Tuesday, December 25, 2012

۞ Amulet Classic ۞ [Chapter XX]



Chapter XX





"นี่แกไม่คิดจะบอกฉันบ้างเลยเหรอยะ"
เสียงเล็กๆแหลมๆของซันนี่เอ่ยเชิงวีนเพื่อนสาวร่างบาง หลังจากที่เธอนั้นได้ไปรู้มาว่่าเจสสิก้ากับสเตฟานี่คบกันและก็แอบหมั่นไส้มัน
แหมมิน่าล่ะหายเงียบกริบไปเลย เจสสิก้านั่งทำตาปริบๆออกจะงงๆอยู่เล็กน้อยก่อนจะเอ่ย

"อ้าวก็ฉันไม่รู้นิว่าแกจะรู้จักกับเค้า"
ซันนี่ยู่ปากเล็กน้อยแต่เอาเถอะมางุงงิงใส่เพื่อนสาวตอนนี้มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรก็สเตฟานี่พูดมาขนาดนั้นแล้วนิ
"เออแล้วเค้าแปลกๆไปป่ะช่วงนี้อ่ะ"
ซันนี่เริ่มเปิดประเด็นออกจะเป็นห่วงเพื่อนสาวอยู่ไม่น้อยเพราะเธอก็พอรู้เรื่องเจสสิก้ามาเยอะอยู่แต่ก็ไม่ถึงกับทั้งหมดเท่าที่แทยอนรู้
แล้วพอถามๆจากสเตฟานี่ดูว่าเรื่องมันเป็นมายังไงทำไมเค้าถึงรู้ได้ทำไมแทยอนถึงได้ยอมเล่าให้ฟัง
เธอก็มั่นใจได้เลยว่าเจสสิก้ารักสเตฟานี่เข้าจริงๆแล้วและก็คงตามสเต็ปนางที่จะรักไปทั้งหัวใจเธอถึงได้เป็นห่วงมันอยู่นี่ไง
"แปลก..แปลกมากเลยด้วย"
ได้ยินเจสสิก้าตอบมาแบบนั้นสาวร่างเล็กก็ลอบถอนหายใจออกมาอย่าเสียไม่ได้ไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไงดี
แล้วนี่มันจะทำใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่แค่อาการมันตอนนี้ก็ดูซึมไปมากกว่าปกติตั้งเยอะ จะบอกให้มันทำใจไว้ก่อนก็ไม่ทันแล้วเพราะมันก็รักไปแล้วอีก
ถ้าจะบอกก็คงบอกได้แค่ให้มันตัดใจนั่นแหละ

"แล้วนี่นังแทยอนมันไปไหนล่ะไม่เห็นหน้าเห็นหนวด"
 เปลี่ยนเรื่องมันไปก่อนเพราะไม่รู้จะบอกเจสสิก้าอย่างไรดี
"โอ๊ยย...ฉันเนี่ยอยู่ร้านเดียวกับมันฉันยังไม่ค่อยจัะเจอมันเลย ช่วงนี้มันติดผัวปล่อยมันไปเหอะ"
ซันนี่ถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างเสียไม่ได้แทยอนเนี่ยนะติดผัวแค่เปอร์เซนที่มันจะมีผัวยังหายากเลย แล้วนี่ยัยสองคนนี่มันร่วมมือร่วมใจกันไม่บอกเธอหรือไงเนี่ย
เอ๊ะหรือเธอเองที่แรดไปนั่งสิงห์อยู่กับซูยองไม่ได้มาพบปะเจอหน้าเพื่อนสาว เอาเหอะมันก็โทษใครไม่ได้เท่าไรอ่ะเนอะ
"หือ...ฉันควรแปลกใจเรื่องที่มันมีผัวหรือเรื่องที่มันติดผัวดีวะเนี่ย"
เจสสิก้าได้ยินแบบนั้นก็แทบจะหลุดขำออกมาไม่ใช่แค่ซันนี่หรอกที่คิดแบบนั้นเธอเองก็ยังคิดเลย
ตอนแรกก็ไม่คิดว่าแทยอนจะจริงจังอะไรกับยุนอาเสียอีกที่ไหนได้ล่ะมันแลดูจริงจังอย่างกับจะรอยุนอามาสู่ขอขนาดนั้น
นั่งคุยกันอยู่พักใหญ่เจสสิก้าก็รู้สึกว่าเหมือนซันนี่ดูแปลกๆไปยังไงไม่รู้ยัยนั่นน่ะทำอย่างกับว่าอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูดออกมาสักที
พอเธอถามมันก็อึกอักๆแล้วบอกเธอว่ามันก็ไม่รู้ว่าจะบอกเธอยังไงเธอก็บอกมันไปว่ามีอะไรล่ะจะบอกจะอะไรก็พูดมาตรงๆนั้่นแหละ
แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่ายัยซันนี่มันต้องพูดเรื่องสเตฟานี่แน่ๆเลย แต่ก็เอาเถอะเธอต้องพยามทำใจยอมรับถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
ก็เธอเลือกเองนิเธอเลือกที่จะยอมมีความรักอีกครั้งแถมยังคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าถึงรักครั้งนี้มันจะทำให้เธอเจ็บแสนสาหัสยังไงเธอก็จะยอมรับมันให้ได้...




ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามายังร้างกาแฟที่มีหน้าตาประหลาดเสียจนเขาคิดว่าน่าจะมีเพียงร้านเดียวในโลก555
พอเดินเข้ามายังเค้าเตอร์ปุ๊บก็เจอรุ่นน้องที่รู้จักกันดียืนก้มหน้าก้มตาตั้งใจชงกาแฟอยู่

"อ้าวพี่ลีทึก..มาได้ไง"
เสียงแหลมๆเอ่ยทักชายหนุ่มทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าเขานั่งยิ้มหวานมาให้เธออยู่นั่นแล้วเขาก็กวนประสาทเธอด้วยการตอบว่า
“เอ้าพี่ก็ขับรถมาสิ”
 แค่รนั้นเธอก็แทบอยากจะไล่ๆเขากลับไปทางเดิมที่เขามาเสียจริงๆ
ดีนะที่หมอนี่ไม่มาเร็วกว่านี้เพราะถ้าลีทึกกับซันนี่ได้จอกันที่ไรสงครามน้ำลายจะเกิดขึ้นทันทีแล้วมันก็คงจะพาให้ลูกค้าในร้านเธอทยอยหายกันไปหมด
เจสสิก้าสังเกตุเห็นแล้วแหละว่าชายหนุ่มกวาดสายตาไปทั่วร้าน โดยเฉพาะโต๊ะหน้าร้านที่ติดอยู่กับประตูทางเข้า เธอรู้ดีว่าลีทึกว่าที่นี่ทำไม แต่ที่แปลกใจน่ะก็คือ
ทำไมเขาถึงมาตอนนี้ ทำไมเขาถึงกลับมาตามแทยอนทุกครั้งที่แทยอนมีแฟนแล้วแต่ช่วงที่เพื่อนสาวเธอไม่มีแฟนเขาก็ไม่มาหรอก

"แทยอนยังไม่ลงมาจะรอป้ะคงนานหน่อยอ่ะเพราะแฟนมันเพิ่งขึ้นไปเมื่อครู่นี้เอง"
เจสสิก้าพูดจบก็กระตุกยิ้มมุมปากสะใจไปที คือจริงๆแล้วเธอก็ไม่ได้ปลื้มขี้หน้าหมอนี่เท่าไรหรอกถึงจะรู้จักกับเขามาพร้อมๆกับแทยอนก็เถอะ
เพราะเธอรู้ไงว่าหมอนี่ชอบแกล้งแทยอนเวลาไปที่ค่าย แล้วนี่ดูสิแค่เธอพูดไปแบบนั้น หมอนี่ก็ทำท่าฟึดฟัดหงุดหงิดอย่างกับเป็นเจ้าของเพื่อนสาวเธองั้นแหละ
"อะไรกันปกติแทยอนไม่ลงมาสายนินี่ อย่าบอกนะว่าพอคบคนนี้แล้วถึงเป็นแบบนี้อ่ะ"
นั่นดูเขาพูดสิพูดเคราวนี้ก็ทำหมือนเป็นพ่อแทยอนแล้ว
อ่อนี่ที่มาวันนี้คงเพราะเมื่อวานเห็นนังแทยอนมันทำตัวติดเรทกับยุนอาหรือไงนะถึงได้เฮิดมาหาถึงที่เนี่ย



ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆเจสสิก้าเลยตัดสินใจขึ้นไปเรียกนังแทยอนคือแบบใจก็ไม่ได้อยากจะขัดจังหวะมันกับยุนอาหรอกนะ
แต่เธอก็รำคาณที่หมอนั่นพูดไม่หยุดปากแถมยังพูดออกมาแต่ละอย่างนี่ไม่ได้น่าฟังเลยสักนิด คริสตัลก็ไปมหาลับกล่าจะกลับก็เย็นๆโน้น
อย่างน้อยถ้าคริสตัลอยู่มันคงจะช่วยดักคอนายลีทึกนี่ได้เยอะกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเธอดักคอชายหนุ่มไม่ได้นะ
แต่ด้วยความเบื่อขี้หน้าเขามันเลยทำให้ไม่ค่อยอยากพูดด้วยไม่อยากมองหน้าอะไรแบบนั้น
แต่อย่างคริสตัลน่ะยัยนั่นมันก็เคยโดนลีทึกแกล้งไงสมัยที่มันกิ๊กกับแทยอนน่ะแล้วอาการหมั่นไส้ก็เลยทำให้คริสตัลดักคอชายหนุ่มได้สนุกมาก
ร่างบางเดินขึ้นมายืนนิ่งอยู่หน้าห้องเพื่อนรักคือแบบ เอิ่มม..ได้ยินเสียงมันแล้วก็..แฮ่ ยังไม่เคาะดีกว่ายืนรอมันอยู่หน้าห้องไปสักพักใหญ่
พอเสียงมันเริ่มเงียบไปแล้วถึงได้เคาะ แทยอนก็ตะโกนถามออกมาว่ามีอะไร เธอเลยตอบมันไปตามตรงมันก็บอกเธอให้รอแป๊บนึง
ก่อนที่มันจะเปิดประตูออกมาชุดมึงนี่แบบ..มึงไม่ต้องรีบขาดนั้นก็ได้มั้ง

"หมอนั่นมันมาทำไมอีกอ่ะ"
แทยอนถามหลังจากที่เปิดประตูห้องให้เจสสิก้าเดินเข้ามา
“รายนั้นอ่ะจะมีอะไรล่ะ มีเหตุผลงี่เง่าอยู่ไม่กี่ข้อ “
ยุนอานั่งฟังสองสาวคุยกันก็ขมวดคิ้วเชิงหงุดหงิดตามแต่ก็ยังงงๆอยู่บ้าง

"เฮ้อ...ฉันจะทำไงดีวะให้มันเลิกตามจองร้างจองผลานฉันแบบนี้เนี่ย"
ร่างเล็กเริ่มจะใส่อารมณ์มากขึ้นพูดจบก็ทำท่าคิดๆอยู่แว๊บนึงก็หันมาทางร่างสูง
"ยุนอาสวมบทเป็นพระเอกร้ายให้หน่อยสิคะ"
แทยอนหันไปดึงเด็กร่างสูงมาใกล้ๆเธอก็ไม่แน่ใจว่ายุนอาจะทำได้มั้ย เพราะปกติแล้วเด็กนี่ออกจะแบ้วเวลาอยู่กับเธอ อิอิ
แต่ก็ต้องลองดูนั่นแหละเค้าก็หันมาเลิกคิ้วเชิงงงๆแล้วถามว่าเค้าต้องทำอะไรมั่งล่ะ เธอกับเจสสิก้าเลยร่ายยาวไปเลย
เชิงว่าก็แค่ทำเป็นหวงๆดุๆแทยอนเล่นอะไรมาก็เล่นตอบหรือไม่ก็อาจจะพูดอะไรตตอกหน้าลีทืกไปบ้างก็เท่านั้นเอง
ยุนอาก็นั่งฟังทำตาปริบๆพอฟังจบก็พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจแต่จะทำได้มั้ยนี่อีกเรื่องนึง555
พอจะลงไปก็จัดแจงเปลี่ยนผ้าโดยที่ทั้งคู่นั้นใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งสบายๆกับก่งเกงขาสั้นผ้ายืดชิวๆ
(พยามจะให้มันดูส่อที่สุดอ่ะว่าทำอะไรกันอยู่555)



"หวัดดี มาถึงนี่มีอะไรหรือคะ"
ประโยคที่แสนเฉยเมยถูกใช้เพื่อเอ่ยทักชายหนุ่ม
แทยอนเดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับร่างสูงเพียวที่เดิมตามมาติดๆแล้วหยุดยืนนิ่งข้างๆร่างเล็ก
เรียวแขนก็ยังคงโอบรอบเอวคนรักไว้อย่างหวงแห้นและประกาศกร้าวว่าร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนนี้ของกูเว่ย
ดวงตาเรียวที่เคยมีแต่ประกายใสๆบัดนี้มันแปรเปลี่ยนเป็นความโฉบเฉี่ยวก้าวร้าวและไม่เป็นมิตร

"ดูสิทักพี่แบบนี้ไม่น่ารักเลยนะครับ พี่คิดถึงเธอแทบแย่ แต่เธอกลับทำท่าทีหมางเมินใส่แบบนี้"
ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อนพยามมองแค่ใบหน้าใสที่อยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของของเค้า
ถึงแม้ว่าในความรู้สึกอยากจะกร่นด่าใส่หน้าหญิงสาวร่าวเพรียวนี่แค่ไหนแต่เขาก็ต้องเก็บกักความรู้สึกนั้นไว้ให้ลึกที่สุด
แม้ว่าจะความรู้สึกขุ่นเคืองไม่พอใจจนแทบอยากจะพุ่งไปชกหน้าเค้าให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย

"ฉันก็ไม่ได้ขอให้พี่มานิแล้วนี่มันก็ไม่ใช่ท่าทีหมางเมินอะไรเพราะเราก็เป็นแค่คนรู้จักกัน และพี่ก็ชอบมาขัดความสุขฉันจึงไม่แปลกที่ฉันจะเบื่อขี้หน้าพี่"
แทยอนพูดเสียงออกจะฟังดูขี้เล่นเหมือนแซวหากแต่สายตาและอารมณ์ที่ชัดเจนและบ่งบอกว่าเธอเบื่อขี้หน้าผู้ชายคนนี้จริงๆ แต่ยังคุมอารมณ์และระดับเสียงไว้ได้อย่างดี
ยุนอายังคงตีหน้าเข้มอยู่ได้ไม่บกพร่องถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกไม่เข้าใจในชายหนุ่มตรงหน้านี้แค่ไหนที่เขายังคงกล้านั่งยิ้มอยู่ที่เดิม
ทั้งๆที่แทยอนพูดใส่ไปขนาดนั้นแล้วเพราะถ้าเป็นเธอ เธอคงไม่อยู่ตั้งแต่ประโยคทักทายแล้ว


ลีทึกนิ่งไปเล็กน้อยที่แทยอนในตอนนี้ดูจงเกลียดจงชังเขาอย่างที่เรียวปากบางนั้นขยับเอ่ยบอกมา
แต่เขาก็ไม่ล้มเลิกความพยามง่ายๆหรอกนะ ชายหนุ่มเลื่อนสายตาเปลี่ยนไปมองใบหน้าคมของหญิงสาวร่างเพียวที่โอบเอวคอดของคนที่เขารักไว้อย่างแนบชิด
"ขอโทษนะครับคือผมขอคุยกับคนที่ผมรักเป็นการส่วนตัวได้มั้ย"

"ไม่..นายจะเอาอะไรอีก แทยอนก็พูดอยู่ว่าเค้าเบื่อขี้หน้ายังจะเสนอหน้าอยู่อีก ไม่พอยังจะกล้ามาขอคุยอย่างเป็นการส่วนตัวอีกเหรอ"
ร่างเพรียวเอ่ยนิ่งๆและดูเย็นชาราวกับไม่ใช่ยุนอาคนที่แทยอนรู้จักเลยล่ะร่างเล็กแอบทึ่งอยู่ไม่น้อยเลยที่ยุนอาจะทำได้เนียนมากขนาดนี้
เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยด้วยซ้ำว่าร่างสูงเพรียวที่ยืนโอบเอวเธออยู่นี่น่ะคือเด็กน้อยของเธอ ถึงจะรู้อยู่แล้วว่ายุนอาน่ะ ไม่ได้ใสซื่ออย่างที่เค้าแสดงออกมาเวลาที่อยู่กับเธอก็ตามที
หรืออาจเป็นเพราะความเคยชินที่ปรกติแล้วยุนอามักจะแสดงด้านสดใสของตัวเองออกมา จนแทยอนก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมตอนนี้ยุนอาถึงแสดงออกมาได้ดูก้าวร้าวขนาดนี้กัน

ลีทึกขบกรามแน่นแววตาฉายแววความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบังถึงแทยอนจะพูดแบบนั้นจริงแต่เขาไม่คิดจะถือโทษอะไรคนตัวเล็กอยู่แล้ว
แต่ร่างเพรียวนี่เค้าเป็นใครก็แค่แฟนของแทยอนและเค้าก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดจาแบบนี้ใส่เขา

"ทำไมพี่มีอะไรทำไมจะต้องคุยเป็นการส่วนตัวฉันว่านะแค่ยุนอายอมให้ฉันลงมาเจอหน้าพี่เนี่ยพี่ก็ควรจะขอบคุณเค้าแล้วนะ
และพี่ก็ไม่ต้องคิดหรอกว่าอยากจะคุยกับฉันเป็นการส่วนตัวเพราะถึงยังไงฉันก็เล่าให้ยุนอาฟังหมดอยู่ดี"
แทยอนดูไม่สบอารมณ์เอามากๆที่ชายหนุ่มพยามจะพูดหักหน้าแฟนสาวเธอด้วยการขอความเป็นส่วนตัวและแววตาที่ลีทึกใช้มองยุนอานั้น
เธอแทบอยากจะเอานิ้มจิ้มลูกตาเขาให้มันรู้แล้วรู้รอด


"แหม..ใช่สิเธอเป็นของเค้าแล้วนี่ หึ..พี่ล่ะไม่เข้าใจเลยจริงๆทำไมเธอถึงไม่เลือกคบผู้ชายอีก คบผู้หญิงด้วยกันมันหน้าภูมิใจตรงไหน"
ชายหนุ่มเริ่มเก็บกักความขุ่นเคืองไว้ไม่อยู่และเริ่มพูดจาเสียมารยาทเพราะอารมณ์ไม่พอใจ

แทยอนได้ยินแบบนั้นก็แสยะยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ทำไมพวกผู้ชายชอบคิดแบบนี้กันจังเลย ในใจเธอตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าแค่เจอผู้ชายอย่างลีทึกคนเดียว
เธอก็พาลจะเกลียดผู้ชายทั้งประเทศแล้วและตอนนี้เธอก็ไม่อยากจะต่อปากต่อคำเพื่อยืดเวลาให้เขาอยู่กวนประสาทเธอมากกว่านี้แล้ว
ร่างเล็กพ่นลมหายใจออกทางจมูกแรงๆเชิงให้ชายหนุ่มรู้ตัวว่าเขากำลังทำตัวหยาบคายอยู่ ก่อนจะหันไปพูดกับคนข้างๆ

"ยุนอาคะเราไปกันดีกว่านะคะฉันไม่อยากเห็นหน้าหมอนี่แล้ว"
แทยอนเลือกจะใช้น้ำเสียงอ่อนโยนอ่อนหวานฟังดูออดอ้อนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว จากเธอที่ใช้พูดคุยกับชายหนุ่มโดยสิ้นเชิง
ร่างสูงเพรียวหันมาพยักหน้ายิ้มรับเล็กน้อยแต่รอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์แบบนั้นของยุนอาทำเอาร่างเล็กแทบคลั่ง อยากจะลากยุนอากลับขึ้นไปบนห้องแล้วเหวี่ยงลงเตียงเสียเดี๋ยวนี้เลย
พอทั้งคู่จะเดินออกไปจากจุดตรงนี้ก็ต้องชะงักเมื่อมือหนาของชายหนุ่มเอื้อมมาคว้าเอาข้อมือเล็กของแทยอนและรั้งไว้อย่าถือวิสาสะ
"เดี๋ยวสิ..พี่อุตส่าต์มาหาถึงนี่คุยกันไม่ถึงสิบนาทีก็จะเดินหนีกันแล้วเหรอ"
แทยอนถอนหายใจพรืดสะบัดข้อมือเล็กน้อยแต่ด้วยแรงที่มีมันเลยทำให้เธอหลุดจากพันธนาการของชายหนุ่มได้ง่ายๆ
เธอเริ่มจะหมดความอดทนกับเขาแล้วจึงเพยิดหน้าเชิงให้เขาเดินตามมายังอีกห้องนึงซึ่งตอนนี้ไม่ได้เปิดให้ลูกค้านั่ง

"พี่ช่วยจำไว้ด้วยนะว่าฉันไม่เคยขอหรือบอกให้พี่มาหาไม่เคยคิดอยากจะเจอหน้าพี่และมารยาทแย่ๆแบบนั้นของพี่
และอีกอย่างช่วยละลึกไว้ด้วยว่าฉันไม่เคยคบผู้ชายเลิกคิดว่าฉันจะมองผู้ชายสักที"
พอประตูปิดลงแทยอนก็หันขวับพูดตอกหน้าชายหนุ่มอย่างเหลืออดและสิ่งที่ร่างเล็กพูดนั้นทำพาเอาคนที่ยืนอยู่ข้างๆอดยิ้มออกมาไม่ได้
ยุนอาได้คำตอบที่เคยข้องใจแต่ไม่มีโอกาสได้ถามแล้วและรอยยิ้มในตอนนี้ของเธอมันก็ช่วยให้ดูเป็นการเยาะเย้ยชายหนุ่มได้อย่างดี

"แล้วหมอนั่นล่ะที่เธอพามันไปที่ค่ายแถมยังทำท่าทางสนิทสนมใกล้ชิดเป็นห่วงเป็นใยกันขนาดนั้น ไม่พอยังถึงเนื้อถึงตัวกันแบบที่เพื่อนชายหญิงทั่วไปเขาไม่ทำกัน"
พูดจบชายหนุ่มก็ยกยิ้มอย่างพอใจกับประโยคที่ตัวเองตั้งใจพูดใส่ร่างเพรียวไม่ใช่ว่ามันไม่ใช่ความจริง
เพราะที่เขาเห็นและรู้สึกมันก็เป็นอย่างนั้นหมอนั่นดูแลแทยอนดีอย่างกับคู่มั่นเลยเหอะ ตามเอาใจใส่ทุกฝีก้าว
ไม่พอตัวแทยอนเองก็ยินดีรับทุกอย่างที่หมอนั่นทำให้แล้วยังมีการออดอ้อนกันอีกจะไม่ให้เขาคิดได้อย่างไรล่ะ
ว่าแทยอนกับหมอนั่นเป็นเพียงแค่เพื่อนกันทั้งความห่วงใยที่แทยอนแสดงมันออกมาแค่หมอนั่นเหมือนจะโดนอะไรมันก็มากเสียจนอดคิดไม่ได้จริงๆ
"พี่คิดไปเองน่ะสิไม่ว่า ทำไม...ฉันจะสนิทกับใครไม่ได้เลยหรือไง สนิทกับใครก็ต้องเป็นแฟนกันนหมดเลยงั้นสิ
ถ้างั้นทำไมพี่ไม่คิดว่าฉันกับสิก้าจะเป็นอะไรกันมั่งล่ะก็สนิทเหมือนกัน"
แทยอนเริ่มจะอยากชกหน้าผู้ชายคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆแล้วสิทำไมเขาถึงเป็นคนไม่ยอมรับความจริงแบบนี้นะ

"งั้นก็บอกพี่หน่อยสิว่าที่หมอนั่นคอยตามประคบประหงมเธอที่คอยเดินตามต้อยๆถามว่าเหนื่อยมั้ยหิวมั้ย คอยซับหน้าซับเหงื่อยื่นน้ำให้
และเธอก็รับมันไว้ทั้งหมดแถมยังเกาะแขนเกาะไหล่หยอกล้อกันแบบนั้นน่ะมันเรียกว่าอะไรเหรอถ้าไม่ใช่แฟนหรือคู่มั่น"
ยุนอาแทบจะหลุดจากการเก๊กขรึมทันทีทันได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมาเพราะถ้ามันเป็นอย่างที่ลีทึกพูดจริงๆถึงเป็นเธอ เธอก็คิดเหมือนกัน
แต่จากประสบการณ์ที่ร่างสูงได้เจอเรื่องคริสตัลมาแล้วทำให้เธอคิดว่าถ้าเธอเป็นลีทึกเธอก็คงเลือกจะถามแทยอนดีดีก่อนว่ามันยังไงกับคนนั้นน่ะเป็นอะไรกัน
เพราะลีทึกตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรจะที่เธอโวยวายเรื่องคริสตัลในตอนนั้นเลย
แทยอนเคล้นหัวเราะออกมา ดวงตาสีน้ำตาลแอลม่อนที่เคยสดใสอ่อนโยนและหวานเยิ้ม
บัดนี้มันเริ่มดูแข้งกร้าววาวโรจราวกับมีเปลวไฟลุกปะทุรุนแรงอยู่ในนั้น แม้ว่าเธอจะยากไม่นึกถึงและไม่อยากจะพูดอะไรให้มันมากความแค่ไหน
แต่ชายหนุ่มก็เอาแต่ดื้อดึงพยามต้อนให้เธอจนมุมและต้องพูดความจริงออกมาอย่างนั้นสินะ

"มันก็ไม่ยังไงหรอก..เขาก็แค่เป็นคนที่พ่อฉันไว้ใจให้คอยดูแลฉันในฐานะคนใกล้ตัวเพราะเขากับฉันรู้จักกันมานาน
แต่เพราะว่าเขาโตมาในแอลเอมันก็เลยไม่แปลกเพราะสังคมที่นั่นเขาไม่ถือเรื่องแค่นี้กันหรอก
และถึงเราจะอยู่กันคนละประเทศแต่เราก็ได้เจอกันอยู่บ่อยๆเพราะเขาสนิทกับพ่อฉัน แต่อย่าได้คิดนะว่าเขาจะเป็นคู่มั่นในอาคต
เพราะพ่อฉันรู็รสนิยมฉันดีและท่านก็ไม่ได้คิดจะกีดกันถ้าฉันจะคบผู้หญิงและที่ฉันพาเขาไปที่ค่ายน่ะ
เราไม่ได้ไปเที่ยวแต่เขาอยากเจอแม่พี่แทคยอนก็เลยแวะพักผ่อนเฉยๆเพราะเขาจะต้องกลับแอลเอในวันถัดไป ฉันก็แค่ไม่อยากให้เขาเหนื่อย
และถ้าจะถามว่าทำไมฉันต้องแคร์ต้องเป็นห่วงเขา ก็เพราะเขาเป็นเหมือนเพื่อนฉันไงอย่างที่ฉันกับเจสสิก้าเป็นกันมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย
หรือถ้าพี่ยังจะไม่เชื่อ...ถ้าตอนนี้ฉันเรียกเขามาอธิบายให้พี่ฟังแทนได้ฉันก็คงทำไปแล้ว หรือพี่อยากจะให้ฉันส่งพี่ไปคุยกับเขาเองดีมั้ย"
ลีทึกขบกรามแน่นทั้งไม่อยากยอมรับว่าตัวเองคิดไปเองทั้งเจ็บใจที่เห็นร้อยยิ้มจากร่างเพรียวข้างๆแทยอนยิ่งพาให้อารมณ์เดือดด่านมันเริ่มปะทุรุนแรง เขาอยากได้แทยอนมากแค่ไหน รอแทยอนมาหลายปีแต่สุดท้ายก็ได้แต่คำพูดเย็นชาไร้ความรู้สึกใดๆ
ยุนอาฟังเรื่องที่แทยอนเล่ามาก็อดอยากรู้ไม่ได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแต่ดูแล้วน่าจะสำคัญกับแทยอนพอๆกับเจสสิก้าเลย
แต่ตรงช่วงท้ายๆประโยคนั้นแทยอนหมายความว่าไงน่ะ ทำไมถึงพูดเหมือนจะไม่มีทางได้เจอกันอีกแล้วอะไรแบบนั้น

"เธอคงจะอยากส่งพี่ไปหามันมากเลยล่ะสิ"
"ไม่หรอกพี่ลีทึก..เพราะพี่น่ะมันเทียบไม่ได้และพี่ก็ดีได้ไม่ถึงเศษเสี้ยวของปลายนิ้วจากทั้งหมด...ของ ’คีย์’ หรอก...พี่กลับไปเถอะฉันไม่อยากเกลียดพี่มากกว่านี้"
แทยอนพูดไว้แค่นั้นก็จูงมือร่างเพรียวเดินออกไปทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มกระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว
เขาแทบอยากจะทำลายทุกอย่างที่ขว้างหน้าเหมือนกับที่แทคยอนเคยทำเขาเพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกของหมอนั่นก็วันนี้เอง
ทั้งเจ็บใจแค้นใจปวดใจที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ...นี้ขนาดมึงตายไปแล้วกูยังแพ้มึงได้อีกนะไอ้คีย์



"พี่โอเค?"
ยุนอาเอียงคอถามคนตัวเล็กด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่กลับขึ้นมาบนห้องแล้วแทยอนก็ดูแปลกๆอยู่หน่อยเหมือนยังหงุดหงิดอะไรอยู่ร่างเล็กหันกลับมาส่งยิ้มบางๆให้เธอ
"พี่ไม่เป็นไรหรอกน่ะ แค่รู้สึกอยากฆ่าหมอนั่นมากเฉยๆ"
เธอพยักหน้ารับแล้วกอดร่างเล็กไว้หลวมๆจากด้านข้างซบใบหน้าลงกับไหล่เล็กของเค้า
ถึงแม้ว่าอยากจะรู้เรื่องผู้ชายชื่อคีย์ที่แทยอนกับลีทึกพูดถึงกันมากแค่ไหนแต่เธอก็ยังต้องเก็บความอยากรู้นั้นไว้ก่อน
รอจนกว่าแทยอนจะอารมณ์ดีแล้วค่อยๆถามคนตัวเล็ก ไม่งั้นนะระเบิดคงได้ลงกลางกระบาลเธอแน่ๆ
แทยอนปิดเปลือกตาลงถอดหายใจออกมายาวๆพยามหยุดคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ มือเล็กขยับไปทาบลงบนหลังมือเรียวที่โอบกอดร่างเธอไว้
เธอสัมผัสได้ถึงความห่วงใยจากเค้าและรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ที่ยุนอามีให้เธอมาโดยตลอด
"ยุนอา.."
เสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียกคนด้านหลังเค้าครางรับสั้นๆเชิงให้เธอพูดต่อ ร่างเล็กเอี่ยวตัวหันกลับไปมองหน้าเด็กร่างสูงที่ตอนนี้กลับมาดูใสซื่อเหมือนเดิมแล้ว
"ขอบคุณนะ..ขอบคุณที่พี่มีเธอ"
แทยอนพลิกตัวหันหน้าเข้าหาอีกคนแล้วยกเรียวแขนขึ้นโอรอบคอบร่างสูงซบใบหน้าลงกับซอกคอเค้า
เค้าหัวเราะเบาๆกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกหน่อยแล้วหันมาจุ๊บแก้มเธอเบาๆ
“พี่จะมีฉันทุกเวลาที่พี่ต้องการ”


"เธอรู้มั้ยว่าเวลาที่เธอเก็กขรึมแบบนั้นน่ะพี่แทบคลั่งแน่ะ"
ผ่านไปพักใหญ่อารมณ์ของแทยอนเริ่มจะกลับมาเป็นปรกติแล้วล่ะ เธอผละใบหน้าออกมามองหน้าร่างสูงที่มองเธออยู่เช่นกัน  ยุนอายกยิ้มเล็กน้อย
"ทำไมพี่ถึงชอบลุคร้ายๆแบบนั้นล่ะ"
เค้าเลิกคิ้วถามเธอกลับมาให้เธอต้องยิ้มตามอย่างอดไม่ได้
"ไม่รู้สิ..รู้แค่ชอบแต่ถึงเธอจะเป็นแบบนี้หรือแบบนั้นพี่ก็รักเธออยู่ดี"
ยุนอาซุกใบหน้าลงกับลำคอระหงของคนตัวเล็กสูดกลิ่นหอมจากร่างกายของคนที่เธอรัก ...รักเธอมากขนาดนี้ฉันคงร้ายกับเธอไม่ลงหรอกนะ แทยอนอา



.


.



มือเล็กไล่ปลายนิ้วลงบนคีย์บอร์ดอย่างชำนาญการเพื่อจัดวางแผนการที่คิดว่าจะต้องรีบดำเนินงานให้เสร็จโดยเร็ว
"คุณแทงกูครับ อาหารเย็นพร้อมแล้วนะครับ" เสียงทุ้มหวานดังเข้ามาจากหลังประตูบานใหญ่ของห้องส่วนตัวแทงกูตอบรับด้วยประโยคสั้นๆ
ก่อนจะหันกลับมาจัดการกับโน๊ตบุ๊คต่ออีกไม่นาน ร่างเล็กก็ลุกขึ้นหยิบรีโมทขนาดเล็กกับกระดาษกราฟแล้วเดินออกมาจากบริเวณโต๊ะทำงาน
นิ้วเรียวแตะปุ่มริมซ้ายล่างบนรีโมทเบาๆ รูปแบบของห้องทำงานหรูหราก็กลับกลายเป็นห้องนอนธรรมดาๆที่มีขนาดใหญ่

"วันนี้ใครเข้าครัวเนี่ย"
ร่างเล็กเดินมานั่งยังที่ประจำบนโต๊ะมีอาหารเรียงรายหลายอย่างเลย อาจจะเป็นเพราะวันนี้มีผู้ร่วมมื้อเย็นเยอะกว่าปกติด้วยมั้งเพราะปกติมันมีแค่เธอเจสสิก้าและโบอามาหลายปีแล้ว
"ใครเข้าล่ะอีบ้าฉันกับตัลออกไปซื้อมาย่ะ แล้วนี่แผนไปถึงไหนแล้ว"
เสียงเล็กแหลมของเจสสิก้าแว๊ดใส่เพื่อนตัวเล็กด้วยความหมั่นไส้ แหมใครจะไปทำไหวเยอะแยะขนาดนี้ ทั้งเธอทั้งโบอาก็ไม่ใช่กุ๊กระดับมืออาชีพซะเมื่อไรล่ะ
แทงกูหันไปบู้ปากพลางทำหน้ากวนๆใส่ เจสสิก้าแล้วก็ส่งกระดาษวาดเป็นแผนที่พร้อมระบุการคร่าวๆให้ร่างบางไปดู
เจสสิก้ารับมาดูแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเป็นปมใหญ่ เฮ่ย...นี่มันเขาวงกตป่ะวะอะไรมันจะซับซ้อนวุ่นวายขนาดนี้




ร่างสูงเพรียวที่ถูกสั่งให้มาสอดแนมที่คฤหาสน์สีนิลหลังใหญ่กำลังจัดการทิ้งวัตถุชิ้นเล็กไว้รอบๆกำแพงสีดำ
เขาพยามใช้ความว่องไวเข้าช่วยในการหลบหลีกสายตาของพวกหน่วยเฝ้าดูแลความปลอดภัย
เช็คดูให้แน่ใจว่าทิ้งวัตถุรอบตัวคฤหาสน์สีนิลแล้วจึงวิ่งหลบออกห่างมาจากตัวคฤหาสน์แล้วจัดการกดโฟนหาเจ้านายทันที "เรียบร้อยแล้วครับ"

ยืนรอสักพักก็มีร่างของอีกคนโผล่มา เขามองไปรอบๆจากจุดที่ยืนอยู่
ด้วยแว่นดำที่ถูกปรับแต่งใหม่เพื่อใช้ในภาระกิจนี้โดยเฉพาะ ไม่กี่อึดใจเขาก็กระโดดหายไปในอากาศ พอตวัดสายตาขึ้นไป
ก็เห็นร่างเขาแว๊บไปแว๊บมาอยู่บนตัวคฤหาสน์หลังใหญ่นั้น ร่างเขาโผล่ไปจนแทบจะทุกจุดบนตัวคฤหาสน์
ยืนมองอยู่ไม่นานก็มีร่างบางโผล่มาอีกคนพยักหน้าเชิงรู้กัน ร่างบางก็วิ่งอ้อมมาทางมุมด้านหลังของคฤหาสน์พยามแฝงกายไว้ในความมืด
แล้วค่อยๆก้าวเข้าใกล้กำแพงสุงชันให้ได้มากที่สุดโยนวัตถุขนาดเล็กข้ามผ่านเข้ากำแพงไปสามสี่ชิ้น แล้ววิ่งไปยังอีกมุมทำแบบเดียวกันจนตรบทั้งสี่มุม
เสร็จเรียบร้อยแล้วก็วิ่งกลับไปยังที่เดิมซึ่งมีอีกสองคน รออยู่ก่อนแล้วจากนั้นก็เหลือแค่รอเวลา


...


ร่างบางนอนจ้องหน้าจอไอโฟนและโน๊ตบุ๊คสลับกันไปมานี่ก็สี่วันผ่านมาแล้วทำไมแทงกูถึงยังไม่ติดต่อกลับมาสักทีนะ เริ่มรู้สึกโหว่งๆแปลกๆ
...นี่เธอกำลังคิดถึงแทงกูอยู่หรือไงกัน เธอไม่อยากยอมรับเลยจริงๆว่าเธอคงจะหลงรักผู้หญิงตัวเล็กนั้นเข้าแล้ว
ถึงได้มามีความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นให้หัวใจและสมองมันว้าวุ่น ยิ่งมานึกถึงเรื่องที่ตัวเองทำลงไปทั้งหมดก็ยิ่งรู้ตัวว่าเธอเปลี่ยนไปมากแค่ไหน...
เมื่อตอนหัวค่ำก็ออกไปข้างนอกมาแค่คิดว่าอาจจะได้เจอเค้ามั้งทั้งๆทีก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจะต้องพยามหาทางเจอแทงกูให้ได้มากขนาดนี้

ทิฟฟานี่ขับรถวนไปวนมาแถวๆนอกชานเมืองที่เคยนัดพบกับแทงทุกครั้ง ขับไปเรื่อนเอื่อยๆหัวใจก็เริ่มเต้นตุ้มๆต่อมๆเห็นรถสปอตสีบลอนด์เงินที่คุ้นตา
เฮ่ย...นั่นมันรถแทงกูนี่เธอไม่มีทางจำรถเค้าผิดแน่ๆมั่นใจดังนั้น วิธีเดิมๆจึงถูกนำมาใช้ทันที
ทิฟฟานี่จอดรถตัวเองไว้แล้วเปลี่ยนเป็นวิ่งไปยังรถสีบลอนด์ที่แล่นอยู่บนถถนด้วยความปกติของรถธรรมดาทั่วไปก่อนจะกระโดดไปนั่งอยู่ที่กระโปรงหน้ารถรอจนหลังคาถูกเปิดออก เค้ากลับมาแล้วจริงๆสินะ

พอสอดกายเข้ามานั่งในรถร่างบางก็ต้องเบิกตากว้างทันที
" ฮยอนซึง!!....เธอเอารถแทงกูมาได้ไงแล้วเค้าอยู่ไหนล่ะ"

เจอฮยอนซึงก็ดีใจเหมือนกันแต่เธอก็อยากเจอแทงกูนี่นา ฮยอนซึงส่ายหน้าอย่างเอือมๆ
"แหม...เจอฉันแต่ถามถึงแต่แทงกูมันน่า...มั้ยล่ะ เอานี่เจสสิก้าบอกว่าแทงกูฝากไอ้นี่มาให้เธอ"
ชายหน้าหวานอดไม่ได้ที่จะจิกแขวะร่างบางไปด้วยความหมั่นไส้พร้อมกับยื่นกระดาษที่จดข้อมูลบางอย่างไปให้ทิฟฟานี่สองสามใบและชิพข้อมูลอีกหนึ่งอัน มือเรียวก็รับมันมาพลิกดูคร่าวๆ
"นี่เค้าหายไปเพราะเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า" 

ฮยอนซึงพยักหน้าช้าๆแล้วถอนหายใจออกมายาวๆก่อนจะเอ่ย
"ฉันแอบเห็นตอนที่เค้าคุยสไกด์กับเจสสิก้าตอนดึกๆแล้วรู้สึกเลยว่าเค้าดูเครียดเอามากๆฉันเห็นยังอดห่วงไม่ได้เลย"
ทิฟฟานี่ได้ยินอย่างนั้นก็เม้มปากแน่นเธอเป็นห่วงเค้าจังอยากเจออยากพูดคุยได้เห็นหน้าเค้าบ้างอยากบอกเค้าว่าเธอเป็นห่วงเค้าแค่ไหนเธออยากดูแลเค้า
เธอถามฮยอนซึงว่ารู้หรือเปล่าว่าแทงกูจะกลับมาติดต่อได้เมื่อไร แต่หนุ่มน้อยก็ส่ายหน้าช้าๆเธอเลยทำได้แค่ถอนหายใจออกมา
หลังจากนั้นเธอคุยกับฮยอนซึงต่ออยู่ไม่นานชายหน้าหวานก็ขอตัวกลับก่อนเพราะเขายังมีหน้าที่อีกหลายอย่างต้องทำ


ทิฟฟานี่ก็เลยต้องกลับมานอนแหง็กอยู่เนี่ย ชิพและกระดาษสองสามแผ่นที่เอามาจากฮยอนซึงก็ถูกวางเรียงกันเพื่อดูอย่างชั่งใจ
แทงกูจะเอาจริงเหรอเนี่ยแต่จะว่าไปมันก็สมควรอยู่หรอก ในกระดาษมีรายชื่อเครื่องมืออยู่ประมาณสิบอย่างเค้าให้เธอหาสูตรมันงั้นเหรอ
แล้วก็มีแผนที่ส่วนอีกใบนี่มันสูตรอะไรเยอะแยะเนี่ยอย่าบอกนะว่าเค้าจะให้เธอทำอ่ะ โอ๊ยยตายๆ



ครืน

ร่างเล็กเหลือบมองไอโฟนสุดที่รักวางอยู่ใกล้ๆกำลังกรีดร้องให้เธอสนใจอยู่นั่นหยิบขึ้นมาดูก็ถอนหายใจเฮือก เมื่อเห็นรายชื่อที่โทรเข้ามา
เธอไม่รู้ว่าสเตฟานี่จะโทรมาหาเธอทำไม เพราะเค้าก็ไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรกับเพื่อนสาวเธอแล้วไม่ใช่เหรอหรือยังไง
ช่วงนี้เธอกับเจสสิก้าก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไรเพราะเจสสิก้าก็ไม่ค่อยว่าง ส่วนเธอก็ยังมีงานต้องทำอีกเยอะ
หรือสองคนนั้นกลับมาคุยกันเหมือนเดิมแล้วเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นเจสสิก้าน่ะสิที่จะแย่ เธอก็ไม่รู้ว่าสเตฟฟานี่จะยังไงกับเพื่อนสาวเธอว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่
แต่เธอก็เคยบอกเค้าไปแล้วนี่ว่าถ้ามีเรื่องสำคัญค่อยติดต่อมา งั้นก็คงมีเรื่องสำคัญมั้ง เธอเลยตัดสินใจกดรับ
"แทยอนพูดค่ะ"
'เธออยู่ไหนอ่ะแทยอน ฉันไปหาเธอหน่อยได้ไหม'
"ทำไมมีอะไรเหรอ"
'ฉันขอคุยเรื่องเพื่อนเธอหน่อยได้หรือเปล่า'
"เพื่อน?...หมายถึงเจสสิก่าน่ะเหรอ"
'เปล่า...เรื่องแทงกู'
"แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยอ่ะ"
'ก็จะให้ฉันไปคุยกับเจสสิก้าหรือไงล่ะ แล้วฉันก็ไม่ได้สนิทกับแทงกูมากจนสามารถพูดอะไรกับเค้าก็ได้โดยที่ฉันจะไม่มีเปอร์เซ็นเสี่ยงต่อการโดนฆ่าทิ้งนิ'
"ฮ่าๆแทงกูน่ะไม่ฆ่าคนสวยๆง่ายๆหรอก แล้วจะคุยอะไรล่ะ"
'เธอรู้ใช่มั้ยว่าตอนนี้แทงกูกำลังจะทำอะไร'


แทยอนถอนหายใจออกมาอีกพรืดยาวๆหลังจากที่คุยกับสเตฟานี่อยู่พักใหญ่จนสุดท้ายก็วางสายจากสาวหน้าหวานไป
ใจนึงก็อยากรู้นะว่าสเตฟานี่รู้เรื่องแทงกูได้ไงแถมรู้เยอะด้วยนะ แต่อีกใจก็กลัวว่าเค้ากำลังพยามจะสืบเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า
พอถามไปว่ารู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงสาวเจ้าก็ไม่ยอมตอบ บอกแต่ไว้ถึงเวลาเธอก็จะรู้เอง แล้วเวลาที่ว่านั่นน่ะมันเมื่อไรกันล่ะ
แต่ก็ช่างมันเถอะเธอไม่อยากคิดเรื่องสเตฟานนี่เท่าไร เพราะเธอเองก็ไม่ไว้ใจหัวใจตัวเองเท่าไรที่มันชอบเผลอเต้นไม่เป็นส่ำเวลาที่ได้เจอหน้าได้อยู่ใกล้ๆคนสวยๆ
หน้าใสหันไปมองนาฬิกาอีกครั้ง อ่า..เที่ยงคืนแล้วเหรอเนี่ยเด็กน้อยของเธอมันจะนอนไปหรือยังก็ไม่รู้
รายนั้นก็เห็นว่าโดนยูริจิกหัวใช้ซะลืมความเป็นพี่เป็นน้องกันเลยทีเดียว
แต่ก็ดีแล้วแหละให้เค้าได้ทำอะไรบ้างจะได้ทำเป็นว่าแล้วก็แอปไปหาหน่อยแล้วกัน

เด็กน้อย
นอนหรือยังคะ

งือนอนอะไรล่ะ
เนี่ยพี่ยูลมันเอางานแล็บมาให้เป็นกองเลย
สูตรอะไรก็ไม่รู้ผสมผิดมันจะระเบิดหรือเปล่าไม่รู้

555 โอ๋ๆเด็กน้อยของเค้าน่าสงสาร
ต้องกลายมาเป็นนักวิทย์จำเป็น
ไหนบอกหน่อยซิลิงมันให้ผสมอะไรเผื่อพี่รู้

ผลึกแสงอะไรเนี่ย งือที่รักมาช่วยเค้าหน่อยสิ
คิดถึงเธอจะตายอยู่แล้วนะ
รู้งี้ไม่น่ากลับมาเลย หนีไปนอนกับเธอดีกว่าเยอะ

หึมม ให้เค้าไปช่วย? คงจะได้ช่วยอย่างอื่นมากกว่ามั้งคะ อิอิ
เค้าก็คิดถึงเธอเหมือนกันแหละ
เอาไว้พรุ่งนี้ถ้าเข้าไปหาได้จะเข้าไปหานะคะ

งืม ก็ได้ค่ะพรุ่งนี้พี่ยูลไม่อยู่พอดี

อ่ะคร่ะ...งั้นคืนนี้เค้านอนก่อนนะคะ
ฝันดีค่ะ
แทรักยุนนะคะ

ฝันดีค่ะที่รัก
ยุนรักแทมากกว่า อิอิ


ร่างเล็กนั่งยิ้มบางๆให้กับเด็กน้อยอันเป็นที่รักของเธอ จนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่มีคนอย่างยุนอาเป็นแฟน
ถึงเค้าอาจจะเด็กกว่าเธอในหลายๆเรื่องแต่เค้าก็ไม่เคยเกเรเลย ไม่เคยงอแงจนเธอรำคาณ เป็นเด็กดีของเธอเสมอ ตั้งแต่ที่เข้าใจผิดเรื่องครัสตัลคราวนั้น ก็ดูเหมือนว่ายุนอาจะใจเย็นและมีเหตผลมากขึ้น
และจนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังรู้สึกว่าตัวเธอเองยังดีไม่พอสำหรับเค้าสักที บางครั้งก็อยากจะทำอะให้เค้าบ้าง อยากจะทำให้เค้ามีความสุข...




"ขอให้มาก็มาแล้วนี่ไงแล้วจะเอาอะไรอีก"
แทงกูเอ่ยเสียงแข็งก็หลังจากเปิดสัญญาณมือถือก็แทบจะปาไอโฟนทิ้ง ทิฟฟานี่ตามจิกเธอยังกับแม่ แม่เธอยังไม่จิกขนาดนี้เลยเถอะ
บอกคิดถึงอยากเจอ ออกไปหาหน่อยสิ แล้วก็งอแงขอให้ออกมาหน่อยได้มั้ยแป๊บเดียวก็ได้ ง้องแง้งจนเธอเริ่มหงุดหงิด
คือแบบรอพรุ่งนี้ก็ไม่ได้หรือไงวันนี้เธอก็เพิ่งเหนื่อยเรื่องงานมาง่วงก็ง่วง แต่สุดท้ายร่างบางก็ไม่ยอมๆท่าเดียวจะเจอเธอให้ได้ เลยออกมาซะให้มันจบๆ
พอออกมาเจอกันแล้วทิฟฟานี่ก็พร่ามแต่คิดถึงอย่างนั้นอย่างนี้อยู่เกือบๆครึ่งชั่วโมงได้จนตอนนี้ร่างเล็กจอดรถอยู่แถวๆนอกเมือง
ถนนโล่งไม่มีคนผ่านไปมาเท่าไรเพราะดึกแล้วด้วยแต่ก็ดีแล้วจะได้ไม่มีใครมาส่องเยอะ
อีกอย่างแทงกูก็ขี้เกียจขับรถด้วยนั่นแหละทั้งเหนื่อยทั้งง่วงจะตั้งออโต้ไว้ก็ไม่มีจุดหมายเลยจอดมันแบบนี้เนี่ยแหละ

นั่งฟังทิฟฟานี่พร่ามกว่าจะจบแทงกูก็แทบจะหลับแล้ว สาวเจ้าก็ยังมางอแงง้องแง้งใส่อีกว่า
...เธอไม่คิดถึงเค้าหรือไงหรือเธอไปมีใครที่น่าสนใจและพิเศษมากกว่าเค้า ไปเจอใครที่ชอบมากกว่าเค้าแล้วหรือไง
แทงกูก็ถอนหายใจพรืดเจอใส่แบนี้มันก็รู้สึกแย่นะพาลจะหงุดหงิดมากกว่าเดิมอีก
“คือมันไม่ใช่ไม่คิดถึงนะ แต่เวลาคนมันเหนื่อยๆเนี่ยมันก็ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรอยู่แล้วจริงมั้ยล่ะ “
จนสุดท้ายร่างเล็กก็ต้องดุคนสวยช่างยั่วขี้งอแงออกไปแบบนั้นนั่นแหละ แบบเธอก็คิดถึงทิฟฟานี่เหมือนกันคิดถึงมากด้วย
แล้วเธอก็ไม่ได้ไปเจอใครที่ถูกใจหรือชอบไปมากกว่าทิฟฟานี่ทั้งนั้นแหละร่างบางก็ฟึดฟัดไปครู่นึงแล้วก็ขยับพลิกตัวมานั่งคร่อมตักเธอ
โน้มใบหน้าเข้ามาประกบจูบเนิบนาบแทงกูก็จูบตอบสาวเจ้าไปไม่ได้ขัดขืนหรือปัดป้องแต่ก็ไม่ได้มากมายจนเร้าร้อนเชิญชวนแค่ให้รู้ว่าเธอก็คิดถึงเค้าเหมือนกัน
จากนั้นทิฟฟานี่ก็เริ่มเบียดตัวเข้ามาแนบชิดร่างเธอมากขึ้นผละจูบออกก้มลงซุกไซร้ซอกคอเธอ ครางเรียกเธอเสียงพร่า แทงกูคะฉันคิดถึงคุณ
แทงกูก็ได้แต่แอบถอนหายใจเบาๆ นี่ทิฟฟานี่จะไม่ฟังเลยใช่มั้ยว่าเธอง่วง เค้าจะไม่สนเลยหรือไงว่าเธอง่วงมากจนหงุดหงิดอารมณ์ไม่ดีแล้วเนี่ย

มือเล็กที่เคยวางไว้ข้างๆเอวของร่างบางถูกเจ้าของร่างพามันเลื่อนเนิบนาบขึ้นไปที่เนินอกของตัวเอง
มือเรียวที่ทาบทับอยู่บนหลังมือเล็กออกแรงบีบให้เธอเคล้นคลึงก้อนเนื้อของเค้าในอุ้งมือทั้งสองข้าง ใบหน้าหวานก็ยังซุกไซร้ซอกคอเธอไม่หยุดหย่อน
ร่างบางรูดซิบชุดหนังรัดรูปของเค้าลงจนแล้วสุดแหวกออกให้พ้นทางเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวๆของร่างท่อนบนไร้บราเซียปกปิด
ให้เธอเดาเธอคงเดาว่าทิฟฟานี่น่าจะตั้งใจไม่ใส่มานะ เค้าผละใบหน้าออกจากซอกคอเธอมองหน้าเธอด้วยสายตาไม่เข้าใจปนออดอ้อนแล้วพูดเสียงอ่อน

"แทงกูคะฉันประเคนตัวให้คุณขนาดนี้แล้วคุณยังไม่คิดจะสนใจอีกเหรอ"
มือเรียวยกขึ้นประคองใบหน้าของร่างเล็ก
สบลึกเข้าไปนัยน์ตาสีฟ้าครามมีแวววับราวกับมีประกายไฟบางอย่างแต่ในขณะเดียวกันก็ดูคล้ายประกายไฟพวกนั้นจะดับหายไป ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้มีโมเม้นแบบนี้กับตัวเอง ทิฟฟานี่ไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ และที่ผ่านมาก็มีผู้คนหมายปองเธอก็ใช่ว่าจะน้อย แถมยังไม่มีใครเคยได้แอ้มเธอเลยแม้แต่คนเดียว
แต่ทำไม...กับคนๆนี้ ผู้หญิงตัวเล็กๆผิวขาวจนซีดที่มีนัยน์ตาสีฟ้าครามคนนี้ ถึงสามารถทำให้เธอยอมเค้าได้มากขนาดนี้กัน

"ทำไมเธอถึงได้ต้องการมากขนาดนี้ ให้คืนนี้ฉันได้นอนไม่ได้เลยหรือไง ฉันทั้งเหนื่อยทั้งง่วงทั้งอารมณ์ไม่ดี"
แทงกูพูดเสียงแข็งจนคล้ายๆจะกลายเป็นขึ้นเสียงใส่ร่างบาง
ทิฟฟานี่รู้นะว่าแทงกูอารมณ์ไม่ดีอยู่แต่เธอคิดถึงเค้านี่นาอยากกอดอยากจะอ้อนเค้าให้หายคิดถึง
เค้าจะไม่มีอารมณ์ให้เธอบ้างเลยหรือไง ถ้าแทงกูคิดถึงเธออย่างที่บอกมาเค้าก็น่าจะมีอารมณ์กับเธอบ้างสิ
"ก็ฉันคิดถึงคุณมาก พอได้เจอก็อยากใกล้ชิดอยากโดนคุณสัมผัสให้หายคิดถึงบ้าง ไม่ได้เหรอคะ"
เธอถามเค้าเสียงแผ่วทั้งน้อยใจที่เค้าเย็นชาใส่หงุดหงิดใส่ ทั้งที่เราขาดการติดต่อกันไปหลายวันอยากจะโกรธจะงอนเค้าแค่ไหนแต่เธอก็รู้ว่าเค้าไม่ง้อเธอหรอก
ดีไม่ดีเค้าอาจจะชอบก็ได้ถ้าเธอจะโกรธจะงอนเค้าเพราะเค้าจะได้ไม่ต้องมาคอยทนเวลาที่เธอคิดถึงเค้ามากไป
"ได้...แต่ช่วยดูอารมณ์ฉันบ้างว่าฉันอยากมั้ย"
นี่เค้าตายด้านไปแล้วหรือไงเธอยั่วเค้าขนาดนี้แล้วแทงกูยังไม่มีอารมณ์อยากจะแตะต้องเธอเลยเหรอ ถึงได้พูดใส่เธอเสียงแข็งมาแบบนั้น
สีหน้าเค้าไร้อารมณ์พิศวาสใดๆแม้ว่าเธอจะเปลือยร่างส่วนบนหรือเธอจะเบียดกายเข้าหาหรือพามือเค้ามาแตะต้องสัมผัสร่างกายเธอ
ทั้งๆที่แค่นั้นอารมณ์เธอก็ประทุรุนแรงแล้ว นี่แทงกูเป็นอะไรของเค้ากันแน่เนี่ย เค้าไม่มีเหลือบมองหรือโลมเลียร่างกายเธอเลย


ทิฟฟานี่นิ่งไปสบตาเธออยู่ครู่แล้วกดใบหน้าซบลงที่ซอกคอ มือเค้าที่เคยประคองใบหน้าเธออยู่ก็ค่อยๆเลื่อนต่ำลงผ่านลำคอไล้เนิบนาบกดสัมผัสลงที่บริเวณไหล่เบาๆ
ก่อนจะเปลื่ยนไปกุมมือเธออีกครั้งแล้วพามันลากไปผ่านขึ้นไปยังร่างกายเค้าลูบไล้บนผิวเนื้อเนียนละเอียดประดุจน้ำนมของร่างบางอีกครั้ง
เสียงครางออดอ้อนดังเร็ดลอดออกมาจากใบหน้าหวานที่กำลังซุกไซร้ซอกคอเธออยู่ไม่หยุดหย่อน
นี่ทิฟฟานี่คิดจะปลุกอารมณ์ดิบเธอตอนที่เธอหงุดหงิดงั้นเหรอ...มันอาจไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่ถ้าเค้ายืนยันจะพยามต่อไปเธอก็คงจะช่วยอะไรเค้าไม่ได้ไปมากกว่า

"ทำแบบนี้ฉันเตือนไว้ก่อนเลยนะ เพราะคนที่จะเจ็บมันคือเธอ"

"ไม่เป็นไรค่ะฉันยอม อะไรยังไงก็ได้ถ้าเป็นคุณ ให้เจ็บเจียนตายฉันก็ยอม"
นั่นล่ะคำตอบของคนที่กำลังลุ่มหลงจนลืมตัวเอง ทั้งอารมณ์ที่มากมายที่ปะทุขึ้นอย่างห้ามไม่ได้เพียงแค่เธอลากมือของแทงกูวนไปทั่วร่างกายของตัวเอง
ทิฟฟานี่ขยับยกสะโพกขึ้นเพื่อจัดการกับสิ่งกีดขว้างให้พ้นทาง เมื่อแทงกูบอกแบบนั้นแล้วก็คงไม่ต่างอะไรจากเค้าจะยอมเธอแล้วจริงมั้ยล่ะ
เสร็จแล้วทิฟฟานี่ก็คว้าข้อมือของแทงกูไปอีกครั้งแล้วพามือเล็กข้างขวาลูบไล้ไปตามต้นขาตัวเอง
ในขณะที่มือข้างซ้ายของคนตัวเล็กก็ยังถูกร่างบางจับให้เคล้นคลึงก้อนเนื้อ ใบหน้าหวานเลื่อนมาประกบจูบดูดดุนริมฝีปากหนักหน่วง
และแทงกูก็ไม่ได้ปฏิเสธหากแต่จูบตอบเค้ากลับไปอย่างรุนแรงเมื่อไม่อาจจะห้ามความโหยหาในตัวทิฟฟานี่ได้
แทงกูก็จำต้องทำไปตามความต้องการของตัวเองและตัวทิฟฟานี่(?) เสียงครางที่เร็ดลอดออกมาจากกลีบปากที่ขยับป้อนจูบกันอยู่
แทงกูยอมรับว่าตอนนี้เธอมีอารมณ์ร่วมกับทิฟฟานี่อยู่มากแต่อารมณ์ขุ่นมันก็ไม่อาจหมดไป
ใจจริงแทงกูไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยไม่อยากให้ทิฟฟานี่ต้องเจ็บเธออยากจะถนุถนอมคนพิเศษคนนี้ของเธอไว้ให้มากที่สุดแต่ทิฟฟานี่ก็ดื้อดึงเสียเหลือเกิน
ทิฟฟานี่ผละจูบออกมาแล้วเลื่อนไปซุกไซร้ที่ซอกเธอเสียงครางกระเส่าดังอยู่ข้างๆหูพร้อมเสียงซี๊ดปากเบาๆ



แทงกูซี๊ดปากอย่างหื่นกระหายเมื่อไม่อาจต่อต้านอารมณ์ดิบที่ถูกร่างบางปลุกมันขึ้นมาได้อีกแล้ว เค้าเลื่อนมือข้างซ้ายมาประคองสะโพกเธอไว้
จู่ๆทิฟฟานี่ก็รู้สึกจุกปวดหนึบๆบริเวณในช่องท้องน้อยและความเจ็บแปลบมันก็พุ่งตามเข้ามาอย่างรวดเร็วจนเธอกรีดร้องเสียงดังลั่น
แต่แทงกูก็ยังจับสะโพกเธอกระแทกลงกับข้อมือเค้าอย่างรุนแรงไร้ความอ่อนโยนใดๆที่เค้าเคยมีให้เธอ
ใบหน้าหวานกัดริมฝีปากล่างไว้แน่นสะกดกลั้นความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านเข้ามาไม่หยุดหย่อน ปรือตามองใบหน้าคมของคนตัวเล็กที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหาย
ซึ่งมันช่างดูไร้วี่แววความหลงใหลที่เธอเคยได้เห็นในแววตาสีฟ้าครามของแทงกู
มันเหลือเพียงสายตาที่หื่นกระหายในร่างกายเธอจนทิฟฟานี่เองก็แทบจะลืมไปว่าคนตรงหน้านี้เป็นใคร เกือบจะรังเกียจสายตาที่แทงกูใช้มองเธออยู่ในเวลานี้ไปแล้ว...
เธอเลือกจะไม่ฟังเค้าเองเพราะงั้นนี่คงเป็นบทเรียนราคาแพงที่สอนให้เธอได้รู้ว่าเธอควรจะเชื่อและฟังทุกอย่างที่แทงกูเตือนเธอสินะ
น้ำใสๆปริ่มไหลออกมาจากหางตาเพราะความเจ็บปวดที่ได้รับมันมากเสียยิ่งกว่าที่เคยได้รับมาจากครั้งไหนๆจากเสียงครางกระเส่าที่เคยเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้า
ก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องปนสะอื้นด้วยความทรมานกับรสชาติของความเจ็บปวดที่ถูกตอกย้ำซ้ำๆเข้าที่เดิมไม่หยุดหย่อน







From...Writer




กรี๊ดยุนอาโหมดขรึมคร่า.....5555+

เขียนเองกรี๊ดเอง เอิ๊กส




ฟานี่ออกตัวแรงจนงานเข้า แบบนี้แทงกูจะทำยังไงกันล่ะเนี่ย

โอ้ววว

แต่ส่วนตรงที่ทิฟฟานี่ยั่วแทงกูนั่นคลีนออกไปเยอะอยู่นะคะ




ฮยอนซึง....พอจะเดาได้มั้ยคะว่าก่อนหน้านี้เขาคือคนไหน

แอร๊ยยย ออกมาสองสามรอบแล้วแต่เพิ่งจะมามีบทบาท




สเตฟานี่รู้เรื่องแทงกูได้อย่างไรแล้วคนสวยคนนี้คิดจะทำอะไรอยู่กันนะ




ส่วนลึทึกนั่น...ข้ามไปเหอะ555(ความงี่เง่าส่วนตัวของบีมเอง)

เขาไม่ได้มีอะไรมากมายหรอกแค่มาแฉเรื่องแทยอนกับคีย์แค่นั้นเอ๊ง หึหึ




ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร

แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่




ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา

No comments:

Post a Comment