมันไม่ได้มากมายเกินไปจนต้องปฏิเสธก็ไม่อาจทราบได้
อย่างแบบถ้าทิฟฟานี่จะไปประกบจูบแทยอนอย่างที่อยากทำอยู่ทุกวินาที แบบนั้นก็คงจะโดนปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิด
แม้ยังไม่เคยทำแบบนั้นแต่ทิฟฟานี่ก็พอจะเดาคำตอบจากแทยอนออก แต่กระนั้นลึกๆในความรู้สึกก็ยังอยากทำอยู่ดี
ถึงจะรู้สึกผิดทั้งกับยุนอาและแทยอนที่เธอดันคิดอะไรแบบนั้นแต่มันก็ห้ามไม่ให้คิดไม่ได้จริงๆ



.



.



"นี่พวกพี่ตื่นกันหรือยังคะเนี่ย"

ซอฮยอนเอ่ยถามรุ่นพี่ที่รักทั้งสองคนในขณะที่พวกเธอนั่งเรียงกันให้เมคอัพละเลงใบหน้าอยู่
ก็จะไม่ให้ถามแบบนั้นได้อย่างไรกันตั้งแต่นั่งรถมาแล้ว แทยอนกับทิฟฟานี่ก็เอาแต่นั่งหาวหวอดๆ มีผลอยหลับไปบ้างระหว่างทาง
จนมาถึงห้องแต่ตัวทั้งสองคนก็ยังคงมีสภาพคล้ายคนงัวเงียอยู่แบบนี้ ซึ่งตอนนี้มันก็เป็นเวลาบ่ายแก่ๆแล้ว
ถ้าเป็นเช้าๆซฮยอนก็อาจจะไม่แปลกใจเท่าไร

"จริงๆก็อยากนอนอีกนะ"

แทยอนพูดเสียงงัวเงียอย่างไม่จริงจังนัก เรียกเสียงหัวจากทุกคนภายในห้องแต่งตัวได้ไม่ยาก
ทุกคนรู้ดีว่าถึงตอนที่อยู่ในห้องแต่งตัวจะเป็นอย่างไรงัวเงียง่วงนอนแค่ไหน
แต่พอขึ้นแสดงทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเป็นอีกอย่าง ร่าเริง สดใส

ระหว่างรอขึ้นแสดงทั้งแทยอน ทิฟฟานี่ และ ซอฮยอน ก็ยืนดูศิลปินวงอื่นๆอยู่หลังเวที มีเข้ามาทักทายบ้างตามมรรยาท
แล้วก็มีบ้างที่ทั้งสามคนบิ้วอินไปกับเพลง ร้องตาม เต้นตาม นั่นก็ช่วยเป็นการวอร์มร่างกายก่อนขึ้นแสดงได้เป็นอย่างดี

"ฉันไปห้องน้ำแป๊บนะ"

เมื่อมองนาฬิกาแถวๆนั้นก็ได้รู้ว่ายังพอมีเวลาเหลืออยู่แทยอนจึงเอ่ยบอกทิฟฟานี่และซอฮยอนไปอย่างนั้น
แต่ก็กลายเป็นว่าข้อมือเล็กของแทยอนนั้นถูกพันธานาการไว้ด้วยคนที่เดินตามมา เธอหันไปยิ้มให้ทิฟฟานี่เล็กน้อย
เพราะรู้อยู่แล้วว่าสาวเจ้าต้องตามมา และซฮยอนก็คงจะคุ้นชินกับเหตุการณ์แบบนี้ดี
ซึ่งร่างสูงนั้นก็ไม่ได้ทักท้วงหรือแซวอะไรออกมาเพราะในบริเวณที่พวกเธออยู่นั้นยังมีคนอื่นๆอยู่ด้วย




... รู้ ฉันสู้เขาไม่ไหว ...

... เทียบกับใครที่เธอมี ...





เมื่อเดินมาถึงยังห้องสุขาที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากจุดที่ยืนรอเตรียมจะขึ้นเวทีนัก ภายในนั้นค่อนข้างปลอดผู้คน
เพราะห้องสุขาถูกแยกให้มีอยู่หลายจุด จึงไม่จำเป็นต้องรอต่อคิวให้เสียเวลา
เมื่อทั้งสองทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วก็มายืนอยู่ตรงหน้ากระจก ชำระล้างมือเรียวให้สะอาด
และเช็ดความเรียบร้อยเสื้อผ้าหน้าผม

ทิฟฟานี่ที่ดูเหมือนจะจัดการตัวเองเรียบร้อยก่อนก็ได้แต่มองร่างเล็กที่ยังคงยกมือขึ้นจับๆเรือนผมของตัวเองผ่านกระจกเงาบานโต
ดูเหมือนว่าเส้นผมสลวยนั้นจะไม่ค่อยเป็นไปดั่งใจเจ้าของมันเล็กน้อย เพราะวันนี้แทยอนไม่ได้ทำผมเวอร์วีวังอลังการงานสร้างสักเท่าไร
เพียงแค่ทำรอนนิดหน่อยอีกทั้งไม่ได้ติดเครื่องประดับใดๆบนเรือนผมอีกต่างหาก
ทิฟฟานี่จึงอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือเรียวไปช่วยจับพลางเอ่ยเบาๆราวกับกลัวว่าใครจะมาได้ยิน

"แค่นี้ก็สวยจนฉันเลิกมองเธอไม่ได้แล้ว"

พูดจบก็ส่งรอยยิ้มหวานตามไปให้คนตัวเล็กนั้นต้องยิ้มเขินตอบกลับมา แล้วก็ปล่อยให้ทิฟฟานี่จัดการกับเรือนผมของตัวเอง ทั้งที่ยังสบตากัน
เมื่อเรียบร้อยแล้วมือเรียวก็ไล้ต่ำลงมายังพวงแก้มเปล่งปลั่งที่ขึ้นสีระเรื่ออาจเพราะจากเครื่องสำอางหรืออะไรก็แล้วแต่
แต่มันทำให้ทิฟฟานี่อยากจะประทับริมฝีปากลงไปเสียจริงๆ
ไวเท่าความคิดดวงหน้าหวานโน้มลงช้าๆจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่ายที่เป่ารดพวงแก้มของตัวเอง
ก้อนเนื้อในอกที่บีบรัดตัวรุนแรงขึ้นตามระยะห่างที่ค่อยๆจางหายไปนั้นมันดังเสียจนทิฟฟานี่รู้สึกว่าแทยอนอาจจะได้ยินมันด้วยซ้ำ
กลิ่นไอหอมๆจากกายเล็กนั้นโชยเข้าจนทิฟฟานี่เผลอสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด


"จะทำอะไร มาเนียนอะไรตรงนี้เดี๋ยวมีคนมาเห็น"

ยังไม่ทันที่ทิฟฟานี่จะได้สัมผัสกับพวงแก้มของแทยอนนั้น ก็รู้สึกได้ถึงแรงดันเบาๆที่ช่วงไหลผาย
พร้อมกับประโยคกระซิบปรามที่คนได้ยินต้องเผยรอยยิ้มออกมา หมายความว่าถ้าอยู่ในที่ลับตาคนเธอก็สามารถทำได้งั้นเหรอ
แต่ยังไม่ทันที่ทิฟฟานี่จะได้พูดอะไรต่อ แทยอนก็เดินออกไปก่อนเสียแล้ว
สองขาเรียวสาวเท้าออกตามไปทันที ก่อนจะไปคว้าเอาเรียวแขนของคนตัวเล็กมาควงไว้เช่นทุกครั้ง


เมื่อการแสดงทั้งหมดจบลงทุกคนก็อย่างเดินกลับไปยังห้องแต่งตัวของตัวเองเพื่อจัดการเปลี่ยนชุดโดยส่วนใหญ่ และเอาสัมภาระที่ทิ้งไว้ระหว่างขึ้นแสดง
ซึ่งทั้งสามสาว แทยอน ทิฟฟานี่ และซอฮยอนก็เช่นกัน ระหว่างทางเดินกลับไปยังห้องแต่งตัวพวกเธอก็ทักทายเพื่อนฝูงคนรู้จักไปแทบจะตลอดทาง

แทยอนที่เดินนำมาเป็นคนแรกเมื่อถึงห้องแต่งตัวที่มีป้ายชื่อพวกเธอแปะอยู่ที่ประตู มือเล็กก็เอื้อมเคาะสองสามทีตามมรรยาทก่อนจะเปิดมันเข้าไป
แต่เมื่อพบว่าใครที่อยู่ในห้องนั้นคิวบางๆที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางก็ยกขึ้นสูงอย่างแปลกใจ

"มากันแล้วเหรอคะ"

เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยทักถามผู้ที่เดินเข้ามาอย่างร่าเริงตามแบบฉบับของเธอ
จากสีหน้าของทั้งสามคนดูจะแปลกใจไม่น้อยเลยที่พบว่าเธอนั่งอยู่ตรงนี้



"ยุนอา มาได้ไงเนี่ย"

แทยอนถามอย่างไม่อยากเชื่อสายตาว่ายุนอานั่งอยู่ที่หน้ากระจกนั้นจริงๆ หรือเธอจะคิดถึงเขามากไปจนตาลายเหรอ บ้าและ
แต่สองขาเรียวก็ก้าวไปยืนข้างๆอีกคนอย่างรวดเร็วมือเล็กวางลงบนไหลผ่ายจากด้านข้างของคนที่นั่งอยู่
ราวกับจะย้ำให้ตัวเองได้มั่นใจว่าเธอไม่ได้คิดไปเองหรือตาลายอย่างที่คิด แต่ยุนอานั่งอยู่ตรงนี้จริงๆ
อยากจะดึงมากอดแน่นๆอยากจะกดจูบหนักๆให้หายคิดถึง แต่ก็ยังทำไม่ได้เมื่อภายในห้องนั้นไม่ได้มีแค่พวกเธอ

"พี่ก็ถามแปลก ยุนก็นั่งรถมาสิคะ"

แม้ว่าคำตอบของยุนอาจะเรียกฝ่ามือของแทยอนให้ฝาดลงมาที่ไหล่ของตัวเอง แต่ยุนอาคิดว่ามันเป็นคำตอบที่ดี
ที่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของคนอื่นๆภายในห้องให้หัวเราะออกมา ทั้งที่รู้ดีว่าคำถามของแทยอนมีความหมายมากกว่านั้น
ยุนอาผุดลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆร่างเล็ก

"พี่แทไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะค่ะ ...ยุน 'หิว' จะแย่แล้ว"

น้ำเสียงตอนท้ายประโยคนั้นเบาจนแทบกระซิบเสียงพร่าเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน เพราะยุนอาตั้งใจเน้นเสียงตรงคำว่าหิวนั้น
เล่นเสียจนคนฟังต้องรอบยิ้มออกมา บ้าสิ มาหงมาหิวอะไรตอนนี้ คนเยอะแยะ ถ้าอยุ่กันสองคนก็ว่าไปอย่าง -///-
ส่วนในต้นประโยคนั้นก็ไม่ได้มีใครใส่ใจอะไรมากมายนัก เพราะทุกคนรู้ดีว่าแทยอนก็เป็นแบบนี้
แบบที่ถ้ามีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจถึงจะแค่เล็กๆน้อยๆก็พลอยจะลืมว่าตัวเองกำลังจะทำอะไร
จนต้องมีคนคอยเตือนอยู่เสมอ ซึ่งปรกติก็จะเป็นยุนอาไม่ก็ทิฟฟานี่เสียส่วนใหญ่
ส่วนน้อยก็เพื่อนๆในวงรวมไปจนถึงพี่ผู้จัดการพี่เมคอัพ บรา บรา



เมื่อทั้งสามสาวเปลี่ยนชุดกันเรียบร้อยแล้วทั้งหมดก็ออกไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว
เพื่อจะไปร้านอาหารก่อนที่พี่ผู้จัดการจะไปส่งกลับหอกัน

"สรุปทำไมถึงมาได้เนี่ย"

หันไปถามร่างสูงข้างๆเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน ถึงแม้พวกเธอจะนั่งเบาะหลังถัดมาจากทิฟฟานี่และซอฮยอนก็ตาม
ซึ่งปรกติแล้วยุนอาจะนั่งแถวหน้าสุดไม่ก็นั่งเบาะข้างคนขับ
แต่วันนี้มันมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้ยุนอาเนียนมานั่งเบาะหลังกับแทยอนได้ไม่ยากเท่าไร
ในคำถามของแทยอนนั้นถ้าคนที่ไม่คิดอะไรฟังแล้วมันก็เป็นแค่คำถามธรรมดาๆ แต่ยุนอาเข้าใจมันมากกว่านั้น

"ก็ตอนที่กลับมาถึงอินชอนมันก็จวนจะเย็นแล้วพี่ผู้จัดการเลยเสนอว่าให้รอไปกินข้าวพร้อมแททิซอเลยไหม"
"รออีกสองสามชั่วโมง ฉันเลยหาขนมกินลองท้องไปนิดหน่อยแล้วก็ออกมานั่งรออยู่ในห้องแต่งตัวนั่นแหละ"

ยุนอาเล่าเสียงกระซิบแบบรวบรัดตัดฉับเพื่อคนตัวเล็กเข้าใจมันได้ง่ายๆ ไม่รู้จะเรียกว่าบังเอิญหรือโชคเข้าข้างดี
ทั้งๆที่ตอนแรกยุนอาก็คิดไว้แล้วว่าค่อยรอเจอแทยอนที่ห้องหลังจากที่แทยอนกลับมาจากงานแสดงเลยแล้วกัน
แต่จู่ๆพี่ผู้จัดการก็เป็นฝ่ายชวนเธอออกมาเสียอย่างนั้น และยุนอาเองก็รีบรับคำอย่างไม่ต้องคิดเลย
โดยให้เหตุผลเรื่องอาหารที่มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอนั้นเบี่ยงเบนความสนใจของพี่ผู้จัดการไปได้เสียหมด

"เลยรีบเลยสิ"

เมื่อประมวลผลเรื่องที่ยุนอาเล่ามาแล้วแทยอนเองก็อดหมั่นไส้ไม่ได้เลยจริงๆ แต่ถามว่าดีใจไหมที่ได้เจอยุนอาเร็วขึ้นแบบนี้
แทยอนตอบอย่างไม่ต้องคิดเลยว่า ดีใจมาก ตอนที่เปิดประตูเข้าไปในห้องแต่งตัวนั่นแล้วเห็นว่ายุนอานั่งอยู่ด้วย
เธอเองก็แทบจะลืมตัวถลาเข้าไปกอดจูบลูบไล้(?)ฟัดซ้ายฟัดขวา(?)อยู่แล้วแต่ดีหน่อยที่ยังพอมีสติ(?) เหลือบเห็นคนอื่นๆที่อยู่ในห้องก่อน

นั่งรถออกมาได้ไม่นานทั้งยุนอาและแทยอนก็เริ่มจะเกิดอาการไหล(?) เพราะตอนนี้มันก็ค่ำแล้วภายในรถก็ไม่ได้เปิดไฟ
จะมีก็แต่แสงจากจอสมาร์ทโฟนของทิฟฟานี่และซอฮยอนที่ยังคงสว่างอยู่ด้านหน้า
และนั่นก็ยิ่งทำให้มุมด้านหลังที่ยุนอาและแทยอนนั่งอยู่รู้สึกว่าตรงนี้มันมืดกว่า...

แทยอนเบียดกายเข้าใกล้ร่างสูงอย่างออดอ้อนศีรษะเอียงซบลงยังไหล่ผายที่คุ้นเคย คิดถึงเหลือเกิน...
ทั้งที่แขนเรียวยาวของยุนอานั้นก็ยังโดนร่างเล็กกอดไว้แนบชิดร่าง
ยุนอาเบี่ยงหน้าเข้าหาคนตัวเล็กอย่างเป็นต่อกดจมูกโด่งและกลีบปากบางลงบนเรือนผมของคนอายุมากกว่าด้วยความคิดถึง
แต่ดูเหมือนว่าแทยอนจะยังไม่พอใจใบหน้าใสหวานที่ยังเจือไปด้วยเครื่องสำอางนั้นเชิดปลายคางเงยขึ้นเล็กน้อย
กลีบปากบางประทับไล่ไปตามสันกรามของคนสูงกว่าอย่างรักใคร่
จนยุนอาต้องใช้มืออีกข้างประคลองดวงหน้าเรียวของแทยอนไว้ ก่อนจะเอ่ยกระซิบ

"เป็นรอยแล้วมั้งเนี่ย"

ถึงจะเอ่ยไปอย่างนั้นแต่ยุนอาก็ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่ตัวเองเอ่ยสักเท่าไร เมื่อลมหายใจอุ่นๆของแทยอนนั้นเป่ารดกลีบปากของเธออยู่
ไวเท่าความคิดยุนอาประทับจูบลงกับส่วนเดียวกันของแทยอนอย่างรวดเร็ว เรียวปากขยับป้อนจูบเย้ายวนต่างฝ่ายต่างคิดถึง ต่างคนต่างห่วงหา เฝ้ารอ...

ยุนอาผละจูบอ้อยอิ่งออกมาอีกครั้งแม้จะรู้สึกว่ามันยังไม่พอ ใช่ทั้งเธอและแทยอนยังรู้สึกว่ามันยังไม่พอ
แต่ถ้ามากกว่านี้ ในตอนนี้อารมณ์ของเราอาจจะประทุรุนแรงขึ้นมาได้ง่ายๆ เพราะแค่ในตอนนี้อารมณ์ที่ว่านั่นก็กรุ่นขึ้นมาชัดเจนแล้ว
แทยอนจับใบหน้าคมของยุนอาให้หันไปอีกทางเพื่อจะดูว่าสันกรามของร่างสูงนั้นมีรอยอย่างที่เขาบอกหรือเปล่า
แต่แล้วมือเล็กก็ต้องยกขึ้นปาดเอารอยลิปติกที่สันกรามของยุนอาออก แล้วกดจมูกโด่งรั้นเข้าที่ข้างแก้มอย่างหมั่นเขี้ยว

"รู้ไหมฉันเกือบกระชากเธอขึ้นมาจูบแล้วตอนที่เห็นเธอนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวน่ะ"

แทยอนกระซิบเอ่ยต่อ หลังจากที่คิดได้ว่าเราของหยุดสัมผัสวาบหวามแบบนั้นไว้ก่อน เพราะตอนนี้พวกเรายังอยู่บนรถ
และจุดหมายของตอนนี้ก็คือร้านอาหารไม่ใช่หอพัก มันคงไม่ดีเท่าไรหากเราปล่อยให้อารมณ์ร้อนนั้นประทุขึ้น

"รู้สิทำไมจะไม่รู้ สายตาพี่น่ะมันฟ้องทุกอย่างแหละ"

ยุนอากระซิบตอบพร้อมรอยยิ้มที่แทยอนรู้สึกว่ามันเซ็กซี่เหลือเกิน จนแทบอยากจะกระชากร่างสูงนี้มาประกบจูบอีกให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย
แต่ตอนนี้แทยอนควรจะอดใจไว้ก่อน ถึงห้องเมื่อไรนะ แม่จะรวบยอดให้หมด!

"อย่าเพิ่งยั่วพี่ได้ไหมยุนอา"

แทยอนกระซิบเสียงพร่าพลางใช้มือดันใบหน้าที่ยังเปื้อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นให้ออกห่าง แทยอนแพ้รอยยิ้มแบบนั้นของยุนอา
เพราะเพียงแค่ได้เห็นร่างกายเธอมันก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาเสียดื้อๆ
และยุนอาก็ดูเหมือนจะรู้ดีด้วยสิถึงได้ยังคงยิ้มอยู่แบบนั้นแกล้งเธออยู่ได้

"อะไรคะ ยุนยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ"

ยุนอาเลิกริ้วกระซิบถามกลับไปอย่างนั้น ก็แค่ยิ้มนี่แทยอนก็หาว่าเธอยั่วเขาซะอย่างนั้นเลย
จริงๆแล้วไม่ใช่ยุนอาไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มแบบไหนที่จะกระชากหัวใจแทยอนได้มากที่สุด หรือต้องยิ้มแบบไหนเพื่อจะให้คนตัวเล็กนั้นรู้สึกอย่างไร



.




... แต่เลือกฉัน เลือกฉันได้ไหม ...

... ฉันจะดูแลเธอให้ดี ...




บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารก็ไเป็นไปอย่างที่เคยเป็น แทยอนนั่งข้างทิฟฟานี่
ส่วนยุนอาก็นั่งข้างซอฮยอน และพี่ผูจัดการอีกสองคนนั่งข้างทิฟฟานี่และซอฮยอนอีกที
รับประทานมื้อค่ำกันไปคุยนู่นคุยนี่กันไปเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ
ทิฟฟานี่ก็ทำหน้าที่คอยคีบนู่นคีบนี่ใส่จานให้แทยอนเหมือนทุกครั้ง พลางรอบมองดวงหน้าใสที่เธอหลงรักเต็มหัวใจ
วันนี้แทยอนดูมีความสุขเต็มที่ต่างไปจากเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด เพราะอะไรนั้นทิฟฟานี่ก็รู้ดีอยู่

อีกทั้งสายตาที่เหลือบมองยุนอาที่นั่งฝั่งตรงข้ามอยู่เรื่อยๆนั้น ทำให้ทิฟฟานี่รู้สึกว่าหัวใจของเธอมันเต้นช้าลงเรื่อยๆเช่นกัน
จากที่มันเคยพองโตจนถึงวินาทีสุดท้ายที่พบยุนอา ถึงจะรู้อยู่แล้วว่านี่คือเหตุการณ์ที่ต้องเกิดขึ้นและเธอเองก็ไม่สามารถเลี่ยงมันได้
และเธอคิดว่ามันก็เหมือนปรกติที่เคยเป็นมาก่อนที่ยุนอาจะไปถ่ายละครในประเทศจีน
แต่พอเอาเข้าจริงทิฟฟานี่กลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างอ่อนแอเสียเหลือเกิน

แค่ตอนอยู่บนรถที่เธอบังเอิญหันไปเห็นแทยอนกับยุนอาจูบกัน แค่นั้นเรี่ยวแรงที่เคยมีก็พลันหายวับไป
ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นเรื่องปรกติทั่วไปที่สองคนนั้นจะจูบกันหรือทำอะไรมากกว่านั้น ก็เขาเป็นคนรักกันนี่

"อิ่มแล้วเหรอฟานี่"
แทยอนหันไปถามเพื่อนสาวที่เอาแต่นั่งนิ่งอยู่ข้างเธอมาหลายอึดใจ ซึ่งเธอเองก็ไม่เห็นว่าทิฟฟานี่จะได้กินอะไรเข้าไปสักเท่าไรเลย
ทิฟฟานี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูดคนตัวเล็กนั้นดึงเธอกลับออกมาจากห้วงความคิดอันไกลแสนไกล
ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาเพื่อปรกปิดความรู้สึกและส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ

มือเรียวข้างซ้ายที่ควรจะวางอยู่บนหน้าขาของตัวเองนั้น ก็เลื่อนไปวางที่หน้าขาของคนข้างๆ
แทยอนหลุบตาลงมองเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไรพลางหันกลับไปจัดการกันอาหารในตรงหน้าต่อ
แทยอนทำเหมือนทุกอย่างเป็นปรกติดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้เรียวนิ้วของทิฟฟานี่นั้นจะเริ่มขยับไล้ไปมาอยู่แถวหน้าขาของเธออยู่ก็ตาม
ราวกับว่าทิฟฟานี่นั้นพยายามจะบอกอะไร ผ่านสัมผัสนั้น และในตอนนี้แทยอนไม่สามารถคิดไปในทางอื่นได้เลย...



.


.



เมื่อกลับมาถึงหอพักต่างคนก็ต่างแยกย้ายเข้าห้องนอนของตัวเอง? ไม่สิ
ซอฮยอนกับยุนอาน่ะเข้าห้องนอนตัวเอง แต่แทยอนน่ะเข้าห้องนอนยุนอา แบบนี้ถึงจะถูก
แล้วนั่นก็ให้ทำเหลือก็เพียงแต่ทิฟฟานี่ที่ยังคงนั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาวในห้องรับแขก
ไม่รู้ทำไมแต่ยังไม่อยากเข้าห้องนอน หรืออาจเป็นเพราะคืนนี้เธอต้องกลับมานอนคนเดียวที่ห้องตัวเองเหมือนอย่างที่เคยเป็น

เฮ้อ... เสียงระบายลมหายใจยาวๆดังขึ้น ราวกับเหนื่อยล้ามาแรมปี
แผ่นหลังเอนราบไปกับพนักพิงพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสูงปิดเปลือกตาลง พยายามดับความฟุ้งซ่านในใจ
แน่นอนว่าอาการแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วซึ่งทิฟฟานี่เองก็ไม่อาจคาดเดา
เพียงแต่ครั้งภายความรู้สึกมันเด่นชัดมากกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมาเท่านั้นเอง
หรือเพราะช่วงเวลาที่ยุนอาไม่อยู่นั้นมันนานเกินไปจนเธอดันไปคุ้นชินกับการที่ได้นอนกอดแทยอนทุกคืนแล้วอย่างนั้นหรือ




แกร๊ก

ทิฟฟานี่ก็ไม่แน่นใจนักว่าเธอนั่งอยู่แบบนี้มานานแค่ไหนแล้วแต่รู้ตัวอีก ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น
เรียกให้ร่างบางนั้นเปิดเปลือกตาขึ้นและมองไปยังต้นเสียง ก่อนจะเห็นร่างเล็กที่คุ้นเคยเดินออกมา

"ยังไม่เข้าห้องอีก?"

แทยอนถามพลางเดินเลยคนที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงยาวนั้นไปแล้วหยุดที่หน้าตู้เย็น
มือเล็กเลือกหยิบโยเกิร์ทพร้อมดื่มออกมาสองสามขวด แต่ยังไม่ทันจะได้ปิดประตูตู้เย็นดี
แทยอนก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจแม้มันไม่ได้มากมายเท่าไรนัก เมื่อจู่ๆก็โดนสวมกอดจากด้านหลังแบบนี้
มือเรียวของคนด้านหลังกระชับกอดแน่นขึ้นพลางซุกใบหน้าลงกับซอกคอขาวที่ถูกรวบเรือนผมขึ้นเป็นหางม้าอย่างลวกๆ
และแทยอนก็ต้องนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อรู้สึกได้ชัดเจนว่าคนที่โอบกอดเธอจากด้านหลังนั้น
เริ่มซุกไซร้สูดลมหายใจแรงๆพร้อมกับไล่พรมจูบไปตามลำคอของเธอ


"ทิฟฟานี่..."

แทยอนเอ่ยเรียกอีกคนเบาๆราวกับพยายามจะดึงสติของร่างบางนั้นให้กลับมาเสียที
มือเล็กวางขวดโยเกิร์ทพร้อมดื่มที่เพิ่งหยิบออกมาไว้บนหลังตู้เย็นแล้วดันประตูให้ปิดสนิท
ก่อนจะพยายามหันหน้าไปมองอีกฝ่าย อย่างไม่เข้าใจ
ทำไมทิฟานี่ถึงได้ทำแบบนี้ทั้งที่มันไม่ควรเกิดขึ้น และที่ผ่านมามันก็ไม่เคยเกิดขึ้น แล้วทำไมวันนี้ถึงได้..
ซึ่งตอนนี้ทิฟฟานี่ได้หยุดการกระทำนั้นไปแล้วแต่ดวงหน้าหวานยังคงซุกเข้ากับซอกคอขาวเนียนชวนสัมผัส
มือเล็กยกขึ้นดันไหล่ของอีกฝ่ายอย่างเบามือเพื่อให้ร่างบางผละออก และเพื่อรักษาความรู้สึกของทิฟฟานี่ไว้ให้มากที่สุด

ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของทั้งคู่อีก เหลือสายตาที่สบประสานกัน
ดวงตาเรียวสวยที่อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหลที่สามารถดึงดูดหัวใจของใครหลายๆคนได้ง่ายๆเพียงเสี้ยววินาทีนั้น
ตอนนี้ช่างดูออดอ้อนเว้าวอนเหลือเกิน ราวกับทิฟฟานี่กำลังจะใช้เพียงดวงตาสะกดให้แทยอนเผลอใจ...

ให้คนๆนั้นเป็นฉันได้ไหมแทยอน...

คำขอร้องที่ดังก้องอยู่เพียงในหัวใจ ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังจะหวัง
และปล่อยให้ความหวังที่สร้างขึ้นมานั้นหวนกลับมาทำร้ายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แทยอนยกมือเล็กขึ้นมาลูบไล้ดวงหน้าหวานแผ่วเบา เธอยอมรับว่าเธอมีความรู้สึกดีๆกับทิฟฟานี่นะ แต่...

"เข้าห้องนอนได้แล้วฟานี่ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้ ฉันรู้สึกไม่ดี"

แทยอนเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะหันไปหยิบขวดโยเกิร์ทที่วางไว้ แล้วเบี่ยงตัวเดินผ่านร่างบางตรงกลับเข้าห้องยุนอาไป
ทิฟฟานี่ได้แต่มองบานประตูที่ปิดลง ถึงแม้ว่าแทยอนจะหันกลับมามองเธอเพียงแว๊บเดียว
แต่ทิฟฟานี่กลับเห็นได้ชัดเจน สายตาของแทยอนดูอ้อนวอนอย่างที่เธอไม่เคยได้รับจากร่างเล็กมาก่อน

ดวงตาสวยปิดเปลือกตาลงช้าๆก่อนจะระบายลมหายใจยาวๆออกมาอีกครั้ง
พยายามไล่ความคิดความรู้สึกที่มากมายในตอนนี้ออกไปเสียที
เธออยากเป็นคนๆนั้นที่คอยดูแลได้อย่างใกล้ชิด ได้นอนกอดทุกๆคืน
ได้จูบอันแสนหวานได้เป็นเจ้าของหัวใจของแทยอน อย่างที่ยุนอาเป็นอยู่ตอนนี้...


... โปรดถามใจเธออีกที ...

... เพราะทั้งใจฉันมันยังมีแค่เธอ ...






.




"หึ้ม?เมื่อกี้กินไม่อิ่มหรือยังไง"

เมื่อบานประตูปิดลงพร้อมกับร่างของแทยอนที่ก้าวเข้ามา เสียงของคนที่อยู่ในห้องก็เอ่ยทักขึ้นอย่างนั้น
แทยอนยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่บนเตียงกลิ่นแชมพูหอมๆที่ลอยตลบอบอวนนั้นพาให้ร่างเล็กเผลอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด

หลังจากที่แทยอนถูกยุนอาจับอาบน้ำให้(?)แล้วเธอก็ออกมาแต่งตัวก่อน ระหว่างที่รอยุนอาจัดการตัวเองอยู่นั้น
ร่างเล็กจึงเดินออกหาหาเสบียงไว้เพื่อหิวกลางดึก(?)ซึ่งมันเป็นเรื่องปรกติของเธอกับยุนอา

"เปล่า... ไม่ได้เอามากินตอนนี้สักหน่อย"

ตอบพลางเดินไปเปิดตู้เย็นไซต์นิมิที่ยุนอาซื้อไว้ใช้เป็นส่วนตัว แล้วเอาขวดโยเกิร์ทที่ถือมานั้นใส่แช่ไว้ในนั้น มือเล็กดันปิดประตูตู้เย็นกลับตามเดิม
ก่อนจะคลานขึ้นเตียงของยุนอาแล้วเข้าประชิดกายร่างสูงที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกลางเตียงทันที สองแขนเรียววาดโอบรอบคอของยุนอาไว้ เพื่อให้กายบางแบบชิดเข้ามาอีก

กลีบปากอิ่มเผยองับเอาส่วนเดียวกันอย่างหยอกล้อ ยุนอาก็ขยับเรียวปากจูบตอบร่างเล็กไป คิดถึงเหลือเกิน มือเรียวยกขึ้นโอบรอบเอวบางของแทยอนไว้
พลางดึงรั้งให้ร่างเล็กนั้นขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก ทั้งที่กลีบปากนั้นยังคงป้อนจูบอันแสนหวานให้กันและกันอยู่ไม่ห่าง






เดี๋ยวที่เหลือไปต่อกันใน PM นะคะ หึหึ /me ยกยิ้มชั่วร้าย




.





.





.



แกร๊ก





"ยุนอา..."








"พี่ฟานี่..."





.







ตัดฉับ ! 






------------------------------------------------------------------



Talk: 

จบแล้วค่าาาา จบแบบค้างคา ชวนโดนถีบ แฮ่
เราเปล่าใจร้ายนะ 
รีดอาจอยากถามว่า "เฮ่ยยอิไรท์เขียนชื่อผิดป่ะวะ" ไม่ผิดค่าาา
ยุนอา และ พี่ฟานี่ ไม่ผิดค่าาา
เดี๋ยวได้อ่านในพีเอ็มคงจะเข้าใจว่ามันไปไงมาไง นะคะ

คือหลังๆเนี่ยพยายามจะทำให้ฟานี่ดูเพ้อหน่อย
เพราะเราอยากให้ความรู้สึกของตัวละครตัวนี้เข้าถึงใจรีดเดอร์
แต่ก็พยายามจะไม่ดราม่าเช่นกัน
เพราะนึกถึงหลักความจริงถ้ามีดราม่าปุ๊บพวกนางอาจจะจะมองหน้ากันยากขึ้น

ส่วนตอนนี้มาเป็นยุนบ้างฟานี่เกินครึ่ง มีแทมานิดหน่อยเหมือนเดิม งิงิ
หวังว่ารีดจะเข้าใจสิ่งที่ยุนพยายามและทำอยู่นะคะ
ส่วนในพีเอ็มนี่อย่างที่เคยบอกไว้ในทอล์คตอนแชปแรกว่ามันอาจจะทำให้เข้าใจความรู้สึกของตัวละครมากขึ้น
อาจจะทำให้รู้ว่าแทคิดอะไรยุนคิดอะไร ประมาณนั้น

ส่วนรูปประกอบอาจจะเก่าไปหน่อย? แต่เรารู้สึกว่ามันใช่อ่ะ เลยเอากลับมาใช้ แฮ่

แล้วก็ลงชื่อกันไว้เลยนะคะสำหรับ PM เดี๋ยวปั่นเสร็จแล้วจะส่งให้ค่า ไม่รู้จะ20+ได้ไหมนะ 55555

แล้วที่ขาดไม่ได้ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาติดตามนะคะทั้งเรื่องใหม่เรื่องเก่า
อาจมีคำผิดอยู่บ้างต้องขออภัยด้วยนะคะ




No comments:

Post a Comment