Chapter XXXIV
ฮยอนซึงได้ถูกโบอาส่งให้แอบเข้าไปในคฤหาสน์ของยูริและถูกกำชับย้ำแล้วย้ำอีกว่าห้ามให้ใครจับได้โดยเฉพาะคนของเยอน
ถึงแม้โบอาจะรู้ดีอยู่ว่าคฤหาสน์ของยูริน่ะก็ไม่ได้ลักลอบเข้าไปง่ายๆสักเท่าไรทั้งระบบป้องกันภัยหรือแม้แต่กล้องวงจรปิด
แต่ก็นั่นแหละเพราะแบบนั้นโบอาถึงได้เลือกที่จะให้เป็นฮยอนซึงที่ลักลอบเข้าไป
เพราะอย่างน้อยฮยอนซึงก็น่าจะรู้ระบบภายในคฤหาสน์ของยูริไม่มากก็น้อย จากประสบการณการเคยถูกกักขังไว้ในนั้นเป็นเวลาหลายปี
"ไปเอาข้อมูลของแอบเบอมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"
ประโยคสั่งการถูกเอ่ยออกไปหลังจากที่โบอาได้รับรู้เรื่องแอมเบอมาจากคนตัวเล็กอีกที
ณ คฤหาสน์ยูริ...
ชายร่างสูงผอมบางเดินตรงเข้าไปยังห้องแล็บที่คุ้นเคยเพราะเคยถูกกักขังไว้เสียหลายปี หลังจากที่เช็คข้อมูลเพื่อความปลอดภัยมาเป็นอย่างดีแล้ว
มือเรียวที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีเงินบางๆคล้ายถุงมือ ไล่กวาดหาชิพที่ยูริใช้มันเก็บข้อมูลต่างๆมากมายในลิ้นชักของโต๊ะวิจัยตัวยาว
ที่นี่ก็ยังเป็นเหมือนเดิมแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากตอนที่เขาถูกกักขังอยู่เลย ที่เห็นได้ชัดนั้นก็คงจะมีแต่ชิพข้อมูลพวกนี้ล่ะมั้งที่เพิ่มมากขึ้น
ยูริและซอฮยอนนี่ขยันค้นหาข้อมูลแปลกๆใหม่ๆกันจังเลยนะ
อ่ะเจอแล้ว 'Amber'
สายตาคมกวาดอ่านรายชื่อที่ถูกสลักลงบนชิพข้อมูลสองสามอันเพื่อความแน่ใจก่อนจะจัดการยัดมันใส่เครื่องมือที่เตรียมมาเพื่อก็อบปี้ข้อมูลภายในลงสู่ชิพอันใหม่
เสร็จธุระแล้วก็จัดการเก็บทุกอย่างเข้าที่เพื่อทำลายหลักฐาน ดวงตาเรียวกวาดมองสำรวจอย่างรอบครอบ
แต่แล้วสายตาเจ้ากรรมก็ดันไปป๊ะกับชิพอันนึงที่ยูริไม่ได้เก็บรวมไว้กับอันอื่นๆ แต่มันถูงวางคว่ำไว้เด่นหราอยู่บนโต๊ะ
มือเรียวจึงหยิบชิพอันนั้นมาดูอย่างใคร่รู้ เมื่อพลิกหันอีกด้านขึ้นมาคิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยมากขึ้นไปอีก
ไม่มีตัวอักษรใดสลักไว้บนชิพอันนี้ และในเมื่อทนความอยากรู้ไม่ไหวเครื่องอ่านข้อมูลจึงถูกหยิบออกมาจากเข็มขัดอย่างรวดเร็ว
เพียงหัวข้อที่ปรากฎขึ้นในจอสี่เหลี่ยมนั้นความสับสนก็ตีรวนเข้ามา ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ายูริค้นคว้าเรื่องนี้อยู่
'Purple Arrows'
"ตัวแสบ~ไม่เจอกันนานเลยนะ~"
เสียงหวานเอ่ยเชิงหยอกล้อดังขึ้นจนฮยอนซึงสะดุ้งโหย่งหันหลังกลับไม่มองยังต้นเสียงแทบไม่ทัน
...แย่แล้ว อะไรกันเนี่ยวันนี้ยูริมีธุระไปข้างนอกนี่แล้วทำไม...
ยูริยกยิ้มพรายให้กับชายร่างบางเล็กน้อยพลางสาวเท้าเดินนวยนาดเข้าไปใกล้ เหลือบเห็นจอสี่เหลี่ยมขนาดพกพาตั้งอยู่บนโต๊ะที่ฮยอนซึงหันหลังพิงอยู่นั่น
...ฮึ ชั้นก็อยากให้นายกับพี่สาวฝาแฝดของนายได้รู้มันเหมือนกันแหละน่า...
"ค...คุณยูริ.."
ฮยอนซึงเชิดปลายคางขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงความเย็นวาบแตะสัมผัสเข้าที่ลำคอ
"ชั้นบังเอิญรู้มาว่าพ่อกับแม่ของนายน่ะถูกสังหารด้วยเจ้านั่นเหมือนกันนิ..."
ยูริกระซิบเสียงเย็นเยียบใกล้ๆกับส่วนรับฟังของชายร่างบาง ก่อนจะยกยิ้มด้วยความพึงพอใจเมื่อได้เห็นว่า
ฮยอนซึงขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นทั้งนัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นก็เต็มไปด้วยความสับสนอย่างปิดไม่มิด
ของมีคมสีเงินประกายฟ้าครามถูกละออกจากลำคอของคนตัวสูงกว่าช้าๆ เมื่อยูริเห็นว่าฮยอนซึงนั้นได้นิ่งไปราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหิน
ความสับสนปนมึนงงกำลังเข้าครอบงำสิ่งที่ฮยอนซึงเคยรับรู้มาด้วยตัวเองนั้นคือ
ครอบครัวของปาร์คซังฮยอนเป็นผู้ลงมือสังหารบิดาและมารดาของเขาเพราะอาจจะด้วยเรื่องธุระกิจที่ไม่ลงรอยกัน
แต่ฮยอนซึงก็พอจะรู้ว่าผู้ที่จะใช้ศรธนูเพียงดอกเดียวเพื่อปลิดชีวิตของเชล่าที่แข็งแกร่งได้นั้น
ย่อมหมายความว่าผู้ถือคันธนูนั้นควรมีความแข็งแกร่งมากกว่าไม่ว่าในด้านไหน
"วันนี้ชั้นจะทำเป็นเหมือนไม่เจอนายที่นี่แล้วกันนะ รีบออกไปซะ"
ยูริเอ่ยไล่ชายร่างบางออกไปอย่างใจร้อนเพราะเกรงว่าตัวเองอาจจะเปลี่ยนใจ
ถึงแม้จะรู้สึกไม่สบอารมณ์ไม่ชอบใจที่หมอนั่นลักรอบเข้ามาอย่างนี้
แต่มันก็แลกกับความเพิ่งพอใจที่เธอได้บอกเรื่องลูกธนูนั่นไปกับฮยอนซึง
ก็แค่รู้สึกเหมือนจะหาแนวร่วมได้เพิ่มขึ้นก็เท่านั้นเอง
"อ่ะ..อ่าว แทยอน? ไหนสิก้าบอกว่าเธอจะนอนที่ร้านกับแฟนเด็กอะไรนั่นไม่ใช่หรือไง"
โบอาถามขึ้นอย่างนึกแปลกใจ ก็แค่เธอบังเอิญเดินผ่านห้องแล็บในคฤหาสน์กลางดึกแล้วก็มีเสียงขลุกขลักดังอยู่ข้างใน
จนต้องเปิดประตูเข้ามาแล้วก็พบกับร่างเล็กที่กำลังวุ่นวายอยู่กับหลอดสารมากมายตรงหน้า
"ก็...คิดว่าน่าเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ แต่สารที่สำรองไว้มันดันหมดเนี่ยสิ ยุนอาก็หลับไปแล้วก็เลยเข้ามาเอาไว้ก่อนดีกว่า
แล้วพี่ยังไม่นอนอีกเหรอคะดึกมากแล้วนะ"
เรียวปากก็พร่ำบอกคนอายุมากกว่าไปตามความจริงมือเล็กก็ไล่เลือกหลอดสารที่ต้องการแล้วจับมันยัดใส่เข็มขัดสีเงินเงาไว้
"พี่ว่าพักนี้เธอใช้สารเยอะนะแท โดยเฉพาะสารเร่งกับสารหลับเนี่ย ใช้เยอะๆบ่อยๆมันไม่ดีนะ"
โบอารู้อยู่ตลอดแหละว่าแทยอนกลับมาเอาสารอะไรไปบ้าง
แต่ก็ไม่คิดว่าช่วงนี้จะใช้ถี่จนหมดไวขนาดนี้ความเป็นห่วงจึงแล่นเข้ามาในความรู้สึกของคนอายุมากกว่า
"ทำไงได้ล่ะคะแทก็ไม่ได้อยากใช้บ่อยๆหรอกสารเร่งเนี่ย"
มือเล็กถือหลอดสารขนาดพอๆกับนิ้วกลางของตัวเองขึ้นมาดูราวกับพิจารณาสิ่งนั้นอยู่
ไล่สายตากลับไปมาบนตัวอักษรเล็กที่แปะอยู่ข้างหลอด 'Power'
ไม่ใช่ว่าแทยอนจะไม่รู้ว่าการใช้สารตัวนี้มากๆผลกระทบมันอาจจะทำให้ร่างกายของผู้ใช้ทรุดโทรมลง
คงคล้ายๆกับเวลาที่คนธรรมาไม่ได้พักผ่อนแล้วต้องอัพยาเพื่อที่จะได้มีแรงทำงานต่อไปอย่างนั้นล่ะมั้ง
"งั้นก็แปลว่าสารหลับนี่ไม่ได้ใช้เองสินะ"
โบอาหรี่ตาจับผิดอย่างไม่ปิดบังก็ว่าอยู่อย่างแทยอนเนี่ยคงไม่จำเป็นต้องใช้เองสักเท่าไรหรอก
"รู้ทันอีกแล้วอ่า"
แทยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงงอนๆที่ถูกคนอายุมากกว้าคนนี้จับได้ตลอดไม่ว่าเรื่องก็ตาม
สายตาไล่อ่านอักษรที่อยู่ข้างหลอดที่หยิบขึ้นมา 'Sleepy'
ทำไมโบอาจะไม่รู้ล่ะว่าแทยอนนั้นใช้สารนอนหลับเพื่อสลับลางสาวๆในสต๊อก
โดยการที่ทำให้คนนึงหลับไปเพื่อที่จะต้องออกมาเจออีกคนที่บังเอิญนัดเวลาไล่เลี่ยกัน
"เฮ้อ~พี่ล่ะเหนื่อยใจกับความเจ้าชู้ของเธอจริงๆเลย ไหนว่ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วไม่ใช่หรือไง"
สุดท้ายโบอาก็อดไม่ได้ที่จะบ่นคนตัวเล็กตรงหน้านี่อีก ก็ไม่ใช่ว่าโบอาไม่รู้เรื่องที่แทยอนคบกับยุนอาแล้วก็ดูเหมือนจะจริงจังกับยุนอาอยู่ไม่น้อยเลย
หากแต่ทำไมร่างเล็กนี่ถึงยังไม่เลิกนิสัยเจ้าชู้เงียบเดิมๆนั้นสักทีกันนะ ไม่ใช่ว่าโบอาไม่ชินแต่ถ้าคนตัวเล็กนี่หยุดได้มันก็ดี
"ไม่ใช่ว่าแทไม่อยากเลิกนิสัยแบบนั้นนะ แทก็พยายามหยุดเพื่อยุนอาอยู่เพียงแต่ตอนนี้แทยังหยุดได้ไม่หมดเท่านั้นเอง"
แทยอนเอ่ยออกมาอย่างหมดหนทาง ประโยคพวกนี้จะที่ก็แต่โบอาคนเดียวเท่านั้นแหละที่เคยได้ยินจากร่างเล็ก
เพราะโบอาเสมือนที่พึ่งพิงที่ปรึกษาคนเดียวของคนตัวเล็กนี้
ต่อให้เป็นเจสสิก้าแทยอนก็เคยไม่เคยบอกความทุกข์ในใจหรือปัญหาของตัวเองให้เจสสิก้ารับรู้
เพราะส่วนหนึ่งในความรู้สึกตัวเองนั้นบอกว่าเธอต้องเป็นคนปกป้องเจสสิก้าสิจึงไม่ควรแสดงมุมที่ตัวเองดูอ่อนแอออกไปให้เจสสิก้าได้เห็นสักเท่าไร
"กับยุนอานี่จริงจังที่สุดแล้วใช่ไหม"
โบอาถามย้ำเพื่อความมั่นใจ ถึงแม้ว่าทุกอย่างที่แทยอนทำจะชัดเจนอยู่แล้วก็ตามที
เพราะที่ผ่านมานั้นไม่ว่าแทยอนจะคบกับใครถึงดูเหมือนจะจริงจังแค่ไหนแต่ร่างเล็กนี่ก็ไม่เคยพยายามหยุดความเจ้าชู้ของตัวเองลงไปเลย
แทยอนพยักหน้าเบาๆเชิงเป็นคำตอบให้โบอา ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาเบาๆอย่างอดไม่ได้ เมื่อนึกถึงว่ายุนอาเป็นอย่างไรและตัวเธอเองเป็นอย่างไร
Hidden Part:
ร่างเล็กเดินเข้ามายังห้องของเจสสิก้าในคฤหาสน์ ประกายตาสีฟ้าครามคมกริบกวาดมองภายในห้องที่มืดสลัว
ก็พบว่าร่างบางของเจสสิก้าและคริสตัลนอนแผ่หราอยู่บนเตียงขนาดคิงไซต์
รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นที่มุมปากเล็กน้อยพลางสาวเท้าเข้าไปใกล้หย่อนกายนั่งลงริมเตียงนุ่มฝั่งที่เจสสิก้านอนอยู่
ดวงตาสีฟ้าครามจับจ้องใบหน้าสวยยามหลับอยู่เพียวชั่วอึดใจเดียว
ดวงหน้าคมก็โน้มลงประทับริมฝีปากอิ่มบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบาราวกับเกรงว่าอีกคนจะรู้ตัว
แต่เปล่าเลยกลีบปากสีฉ่ำลากเลื่อนต่ำลงมาอีกหน่อยแล้วกดลงบนส่วนด้วยกันก่อนจะขยับบดเบียดเบาๆอยู่อย่างนั้น
จนกลีบเรียวบางนั้นเริ่มเผยอขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับเสียงครางเบาๆในลำคอของร่างที่ยังคงหลับไหลอยู่บนเตียงนุ่ม
เจสสิก้าปรือเปลือกตาขึ้นช้าๆเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างรบกวนการนอนหลับของเธออยู่ และก็ได้เห็นว่าดวงตาสีฟ้าครามนั้นทอประกาบวิบวับจับจ้องดวงหน้าเธออยู่ก่อนแล้ว
และเมื่อรู้อย่างนั้นมือเรียวข้างขวาจึงถูกยกขึ้นมากดรั้งช่วงต้นคอของอีกฝ่ายให้แนบชิดเข้ามาอีก กลีบปากเรียวก็ขยับจูบตอบอีกคนไปอย่างเต็มใจ เช่นทุกครั้ง
มือเล็กข้างซ้ายที่เคยเท้าอยู่กับเตียวนุ่มก็เปลี่ยนมากอบกุมก้อนเนื้อช่วงอกของอีกฝ่ายไว้พลางนวดคลึงมันอย่างเบามือ ราวกับเกรงว่าร่างบางน้ันจะบอบช้ำ
เจสสิก้าใช้มือข้างซ้ายที่เคยว่างอยู่นั้นฉุดรั้งเอวเล็กเข้าหาตัวเองเล็กน้อยเพื่อให้แทงกูโน้มกายลงมาทาบทับร่างของเธออย่างเชิญชวน
แทงกูผละจูบออกมาอย่างเสียดายก่อนที่จะจับจ้องดวงหน้าสวยที่ดูหยาดเยิ้มเย้ายวนอารมณ์เหลือเกิน
พยายามที่หักห้ามความต้องการของตัวเองไว้ เธอควรหยุดมันไว้เพียงเท่านี้
เจสสิก้าใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามโครงหน้าเรียวของอีกฝ่ายเนิบนาบยียวนอย่างรู้ทัน ว่าคนตัวเล็กที่ทาบทับร่างของเธออยู่ตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
และเมื่อรู้อย่างนั้นแล้วจึงเผยอกลีบปากเย้ายวนขึ้นเอ่ยกระซิบเสียงพร่าหวานเบาบาง
"อย่ามาทำให้อยากแล้วจากไปสิคะ~"
ปลายนิ้วเรียวลากไล้เนิบนาบอยู่ที่ช่วงต้นคอของคนด้านบนอย่างยั่วเย้า
พลางออกแรงกดปลายนิ้วลงบนลำคอระหงนั้นอีกหน่อยไม่ต้องการให้แทงกูผละใบหน้าออกห่างไปมากกว่านี้อีก
เธอกำลังต้องการเค้าแม้จะโดนร่างเล็กนั้นสัมผัสเพียงเล็กน้อยแต่อารมณ์ความต้องการของเธอกลับพุ่งพล่านขึ้นมาเสียง่ายดาย
แทงกูยกยิ้มอย่างชอบใจไม่ว่าเมื่อไรเจสสิก้าก็ยั่วให้เธอคลั่งได้เสมอ
เมื่อได้รับประโยคและการกระทำอันเชื้อเชิญดังนั้นแล้วใบหน้าคมก็กดลงซุกไซ้ซอกคอขาวอย่างอ่อนโยนนุ่มนวล
ไม่ต้องการให้เจสสิก้าต้องมีร่องรอยบอบช้ำแม้แต่น้อยหากตลอดช่วงเวลาที่เรานั้นได้ทำอะไรตามอารมณ์
แทงกูจำเป็นต้องควบคุมสติของตัวเองอย่างหนักเพื่อมันไม่ให้หลุดลอยไปแม้แต่วินาทีเดียวที่เธอมีอะไรกับเจสสิก้า
ไม่อย่างนั้นร่างกายที่บอบบางกว่าเชลล่าปรกติทั่วไปของเจสสิก้าได้บอบช้ำจนไม่เหลือชิ้นดีแน่ๆ
และถ้าเป็นอย่างนั้นแทงกูก็คงจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองอย่างเด็ดขาด
นั่นคือเหตุผลที่แทงกูค่อนข้างจะพยายามเลี่ยงที่จะมีอะไรกับเจสสิก้าอยู่บ่อยครั้ง
ถึงจะต้องการอยู่ไม่น้อยไปกว่าร่างบางเลยแต่แทงกูก็ตัดใจและเดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ที่ยังพุ่งพล่านค้างอยู่อย่างนั้น
จะมีเพียงนานๆครั้งเท่านั้นที่แทงกูจะยอมสานต่ออย่างที่ทั้งสองคนต้องการ
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่แทงกูยอมสานต่อให้อารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นของเราทั้งสองคนได้ถูกปลดปล่อย
กระดุมเสื้อเชิ้ตตัวบางของคนด้านล่างถูกปลดออกทีละเม็ด ทีละเม็ด เผยให้เห็นเนินอกอิ่มที่ไร้บราเซียปรกคุมอยู่ของเจสสิก้า
กลีบปากสีฉ่ำลากตามสาปเสื้อที่ถูกแหวกออกเนิบนาบ ก่อนจะหยุดอยู่ที่ยอดอกสีหวานส่งปลายลิ้นออกไปลามเลียด้วยอารมณ์ความต้องการ
สลับกับดูดดุนบ้างเรียกเสียงครางอืมในลำคอจากเจ้าของมันได้เป็นอย่างดี
"อื้อ~พี่สองคนเบาๆกันหน่อยสิคะ"
คริสตัลที่รู้สึกตัวเพราะการเคลื่อนไหวและเสียงหอบหายใจปนเสียงครางอืมในลำคอที่เกิดขึ้นบนเตียงเดียวกัน ก็บ่นออกมาอย่างไม่ใส่ใจนัก
จะบอกว่าชินแล้วก็น่าจะได้มั้งที่แทงกูกับเจสสิก้าจะทำอะไรกันโดยที่มีเธออยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยเช่นตอนนี้
แต่ก็นั่นแหละคริสตัลเองก็ไม่ได้ถือสาเรื่องพวกนี้สักเท่าไรอาจเป็นเพราะเธอเติบโตมาในแอลเอด้วยล่ะมั้ง
ร่างเพรียวขยับพลิกนอนตะแคงหันหลังให้อีกสองกายที่ยังคงเคลื่อนไหวและส่งเสียงอื้ออึงอยู่อย่างเดิม
แล้วใช้มือเรียวควานหาเครื่องมือสื่อสารที่อยู่ประจำตรงข้างหมอนในยามหลับไหลหูฟังสีขาวสะอาดตาถูกเสียบเข้ากับส่วนรับฟังและเครื่องมือสื่อสาร
ก่อนจะเปิดเพลงคลอเบาๆเพื่อตัดขาดจากทางโลกไปชั่วขณะหรือตลอดทั้งคืนนี้ แล้วปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง
"หลับฝันดีนะ คนสำคัญที่สุดของชั้น"
แทงกูบรรจงแนบริมฝีปากอิ่มลงกับส่วนเดียวกันของเจสสิก้าอย่างอ่อนโยนเช่นทุกครั้ง
ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปประทับจูบยังกลางหน้าผากมนที่ชุ่มเหงื่อตอกย้ำคำพูดของตัวเองที่อวยพรให้เค้าหลับฝันดี
"เธอสามารถพูดหลอกใครคนอื่นได้นะ แต่เธอหลอกชั้นไม่ได้หรอกแทงกู..."
เจสสิก้าเอ่ยเสียงผะแผ่ว ทั้งที่ยังหายใจแรงกว่าปรกติจากกิจกรรมที่เพิ่งจบลงเมื่อครู่
แทงกูเลื่อนระดับใบหน้าให้สายตาของทั้งสองสบเข้าหากันลึก ไม่ค่อยแน่ใจว่าเจสสิก้านั้นหมายถึงอะไรอยู่
ปลายนิ้วเรียวถูกยกขึ้นแตะริมฝีปากสีฉ่ำเบาๆราวกับคาดโทษที่คนตัวเล็กนั้นพูดปลดต่ออีกฝ่าย
คิ้วเรียวถูกดึงเข้าหากันอย่างห้ามไม่ได้เมื่อความข้องใจมันเล่นงานอยู่ในความรู้สึก
แทงกูก็ไม่เข้าใจที่เจสสิก้าบอกว่าเธอหลอกเค้า หมายถึงเธอหลอกเค้าเรื่องอะไรงั้นเหรอ
เจสสิก้าระบายลมหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อพบแต่เครื่องหมายคำถามที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าคมขาวซีดนั้น
แทงกูจะไม่รู้ตัวเลยเชียวหรือว่าความรู้สึกของเค้าน่ะมันไม่ได้ตรงกับคำพูดและการกระทำเลยแม้แต่น้อย
ร่างเล็กยังคงสบลึกเข้านัยน์ตาสีน้ำตาลของคนใต้ร่างอยู่อย่างเดิม แม่ว่าเจสสิก้าจะไม่ได้พันธนาการอะไรแล้วก็ตาม
แต่เพราะความต้องการที่จะเข้าใจจึงพาให้ร่างของแทงกูนั้นยังคงทาบทับร่างบางอยู่อย่างนั้น
"หมายถึงถึงอะไร"
สุดท้ายแทงกูก็ต้องถามออกไปเมื่อเจสสิก้าไม่ได้มีท่าทีว่าจะขยายความในประโยคนั้นเลย
ประกายตาสีฟ้าครามยังคงจับจ้องอีกฝ่ายด้วยความใคร่รู้ ก็จู่ๆเจสสิก้าก็พูดอะไรแบบนั้นออกมา จะไม่ให้งงได้อย่างไร
"ชั้นคือคนสำคัญที่สุดของเธอน่ะ มันเป็นประโยคที่เธอจำเป็นต้องเอาไว้พูดกับคนอื่น... ที่ไม่ใช่ชั้น"
กลีบปากขยับเอ่ยอย่างใจเย็นมือเรียวก็ยกขึ้นลูบไล้ดวงหน้าขาวซีดที่คุ้นเคยกันดี
"ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ เธอสำคัญที่สุดสำหรับชั้นเสมอนะเจสสิก้า"
ยิ่งได้รับประโยคขยายความของร่างบางแทงกูก็ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นอีก ทำไมเจสสิก้าถึงพูดอย่างนั้นกัน
พูดอย่างกับประโยคที่ว่า 'เจสสิก้าสำคัญที่สุดสัมหรับแทงกู' นั้นมันเป็นเพียงแค่สคริปที่ใช้ตอบคำถามคนภายในนอกอย่างนั้นแหละ
"เพราะจริงๆแล้วชั้นไม่ใช่คนสำคัญที่สุดของเธอไง"
เสียงเล็กๆที่เอ่ยนั้นเริ่มสั่นเครื่อเล็กน้อยเมื่อต้องเอ่ยถึงความจริงที่เธอรู้สึกได้ชัดเจน
มันก็จริงที่ครั้งหนึ่งเจสสิก้าอาจจะเคยได้เป็นคนนั้น คนที่สำคัญที่สุดของแทงกู แต่นั้นมันก็ผ่านไปตั้งแต่ตอนไหนแล้วก็ไม่รู้
รู้เพียงแค่ตอนนี้ ...ชั้นไม่ใช่คนนั้น คนที่สำคัญที่สุกของเธอ อีกแล้ว...
"อย่าคิดมากสิ สิก้าชั้นมีเธอแค่คนเดียวนะ"
พูดจบก็โน้มใบหน้าลงประทับจูบลงกับส่วนเดียวกัน เพื่อให้อีกฝ่ายได้มั่นใจ
แทงกูขยับจูบแผ่วเบาเนิบนาบอย่างเช่นทุกครั้ง ...หากไม่ใช่เธอ แล้วชั้นจะมีใครที่เป็นคนสำคัญคนนั้นได้อีกกัน...
~ตอนเธอกอดฉันหัวใจเธอกอดใคร ที่รักเธออยู่กับฉันแล้วใจเธอมันยังคงเป็นของใคร~
.
.
"เจ็บมากหรือเปล่า พี่ขอโทษ เผลอบีบซะแรงเลยอ่ะ"
แทยอนพูดเสียงอ่อนพลางลูบข้อมือเรียวที่มีรอยแดงช้ำของยุนอาเบาๆ เพราะเมื่อคืนเธอดันกำข้อมือของร่างสูงไปเสียแรงเลย
นึกโกรธตัวเองอยู่ไม่น้อยที่ดันทำให้คนรักบาดเจ็บเป็นครั้งที่เท่าไรแล้ว
"เจ็บเพราะพี่ ยุนยินดีค่ะ ^^"
ยุนอาเผยรอยยิ้มบางๆออกมาถึงจะยังรู้สึกปวดหนึบๆที่ข้อมืออยู่ก็ตามที
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้รับบาดเจ็บหลังจากที่ร่วมบทรักกับแทยอน แต่เธอไม่เคยนึกโกรธเคืองหรือไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย
แทยอนมองหน้ายุนอาเชิงค้อนเบาๆกับประโยคคล้ายการหยอดคำหวานนั้น แต่ทำไมแทยอนจะไม่รู้ว่ายุนอาพูดมันออกมาจากความรู้สึกจริงๆ
ก่อนที่ร่างเล็กจะหยิบเข็มที่บรรจุสารสีแดงโกเมนออกมาจากเข็มขัดของตัวเอง
บรรจงจรดปลายเข็มลงบนผิวเนื้อของคนรักอย่างเบามือ กดไล่ของเหลวสีแดงให้ซึมลงไปในผิวเนื้อที่ค่อนข้างบวมและช้ำจนหมดหลอด
ไม่นานร่องรอยการบาดเจ็บทั้งหมดของยุนอาก็จางหายไปเช่นทุกครั้ง
แทยอนยกยิ้มเล็กน้อยและกดจูบลงไปยังข้อมือเรียวของยุนอาอย่างรักใคร่
ยุนอามองการกระทำเหล่านั้นของคนรักแล้วก็อดยิ้มตามอย่างเสียไม่ได้ ก็เพราะแทยอนเป็นแบบนี้ไงเธอถึงได้รักมากมายขนาดนี้
ถึงจะต้องเจ็บปวดไม่ว่าทางร่างกายหรือทางความรู้สึกยุนอาก็ยินดีจะยอมรับมันอย่างเต็มใจ ขอแค่ให้ได้รักคนๆนี้ต่อไปก็เพียงพอแล้ว
"พี่ยูลมีอะไรจะคุยเหรอ จู่ๆถึงได้ให้เธอเรียกชั้นมาแบบนี้เนี่ย"
ยุนอาที่เพิ่งก้าวเข้ามาถึงยังคฤหาสน์ของตัวเองก็ได้เอ่ยถามซอฮยอนที่นั่งสนใจจอสีเหลี่ยมอยู่ที่ห้องรับแขก
นี่ก็เพิ่งจะบ่ายแก่ๆตอนแรกยุนอาจะชวนแทยอนมาด้วยแต่ก็โดนซอฮยอนค้านเสียก่อน
ด้วยเหตุผลก็คือยูริต้องการจะคุยกับยุนอาแบบเป็นการส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องอะไรนั้นซอฮยอนก็ยังไม่ได้ระบุ
"เรื่องนั้นเอาไว้พี่ถามพี่ยูลเองดีกว่าค่ะ แต่ตอนนี้พี่มาดูนี่ก่อน"
ยุนอาคลื่อนกายมานั่งลงข้างๆซอฮยอนหลังที่สาวเจ้าชี้ให้ดูบนจอสี่เหลี่ยมนั้น
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างห้ามไม่ได้ทันทีที่ได้เห็นตารางแข่งในรอบหนึ่งสัปดา
"อะไรเนี่ย!!! จะให้แข่งจนเบื่อเลยหรือไง!!"
ไวเท่าความคิดยุนอาโวยวายออกมาอย่างไม่เข้าใจ นี่เล่นวางตารางแข่งให้เธอทุกวันตั้งแต่จันทร์ถึงอาทิตย์แบบนี้
นอกจากเสี่ยงต่อความเบื่อแล้ว ยังเสี่ยงต่อการไม่ได้เจอหน้าแทยอนอีกนะ
กรี๊ดดด ยุนอาจะบ้าตาย อยากจะว๊ากออกมาให้แผ่นดินไหวไปเลยจริงๆค่ะ
"พี่ก็น่าจะรู้ ว่าพี่ยูลน่ะเวลาอยากรู้อะไรมากๆ เค้าจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่อยากรู้มา"
ซอฮยอนระบายลมหายใจออกมาเบาๆอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เห็นใจไม่เข้าใจยุนอานะ แต่เธอก็ไม่สามารถหยุดความบ้าพลังของยูริได้เช่นกัน
ว่าแล้วยูริก็เดินมานู้นแล้วไง เมื่อเห็นว่าประตูห้องแล็บถูกเปิดออกพร้อมกับร่างเพรียวของพี่สาวจอมบ้าพลัง
ยุนอาก็รีบกระโดดข้ามพนักพิงโซฟาสีดำนิลตรงปรี่ก้าวฉับๆไปหาถึงที่ทั้งที่ยูริยังไม่ทันได้ปิดประตูห้องแล็บเลยด้วยซ้ำ
"ไอ้พี่บ้า!!!จะให้ชั้นแข่งอะไรบ้าพลังขนาดนั้น ฟงแฟนไม่ต้องได้เจอกันเลยดิ"
ยุนอาว๊ากใส่หน้าพี่สาวจอมบ้าพลังของเธอทันทีที่พบหน้า พร้อมเหตุผลแรกที่สะกิดใจเธอเป็นที่สุด
ยูริหัวเราะเบาๆกับปฏิกิริยาของน้องสาวตัวเองอย่างเอ็นดูก่อนจะเอ่ยเหตุผลของตัวเองบาง
"ถ้าชั้นเล็งเห็นว่าจะมีใครทำแทนแกได้ชั้นคงไม่ต้องมาลำบากแกหรอกยุน"
"แล้วจะให้ชั้นทำอะไร"
มือเรียวทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาเท้าสะเอวไว้อย่างเซ็งอารมณ์ ก็จะไม่ให้เซ็งได้อย่างไรกันล่ะ
จู่ๆก็เล่นมาวางตารางแข่งใส่เธอแบบนี้ อย่างน้อยก็ควรบอกร่วงหน้าให้ได้ทำใจไว้ก่อนบ้างก็ยังดี
"ทำให้แทงกูรักหลงแกจนโงหัวไม่ขึ้นไง"
ยูริเอ่ยเสียงกระซิบแหบพร่าที่ยุนอาฟังแล้วรู้สึกสยิวกิ้วขึ้นมา ก็ดูสิอย่างกับพี่สาวของเธอเป็นพวกโรคจิตยังไงก็ไม่รู้
แถมเนื้อใจความที่ยูริเอ่ยออกมานั่นอีก... ทำให้แทงกูรักและหลงจนโงหัวไม่ขึ้นงั้นเหรอ...
"พี่จะบ้าเหรอ!!!!!!!! ชั้นจะไปทำอย่างนั้นได้ไง ชั้นมีแฟนแล้วนะ แล้วอีกอย่างพี่แทงกูเค้าก็ไม่มาอะไรกับชั้นหรอก"
ยุนอาว๊ากใส่หน้ายูริอีกครั้งเมื่อสมองประมวลผลคร่าวๆว่าเธอต้องทำอะไร
แว๊บแรกที่กระพริบตาภาพขอแทยอนก็ซ้อนสิ่งที่เห็นตรงหน้าขึ้นมา
กับแทยอนที่เธอรักมากและไม่เคยคิดจะทำตัวเหลวไหลให้แทยอนต้องรู้สึกแย่
แต่เมื่อยุนอากระพริบตาอีกครั้งกลับกลายเป็นภาพของแทงกูที่กำลังยกยิ้มรันจวนใจ
ยุนอาสะบัดหน้าเล็กน้อยเพื่อไล่ความรู้สึกแปลกๆที่ผุดขึ้นมาเมื่อไรก็ไม่รู้นั้นออกไป
แต่กับแทงกูน่ะถ้าไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยก็คงจะไม่คิดมากเลย...
พอหันกลับมามองความจริงสิ่งที่เป็นไปอยู่เวลานี้ก็พบกับรอยยิ้มร้ายๆของผู้เป็นพี่ที่ยังคงยืนจ้องหน้าเธออยู่ไม่ห่าง
"พูดสิ... ว่าแกจะไม่ทำ"
ยูริเอ่ยออกมาอย่างท้าทาย ทำไมเธอจะมองไม่ออกว่ายุนอากำลังสับสน และยูริเองก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรหากยุนอาจะสนใจแทงกูในเชิงนั้น
เพราะถ้ายุนอาไม่สนใจคนอย่างแทงกูสิที่น่าแปลกใจ ก็แทงกูน่ะมีเสน่ห์ดึงดูดไม่เลือกหน้าขนาดนั้น ยูริยอมรับเลยว่าเธอเองก็ไม่ต่างไปจากคนอื่นๆเลย
และการที่เธอให้ซอฮยอนวางตารางแข่งของยุนอาทุกวันแบบนั้นก็เพราะยูริคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าแทงกูจะต้องไปให้กำลังใจยุนอาอย่างเคยๆเป็นแน่
เพราะอย่างนั้นจึงไม่ต้องสนใจเท่าไรว่าคู่แข่งของยุนอาจะคือใครจับๆยัดๆลงไปเถอะแค่ไม่ใช่เจสสิก้ากับแทงกูน่ะพอแล้ว
"แล้วพี่ต้องการอะไรจากพี่แทงกูล่ะถึงต้องให้ชั้นแบบนั้น แต่ชั้นไม่รับปากหรอกนะว่าจะทำได้"
ยุนอาเปลี่ยนไปถามถึงสาเหตุหลักที่ยูริต้องให้เธอทำอย่างนั้นแทน เพราะดูแล้วคงจะเป็นเรื่องสำคัญพอสมควรที่ยูริจะใช้ให้เธอไปเสี่ยงอย่างนั้นกับแทงกู
แต่ก็อย่างว่าแหละตัวยุนอาเองก็ไม่เคยคิดหรอกว่าแทงกูจะสนใจอะไรเธอมากมาย
ที่ผ่านๆมาที่เล่นหยอกล้อกันก็น่าจะแค่ปล่อยโมเม้นเซอร์วิสแฟนคลับไปก็เท่านั้น ก็แค่เล่นๆ
ยุนอาเชื่อว่าแทงกูคิดแค่นั้นจริงๆ อีกอย่างคนอย่างแทงกูน่ะเจ้าชู้จะตายแถมยังแทบจะไม่เคยสนใจใครในเชิงรักๆใคร่ๆเลยเสียด้วยซ้ำ
จะเว้นก็แต่ทิฟฟานี่นั่นแหละที่ออกจะดูพิเศษที่สุดแล้วสัมหรับแทงกู
"ชั้นเดาว่าแทงกูน่าจะรู้เรื่องลูกธนูสีม่วง ก็เลยอยากให้แกไปทำยังไงก็ได้เพื่อที่จะถามเรื่องนี้กับแทงกูให้ได้"
ยุนอานิ่งไปเล็กน้อยนี่เหมือนชีวิตเธอแขวนอยู่บนเส้นด้ายเลยนะ รอบข้างมีแต่ความเสี่ยง เสี่ยงไม่ได้เจอแทยอน
เสี่ยงต้องทะเลาะหรือเข้าใจผิดไม่ว่าจะกับแทยอนหรือทิฟฟานี่ที่ค่อนข้างหวงแทงกูอยู่ไม่น้อย
เสี่ยงที่แทงกูอาจจะไม่พอใจกับคำถามและการกระทำ และสุดท้ายเสี่ยงแม้ว่าจะได้คำตอบอย่างที่ยูริต้องการหรือเปล่า
ตอนแรกยูริก็คิดว่าจะให้ทิฟฟานี่ทำหรอก แต่คิดไปคิดมาแล้วทิฟฟานี่น่ะเป็นคนโปรดของแทงกูก็จริงแต่ก็เคยทำเรื่องให้แทงกูไม่ไว้ใจ
และถึงจะเป็นคนโปรดแต่ยูริก็เดาได้ว่าแทงกูไม่เคยเผยความในให้ทิฟฟานี่ได้รับรู้มากนัก
"แกไม่อยากรู้เรื่องลูกธนูนั้นหรือไง"
ยูริเห็นว่ายุนอานิ่งไปหลายอึดใจราวกับว่ากำลังครุ่นคิดสับสนอะไรอยู่ในใจ ผู้เป็นพี่จึงเรียกสติด้วยการสะกิดไหล่อีกคนเบาๆ
"ไม่ใช่ไม่อยากรู้ แต่นี่มันเสี่ยงไปไหม"
"ไม่หรอกน่า แทงกูก็ดูออกจะปลื้มแกนี่"
ยูริเอ่ยหยอกล้อราวกับว่าตัวเองไม่ได้ซีเรียสทั้งที่มันตรงข้ามกับใจร้อนรุ่มเสียเหลือเกิน
มันไม่มีคำว่าเสี่ยงเกินไปหรอกหากเทียบกับว่ายูริตั้งใจศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้มานานเท่าไร
และที่สำคัญมันจะไม่เสี่ยงเกินไปเลยหากเทียบกับเหตุผลที่ยูริต้องพยายามสืบค้นเรื่องนี้ทำไม
...จะต้องให้ชั้นบอกแกก่อนหรือไงล่ะ ว่าพ่อกับแม่ของเราก็ถูกสังหารด้วยลูกธนูสีม่วงน่ะ...
นี่คือเหตุผลที่เมื่อหลายปีก่อนยูริได้ยื่นคำท้าประลองกับลีจุน
เพราะไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจให้รู้สึกว่าการที่ทำอย่างนั้นเธอจะได้พบเห็นศรธนูสีม่วงอีกครัง และมันก็เป็นอย่างที่เธอคาดการไว้ไม่มีผิดเพี้ยน
แม้จะหาเบาะแสข้อมูลอะไรไม่ได้มากแต่อย่างน้อยยูริก็ได้รู้ว่าผู้ถือคันธนูนั้นจ้องจะกำจัดผู้ที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งมากถึงมากที่สุด
จะไม่มีศรธนูสีม่วงหากในพื้นที่นั้นๆมีแต่พวกเชลล่าธรรมดาหรือเชลล่าระดับสูง และตอนนี้ยูริก็กำลังพยายามมองหาเหยื่อรายต่อไปของผู้ถือคันธนูผู้นั้นอยู่
แต่ก็ยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่าในเวลานี้ใครคือผู้ที่แข็งแกร่งมากพอที่จะตกเป็นเหยื่อของศรธนูสีม่วงนั่นอีก
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์สีนิลฮยอนซึงก็จัดการส่งชิพข้อมูลของแอมเบอที่เขาก๊อบปี้มาให้กับโบอาไป และแน่นอนว่าจะไม่มีการปริปากพูดถึงเรื่องที่เขาเจอยูริ
แต่การที่ได้เจอยูริในวันนี้มันก็ได้สร้างปมในใจของเขาให้เกิดความสงสัยขึ้นมาไม่มากก็น้อย
และมันก็มากพอที่จะทำให้ฮยอนซึงพยายามสอดส่องทุกอย่างรอบกายมากขึ้น
เพราะคิดว่าอาจจะได้พบกับเบาะแสอะไรที่เกี่ยวข้องกับลูกธนูสีม่วงนั้นบ้างเพียงเล็กน้อยก็ยังดี
เรื่องของลูกธนูนั่นน่ะฮยอนซึงก็ยังไม่เคยเจอใครที่รู้เรื่องนั้นไปมากกว่าที่เขารู้เลย
เพียงแค่ศรธนูสีม่วงที่สามารถสังหารเชลล่าที่แข็งแกร่งได้ภายในดอกเดียวและไร้ร่องรอย แถมยังไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ฮยอนซึงเองก็ไม่เคยจะสามารถรู้ได้เลยว่าผู้ถึงคันธนูนั้นเป็นใครรูปร่างลักษณะน่าตาท่าทางเป็นอย่างไรไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะคือผู้หญิงหรือผู้ชาย...
From Writer...
ฮ๊อยยย หลังจากที่หายไปจมรูปจมคลิปมา 55555
(ยังตามเก็บไม่หมดเลย แฮ่)
อ่าแชปนี้ไม่มีไรมากเนอะ (หราาาาา)
ขอเตือนความจำรีดเดอร์นิดนึงแล้วกันนะคะเกรงว่าจะลืมเนื่องจากเราดองมานาน 555555
ตัวละครในเรื่องที่ที่เป็นเชลล่า(มีพลังเหนื่อมนุษย์) นั้นจะมีเข็มขัดเพื่อใช้เก็บของต่างๆ
(มโนถึงกระเป็นโดเรมอนไว้ค่ะคุณสมบัติคล้ายๆกันแค่ไม่สามารถใส่ไม่บันยะบันยังได้เท่ากระเป๋าโดเรมอนเท่านั้นเอง)
ส่วนพวกฃิพข้อมูลหลอดสารที่ตัวละครใช้ก็มโนไปตามรูปในแชปนี้นะคะ ><
เราสัญญาว่าจะ'พยายาม'เขียนให้งงน้อยที่สุดนะคะ ^^"
ยูริไม่ได้บ้าพลังจนไม่คิดหน้าคิดหลังนะคะ
เพราะนางก็มีเหตุผลของนางที่หนักแน่นมากพอเหมือนกัน
เผื่อรีดเดอร์นึกไม่ออกนะคะ ตอนที่ยูริเคยท่าประลองลีจุนนั้นอยู่ในแชป VII [7] นะคะ
คำเตือน...ฟิคเรื่องนี้ไม่มีขอบเขตนะคะ หมายถึง...
ยกตัวอย่างเช่น จองซิสอาจจะมีเอ็นซีกัน อะไรแบบนั้นไม่ถือว่าเป็นพี่น้องกันแล้วจะมีเอ็นซีกันไม่ได้ แต่การยกตัวอย่างแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีแน่นอนนะคะ แฮ่
มันเป็นแค่การยกตัวอย่าง อยากแจ้งรีดเดอร์เอาไว้ก่อน เพราะคาดว่าช่วงหลังๆนี้เอ็นซีอาจจะเยอะหน่อย ไม่ใช่แค่คู่ใดคู่หนึ่งแต่รวมถึงหลายๆคู่
อย่างตอนนี้ก็มีเกิ่นๆแทงสิคเบาๆให้รีดเดอร์ได้เข้าถึงความสัมพันธ์ของตัวละครสองคนนี้อีกหนึ่งขั้น
ปล.พี่ยุนจะถูกงัดเลือดคาสโนวี่กลับมากแล้ว (หราาาาา)
ปล2.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร
แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่
ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา
No comments:
Post a Comment