Chapter XXI
ทิฟฟานี่ซบใบหน้าไว้ที่ไหล่ของแทงกูเธอไม่กล้าขยับกายไปไหนไม่กล้าแม้จะให้แทงกูถอนนิ้วออกไปด้วยซ้ำมันปวดจนระบมไปทั้งช่วงล่าง
ตั้งแต่ลำคอเนินอกหน้าท้องลงไปช่องท้องน้อยจนถึงจุดอ่อนไหวที่ทั้งปวดทั้งเจ็บและแสบอีก ไม่พอบั้นท้ายสะโพกต้นขาก็ปวดหนึบไม่ต่างกัน
ด้วยแรงของแทงกูแล้วด้วยทำเอาทิฟฟานี่รู้สึกเหมือนร่างกายเธอมันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆเพียงแค่ขยับกายเบาๆ
"เจ็บมากใช่มั้ย ทำไมถึงไม่ฟังฉันบ้างนะ"
แทงกูพูดเสียงอ่อนเธอรู้ดีว่าเค้าต้องเจ็บมากแน่ๆก็เธอทำเค้าไปตั้งหลายรอบ และความชื้นแฉะจากของเหลวที่มีมากกว่าปกติอยู่บนหน้าขาเธอ
เธอมั่นใจพันเปอร์เซนเลยว่ามันไม่ใช่แค่ของเหลวใสๆที่ถูกหลั่งออกมาตามอารมณ์เร่าร้อนเป็นแน่
แต่มันคือของเหลวสีแดงข้นที่ไหลเยิ้มออกมาจากบาดแผลต่างหากล่ะ และกลิ่นคาวที่กรุ่นไปทั่วทั้งรถมันยิ่งตอกย้ำว่าเลือดของทิฟฟานี่ไหลออกมาเยอะแค่ไหน
จนตอนนี้ความง่วงและอารมณ์ทุกอย่างได้ถูกปลดปล่อยออกไปจนหมดทั้งอารมณ์ดิบและอารมณ์ขุ่นเคือง เธอใช้มือข้างซ้ายลูบเรือนผมเค้าเบาๆ
อย่างปลอบโยน เธอไม่ได้อยากทำให้เค้าเจ็บไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลยจริงๆเธอพยามหลีกหนีทุกวิถีทางแล้ว
"ฉันไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ไม่คิดว่ามันจะเจ็บมากกว่าครั้งแรกนี่"
เสียงอู้อี้ปนสะอื้นแทบฟังไม่ได้ศัพท์อยู่ที่ไหล่ร่างเล็กรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นกระจายเป็นวงกว้าง
เพราะตั้งแต่ที่เธอถูกอารมณ์ดิบครอบงำจนสติแตกทิฟฟานี่ก็กดใบหน้าไว้ที่ไหล่ซ้ายเธอตลอดเวลา
"นี่ให้ฉันออกมาก่อนดีกว่านะเดี๋ยวมันจะยิ่งปวดระบมจนอักเสบไปมากกว่านี้" แทงกูรู้ดีเพราะทิฟฟานี่ไม่ใช่คนแรกที่เจอแบบนี้แต่เป็นคนที่เท่าไรแล้วไม่รู้นับไม่ท่วน
แต่ทิฟฟานี่เป็นคนแรกที่เธอแคร์และพร้อมจะรับผิดชอบกับการกระทำป่าเถื่อนของตัวเองทั้งความรุนแรงอารมณ์ขุ่นเคืองอารมณ์ดิบ
ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงดึงนิ้วออกมาอย่างไม่แยแสแล้วโยนเค้าทิ้งไว้ข้างทางแล้ว
ทิฟฟานี่กรีดร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเธอค่อยๆถอนนิ้วออกมาจากร่างเค้า เชื่อมั้ยนี่เป็นการถอนนิ้วที่นุ่มนวลที่สุดที่เธอเคยทำมาเลย
“อย่างเกร็งสิยิ่งเกร็งมันก็ยิ่งเจ็บสิ” ไม่นานเธอก็ถอนออกมาได้จนหมดและเธอกำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดี
ทิฟฟานี่ตกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นของเหลวข้นๆสีแดงโกเมนไหลออกมาจากร่างตัวเองจนเปรอะไปทั่ว
เธอเหลือบมองมือข้างขวาของแทงกูที่เพิ่งถอนออกมาจากร่างเธอแค่นั้นก็ตกใจแล้ว แต่พอมาเหลือบมองระหว่างขาตัวเองแล้วแทบช็อค
อะไรมันจะเยอะแบบนี้เนี่ยมันออกมาจากไหนมากมายขนาดนี้
"ทิฟฟานี่..ให้ฉันทำให้เธอสลบไปก่อนดีมั้ยแล้วฉันจะพาเธอไปที่แล็บ"
"คุณยอมให้ฉันเข้าไปได้ด้วยเหรอคะ"
แทงกูครางรับทิฟฟานี่ก็โอเคเธอไว้ใจแทงกู ไม่สิต้องบอกว่าเธอจะยอมให้เค้าทำทุกอย่างโดยไม่คิดจะขัดขืนเค้าอีก
แทงกูแตะเบาๆที่ขมับขวาของร่างบางแว๊บเดียวร่างบางก็หมดสติไป นี่คงเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ทิฟฟานี่เจ็บและทรมานน้อยที่สุด
แทงกูจัดการใส่เสื้อผ้าให้ร่างบางพร้อมกับปลดอาวุธและเครื่องมือรวมถึงเข็มขัดออกเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงรีบออกรถไป
"ว้ายยย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย"
เจสสิก้าแว๊ดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กอุ้มร่างหมดสติของทิฟฟานี่เข้ามาในคฤหาสน์หลังงามตามร่างกายของทั้งคู่มีคราบเลือดเปรอะอยู่บ้าง
ถ้าเปรียบเทียบน่าจะประมาณแผลโดนแทงด้วยมีดสั้นแล้วเลือดก็กระเด็นเลอะไปทั่วอืมประมาณนั้น เดี๋ยวเล่าให้ฟัง แทงกูพูดไว้แค่นั้นแล้วก็รีบตรงไปยังห้องแล็บโดยมีทั้งสี่คนวิ่งตามมา
แทงกูวางร่างทิฟฟานี่ลงบนเตียงในห้องแล็บก่อนจะหันกลับมาเล่าให้อีกสี่คนฟัง เล่าจบสามคนที่รู้ดีก็ถอนหายใจอย่างเอือมระอาจะเหลือก็แต่ฮยอนซึงนั่นแหละที่ยังไม่รู้
โบอาถามว่าจะเอายังไงต่อเพราะทิฟฟานี่เป็นคนนอก ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีเท่าไร ทุกคนก็เห็นด้วยและเข้าใจที่ว่าไม่ดีเท่าไรน่ะคือเรื่องความปลอดภัย
ทั้งในตอนนี้หรืออาจะในอนาคต แต่อย่างน้อยแทงกูก็ป้องกันด้วยการปลดเครื่องมือทุกอย่าง ของทิฟฟานี่ออกหมดแล้ว และล็อคไว้ใน ‘วอร์บ็อกซ์’ เรียบร้อยแล้ว
เจสสิก้าถามว่าจะให้รักษาให้มั้ย ทุกคนก็หันขวับถามพร้อมกันว่า “ในนั้นน่ะนะ”
เจสสิก้าก็หุบปากทันทีแล้วคว้าร่างเล็กมากอดแก้เขินบอก “ลืมไปว่าบาดเจ็บตรงไหน” ทุกคนก็หัวเราะออกมา
แทงกูเลยบอกโบอาว่าเมื่อตอนก่อนจะกลับมาเธอใช้ชิพทำให้ทิฟฟานี่สลบไป แล้วตอนนี้ร่างเล็กก็คิดว่าควรทำให้ทิฟฟานี่ฟื้นก่อนแล้วกันค่อยถามเจ้าตัวว่าเป็นยังไงบ้าง
โบอาได้ยินอย่างนั้นก็รีบจัดการให้ทันที...
"อื้ออ แทงกู..ที่นี่.."
"แล็บฉันเอง ฮยอนซึงก็อยู่นะ แล้วนี่เจ็บมากหรือเปล่าฉันไม่รู้จะช่วยเธอยังไงเลยจะรอถามเนี่ย"
แทงกูยืนอยู่ข้างเตียงมือก็ลูบเรือนผมสีแดงเพลิงอย่างเบามือ ฮยอนซึงก็ยืนกุมมือร่างบางอยู่ไม่ห่างเธอกุมมือเขาตอบ
และหันกลับมายิ้มบางๆให้แทงกูแล้วเอื้อมมืออีกข้างไปจับมือเล็กที่ลูบเรือนผมเธออยู่มากุมไว้เช่นกัน
ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนทั้งดีใจที่เค้ายอมให้เธอเข้ามาทั้งเกรงใจเค้าเธอไม่กล้าขออะไรเค้ามากกว่านี้แล้ว
"ขอบคุณนะคะ แต่แค่นี้มันก็มากพอแล้ว ฉันคงไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ"
"นี่เธอรู้มั้ย บางคนน่ะเกือบตายเลยนะแค่โดนไอ้แทงปล้ำตอนหงุดหงิดเนี่ย"
เจสสิก้ารีบมาเกาะไหล่เพื่อนตัวเล็กชะเง้อหน้ามาพูด ทิฟฟานี่ขมวดคิ้วเชิงแปลกใจไม่ต่างจากฮยอนซึงเท่าไร
“ทำไมดูร้ายแรงจัง” เจสสิก้าพยักหน้างึกๆ ”ใช่สิร้ายแรงมากด้วย...เธอคิดว่านิ้วพวกนี้มันไม่มีพิษหรือไง”
เจสสิก้าจับมือที่ยังเปรอะคราบเลือดอยู่บ้างของเพื่อนตัวเล็กขึ้นมาชูให้ร่างบางดู แทงกูถอนหายใจออกมาอย่างเนือยๆ
"ทั้งหมดในร่างกายฉันน่ะมันมีพิษทุกส่วนแหละ ฉันถึงไม่เคยทำอะไรเธอรุนแรงไง"
ประโยคที่ฟังเป็นนัยๆว่าแทงกูห่วงร่างบางตรงหน้านี้แค่ไหน ได้ยินแบบนั้นทิฟฟานี่ก็อดอมยิ้มน้อยๆไม่ได้จริงๆที่ได้รู้สึกถึงความห่วงใยที่แทงกูมีให้เธอ
"ฮยอนซึงรู้สูตรสารรักษาฉัน แต่ก็ต้องแล้วแต่คุณจะพิจารณาฉันนะคะ" แทงกูขมวดคิ้วบางทีก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจยังไงก็ไม่รู้
ที่สาวเจ้าพูดจาเหมือนชีวิตเค้าไม่มีค่าเท่าไรตายไปคงไม่เป็นไร หรือถ้าเธอจะกรุณาก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง
ร่างเล็กเพยิดหน้าเชิงให้ฮยอนซึงไปจัดการ หนุ่มน้อยก็รีบลุกพรวดไปอย่างว่องไว
"นี่เลิกพูดจาแบบนั้นสักที ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าถ้าฉันไม่แคร์เธอฉันคงจะไม่สนใจเธอ" แทงกูเอ่ยเชิงดุก่อนจะหันมาบอกให้สองพี่น้องเจสสิก้าและคริสตัล
”อยู่ดูทิฟฟนี่ให้สักแป๊บนะขอไปอาบน้ำก่อน” ไม่ไหวแล้วแหละคราบเลือดเต็มขาขนาดนี้อย่างกับแท้งลูกแน่ะ - -*
"นี่...เชื่อป่ะฉันว่าไอ้แทงมันรักทิฟฟานี่แล้วแหงเลยไม่งั้นมันไม่ยอมทำขนาดนี้หรอก"
เจสสิก้าพูดขึ้นหลังจากที่คิดว่าคนตัวเล็กน่าจะออกไปไกลจากห้องแล็บมากพอที่จะไม่ได้ยินแล้ว
ทิฟฟานี่ก็ยิ้มๆแต่เหมือนยังเป็นรอยยิ้มที่เจือปนความเศร้าและความกังวนอยู่ในนั้นยิ่งเจสสิก้าพูดมาแบบนั้นหัวใจเธอก็เริ่มเต้นผิดจังหวะ
ไม่ใช่ไม่ดีใจที่ได้รู้จากปากเจสสิก้าว่าแทงกูรู้สึกยังไงกับเธอแต่เธอดีใจมากต่างหากที่ได้รู้อย่างนั้นและเธอก็คิดว่าเจสสิก้าไม่น่าจะเดาแทงกูผิดไป
และเธอก็เชื่อเจสสิก้า...
ผ่านไปพักใหญ่ฮยอนซึงก็รีบกลับมายังเตียงพอจะรูดซิบลงทิฟฟานี่ก็คว้ามือเขาไว้ก่อน "ใจเย็นโนบราอยู่ค่ะ"
แค่นั้นก็เรียกสายตากรุบกริบจากทั้งสามคนได้เป็นอย่างดี แต่พอรูดซิบลงทั้งสามก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ
"โอ้โห..มิดกว่ามีบราอีกว่ะค่ะ" เจสสิก้าเอ่ยไปตามประสาคนปากไวแต่ทิฟฟานี่ก็ไม่รูว่าทั้งสี่คนตกใจอะไรกัน
พอจะเหลือบมองลองไปก็รู้สึกเจ็บแปล๊บเข้ามาในช่องท้อง นี่เธอจะไม่สามารถขยับตัวได้เลยจริงๆ เลยทำได้แค่หันไปถามสามคนนั้นว่ามีไรเหรอตกใจอะไรกัน
ทั้งสี่คนก็ถามเป็นเสียงเดียวกันว่า “นี่เธอไม่รู้เรื่องเลยเหรอ”
โอ๊ยจะให้เธอต้องรับรู้อะไรในตอนนั้นอีกหรือไงเล่า แค่นั้นก็เจ็บจะตายห่าน เจสสิก้าเลยเดินไปหยิบกระจกมายื่นให้มือเรียวรับมันมาพอส่องดู เท่านั้นแหละ
เหยดดดดเข้...แม่จ้าววว ทำไมกูไม่รู้ตัวเลยวะคะว่าเค้าดูดจนแทบจะเป็นห้อเลือดอยู่แล้วเนี่ยแถมรอยแดงเป็นจ้ำๆเรียงรายกันสวยงามทีเดียวเชียวแหละ
เอาง่ายๆคือแทบไม่เหลือเนื้อที่เป็นสีขาวอยู่เลย
"แค่นั้นมันน้อยไป" ซุ่มเสียงของใครอีกคนดังขึ้นเรียกความสนใจจากทั้งสี่สาวและหนึ่งหนุ่มได้เป็นอย่างดี
ทิฟฟานี่เบิกตากว้างทันทีที่ได้เห็นว่าแทงกูนั้นอยู่ในชุดนอนซีทรูสีดำและมันก็ชวนให้เธอเริ่มอยากจะเป็นคนไม่เจียมตัวขึ้นมาเสียจริงๆ
อยากจะยั่วเค้าเป็นบ้าเลยแทงกูตอนในนี้ดูหน้าเขมือบมากเลยค่ะ แต่ต่างจากอีกสี่คนที่เห็นจนเป็นเรื่องปกติ
"หมายความว่าไงยังน้อยไป" เจสสิก้าหันไปถามคนตัวเล็กที่สาวเท้าเดินมานั่งลงริมเตียงที่มีร่างบางนอนกัดริมฝีปากอยู่นั่น
ทิฟฟานี่จ้องร่างแทงกูไม่วางตากวาดสายตาโลมเลียผิวขาวๆนั้นไม่หยุดหย่อน อร๊ายย อยากจะดึงเค้าลงมาจูบแรงๆทำไมเค้าเป็นคนแบบนี้วะ
แทงกูกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยมองเรียวหน้าหวานปราดเดียวก็รู้แล้วว่าร่างบางคิดอะไร "มองอะไร รู้นะว่าคิดอะไรอยู่"
น่าน...แทงกูรู้ทันเธออีกแล้วหลบตาๆ เค้าเอานิ้วชี้วนๆอยู่แถวหน้าอกแต่ไม่ได้จิ้มโดนนะแต่ถ้าโดนก็ไม่ว่าหรอกอิอิ
แล้วเค้าวนไปที่ไหล่ทั้งสองข้างแล้วก็ไปวนๆแถวสะโพกกับต้นขาข้างขวาของร่างบาง
"มีหมดแหละแต่ช่วงสะโพกกับต้นขาน่าจะเป็นรอยช้ำมากกว่า" ห๊ะ!!!นี่เธอยังเป็นคนอยู่ป่ะวะ แต่แปลกที่คราวเจสสิก้ากับคริสตัลก็ดูตกใจไปด้วย
หรือว่าแทงกูไม่เคยทำรอยไว้แบบนี้เหรอ หรือยังไง...(เพราะแทงกูไม่เคยสนใจจะพาใครกลับมาด้วยต่างหากล่ะ)
หลังจากให้ฮยอนซึงฉีดสารรักษาทิฟฟานี่แล้วคนอื่นๆก็ออกไปจากห้องแล็บแยกย้ายกันไปนอนเพราะมันดึกมากแล้ว จะเหลือแต่แทงกูเนี่ยที่ยังนั่งอยู่ริมเตียง
"เธอรักษาตัวเร็วแค่ไหนเนี่ย เออฉันเช็ดตัวให้เอามั้ยตัวเธอยังเลอะคราบเลือดอยู่เลย"
แทงกูเอ่ยอย่างเป็นห่วงพลางไล้ปลายนิ้วไปบนแก้มนุ่มอย่างเบามือราวกับกลัวว่าเค้าจะแตกสลาย
"ไม่เจ็บมากแล้วล่ะพอขยับตัวได้บ้างแล้ว แทงกูคะฉันไม่กล้าให้คุณเช็ดตัวให้หรอกค่ะ คุณอยู่สูงเกิ..."
ยังไม่ทันที่ทิฟฟานี่จะพูดจบกลีบปากบางประกบลงกับส่วนเดียวกันแผ่วเบา ...ไม่อยากฟัง
"อื้ม..พอก่อนปากเธอมีแผลเดี๋ยวพิษซึม... นี่จะให้ฉันต้องบอกเธออีกกี่ครั้้งว่าเลิกพูดแบบนั้นได้แล้วเข้าใจมั้ย"
ร่างเล็กผละออกมาก็อดจะดุเค้าไปอีกไม่ได้จริงๆ ทำไมเค้าถึงดื้อแบบนี้นะ
ทิฟฟานี่ผ่อนแรงดึงรั้งต้นคอร่างเล็กตอนแรกที่เหมือนจะรั้งให้เค้าจูบต่อพอได้ยินเหตุผลเค้าก็เลยต้องยอมปล่อย
เพราะทุกส่วนในร่างกายของแทงกูมีพิษที่พร้อมจะซึมเข้าบาดแผล
"ถ้างั้นฉันคงต้องบอกว่าฉันอยากให้คุณเช็ดให้นะ แต่กลัวอารมณ์ตัวเอง" ร่างเล็กยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วก็ทำท่าเหมือนคิดๆอะไรอยู่
"เออ...หายเจ็บบ้างแล้วใช่ป่ะงั้นฉันอุ้มเธอไปนอนห้องฉันนะ ฉันไม่อยากให้เธอคลาดสายตา"ร่างบางตอบรับทันควันพร้อมฉีกยิ้มอย่างยินดี จนแทงกูอดขำเบาๆไม่ได้
ก่อนจะหยิบบางอย่างมาปิดตาเธอไว้แล้วค่อยๆช้อนร่างเธอขึ้นมาอุ้มอย่างเบามือแต่ความเจ็บมันก็ยังเล่นงานเธออยู่
“อ๊ะ ซี๊ด” “เจ็บเหรอ” แทงกูรีบถามเบาๆอย่างเป็นห่วง “นิดหน่อยค่ะไม่เป็นไรหรอก” ทิฟฟานี่เองก็รู้สึกนะว่าแทงกูพยามทำทุกอย่างให้เบาที่สุดแล้วจริงๆ
โอ้โหห้องเค้าสวยมากเลยอ่ะ ใหญ่จนเหมือนบ้านเลยแถมยังตกแต่งแบบเรียบๆด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราโทนสีขาว...มั้ง
คือมันเหมือนจะขาวนะแต่มันก็มีสีอื่นๆปนอยู่ด้วยโดยที่ภาพรวมดูแล้วไม่เลอะเทอะได้อย่างไม่น่าเชื่อ คิดแล้วก็ใจหายไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มีวันที่เค้าให้เธอมาอยู่ด้วยในห้องส่วนตัวแบบนี้
แทงกูนั่งอยู่ข้างๆร่างเธอหลังจากที่เค้าอุ้มเธอมาวางบนเตียงขนาดคิงไซต์ในห้องนอนเค้าและเปิดตาให้เธอ
และตอนนี้เค้ากำลังเช็ดตัวให้เธอ โดยเริ่มจากลำคอที่มีรอยคราบเลือดอยู่หน่อยจากบาดแผลเล็กๆที่น่าจะเกิดขึ้นเพราะโดนกัดหรือดูดแรงจนเกินไป
แทงกูพยามรูดซิบชุดร่างบางลงให้น้อยที่สุดและเว้นตรงช่วงหน้าอกไว้ ทิฟฟานี่บอกคนตัวเล็กว่าเช็ดไปเถอะเธอไม่ได้หวงกับเค้าอยู่แล้ว
แล้วซิบน่ะก็รูดมันออกไปเถอะจะได้เช็ดสะดวกๆ แทงกูก็บอกว่าเค้ากลัวตัวเองห้ามใจไม่ได้น่ะสิ
เธอเลยยิ้มยั่วไม่ทีบอก “แล้วแต่คุณแล้วกัน ยังไงฉันก็ยอมคุณหมดนั่นแหละ”
แล้วแทงกูก็ทำเหมือนพยามตั้งสติเพราะถึงยังไงช่วงที่เลอะมากที่สุดก็คือระหว่างขา ดีหน่อยทีเธอใส่กระโปรงเค้าเลยถอดชั้นในเธอออกไปอย่างไปต้องลังเล
ตอนนี้มือเล็กกำลังพยามค่อยๆถอดเสื้อหนังรัดรูปของเธอออกไปอย่างเบามือ จนร่างบางเหลือแค่กระโปรงสั้นๆตัวเดียวเท่านั้น
แทงกูหันไปเงยหน้าขึ้นหลับตาแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อรวบรวมสติอีกครั้ง จนทิฟฟานี่อดขำไม่ได้ต้องถามเค้าไปว่า มันขนาดนั้นเลยเหรอ
เค้าก็หันกลับมาถามว่า ถ้าสมมุติเปลี่ยนเป็นเค้าที่นอนเปลือยร่างให้เธอเช็ดตัวให้เธอกล้าพูดมั้ยล่ะว่าจะไม่รู้สึกอะไร แค่คิดตามก็รู้สึกแล้วแหละอิอิ
มือเล็กค่อยๆจับขาเธอแยกออกจากกันอย่างเบามือแล้วใช้ผ้าอุ่นๆเช็ดถูคราบเลือดที่ต้นขามาถึงขาหนีบเธอเบาๆ กลีบปากเรียวบางก็ถามอยู่ตลอดว่ายังเจ็บอยู่มั้ย
ใบหน้าหวานเหลือบมองคนตัวเล็กที่กำลังบรรจงเช็กเรียวขาให้เธอยู่รอยยิ้มบางๆก็ถูกเผยออกมาอย่างห้ามไม่ได้
แทงกูในตอนนี้ดูน่ารักมากเลยล่ะเค้าดูไม่มีทีท่าว่าจะฉวยโอกาสหรือทำอะไรเธอเลย ดวงตาสีฟ้าที่ตอนนี้มีเพียงความอ่อนโยนยังคงสบตาเธออยู่ตลอด
แทงกูเว้นตรงกลางกายไว้เพราะมันยังมีบาดแผลอยู่เค้าบอกว่ากลัวพิษซึมอีกแล้วก็กลัวเธอเจ็บด้วย
เธอว่ามันหายเจ็บไปเยอะแล้วนะเพราะฮยอนซึงฉีดสารให้ตั้งสามเข็ม พอเช็ดตัวเสร็จเค้าก็เหมือนจะนั่งคิดอะไรอยู่พอถามเค้าก็เม้มปาก
ก่อนจะพูดว่า “จริงๆแล้วฉันอยากดูแผลเธอนะ แต่มันจะดีเหรอ” ทิฟฟานี่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้คนตัวเล็กดูนิก็บอกเค้าไปว่า “จะดูก็ดูสิคะ”
แอบคิดในใจเค้าเห็นมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วคงไม่ต้องอายอะไรแล้วมั้ง
มืเล็กค่อยๆเลิกชายกระโปรงเธอขึ้นแล้วแทงกูมองมันอยู่แค่อึดใจเดียวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเม้มปากกลอกตาไปมา ราวกับว่ากำลังคิดกังวนอะไรอยู่
“เธอแพ้สารอะไรบ้าง” ถึงไม่รู้ว่าร่างเล็กจะถามทำไมแต่ก็บอกไปทั้งที่รู้ว่าไม่ควรบอกเรื่องพวกนี่ให้ใครรู้นอกจากคนที่ไว้ใจได้จริงๆ
แต่ตอนนี้เธอคิดว่าเธอไว้ใจแทงกูมากพอที่จะบอกเค้าแล้วแหละ แทงกูพยักหน้ารับเบาๆแล้วลุกเดินไปอีกมุมของห้องซึ่งเธอมองไม่เห็นว่าเค้าทำอะไร
ไม่นานเค้าก็เดินกลับมาพร้อมกับหลอดหยดสาร
“อาจจะเจ็บหรือแสบนะแต่มันจะช่วยแก้พิษฉันได้“
เธอพยักหน้าแล้วให้เค้าหยดสารลงที่ปากแผล ซี๊ดด โอ๊ยยแสบจริงๆด้วยหวะ แม่มนึกถึงสมัยเด็กๆที่วิ่งหกล้มแล้วโดนเอาแอลกอฮอล้างแผลราดแบบนั้นเลย
แต่นี่แค่เปลี่ยนจากผิวหนังภายนอกเป็นจุดอ่อนไหวเอ๊งง โอ๊ยยน้ำตาเร็ดเลยค่ะ
'ซี๊ดดด! โอ๊ยทำไมมันแสบแบบนี้ล่ะเธอเอาพิษอะไรมาพ่นใส่ฉันเนี่ย'
จู่ๆในสมองของทิฟฟานี่มันก็มีมโนภาพของใครอีกคนซ้อนขึ้นมาบนสถานะการณ์จริงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้
ร่างบางเม้มปากและหลับตาไว้แน่นเธอไม่เข้าใจตัวเองเลยไม่เข้าใจเลยจริงๆ
"โอ๋ๆเสร็จแล้วค่ะ รับลองไม่เกินสิบห้านาทีหาย"แต่แล้วเสียงหวานๆของแทงกูก็เรียกให้สติของเธอกลับมาอยู่ที่ปจุบันแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกลับไปให้เค้า
ดูเค้าปลอบเธอสิน่ารักเนอะ เค้าดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเธอไว้แล้วก็เดินเอาหลอดหยดสารไปเก็บเสร็จแล้วก็เดินกลับมาสอดกายเข้ามาใต้ผ้าห้มผืนเดียวกันเอนตัวลงนอนข้างๆเธอ
เค้าจุ๊บแก้มเธอด้วยล่ะโอ๊ยยเวลาคนโหดๆมาทำอะไรแบบนี้แล้วรู้สึกว่าเค้าโคตรน่ารักเลยอ้ะ
แทงกูซุกใบหน้าไว้กับซอกคอเธอพ่นลมหายใจอุ่นๆเข้าที่ลำคอระหงท่อนเรียวแขนของเค้าก็พาดอยู่บนหน้าท้องเปลือยเปล่าของเธอภายใต้ผ้าห่มผืนหนา
มือเรียวสอดเข้าใต้ศีรษะของร่างเล็กเพื่อให้เค้าหนุนแขนเธอไว้แทงกูเลื่อนมาจุ๊บที่ริมฝีปากเธอเบาๆ
ก่อนจะเลื่อนลงกลับไปซุกซอกคอเธอตามเดิมมือเค้าก็ลูบไล้แผ่วเบาอยู่บริเวณหน้าท้องเธอ พาลให้เธอต้องย้อนกลับไปนึกถึงวันนั้นอีกครั้ง...
"แทยอน!!เธอจะทำอะไร เธอเป็นอะไรกันแน่เนี่ย ทำไมแรงเธอเยอะแบบนี้"
ทิฟฟานี่ที่ถูกแทยอนลากเข้าในห้อง ร้านนี้ก็ช่างอำนวยมีห้องน้ำคนพิการที่ทั้งกว้างทั้งใหญ่และแข็งกว่าห้องน้ำธรรมดา
ร่างบางถูกกดให้แผ่นหลังแนบเข้ากับกำแพงเย็นเฉียบ ไม่ว่าเธอจะพยามดิ้นแรงแค่ในคนตัวเล็กก็ไม่รู้สึกระคลายเลย
"ถามว่าฉันจะทำอะไรใช่มั้ย ฉันก็จะลงโทษคนที่มันคิดไม่ซื่อไง"
แทยอนพูดรอดไรฟันเธอกดข้อมือของทิฟฟานี่ไว้เหนือศีรษะของเค้าไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว
"แทยอน!! เธอจะทำอะไรฉันอย่านะ แทงกูไม่ปล่อยเธอไว้แน่"
ทิฟฟานี่ตกใจจนแทบสติแตกหรือแตกไปแล้วก็ไม่รู้ ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเจอใครแรงเยอะแบบนี้มาก่อนเลย
"ทำไมแทงกูของเธอเค้าจะทำอะไรฉันเหรอ คิดเหรอว่าเค้าจะช่วยเธอ เค้าไม่เคยบอกรักเธอไม่ใช่เหรอ"
แทยอนทำเสียงเชิงท้าทายกวนประสาทยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหวาน ทิฟฟานี่ชะงักไปเล็กน้อยพอเจอคำพูดแทงใจดำแบบนั้น
"แทยอน ฉันขอโทษ หยุดเถอะนะขอร้องอย่าทำแบบนี้ ฉันยอมเธอทุกอย่างเลยแค่อย่าทำเรื่องแบบนั้นนะ"
ทิฟฟานี้ใจตกไปอยู่ตาตุ่มทันทีจากที่เคยอวดเก่งอะไรไว้หมดแล้วจริงๆ
น้ำใสๆพาลจะไหลออกจากดวงตาสีโลหะสวยที่เคยแข็งแกร่งแต่ตอนนี้เหลือเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มใสทั้งสองข้าง
เมื่อแทยอนใช้มืออีกข้างค่อยๆรูดซิบเสื้อหนังรัดรูปของเธอลงช้าๆ
มือเล็กหยุดไว้แค่เนินอกแทยอนหลือบมองใบหน้าหน้าที่กำลังเว้าวอนขออภัยโทษจากเธอ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดพรายขึ้นมาทันที
“ทุกอย่างเลยใช่มั้ย” ร่างบางพยักหน้าช้าๆ
"งั้นตอบมาหน่อยสิว่าตั้งแต่แรกเธอกลับมาบอกยุนอาว่าคิดถึงทำไม เธอกลับมาทำเหมือนเธอกำลังอยากได้เค้ากลับไปทั้งๆที่เธอก็มีเจ้าของอยู่แล้ว"
แทยอนพูดรอดไรฟันพร้อมเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ จ้องใบหน้าเรียวไม่วางตา
ทิฟฟานี่พยามหันหน้าหนี แต่แทยอนก็จับคางเธอบิดให้เธอหันกลับไปสบตาเค้า ตอนนี้ร่างบางเริ่มสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆของคนตรงหน้าที่เป่ารดใบหน้าเธอ
"เธอไม่เข้าใจฉันหรอก แล้วฉันก็ไม่รู้จะตอบเธอได้ยังไง"
ทิฟฟานี่พูดเสียงอ่อนเธอยังคงไม่กล้าสบสายตาเค้า ใช่สิ จะให้เธอกล้าพูดได้ยังไงล่ะว่าเธอพยามจะทำให้เค้าสองคนเลิกกันเพราะอะไร
ร่างบางม้มปากแน่น แทยอนเอาแต่พูดว่า บอกเค้าสิบอกมาเลยบอกมาตรงๆกล้าทำก็กล้ารับดิ เสียแรงที่เค้าเคยหลงใหลความสวยเธอเธอจริงๆ
เค้าพูดย้ำไปย้ำมาว่าเค้ายังกล้าพูดกล้ายอมรับทั้งกับเธอและกับยุนอาเลยว่าเธอถูกใจมากจนเค้าแทบอดใจไม่ไหว
แล้วทำไมแค่นี้เธอถึงไม่กล้ายอมรับล่ะว่าคิดจะทำอะไรถึงได้มาพยามทำให้ยุนอากลับไปรักเธอ มือเล็กเริ่มเขย่าร่างเธอเคล้นจะเอาคำตอบ
"แทยอน ฉันไม่อยากให้เธอเกลียดฉัน"
ทิฟฟานี่พูดเสียงสั่นเธอหลับตาแน่นแทยอนยังคงเขย่าร่างเธอแรงขึ้น ถามเสียงแข็ง”จะกลัวอะไรอีกห้ะ “
คนตัวเล็กเริ่มขึ้นเสียงย้ำถาม มือข้างซ้ายของเค้าที่รวบข้อมือเธอไว้ก็เริ่มออกแรงบีบแขนเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
ทิฟฟานี่กัดปากล่างตัวเองไว้คิดในใจทำไมเค้าถึงได้แรงเยอะขนาดนี้กัน เธอรู้สึกเจ็บแปลบไปหมดรู้สึกเหมือนเค้าบีบแขนเธอจนกระดูกร้าวไปหมดแล้ว
"แล้วเธอคิดว่าที่เธอมายุ่งกับยุนอาแบบนี้ คิดว่าฉันจะไม่เกลียดเธอหรือไงห้ะ! ทิฟฟานี่!" เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลแอลม่อนของเค้าที่เคยหยาดเยิ้ม
ในยามที่มองเธอเมื่อครั้งก่อนแต่ในตอนนี้ราวกับมีเปลวเพลิงกำลังปะทุและเริ่มจะรุกลาม เธอรู้ว่าเค้าโกรธแต่เธอไม่กลัาพูดนี่เธอควรจะทำยังไงกันดีล่ะ
"สักวันเธอก็จะรู้เองแหละ" แทยอนขบกรามแน่นเธอไม่เข้าใจทิฟฟานี่เลย เค้ามายุ่งกับแฟนเธอซึ่งก็คือแฟนเก่าเค้าทุกอย่างที่เค้าทำมันชัดเจนแค่ไหน
เธอก็รู้ ทิฟฟานี่ทำให้เธอคิดไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยจริงๆนอกจากว่าเค้าอยากจะได้ยุนอากลับไปทั้งๆที่เค้าก็พูดอยู่ตลอดเวลาว่าเค้าเป็นของใคร
"สักวันน่ะเมื่อไรล่ะต้องรอให้เจ้าของเธอเค้าเขี่ยเธอทิ้งก่อนหรือไงแล้วเธอค่อยกลับมาบอกฉันว่าขอยุนอาคืนแบบนั้นหรือไง"
แทยอนเริ่มจะสติหลุดเพราะยิ่งทิฟฟานี่ไม่พูดเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าร่างบางกำลังยั่วโมโหเธอ มือเล็กข้างซ้ายที่รวบเรียวแขนของร่างบางไว้เหนือศีระเค้าก็บีบแน่นขึ้นอีก
ส่วนมือข้างขวาก็คว้าคางมนกดไว้ไม่ให้เค้าหันหนีใบหน้าเราอยู่ใกล้กันแค่ไม่ถึงคืบ
เชื่อมั้ยผู้หญิงคนนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเสียดายความสวยและความมีเสน่ห์ของเค้าเหลือเกิน จนตอนนี้เธอก็ยังยอมรับว่าเค้าสวยมากสวยจริงๆแต่ทำไมเค้าต้องตัวแบบนี้ด้วยนะ
"แทยอนเธอรู้มั้ยว่าเธอเหมือนเค้ามาก" ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงแผ่วยิ่งได้ใกล้ยิ่งได้รู้จักได้มองตามันก็ทำให้เธอรู้สึกว่าเค้าเหมือน...เหมือนมากๆเหมือนใครคนนั้น...
แทยอนนิ่งไปสบลึกเข้าไปในดวงตาสีโลหะนั้นที่ตอนนี้ช่างดูสับสนรวนเลกังวนราวกับโลหะที่กำลังจะโดนหลอมเพียงแต่ความร้อนมันยังไม่เพียงพอ
แต่หยดน้ำใสๆที่หางตาของเรียวหน้าหวานนั้นมันทำให้เธอผ่อนแรงบีบที่แขนเค้าลงไปเล็กน้อย
"เหมือนใคร..ฉันเหมือนใครงั้นเหรอ เธออย่ามาแกล้งเปลี่ยนเรื่องหน่อยเลย ก่อนที่ฉันจะพลั้งมือฆ่าคนสวยๆทิ้ง บอกมาสักทีเธอทำไปเพื่ออะไร"
แทยอนเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้อีกกดเสียงต่ำพูดรอดไรฟัน
ทิฟฟานี่เชิ่ดปลายคางขึ้นราวกับกำลังท้าทายว่าเธอไม่กล้าหรอกหรือถ้ากล้าก็ฆ่าเค้าเลยสิ
ลมหายใจเริ่มถูกพ่นออกแรงขึ้นเธอรู้สึกเหมือนมีไฟสุมอกในอกมันร้อนลุ่มจนแทบจะระเบิดออกมา
มือเล็กข้างขวาลากต่ำลงมาช้าๆผ่านกลางอกมาถึงหน้าท้องของร่างบาง เค้าถามเสียงแผ่ว “เธอจะทำอะไร”
แทยอนกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วลากปลายนิ้วต่ำลงไปจนถึงท้องน้อย
"แทยอนหยุดนะ!เธอนะทำอะไร!"ทิฟฟานี่เริ่มสติกระเจิงเมื่อปลายนิ้วของอีกคนอยู่ใกล้จุดสงวนมากเกินไปแล้ว
ถึงแม้ร่างเธอจะยังมีอาภรณ์ครบทุกชิ้นแต่เธอก็ไม่ได้อยากให้ใครมาแตะต้อง
"อ้ะ!..."
"คิดว่าอารมณ์นี้ฉันจะพิศวาสอยากจะลวนลามเธอนักหรือไง"
ทิฟฟานี่กรีดร้องออกมาอย่างตกใจจู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกระแทกเข้าที่เอวบางข้างซ้ายอย่างแรง
แทยอนกระตุกยิ้มมุมปากบอก “อย่าคิดว่าฉันไม่กล้า...ฆ่าเธอน่ะมันไม่ได้ยากไปกว่าฆ่าคนธรรมดาเลย”
ทิฟฟานี่กัดปากแน่นสะกดกลั้นความเจ็บปวดเธอเหลือบมองลงไปยังจุดที่คิดว่าน่าจะมีบาดแผล นั่นแทยอนใช้อะไรแทงเธอน่ะอย่าบอกนะว่ามือเปล่า..บ้าน่ะ
คิ้วเรียวขมวดแน่นคิดในใจแบบนั้นเมื่อเหลือมองลงไปยังเอวข้างซ้ายเห็นรอยบาดแผลคล้ายๆโดนมีดแทง
แต่แทยอนไม่ได้ถืออาวุธอะไรอยู่เลยที่มือเล็กของเค้าเปรอะคราบเลือดอยู่หน่อย
"จะรีบบอกหรือจะรอให้พิษกระจายไปทั่วร่างจนเธอขยับตัวไม่ได้ดีล่ะหึ้ม"
ทิฟฟานี่เบิกตากว้าง อะไรกัน...นี่เค้าใช้อะไรแทงเธอก็ไม่รู้แถมพิษกระจายได้อีก เธอก็ยังไม่รู้ตัวเลยนี่เค้าเป็นใครกันแน่เนี่ย
แล้วแบบไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องบอกเค้าใช่มั้ย ทิฟฟานี่หลับตาแน่นสูดหายใจเข้าลึกๆ
"ฉันสนใจเธอ...."
แทยอนขมวดคิ้วหมายความว่าไงถ้าเค้าสนใจเธอแล้วเค้าจะไปยุ่งกับยุนอาทำไมแถมยังไม่ได้พูดถึงเธอเลยด้วย
"อย่ามาหลอกฉันให้ยากเลย ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเธอจะเข้าหายุนอาทำไม เข้าหาฉันเลยไม่ง่ายกว่าเหรอ แถมตอนแรกฉันก็แสดงออกชัดเจนขนาดนั้นแล้วว่าฉันสนใจเธอ"
แทยอนทำเสียงขึ้นจมูกพูดจบก็เบะปากใส่เค้าไปอีกที ก็มันจริงนี่ถ้าเค้าเลือกเข้าหาเธอแต่แรกเธอคงไม่รู้สึกอยากจะฆ่าเค้าขนาดนี้
และมันก็คงจะน่าเชื่อกว่านี้ว่าทิฟฟานี่สนใจเธอ แต่นี่ทุกอย่างมันยืนยันชัดเจนว่าเค้าอยากได้ยุนอากลับไป
"ฉันบอกแล้วไงว่าเธอไม่เข้าใจหรอก"
"ก็พูดให้ฉันเข้าใจสิ พูดให้ฉันเชื่อเธอให้ได้สิว่าเธอไม่ได้อยากได้ยุนอาพูดมาสิ หรือจะให้ฉันทำอีกแผล?"
แทยอนพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเธอมั่นใจว่าเค้าอยากได้ยุนอาและเธอก็รู้ว่าตอนนี้เธอถือไพ่เหนือกว่าเค้าอยู่เพราะงั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องรีบ
"เพราะฉันไม่ชอบเข้าหาใครก่อนไงแต่ที่เลือกเข้าหายุนอาเพราะฉันคิดว่าเค้ายังลืมฉันไม่ได้จริงๆ"
เหตุผลปัญญาอ่อนเกินไปมั้ย “งี่เง่า” เหตุผลลอยๆ แทยอนแทบอยากจะตบหน้าเค้าให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลยจริงๆ
ทิฟฟานี่มองหน้าเธอด้วยสายตาเว้าวอน ราวกับจะทำให้เธอหลงสเน่ห์เค้าอีกอย่างนั้นแหละ
"เหอะ..นึกว่าสวยแล้วฉันจะใจอ่อนหรือไง จำใส่สมองเธอไว้บ้างก็ดีนะว่าเธอคิดผิดตั้งแต่ที่เลือกจะเข้าทางยุนอาแล้ว
เพราะถึงยุนอาจะไม่สนใจเธอแต่ฉันรู้ว่าเธอสนใจเค้า และฉันเอาเธอตายแน่ถ้าเธอยังทำให้ฉันเชื่อไม่ได้ว่าเธอไม่ได้คิดอย่างที่เธอทำจริงๆ"
ทิฟฟานี่เม้มปากแน่นจ้องมองใบหน้าใสที่กำลังเข้าใจเธอผิดไปไกล เธอรู้นะว่าสิ่งที่เธอทำน่ะมันไม่ชวนเชื่อเหตุผลก็ฟังไม่ขึ้น เพราะทิฐิของตัวเอง
เพราะเธอคิดว่าเธอไม่มีทางจะไปเข้าหาใครที่เธอไม่มั่นใจแล้วไปบอกเค้าว่าเธอสนใจเค้าก่อน
เว้นแต่กรณีแทงกูเค้าคือสิ่งอัศจรรย์ที่สุดในชีวิตเธอเลยล่ะ ไม่สิแทงกูก็เลือกเธอก่อนเพราะงั้นมันจะแปลกอะไรที่เธอเลือกจะไม่เข้าหาแทยอนนก่อน
แต่ตอนนี้เธอจะมองหน้าแทยอนต่อไปยังไงดีเธอรู้ตัวว่าเธอสนใจเค้าจริงๆ
แต่เพราะอะไรน่ะไม่รู้ และตอนนี้แทยอนก็กำลังบังคับให้เธอยืนยัน เธอคิดว่าแค่พูดไปมันคงไม่มีทางทำให้เค้าเชื่อได้ แต่เห็นเค้าแล้วเธอก็อดนึกถึงคนคนนั้นไม่ได้จริงๆ
เธอกัดริมฝีปากล่างไว้ครุ่นคิดซ้ำๆเวลาที่มองกลีบปากเรียวนั้นขยับเอื้อนเอ่ยคำใดๆออกมา...
"จูบฉันสิ เธอจะได้รู้ไงจูบฉันสิแทยอน"
แทยอนนิ่งไปอีกครั้งขมวดคิ้วแน่นมันก็จริงว่าจูบมันอาจจะช่วยยืนยันได้แล้วมันก็ยืนยันทั้งสองฝ่ายด้วยสิ
เธอสบลึกเข้าไปในดวงตาสีโลหะนั่นยังพบแต่ความเว้าวอนหนักแน่นขึ้นมาเล็กน้อยเธอกระตุกยิ้ม
"แล้วทำไมเธอไม่จูบฉันเองล่ะ อยู่ใกล้แค่นี้เอง"
มันก็จริงอ่ะเธอไม่ได้จับหน้าเค้าไว้แล้วแถมใบหน้าเรายังใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายได้
เค้าเผยอริมฝีปากขึ้นในขณะที่ยังสบตาเธอแล้วค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าหาเธอช้าๆ ร่างบางปิดเปลือกตาลงพร้อมสัมผัสอุ่นนุ่มทาบลงมายังริมฝีปากเธอ
เธอยังคงมองหน้าเค้าอยู่เผยอปากกลีบขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่ได้จูบตอบเค้าไป
ทิฟฟานี่ดูดดุนกลีบปากล่างของเธอเบาๆก่อนจะใช้ปลายลิ้นและเล็มกลีบปากเธอเนิบนาบแล้วส่งเรียวลิ้นเข้ามากวาดชิมในโพรงปากเธอ
แทยอนค่อยๆผละใบหน้าออกมาทั้งที่ยังคงมองใบหน้าหวานที่เคลื่อนตามมาช้าๆ ...แทบจะทนไม่ไหวจนเกือบจูบตอบเค้าไปแล้วนะแทยอน
ก่อนที่ร่างบางจะปรือเปลือกตาขึ้นสบตาเธอ
"เชื่อฉันหรือเปล่า"
ทิฟฟานี่ถามเสียงแผ่วหลุบตามองกลีบปากเธอที่กำลังใช้เรียวลิ้นตวัดเลียความแฉะชื้นที่ริมฝีปากตัวเองช้าๆ
เธอรู้สึกนะในจูบนั้นว่าเค้าสนใจเธอแต่เธอจะมั่นใจได้ไงว่านั่นไม่ใช่การแกล้งทำ
แทยอนเลื่อนสายตาลงไปมองที่บาดแผลเค้าแล้วหยิบหลอดสารเล็กๆออกมากัดฝามันเพื่อเปิดออกแล้วสาดเข้าที่บาดแผลของร่างบาง
"ซี๊ดดด! โอ๊ยทำไมมันแสบแบบนี้ล่ะเธอเอาพิษอะไรมาพ่นใส่ฉันเนี่ย"
อดโวยวายไม่ได้เลยจริงๆเล่นสาดมาแบบนี้ก็น้ำตาเร็ดเลยดิ ยังจะมายิ้มอีกนี่สรุปคือเค้าเชื่อเธอหรือยัง
“รู้มั้ยซี๊ดเมื่อครู่เธอโคตรเซ็กซี่เลยว่ะ555”
อร๊ายยคนบ้าอะไรวะคะ โอ๊ยถ้าฆ่าเค้าได้เธอฆ่าเค้าแน่แต่แรงเค้าทำไมมันเยอะแบบนี้ล่ะแทงกูยังไม่แรงเยอะขนาดนี้เลย
"พิษชั้นสูง...อย่าเพิ่งดีใจไปที่ฉันยอมรักษาให้เนี่ยเพราะอีกไม่กี่นาทีร่างเธอก็จะไร้ความรู้สึกแล้ว แต่ฉันยังไม่เชื่อเธอหรอกนะ"
"เธอปล่อยฉันก่อนได้มั้ยฉันจะเอาบางอย่างให้ดู ฉันไม่หนีเธอไปไหนหรอกไม่คิดจะเล่นลิ้นด้วย"
แทยอนเลิ้กคิ้วกระตุกยิ้มมุมปาก “เมื่อกี้เธอก็เล่นไปแล้วนี่ลิ้นน่ะ” ทิฟฟานี่ถลึงตาใส่ร่างเล็กทันทีทำไมเค้ากวนประสาทแบบนี้ล่ะยุนอาคบด้วยไปได้ไง
เฮ่ยๆจะทำอะไรเธออีกเนี่ยมาลูบๆคลำๆอะไร!! “จะเอาอะไรให้ดูก็บอกมาฉันหยิบเองอยู่ตรงไหนล่ะ”
แทยอนถามพลางมองหน้าแต่มือเค้าเนี่ยโอ๊ยยเค้าโรคจิตเปล่าวะคือแบบโอเคที่เค้าไม่ได้แตะต้องจุดสงวนเธอ
แต่แทยอนก็ไม่ควรจะเข้าใกล้และแตะต้องส่วนอื่นจนทั่วแบบนี้นะ...อร๊ายย
ห้ะเค้าปล่อย? แปลกจัง มองหน้าคนตัวเล็กอึ้งๆเค้ายิ้มมุมปากแล้วเพยิดหน้าใส่เธอเชิงให้เธอเอาของที่ว่าให้เค้าดู
เธอหยิบไอแพดออกมาจิ้มๆอยู่แป๊บนึงพอมีข้อมูลเรียงรายขึ้นมาก็ยื่นให้ร่างเล็กเขินนะที่ต้องทำแบบนี้
แต่ทำไมเค้าดูโกรธขึ้นมาขนาดนั้นเค้ายัดไอแพดใส่มือเธอคืน
"ช่วยอย่าเอาเราไปเปรียบเทียบกัน และถ้าเธอจะบอกว่าสนใจฉันแค่เพราะว่าเราคล้ายกันก็ เชิญกลับไปเป็นของแทงกูเถอะ"
แทยอนขึ้นเสียงใส่ร่างบางพูดจบก็หันขวับกำลังจะเปิดประตูเดินออกไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ตัวนะว่าเธอกับแทงกูน่ะเหมือนกันอย่างกับคนเดียวกัน
เพราะทิฟฟานี่ไม่ใช่คนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเค้ากำลังจะบอกว่าเธอเหมือนแทงกู แต่มีใครอีกหลายๆคนที่เคยบอกเธอ แต่ช่วยเข้าใจหน่อยได้มั้ยอารมณ์คนมันเกาเหลากันน่ะ
ช่วยอย่ามาเติมอย่างอื่นให้ระหว่างเราเลยนอกจากผักกับเนื้อ
"แทยอน!!เดี๋ยวสิแทยอน!!ฉันไม่รู้นี่ ถ้าเธอสนใจฉันเธอจะไล่ฉันทำไมล่ะ" ทิฟฟานี่รีบคว้าข้อมือเล็กเอาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูได้เสียอีก
"เธอเป็นของแทงกูนั่นแหละดีแล้วเพราะฉันก็มียุนอาแล้ว และฉันก็รักเค้ามากเพราะงั้นปล่อยให้ระหว่างเรามันมีแค่นี้เถอะ"
แทยอนพูดเสียงเรียบเธอไม่อยากเลวไปมากกว่านี้แล้วแค่นี้เธอก็รู้สึกผิดต่อยุนอาจะตายอยู่แล้ว
เกลียดความเจ้าชู้ตัวเองแทบตายแต่สุดท้ายมันก็ยังมีอยู่ในกระแสเลือดเธออยู่ดี
ให้ยอมรับจริงๆเธอรู้ตัวว่าเธอชอบทิฟฟานี่มากอยากได้มาก แต่เธอควรจะตัดทิ้งไปเพื่อคนที่รักเธอมากดีกับเธอมากกว่าใครหลายคนที่เธอเคยเจอ
เธอควรจะเป็นคนรักที่ดีของยุนอา...
ทิฟฟานี่เงียบไปใช่สิก็เค้าเป็นแฟนกันนิส่วนเธอเหรอก็เป็นแค่ของเล่นของแทงกูไงเธอไม่น่าไปแอบมีความรู้สึกดีดีให้คนอย่างแทงกูเลย
แล้วมันผิดหรือไงถ้าเธอรู้สึกว่าแทยอนคล้ายกับแทงกูแล้วเธอก็อยากได้แทยอนมาเป็นแฟน เธอไม่มีสิทธอยากทำแบบนั้นหรือไงล่ะ
ร่างเล็กดึงมือเธอออกจากข้อมือเค้าแล้วแทยอนก็กำลังจะเดินออกไปอีกแล้ว เฮ้ออ นี่เธอเป็นบ้าอะไรทำไมแทงกูถึงได้มีอิทธิพลต่อหัวใจเธอขนาดนี้เนี่ย
From...Writer
โอ๊ะ...เอาแล้วสิ ทิฟฟานี่เจ้าชู้ 5555 (เหรอ)
ใครดีน๊า ในความคิดส่วนตัวบีมนะบีมว่าทิฟฟานี่ไม่ผิดหรอกที่ทำแบบนั้น
แต่อย่าๆๆๆ อย่าได้คิดนะว่าทิฟฟานี่จะยอมไปได้ตลอดน่ะ หึหึ
ว่าแล้วก็เอาใจช่วยแทยอนกันหน่อยนะคะ
(แต่จะช่วยให้เป็นคนรักที่ดีต่อยุนอาหรือช่วยให้มาแอบคบทิฟฟานี่อันนี้ก็....เอิ๊กส)
คิดว่าแทงกูรักทิฟฟานี่มั้ยล่ะ ดูแต่ละอย่างที่แทงกูทำสิ
5555+
คงคิดไปเป็นอื่นไม่ได้แล้วมั้งเนี่ย
ปล.อาจจะกลับมาอัพอีกทีหลังปีใหม่นะคะ แต่ก็ยังไม่แน่ใจถ้ามาอัพได้ก็จะมาอัพค่ะ แฮ่
ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร
แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่
ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา
No comments:
Post a Comment