รู้ฉันรู้ยังไงก็คงไม่ต่าง...
รู้ฉันรู้ยังไงเธอก็เลือกเขา...
รู้ถึงฉันขอร้องยังไง...
เธอคงต้องลืมเรื่องของเรา...
เพราะว่าเขาดีกว่า...
เพราะเขาสำคัญกว่า...
"ไปส่งยุนที่อินชอนมาเหรอ"
แทยอนมองไปตามเสียงที่เอ่ยทักขึ้น หลังจากที่เธอก้าวผ่านประตูเข้ามายังห้องน้่งเล่นของหอพัก
ร่างเล็กพยักหน้าเล็กน้อยเชิงตอบรับ พลางสาวเท้าเดินไปนั่งลงข้างๆอีกคน
เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แทยอนไปส่งยุนอาที่สบายบินอินชอน
แต่แทยอนและยุนอาทำแบบนี้ทุกครั้งที่ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งไปขึ้นเครื่องแล้วอีกคนไม่มีตารางงาน
"กินไรมายังอ่ะกินด้วยกันเปล่า"
เสียงหวานยังคงเอ่ยถามคนตัวเล็กอย่างที่ผ่านมา ไม่ว่าจะนานแค่ไหนทิฟฟานี่ก็เป็นเหมือนเดิม
พลางยื่นขนมปังมาให้ ซึ่งแทยอนก็รับมาอย่างว่าง่าย
"จริงๆก็กินแล้วแหละ แต่กินกับฟานี่อีกก็ได้"
พูดจบก็ส่งยิ้มให้เพื่อนสาวไปทีนึง แล้วยกขนมปังขึ้นมากัด
วันนี้ก็ไม่มีงานอะไรด้วยสิสำหรับแทยอนแล้วถ้ายุนอาไม่อยู่แบบนี้ ก็นั่งเล่นนอนเล่นไปวันๆ
"วันนี้ออกไปช้อปปิ้งกันไหมจะได้ไม่เบื่อ"
แทยอนได้ยินคำชวนนั้นของทิฟฟานี่ก็พยักหน้ายิ้มรับทันที ไม่มีผลเหตุที่จะต้องปฏิเสธ
เพราะอยู่หอเฉยๆมันก็น่าเบื่อ อีกอย่างออกไปกับทิฟฟานี่ก็สนุกดีอยู่แล้ว
ด้วยความที่ทิฟฟานี่เป็นคนช่างพูดและคุยเก่งอย่างที่ใครๆก็รู้นั่นแหละ
แทยอนรู้สึกว่าการที่ไปไหนมาไหนกับเพื่อนสาวคนนี้นั้นเธอไม่เคยเบื่อเลยจริงๆ
ถึงจะมีเรื่องให้ต้องเครียดกลุ้มใจหรือแม้กระทั่งเวลาที่ยุนอาต้องแยกไปทำงานเดี่ยวแบบนี้
ทิฟฟานี่ก็ยังสามารถทำให้แทยอนยิ้มได้เสมอ
การช้อปปิ้งที่จริงๆแล้วใช้เวลาหลายชั่วโมงแต่แทยอนกลับรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน นี่ถ้ายุนอาไม่โทรมารายงานว่าถึงที่พักแล้ว
แทยอนก็คงจะยังคิดว่าเวลาผ่านไปแค่ยี่สิบสามสิบนาทีเท่านั้น เพราะแค่เดินตามทิฟฟานี่ที่เหมือนจะวาปจากร้านแรกไปร้านที่หกได้นี่แทยอนก็แทบลืมเวลาแล้ว
แล้วพอเดินเข้าร้านไปก็เลือกดูของตัวเองบางทิฟฟานี่ถือมาให้ดูบ้าง หรือบางทีแทยอนก็ถือไปให้ทิฟฟานี่ดูบ้างตามประสาสาวๆเวลาช้อปปิ้ง
ก็แค่ถามไถ่ความคิดเห็นหรือบางทีก็มีแบบที่เห็นชุดนี้แล้วแบบเฮ้ยทิฟฟานี่ใส่แล้วต้องดูดีมากแน่ๆ อะไรแบบนั้นแล้วก็ถือไปให้เจ้าตัวดู
หรือก็มีบางครั้งที่แทยอน้ดินถือชุดสวยๆไปถามทิฟฟานี่ว่าถ้ายุนอาใส่จะเป็นอย่างไร
ต้องสวยมากแน่ๆเลยอะไรแบบนั้น แต่ส่วนมากคำตอบที่ได้รับก็เหมือนจะเป็นคำตอบคล้ายๆกันทุกครั้งคือ
"ยุนอาน่ะสวยอยู่แล้วหุ่นก็ไม่มีที่ติใส่ยังไงก็สวย"
และถูกครั้งที่ได้รับคำตอบแบบนั้นแทยอนก็อดยิ้มไม่ได้ ที่ทิฟฟานี่พูดมามันถูกทุกข้อเลย ยิ่งเป็นแทยอนที่เคยได้รู้จักยุนอาแบบลึกซึ้งแล้วด้วย
ยิ่งทำให้แทยอนยิ่งมั่นใจในความเพอร์เฟคของยุนอามากขึ้น เพราะได้สัมผัสกันและกันมาก็ไม่น้อยคบกันมาก็หลายปีจนถึงทุกวันนี้แทยอนยังหาจุดบกพร่องของยุนอาไม่ได้เลยจริงๆ
.
ระหว่างทางกลับหอทิฟฟานี่และแทยอนก็แวะหาอะไรใส่ท้องกันก่อนเพราะเริ่มจะได้ยินเสียงโวยวายเล็กๆจากท้องของตัวเอง
ก็ไม่แปลกเท่าไรหรอกตั้งแต่มื้อเช้าที่กินไปกับการเดินช่อปปิ้งทั้งวันมีเพียงกาแฟหรือน้ำเท่านั้นที่ได้รับลงท้องตามไป อีกทั้งของที่ช้อปปิ้งกันมานี่ก็ไม่น้อยเลยที่เดียว
ทั้งแทยอนและทิฟฟานี่ไม่ได้แต่งตัวปรกปิดตัวเองอะไรมากมายนัก เพียงแค่ใส่หมวกแก๊ปและเสื้อโค้ดเท่านั้น เนื่องจากอากาศที่เริ่มเย็นตามช่วงเวลา
จึงทำให้คนส่วนใหญ่ก็แต่งตัวกันแบบนี้ ทั้งคู่จึงไม่ดูเด่นสะดุดตามากนัก
กว่าจะจัดการกับอาหารตรงหน้าจนหมดก็ปาเข้าไปชั่วโมงกว่า แต่ก็ไม่ได้ทำให้แทยอนและทิฟฟานี่รีบร้อนอะไรมากนัก
วันนี้ทิฟฟานี่รู้สึกว่าเสียงโทรศัพท์ของแทยอนจะดังบ่อยมากสังเกตุตั้งแต่ตอนที่เดินซื้อของกันแล้วล่ะ แต่ก็พอจับใจความได้ว่าก็มีแต่ยุนอาเท่านั้นที่ติดต่อมา
จนทิฟฟานี่เองเกิดส่งสัยขึ้นมาว่าทำไมยุนอาถึงโทรมาได้บ่อยขนาดนั้น เพราะปรกติถ้าเข้ากองถ่ายปุ๊บนี่ก็แถบจะไม่ได้แตะโทรศัพท์เลย
แต่นี่ยุนอาเล่นโทรมาถี่ยิบหรือบางทีแทยอนก็เฟสไทม์ไปบ้างอย่างตอนที่เลือกซื้อรองเท้าให้ยุนอาในช็อปแบรนด์ชื่อดัง
สุดท้ายทิฟฟานี่ก็ทนความสงสัยของตัวเองไม่ไหวจนต้องเอ่ยปากถามเพื่อนตัวเล็กถึงสิ่งที่ข้องใจ แล้วก็ได้คำตอบมาว่าวันนี้ยุนอามีเวลาพักหนึ่งวัน
เริ่มเข้ากองถ่ายพรุ่งนี้วันแรก เท่านั้นแหละทิฟฟานี่ก็เข้าใจได้ไม่ยากจริงๆก็พอเดาออกอยู่แล้วแหละ
ถ้าไปถึงแล้วเข้ากองต่อเลยอาจจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพสักเท่าไรถึงจะไม่ได้รู้สึกเพลียหรืออ่อนล้าเท่าไรก็เถอะ ถึงยังไงแล้วก็ควรเซฟไว้ดีกว่า
.
.
.
นับจากวันที่ยุนอาบินไปถ่ายละครที่ประเทศจีนจนถึงวันนี้ก็เกือบจะสามอาทิตย์ได้แล้ว
โดยที่สมาชิกคนอื่นๆบางคนก็ว่างบ้างก็มีงานอีเว้นท์บ้างก็เข้าบริษัทเพื่อประชุมเตรียมตัวคัมแบ็ค แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการซ้อมเพลงใหม่เสียมากกว่า
หรือส่วนน้อยอย่างการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตรวมศิลปิน ซึ่งก็จะเป็นซับยูนิตอย่างแททิซอไปเข้าร่วม และรับรางวัลต่างๆของปีที่แล้ว
และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่พวกเธอทั้งเจ็ดคนเข้าไปที่บริษัทแต่ไม่ใช่เรื่องคัมแบคหากแต่เป็นเรื่องอีเว้นท์ทั่วไปพร้อมทั้งคอนเสิร์ตหรือไลฟ์ในช่วงนี้
ถึงแม้ว่าในตางรางงานเหล่านั้นจะมียุนอาร่วมด้วยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีงานที่ยุนอาไปร่วมด้วยไม่ได้เช่นกัน
เสียงระบายลมหายใจดังขึ้นอยู่เรื่อยๆตั้งแต่ประชุมเสร็จและแยกย้ายกันเดินทางกลับที่พัก
โดยส่วนใหญ่แล้วก็เลือกกลับไปนอนที่บ้านของตัวเองอย่างที่ผ่านๆมา
เหลือเพียงไม่กี่คนที่จะกลับไปพักผ่อนที่หอในคืนที่วันต่อไปไม่มีตารางแบบนี้
"แท...เป็นอะไรหรือเปล่าเธอดูแปลกๆไปนะ"
เสียงหวานเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กนั้นเอาแต่นั่งกดสมาร์ทโฟนด้วยสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดีอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่อยู่บนรถจนตอนนี้
ก็คงไม่แปลกที่เพื่อนสนิทอย่างทิฟฟานี่จะอดเป็นห่วงไม่ได้ ไม่พูดเปล่าขาเรียวสาวเท้าเดินไปนั่งลงข้างๆร่างเล็กของแทยอนที่นั่งอยู่บนโซฟาห้องรับแขกของห้องหอพัก
เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะหลายวันหรือแค่เมื่อวานนี้แทยอนก็ยังเป็นปรกติไม่ดูซึมไปขนาดนี้เลย
แทยอนละสายตาจากจอสี่เหลี่ยมเพื่อหันไปมองอีกคนที่เข้ามานั่งกับเธอระบายรอยยิ้มบางๆเชิงขอบคุณในความเป็นห่วง
ทิฟฟานี่มองเธอออกเสมอไม่ว่าเมื่อไรแทยอนก็ไม่เคยปิดบังอะไรทิฟฟานี่ได้เลยจริงๆ
แม้กระทั่งตอนนี้ถึงทิฟฟานี่จะไม่ได้พูดสาเหตุออกมาตรงๆ แต่แทยอนก็เชื่อว่าทิฟฟานี่ต้องรู้อยู่แล้วว่าอะไรหรือใครที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้
ทำไมทิฟฟานี่จะไม่รู้ว่าแทยอนเป็นอะไรถึงอีกคนจะไม่พูดอะไรเธอก็สามารถรู้ได้ว่าร่างเล็กนั้นกำลังรอใครติดต่อมาเช่นทุกวัน
แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะผิดเวลาไปหน่อย เพราะนี้มันก็จะตีสองอยู่แล้ว ทิฟฟานี่ยังไม่เห็นแทยอนคุยเฟสไทม์หรือแค่คุยโทรศัพท์ก็ยังไม่ได้ยินเลยตั้งแต่เช้า
ตอนแรกทิฟฟานี่ก็ไม่คิดจะมารบกวนแทยอนหรอกแต่พอเห็นคนตัวเล็กนั้นเอาแต่นั่งถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่ามาหลายชั่วโมงหลังจากกลับมาจากบริษัทตอนหัวค่ำ
เธอก็อดห่วงไม่ได้เพราะที่ผ่านมาแทยอนไม่เคยเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง ทิฟฟานี่รู้ดีว่าแทยอนโตพอที่จะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้อย่างสบายๆ
แล้วทำไมวันนี้เพื่อนตัวเล็กของเธอถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้นะ หรืออาจจะเป็นเพราะไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้หรือเปล่าข้อนี่ทิฟฟานี่เองก็ได้แต่ไตร่ตรองอยู่
แต่ห้วงความคิดทั้งหมดก็ต้องอยู่ลงเมื่อรู้สึกได้ถึงไออุ่นที่ไหล่ผายของตัวเอง เลื่อนสายตากลับไปโฟกัสตรงจุดที่ได้รับความรู้สึก
ก็พบว่าอีกคนที่ยังคงถือเครื่องมือสื่อสารอยู่ในมือนั้นได้เอนศีรษะลงมาพักพิง อดยกยิ้มอย่างเสียไม่ได้จริงๆพลางยกมือขึ้นลูบเรือนผมนุ่มอย่างปลอบโยน
"ไปอาบน้ำก่อนดีไหม จะได้ไปนอนรอสบายๆในห้อง มานั่งหลังแข็งอยู่แบบนี้คงไม่ดีเท่าไรมั้ง"
ถึงแม้จะรู้สึกดีอยู่ไม่น้อยกับการที่มีแทยอนนั่งพิงซบไหล่อยู่แบบนี้
แต่ทิฟฟานี่ก็เลือกที่จะเป็นห่วงร่างเล็กนั้นมากกว่าความรู้สึกของตัวเองอย่างทุกครั้ง
"แล้วถ้ายุนโทรมาตอนฉันอาบน้ำล่ะ"
แทยอนท้วงขึ้นเบาๆทั้งที่ยังซบไหล่ผายของอีกคนอยู่อย่างนั้น พลางเลื่อนใบหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อจะได้มองเห็นหน้าของเพื่อนสาวที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว
แต่นั่นทำให้ทั้งคู่นิ่งไปเล็กน้อยเพราะปลายจมูกโด่งรั้งของแทยอนนั้นแทบก็สะกิดปลายคางมนของทิฟฟานี่อยู่แล้ว ...ใกล้ไปไหม
"เดี๋ยวฉันรับให้ก่อนก็ได้ ว่าแต่ทำไมเธอไม่ลองโทรไปก่อนดูบ้างล่ะ นี่มันก็ดึกแล้วนะ หรือว่าวันนี้มีถ่ายฉากกลางคืนหรือเปล่า"
ทิฟฟานี่พยายามพูดตอบกลับไปราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรกับความใกล้ชิดระหว่างเธอกับแทยอนสักเท่าไร ทั้งที่ในหัวใจนั้นกรีดร้องดีดดิ้นจนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว
ยิ่งใกล้ก็ยิ่งทำให้สติสัมปชัญญะลงน้อยลง ดวงตาเรียวสวยนั้นก็เริ่มไล่สำรวจดวงหน้าขาวใสของแทยอนอย่างลืมตัว
สุดท้ายทิฟฟานี่ก็เผลอกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้อย่างห้ามไม่ได้
เมื่อสายตานั้นเลื่อนมาหยุดตรงที่ส่วนนั้นของแทยอน กลีบปากอวบอิ่มสีฉ่ำหวานยิ่งมองก็ยิ่งอยากสัมผัสมันเหลือเกิน
"ฉันโทรไปหลายครั้งแล้วล่ะ แต่ยุนไม่รับ"
แทยอนพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงแล้วเดินเข้าห้องไป โดยที่ไม่ลืมวางเครื่องมือสื่อสารไว้กับทิฟฟานี่ที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
ไม่ใช่ไม่รู้หวานดวงตาหวานๆของทิฟฟานี่นั้นจับจ้องอะไรอยู่แต่เป็นเพราะนั่นแหละแทยอนจึงเลือกที่จะลุกออกไปก่อนที่อะไรๆมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
.
เสียงเนื้อผ้าเสียดสีกันยังคงดังขึ้นเป็นระยะๆ จากการพลิกตัวไปมาหลังจากที่แทยอนตัวสินใจแล้วว่าจะนอนไปก็ก่อน ก็จัดการปิดไฟและเอนตัวลงนอน
ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะทิฟฟานี่มานอนที่ห้องของเธอด้วยนั่นแหละ ไม่อยากให้อีกคนต้องได้พักผ่อนไม่เพียงพอไปด้วย
แต่พยายามจะหลับยังไงแทยอนก็หลับไม่ลงสักที พอหลับตาหน้าของยุนอาก็เด่นชัดขึ้นมาในห้วงความคิด จนต้องเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง
พาลคิดไปต่างๆนาๆทั้งเป็นห่วงว่าอีกคนจะเป็นอะไรหรือเปล่าเพราะปรกติถ้าถึงกองถ่ายแล้วยุนอาก็จะโทรหรือแชทมารายงานแทยอนตลอด
ว่าวันนี้เป็นอย่างไรถ่ายเป็นไงบ้างอาหารการกินของกองถ่ายที่นู้นรสชาติเป็นไง บลาๆ
แต่วันนี้ยุนอาเล่นหายเงียบไปตั้งแต่เช้า จะแชทจะโทรจะเฟสไทม์ก็ไม่มีวี่แววเลยจะให้แทยอนนิ่งอยู่อย่างสบายใจได้อย่างไรกันล่ะ
อย่างน้อยถ้ามีติดต่อมาบอกก่อนว่าวันนี้อาจจาไม่ได้ตอบแชทบ่อยนะเข้าซีนยาวอะไรก็ยังดี แล้วยิ่งห่างกันนานหัวใจของแทยอนก็ยิ่งคิดถึง
แทบจะนับนาทีรอวันที่ยุนอาจะกลับมาตามกำหนดเลยทีเดียว อยากจะกอดแน่นๆให้หายใจไม่ออกกันไปข้างนึง คิดถึงกลิ่นกายหอมๆของอีกคนอยากจะสูดดมให้ชื่นใจ
ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก็กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วจู่ๆเธอก็โดนสวมกอดจากด้านหลังเสียอย่างนั้น ใบหน้าใสหันกลับไปมองเจ้าของอ้อมกอดเล็กน้อย
แต่แทยอนก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร แค่ไม่คิดว่าทิฟฟานี่จะมาทำแบบนี้ในเวลาที่เธอกำลังคิดถึงใครอีกคน ...
"เขาว่ากันว่าถ้านอนไม่หลับต้องโดนกอดแล้วจะหลับสบาย"
เสียงหวานเอ่ยกระซิบเบาๆที่ข้างส่วนรับฟังของคนตัวเล็ก ทิฟฟานี่เองก็ไม่ได้มั่นใจอะไรกับสิ่งที่ตัวเองพูดสักเท่าหรอก แต่ตอนนี้เธอแค่อยากให้แทยอนเลิกคิดมากเสียที
แทยอนได้ยินสิ่งที่อีกคนบอกออกมารวมถึงการกระทำแล้วก็อดระบายรอยยิ้งบางๆออกมาไม่ได้ เธอยอมรับว่ารู้สึกดีขึ้นเยอะจริงๆแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
"เรื่องเนียนๆนี่ขอให้บอก"
ถึงจะเอ่ยออกไปอย่างนั้นแต่แทยอนก็ไม่ได้ปัดป้องอะไรกับสัมผัสจากคนด้านหลัง ถึงในใจจะรู้เกียจตัวเองที่เป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้เธอก็อ่อนแอเกินกว่าจะปัดความหวังดีจากอีกคนทิ้งไป
ทิฟฟานี่เผยรอยยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้แม้ว่าจริงๆแล้วความรู้สึกลึกๆนั้นยังตีกันรวน เพราะรู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าแทยอนนั้นเป็นของใคร
แต่ในเมื่อตอนนี้แทยอนกำลังต้องการใครสักคนถึงแม้จะไม่นานหรืออาจแค่ชั่วข้ามคืน ทิฟฟานี่ก็ยินดีจะเป็นคนนั้น เพราะการทำแบบนี้เธอเองก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อยเลยเช่นกัน
ทิฟฟานี่ซุกใบหน้าเข้ากับแผ่นหลังที่มีเสื้อนอนบางๆนั้นปรกปิดผิวเนื้อขาวๆของแทยอนอยู่ แต่มันไม่ได้ทำให้กลิ่นหอมๆนั้นลดน้อยลงไปได้เลย
rrrrrr
ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ทิฟฟานี่ผละกายออกจากร่างเล็กของแทยอนอย่างอ้อยอิ่ง นึกเสียดายอยู่ไม่น้อย
แต่ทำไงได้ล่ะในเมื่อคนที่เขารอมาทั้งวันนั้นได้ติดต่อมาแล้ว ก็แค่ผละอ้อมกอดออกมาแต่ก็ยังนอนอยู่ข้างด้วยกันอยู่ดีนี่
แทยอนยื่นมือออกไปหยิบเครื่องมือสื่อสารที่ยังคงกรีดร้องมากดรับสายทันที
พลางขยับปรับองศาให้เข้าที่เพื่อจะได้เห็นหน้ากันทั้งสองฝ่าย
"ไอ้เด็กบ้าหายไปไหนมาทั้งวันห๊ะ! รู้ไหมฉันเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน"
ยังไม่ทันที่คนติดต่อมานั้นจะได้อ้าปากพูดอะไร แทยอนก็ว๊ากใส่จนอีกคนอดยิ้มออกมาไม่ได้
ยังจะมายิ้มอีก ใช่สิ ไม่เป็นคนรอไม่รู้หรอก ว่ามันทรมานแค่ไหน
[ใจเย็นก่อนสิคะ ยุนรู้ว่าแทเป็นห่วง ยุนขอโทษที่วันนี้ลืมโทรศัพท์ไว้ที่พักน่ะ เลยไม่ได้บอกก่อน พอกลับมาปุ๊บก็รีบโทรเลยนี่ไงหน้ายังไม่ล้างน้ำยังไม่ได้อาบเนี่ยดูสิ]
แค่ได้ยินเสียงหวานๆที่ฟังดูออดอ้อนแบบนั้นของยุนอา แทยอนก็หลอมละลายไปหมดแล้ว ทั้งที่อยากจะโกรธอยากจะงอนแค่ไหน
แต่สุดท้ายรอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ สายตาก็ตั้งจับจ้องมองจอสี่เหลี่ยมที่อีกฝ่ายเดินไปส่องยังกระจกให้เห็นว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงนะ
จริงๆแล้วแทยอนลืมเรื่องที่อยากจะงอนยุนอาไปตั้งแต่ที่รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับแล้วล่ะ
แล้วยิ่งได้ฟังเหตุผลของอีกฝ่ายนั้นยิ่งไม่มีเรื่องอะไรที่แทยอนจะต้องงอนคนรักเลยแม้แต่น้อย
"อย่างยุนเนี่ยนะลืมโทรศัพท์ "
[ก็เมื่อเช้ายุนตื่นสายก็เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ลืมว่าเมื่อคืนตัวเองหลับคาสาย เอาง่ายๆคือลืมว่าโทรศัพท์อยู่บนเตียงน่ะ แฮ่]
แทยอนคิดตามที่ยุนอาเล่าก็พยักหน้าอย่างเข้าใจจริงอยู่ที่เมื่อคืนเธอกับยุนอาคุยกันจนดึกดื่นเพราะยุนอาบอกว่าเข้ากองตอนสายๆ เลยคุยกันเพลิน
พอรู้ตัวอีกทียุนอาก็เงียบหายไปแล้ว แทยอนก็พอเดาได้อยู่ว่าอีกคนคงเหนื่อยมากจนผลอยหลับไป
สุดท้ายก็เป็นแทยอนที่กดตัดสายเพื่อให้คนรักของเธอนั้นได้พักผ่อน
"แล้วพรุ่งนี้เข้ากองกี่โมงล่ะ ห้ามตื่นสายจนลืมโทรศัพท์อีกนะไม่งั้นแทงอนจริงด้วย"
เนื้อหาใจความที่พูดนั้นอาจเหมือนการคาดโทษนะ
หากแต่น้ำเสียงใสนั้นกลับฟังดูออดอ้อนเสียจนคนฟังต้องหลุดยิ้มออกมาอีก
[ค่า~ไม่ลืมแล้วค่ะ เดี๋ยวที่รักเค้าจะเฉาตายซะก่อน]
แทยอนได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่เบะปากอย่างหมั่นไส้คนรู้ทัน ก็คงไม่แปลกหรอกที่ยุนอาจะรู้ ในเมื่อเธอเล่นรัวทักแชทเวิ่นเว้อไปขนาดนั้น เชอะ
ก่อนจะสังเกตุเห็นว่ายุนอานั้นเอาโทรศัพท์ไปตั้งไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งในห้องพัก
"เดี๋ยวยุน! อย่าเพิ่ง"
เมื่อเห็นว่าร่างสูงนั้นกำลังจะปลดเปลื้องอาภรของเข้าออก แทยอนก็ท้วงขึ้นอย่างเร็วไว ถึงจะรู้ว่าทิฟฟานี่ไม่ได้มานอนดูหน้ายุนอาอยู่ด้วย
แต่จิตใต้สำนึกลึกๆก็ยังคงรู้สึกอยู่ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร จึงรีบโพร่งตัดการกระทำของอีกฝ่ายออกไปอย่างนั้น
[หึ้ม? พี่ฟานี่อยู่ด้วยเหรอคะ มองไม่เห็นเลย หวัดดีค่ะพี่ฟานี่~]
เมื่อแทยอนปรามออกมาอย่างนั้น ยุนอาก็ดูจะพยายามมองหาทิฟฟานี่ที่ปรกติหากแทยอนเฟสไทม์หรือคุยกับยุนอา ตอนทิฟฟานี่อยู่ทั้งสองคนก็จะทักทายกัน
พูดคุยกันเล็กๆน้อยๆตามประสา แล้วแทยอนก็รู้สึกได้ว่าอีกคนข้างๆกายเธอกำลังเอื้อมมือมาดึงโทรศัพท์จากมือของเธอไป
"ไงยุน~ วันนี้แทยอนแอบร้องไห้ขี้มูกโป่งเลย"
เมื่อจัดการแย่งเครื่องมือสื่อสารมาจากคนตัวเล็กได้แล้ว ทิฟฟานี่ก็ไม่รอให้เสียเวลาเอ่ยปากแซวอีกคนพร้อมทำหน้าล้อเลียนให้ยุนอาดูทันที
จนร่างเล็กข้างๆต้องตวัดค้อนวงโตมาให้อย่างห้ามไม่ได้ ไม่เพียงแค่นั้นยังมุ่ยปากอย่างงอนๆตามมาอีกแหนะ
[หึ้ม? จริงเหรอคะ]
ยุนอาก็เล่นด้วยกับทิฟฟานี่ซะงั้นเลย
ทั้งที่แทยอนเองก็รู้ว่ายุนอาก็แกล้งเชื่อทิฟฟานี่ไปอย่างนั้นแหละ แต่เธอเองก็อดหมั่นไส้ไม่ได้เลยจริงๆ
"ไม่ใช่ล่ะ ยุนอย่าไปเชื่อฟานี่ขี้โม้"
สุดท้ายแทยอนก็ทนความหมั่นไส้ที่ไม่ไหวดึงกล้องสมาร์ทโฟนมาส่องหน้าตัวเองพลางเอ่ยแก้ต่างทันที
ทั้งทิฟฟานี่ทั้งยุนอาต่างก็พากันหัวเราะคิกคักอย่างห้ามไม่ได้กับความรั้นของแทยอน แล้วก็ต้องยอมแพ้ให้กับคนตัวเล็ก
"คิคิ โอเคๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แต่ไม่ต้องห่วงนะยุนไม่อยู่เดี๋ยวพี่ดูแลแทเอง ^^"
ทิฟฟานี่ดึงมือที่ถือเครื่องสี่เหลี่ยมกลับมาส่องหน้าตัวเองพร้อมกับพูดกับยุนอาต่อพร้อมกับรอยยิ้ม
[พี่กำลังบอกให้ยุนไม่ต้องเป็นห่วงแทหรือคะ ยุนคงทำไม่ได้หรอกค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจพี่ฟานี่นะ]
[แต่ยังไงยุนก็ยังห่วงแทอยู่ดีล่ะค่ะ อีกอย่างๆแทแทอ่ะดื้อเงียบอย่างกับอะไรดี พี่ก็รู้ ^~^]
ยุนอาพูดไปตามความจริงที่เธอรู้สึกไม่ใช่ไม่รู้ว่าทิฟฟานี่ก็ดูแลแทยอนได้ดีไม่แพ้เธอเลย จริงๆแล้วปรกติทิฟฟานี่ก็ดูแลทุกคนได้ดีอยู่แล้ว ไม่เว้นแม้กระทั้งยุนอาเอง
แต่แทยอนน่ะเห็นนิ่งๆแบบนี้นะใช่ว่าจะยอมฟังทุกอย่างที่ไหนกันล่ะ และยิ่งด้วยความที่ไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนของแทยอนนั้นอีก
แต่ส่วนมากถ้าเป็นกับยุนอาแทยอนอาจจะเถียงหรือพูดออกมาเลย ถึงจะอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่มีส่วนที่แทยอนเก็บเงียบหรอกนะ
แต่ด้วยความที่เป็นยุนอาไงจึงมีสิททักท้วงซักไซร้ได้กว่าคนอื่นๆ แล้วอย่างถ้าเป็นทิฟฟานี่ด้วยแล้วแทยอนยิ่งเลือกที่จะเงียบไม่ค่อยเปิดปากเถียงหรือพูดอะไรเยอะ
อาจจะเป็นเพราะพูดสู้ทิฟฟานี่ไม่ได้หรือเถียงไปแทยอนก็แพ้ทิฟานี่อยู่ดี นั่นเป็นเพียงแค่หนึ่งในหลายๆข้อที่ทำให้ใครๆก็ชอบมองว่าแทยอนยอมทิฟฟานี่
"ย๊า! ว่าฉันดื้อเหรอยุนอา!"
นั่นไง พอเป็นยุนอาพูดแทยอนก็จะเป็นแบบนี้ ต่างจากคนอื่นๆพูด หรือเพราะในบางเรื่องยุนอาก็ยอมให้แทยอนด้วยล่ะมั้ง จึงทำให้ทั้งคู่นั้นเข้ากันได้ดี
แต่ก็มีบางเรื่องที่ยุนอาจะต้องหาวิธีที่จะทำให้แทยอนยอมได้ง่ายๆ ซึ่งวิธีเหล่านั้นก็ไม่ได้ยากอะไรสัมหรับยุนอาเลยแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นแทยอนก็บอกให้ยุนอาไปจัดการอาบน้ำให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาคุยกันต่อ ซึ่งยุนอาก็ไม่คัดค้านอะไร ทำตามที่คนรักบอกอย่างว่าง่าย
ส่วนแทยอนก็นอนคุยอะไรเรื่อยเปื่อยกับทิฟฟานี่ไประหว่างที่รอยุนอาอาบน้ำ ซึ่งทิฟฟานี่ก็ยินดีที่จะทำอย่างนั้นเช่นกัน ถึงจะเหมือนการขั้นเวลาแต่ทิฟฟานี่ก็พยายามจะไม่คิดมากในส่วนนั้น
เพราะถ้าหากคิดแล้วเธอก็คงเป็นแค่คนขั้นเวลามาโดยตลอด ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเธอก็ยังเป็นไดแค่เพียงเพื่อนสนิทของแทยอน
...ถึงแม้ว่าในใจจะอยากเป็นมากกว่านั้นก็ตามที...
รู้เธอมีเหตุผลอะไรสักอย่าง...
ที่ทำให้เธอไม่คิดจะอยู่กับฉัน...
อาจเป็นเพราะเธอแค่เหงาใจ...
ในวันที่เราพบกัน เธอแค่มีความสุข...
แต่ว่าเธอไม่ได้รักกัน...
----------------------------------------------------------------------------
Talk :
มาแบบสั้นๆดีกว่าดองเนอะ แฮ่ๆ ไม่รู้ว่าแบบนี้ถูกใจรีดกันหรือเปล่า
เท่าที่ไล่อ่านเม้นดูแล้วอยากจะบอกว่าจริงๆแล้วรีดเดาใจเราถูกเกือบทั้งหมดเลยนะ
เพราะว่าจริงๆแล้วใจเราก็อยากให้เป็นยุนแทยุนทิ
แต่ก็อยากเขียนพล๊อตนี้เหมือนกันแล้วแบบพล๊อตนี้คู่นี้มันเข้ากว่าอ่ะ -3- อีกอย่างมันก็ดูจะเข้ากับเพลงมากกว่าด้วยแหละ
เอาเป็นว่าค่อยไปยุนแทยุนทิเรื่องอื่นแล้วกันเนาะ คึคึ *ยกยิ้มชั่วร้าย
อ่อๆหรือไม่ก็ไปในเรื่องเก่าที่ดองเค็มก่อนก็ได้นะคะ 55555 ยุนแทยุนทิเกือบทุกเรื่อง
อ้อแล้วก็อยากถามรีดว่า อยากอ่าน NC กันมั้ย ถ้าอยากก็จะเขียนถ้าไม่อยากก็จะข้ามไป แฮ่
แต่ถ้าถามว่ามันมีมั้ยฟิคเราก็มีเอ็นซีทุกเรื่องนะ -.,-
พูดถึงว่าเอ็นซีเรื่องนี้จำเป็นต้องอ่านมั้ย คือไม่อ่านก็เข้าใจเรื่องได้หมดแหละ
แต่ถ้าอ่านก็จะได้ฟิลตัวละครเพิ่มขึ้น มั้งนะ ^^"
ย้ำค่ะ อย่าลืมนะคะว่าตารางงานอาจมีไม่ตรงกับความจริงบ้างแต่เราก็พยายามจะไม่พูดถึงเท่าไร 55555
เพราะเอาจริงๆแล้วก็อยากเขียนให้ตรงทั้งหมดและ แต่ช่วงนั้นเราก็ไม่ค่อยได้ตามอย่างละเอียดเพราะทำงานเสริมด้วยแหละ
แล้วที่ขาดไม่ได้ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาติดตามนะคะทั้งเรื่องใหม่เรื่องเก่า
อาจมีคำผิดอยู่บ้างต้องขออภัยด้วยนะคะ
No comments:
Post a Comment