Saturday, December 22, 2012

۞ Amulet Classic ۞ [Chapter XVIII]

Chapter XVIII





 Chapter XVIII

ทิฟฟานี่นอนมองหน้าจอไอโฟนจ้องมาไม่รู้กี่ชั่วโมงแล้ว ก็ตั้งแต่เมื่อคืนที่เราเล่นบทรักกันไปหลายต่อหลายรอบพอจบรอบสุดท้ายเธอก็เลยขอถ่ายรูปคู่กับแทงกูไว้
เพราะเดี๋ยวเค้าต้องขาดการติดต่อไปไงเลยใช้เป็นข้ออ้างว่า เอาไว้ดูตอนคิดถึงแทงกูก็ยอมถ่ายไม่บ่นอะไรเลย
ทิฟฟานี่ก็เลยถ่ายมาทั้งที่ไม่ได้ใส่อะไรมันนั่นแหละแต่มันก็ไม่เห็นอะไรมากไงเพราะเอาแนบตัวเค้าไว้ ส่วนต่วแทงกูนั่นก็ใช่ว่าจะมีเยอะ
เค้าก็เหลือแค่อาภรชิ้นเล็กปกปิดเฉพาะส่วนเท่านั้น นี่คงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เธอให้คะแนนตัวเองว่าแทงกูจะยอมเธอมากขึ้นอีกขั้นนึงแล้ว
แถมเค้าก็ยังแกล้งเธอบอกว่างั้นเอาไอโฟนเค้าถ่ายมั่งเอาแบบเห็นเธอเยอะๆอ่ะเผื่อเอาไปจิ้น แน่ะดูความหื่นโรคจิตเค้าสิ
ตอนแรกเธอก็ไม่รู้ว่าเค้าแกล้งก็เลยยอมให้เค้าถ่ายจริงๆแต่พอจะถ่ายนั่นแหละเค้าถึงได้บอกว่าล้อเธอเล่น ด้ยความหมั่นไส้เลยแอบฟาดแขนเค้าไปทีนึงแหละ
พักนี้แจจุงทักแอปมาบ่อยมากแต่เธอไม่อยากคุยด้วยเท่าไรตั้งแต่เกิดเรื่องอะไรมากมายที่มีหมอนั่นอยู่เบื้องหลัง
แล้วเขาก็ยังชอบมาถามเรื่องแทงกูอีกเธอก็ไม่อยากบอกเขามากเดี๋ยวแทงกูจับได้น่ะเธอซวยไง

นี่เห็นข่าวแล้วนะยะเมื่อคืนน่ะ
อะไรยังไงเล่ามาสิ

เล่าอะไรอ่ะมันก็มีแค่นั้นแหละ

ก็มีคนเม้าส์กันว่าแทงกูฟัดเธอบนรถจริงป้ะ
แกได้กับเค้าตั้งหลายรอบแล้วไม่ใช่เหรอ

เอ้า...แล้วทำไมอ่ะ เอามาจากไหนเนี่ย
แล้วได้หลายรอบไม่หลายรอบมันต่างกันยังไง

ก็แบบเค้าไม่พาแกไปเปลี่ยนบรรยากาศมั่งเหรอ
เข้าโรงแรมอย่างเดียวเลยเหรอ

อือ พี่จะบ้าเหรอ
คิดว่าเค้าจะพาฉันไปไหนล่ะ

บ้านเค้าไง
หรือที่ไหนก็ได้นอกจากโรงแรมอ่ะ

ไม่มีหรอกแทงกูก็ไม่ได้ยอมเจอฉันง่ายๆนะ
ส่วนมากก็เจอแค่วันที่เค้าแข่งนั่นแหละ

เหรอมีคนบอกฉันว่าเห็นแกไปกับเค้าตลอดเลย
ถึงจะวันที่เค้าไม่มีแข่งก็เห็น

บ้าไม่มีหรอกจำผิดเปล่า


ทิฟฟานี่ขมวดคิ้วแน่นเธอไม่เข้าใจว่าแจจุงต้องการอะไรกันแน่ แต่เธอจะไม่บอกเขาอะไรเขาง่ายๆหรอก มาถามว่ามีอะไรกันหลายรอบแบบนี้
ถามว่าไม่เปลี่ยนบรรยากาศแบบนี้ ถึงไม่ใช่เรื่องแทงกูเธอก็ไม่ยอมบอกเขาแน่นอน หรือมันมีแฟนคลับโรคจิตมาขอซื้อข่าวว่าเธอกับแทงกูไปมีอะไรกันที่ไหนบ้างงั้นเหรอ
ทุเรศไปป้ะเรื่องส่วนตัวแบบนี้ มันก็น่าคิดนะว่าจะเป็นแบบนั้น ไม่งั้นแจจุงจะส่งคนไปติดกล้องในห้องนั้นทำไม เออ...ว่าแล้วก็ขอรวบยอดไอ้พี่ชายตัวแสบนี่หน่อยเหอะ

ว่าแต่พี่เถอะคิดจะทำอะไรปรึกษาฉันบ้างสิ
ไม่ใช่แทงกูเหมารวมแล้วฆ่าฉันทิ้งก่อนนะ

ทำอะไรวะ
บอสก็บอกแล้วนิว่าแทงกูไม่ฆ่าเธอหรอก

ก็อีอย่างที่ส่งคนไปติกล้องในห้องที่โรงแรมนั่นไง
รู้ป่ะแทงกูหมายหัวฉันคนแรกเลยนะ เกือบซวยนิ
ไม่ฆ่าก็เขี่ยทิ้งไงมันคงไม่ต่างกันหรอกมั้งฉันก็หมดสิทธ์เข้าใกล้เค้าอีกอะไรแบบนั้น

อ้าว แล้วทำไมแทงกูต้องสงสัยเธอด้วยเล่า
คนอื่นก็มีเยอะแยะ

ก็...ฉันมีประวัติคิดไม่ซื่อกับเค้านิ
แถมเค้าก็ยังไม่ได้ฆ่าฉันด้วย
แล้วไอ้เรื่องแทมินนั่นอีก หมายความว่าไง

พอถามมาถึงเรื่องแทมิน แจจุงก็เงียบไปเลยจนทิฟฟานี่หันกลับไปสนใจโน๊ตอยู่หลายเกือบครึ่งชั่วโมงได้
แจจุงก็ทักกลับมาอีกถามว่าถ้าอยากรู้เรื่องนั้นต้องคุยในที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ ซึ่งทิฟฟานี่ก็รู้ดีว่าหมอนั่นหมายถึงให้เธอไปที่คฤหาสน์ยิล์ดอีกแน่นอน
ซึ่งทิฟฟานี่ก็รับข้อเสนอและนัดแนะวันและเวลากับแจจุง ส่วนจะบอกแทงกูว่าอะไรนั่นก็คิดไม่ยาก เพราะเธอไม่ได้คิดไม่ซื่อต่อแทงกูสักหน่อย
ก็แค่บอกเค้าไปตามตรงว่าไปคุยกับสองคนนั้นเรื่องที่เขาส่งแทมินไปอาวาดที่เดทไฟท์ แทงกูก็คงไม่ว่าอะไรหรอก
ถ้าคิดในแง่บวกเค้าก็อาจจะถามเธอว่าเรื่องมันเป็นมายังไงทำไมยุนโฮถึงได้ทำแบบนั้นก็เป็นได้


เจสสิก้านั่งถอนหายใจอยู่กับคริสตัลวันนี้แทยอนกับยุนอาออกไปเที่ยวแถมบอกว่าอาจจะค้างข้างนอกด้วย ตอนแรกแทยอนก็ชวนเธอกับคริสตัลไปด้วยนั่นแหละ
แต่เธอปฎิเสธไปเพราะม่อยากไปเป็นเป็นก้างเวลาสองคนนั้นไงเลยไม่ไปดีกว่า แต่ก็ยังดีนะที่เธอมีคริสตัลอยู่ด้วยไม่งั้นนะเธอบ้าตายแน่ๆ
เธอให้คริสตัลคุยกับสเตฟฟานี่ที่จู่ๆนางก็ทักมาพอไม่ตอบนางก็โทรมา ไม่รู้อารมณ์ไหนแต่เธอก็ยังไม่อยากรับรู้มากไง
พอเหมือนจะทำใจได้บ้างแล้วเค้าก็โผล่มาแบบนี้มันกลั่นแกล้งหัวใจเธอชัดๆก็เลยให้น้องมันคุยแทนแล้วก็บอกมันไปว่าไม่ต้องเล่าถ้าอยากรู้จะถามเอง

แต่เธอเดาว่านางคงเห็นข่าวในเว็บเอเอ็มแอลเรื่องที่พิธีกรมันถามแทงกูว่าจูบเธออะไรนั่นที่สนามเมื่อวานล่ะมั้งถึงได้ทักมา
พอพูดมาถึงตรงนี้แล้วขอเม้าส์หน่อยเหอะ ก็อีคุณแทงกูเนี่ยสิหลังจากที่ร่ำลาจากอื่นเสร็จมันก็ลากทิฟฟานี่ไปจูบกลางสายตาประชาชีนับหมื่น
จนได้มาเป็นคลิปแปะอยู่เด่นหราในหน้าแรกของเว็บอยู่เนี่ยไม่พอนะแถมจูบเสร็จแล้วมันก็อุ้มทิฟฟานี่ขึ้นรถอีก แลดูแทงกูมันหื๊นหื่นเนอะ 555 ข่าวก็โครมๆกันยกใหญ่เลยดิ
แล้วเธอก็คลิ๊กๆดูไปเรื่อยมันก็มีพวกแฟนคลับเม้าส์กันให้แซ่บว่าสองคนนั้นไปฟัดกันต่อในรถแหงๆมีแบบเล่ามากันเป็นช็อตๆ
เออก็ปล่อยให้เค้าฟินกันไป แต่เจสสิก้ารู้อยู่แล้วว่าแทงกูมันไม่พลาดหรอก ไม่พลาดนี่หมายถึงว่าไม่พลาดให้ใครเห็นจนมาเล่าเป็นช็อตๆได้หรอก
แต่เธอเองก็คิดแหละว่ามันคงฟัดทิฟฟานี่บนรถจริงๆ เพราะดูจากท่าทางแล้วสองคนนั้นสปาร์คกันง่ายจะตาย
พูดมาถึงเรื่องบนเตียงแล้วก็เซ็งเพราะเรื่องตัวเองมันไม่น่าจำสักเท่าไร ว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกพรืด



"อากาศดีจังเลยเนอะ" ร่างเล็กพูดอย่างสบายใจพลางบิดตัวตัวยืดเส้นยืดสาย หลังจากที่นั่งรถมาหลายชั่วโมง
สายตาก็ทอดมองไปข้างหน้าที่เพียงผื่นป่าสีขัยวชอุ่มบรรยากาศสดชื่อของยอดเขาของแทสซิทนี่มันช่างจะช่วยให้ผ่อนคลาย
"ชอบใช่มั้ย" ร่างสูงที่เพิ่งลงมาจากรถเดินตามมาติดๆเรียวแขนก็วาดโอบเอวเล็กไว้จากด้านหลัง เอาคางเกยไหล่อย่างออดอ้อน
แทยอนไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงแค่หันมากดปลายจมูกโด่งรั้นลงกับแก้มนุ่มของใบหน้าดูดีแทนคำตอบ
ยิ่งมาถึงที่นี่แล้วได้รับความรู้สึกแสนบริสุทธ์อย่างนี้แล้วก็พาลให้นึกถึงเจสสิก้าจริงๆ เธออยากให้เจสสิก้าผ่อนคลายบ้าง
เห็นเค้าเอาแต่คิดเรื่องสเตฟานี่แบบนั้นจนเธอก็อดห่วงไม่ได้
"เค้าไม่ได้ออกมาเที่ยวแบบนี้นานแล้ว รู้สึกตื่นเต้นยังไงไมารู้แฮะ" คนตัวเล็กในอ้อมกอดเอ่ยออกมาพลางเลื่อนสายตากลับไปมองวิวข้างหน้า
การมาเดินป่ากับแฟนแบบนี้เป็นอะไรที่แทยอนรู้สึกว่ามันออกจะดูโรแมนติกมาก
ยุนอาไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่กระชับอ้อมแขนให้แน่นจมูกโด่งกดลงกับไหล่เล็กสูดดมกลิ่นกายหอมๆของคนรัก

"แหมๆ นี่ยังไม่ทันได้เข้าป่ากันเลยนะครับ"
เสียงเอ่ยแซวของชายหนุ่มซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยของศูนย์บัญชาการดังไล่หลังมาให้ทั้งคู่ต้องหันกลับมามองก่อนจะผละออกจากกันช้าๆ
ยุนอาขมวดคิ้วเล็กน้อยเธอจำหมอนี่ได้แม่นเลยล่ะ ก็แหมไปชกหน้าแทงกูขนาดนั้นจำไม่ได้ก็บ้า
"ก็พี่บอกทุกทีนี่คะว่าเป็นกันเองตามสบายเลย"
แทยอนเอ่ยน้ำเสียงทะเล้น เนื่องจากเมื่อก่อนเธอมาที่นี่บ่อยๆกับแฟนสาว(ที่แทบไม่ซ้ำหน้า)จนเธอได้สนิทกันหัวหน้าหน่วยของศูนย์ที่นี่ไปแล้ว
"โอเคๆพี่ผิดเองแหละที่ดันไปบอกเธอแบบนั้น แล้วนี่จะเข้าไปเลยไหมพี่จะได้ไปบอกลีทึกให้พาเข้าไป"
"โอ๊ยย พี่แทคยอน !!! ไม่เอาพี่ลีทึกได้ป่ะ รายนั้นอ่ะขัดจังหวะตลอดอ่ะ เซ็ง"
แทยอนเอ่ยทีเล่นทีจริงแบบติดตลกเพื่อไม่ให้ดูน่าเกียจมาก แต่นั่นคือความจริงที่เธอไม่อยากให้อีทึกพาเข้าไป
จริงๆแล้วเธออยากจะขอแทคยอนเข้าไปเองตามลำพังเสียด้วยซ้ำ เพราะเธอแทบจะจำได้ทุกทีในป่านี้ได้หมดแล้ว
"เธอก็น่าจะรู้ดีนี่เหตุของนายนั่นน่ะ งั้นให้คังอินไปแทนแล้วกัน"
แทคยอนเอ่ยจบก็เดินหายกลับเข้าไปในศูนย์อีกครั้ง ในคำพูดของชายหนุ่มนั้นแทยอนเข้าใจดีเพราะเธอรู้ว่าที่อีทึกเป็นแบบนั้นน่ะเพราะอะไร

"นี่เคยมาที่นี่บ่อยขนาดนี้เลยเหรอ"
ยุนอาที่ยื่นมองเหตุการณ์อย่างงงๆอยู่ก็ถามขึ้นให้ร่างเล็กแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ แทยอนเพียงแค่หันกลับไปพยักหน้ายิ้มๆ
แต่ก่อนที่ร่างสูงจะได้ถามอะไรต่อแทคยอนและคังอินก็เดินออกมากันแล้วแถมยังมีลีทึกเดินตามออกมาอีกด้วย
ชายหนุ่มแลดูจะมองยุนอาด้วยสายตาไม่สบอารมณ์เสียเท่าไรแต่แทยอนก็ใช่ว่าจะแคร์นี่พอเห็นปึ๊บก็คว้าแขนแฟนเด็กมาควงไว้แน่น
แล้วยักคิ้วกวนๆไปใส่ชายหนุ่มอีกทีก็แหมมันหมั่นไส้นี่ชอบมาทำตัวอย่างกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธออย่างนั้นแหละ
แทคยอนยื่นกระเป๋าสัมภาระใบเล็กให้แทยอนและยุนอาไว้คนละหนึ่งใบจากนั้นทั้งสามก็เริ่มเดินเข้าไปในป่า
โดยที่ไม่ทันสังเกตุว่ามีดวงตาคู่นึงคอยจับจ้องอยู่ตลอด


"นี่..ใช้ไอ้นี่เป็นด้วยเหรอ"
ระหว่างที่เดินอยู่ร่างสูงก็หันมาถามคนตัวเล็กที่เดินอยู่ข้างๆพลางหยิบอาวุธหลายต่อหลายอย่างขึ้นมาจากกระใบเล็กที่แทคยอนให้มา

"ตั้งแต่ได้มาเจอกันเนี่ยเธอเคยเห็นเค้าทำอะไรไม่เป็นบ้างล่ะ"
แทยอนตอบพร้อมรอยยิ้มที่แม้แต่ยุนอาเองยังรู้สึกว่าเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจเอามากๆ
ถึงแม้ว้ว่าคำตอบของแทยอนนั้นจะไม่ค่อยตรงคำถามสักเท่าไรแต่มันก็เล่นเอาร่างสูงปิดปากเงียบทันที
เธอเองก็คอยจะลืมคิดว่าแทยอนเป็นคนธรรมดาอยู่เรื่อย แต่ในเมื่อจริงๆแล้วแทยอนก็เป็นเชลล่าเหมือนกันก็คงไม่แปลกอะไรที่จะใช้อาวุธเป็นหลายชนิดนนี่นา

การเดินป่าไปเรื่อยๆมืดที่ไหนก็นอนที่นั่นแบบนี้มันอาจจะดูน่ากลัวเกินไปสำหรับผู้หญิงธรรมดาตัวเล็กๆร่างกายบอบบางจริงไหม
ถึงต้องมีคนของสถานที่คอยดูแลซึ่งถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ได้สนิทกันก็คงไม่ไว้ใจชายหนุ่มอยู่ดี
ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มแล้วนั่นหมายความว่าอีกไม่นานความมืดก็คงมาเยือนทั้งสามจึงจัดการกับเรื่องที่นอน
ควันสีขาวขุ่นลอยขึ้นจากกองไม้ที่คังอินนำมันมากองรวมกันเพื่อก่อไฟให้ความอบอุ่นในยามค่ำคืน
เสียงสายน้ำที่ไหลรินอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนั้นช่วยอำนวยความสะดวกในการล้างหน้าล้างตาจากเหงื่อไครเป็นอย่างดี

"ยุนอาา!!!"

ตุ้มมม!!

พื้นน้ำกระจายไปรอบทิศทางพร้อมกับเสียงหัวเราะะของร่างเล็ก ก่อนที่แทยอนจะหย่อนตัวนั่งอยู่ข้างๆและห้อยขาลงแช่น้ำไว้
แทยอนรู้ดีว่าสายธารตรงนี้ลึกแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจจะทำให้เธอจมได้หรอกเพราะงั้นไม่ต้องกังวนว่ายุนอาจะว่ายน้ำเป็นหรือไม่ เพราะยังไงก็ไม่มีทางจมน้ำตายแน่ๆ

"โหยเธอขี้โกงอ่ะลงมาด้วยกันเลย"
ร่างสูงผุดขึ้นมาจากน้ำพร้อมกับสะบัดผมที่เปียกไปด้านหลัง ยกมือเสยขึ้นอีกทีเพื่อไม่ให้มันตกลงมาปรกหน้า
แต่ภาพน้ันเล่นเอาคนมองอย่างแทยอนแอบกัดปากล่างไว้อย่างห้ามไม่อยู่แทบอยากจะกระชากคนตัวสูงกลับเข้าเต้นท์ไปเสียเดี๋ยวนี้จริงๆเลย
ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรไปไกลกว่านั้นไอ่เด็กร่างสูงมันก็ว่ายเข้ามาเบียดลำตัวเข้าที่ระหว่างขาเธอ
มือเรียวโอบเอวเล็กก่อนจะออกแรงดึงให้ร่างเล็กนั้นต้องยกสองมือโอบรอบคอคนตัวสูงไว้ ทันที เมื่อยุนอาอุ้มร่างเธอลงมาแช่ในน้ำด้วยกัน

"อย่าทำเหมือนจะยั่วพี่แบบนี้สิ ยุนอา"
แทยอนกระซิบเสียงหวานข้างๆหูของคนที่อุ้มร่างเธอลงมาในน้ำ ร่างสูงเพียงหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะกดจูบลงยังลำคอระหงของคนอายุมากกว่า
เธอรู้ดีว่าแทยอนที่ใจเย็นและความอดทนสูงนั้น เพียงแค่ได้นึกถึงเรื่องบนเตียงก็กลับตาลปัตรไปเป็นอีกคนที่เร่าร้อนและร้อนแรงทันที

"เค้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ"
"แน่ใจ?"
แทยอนหรี่ตาลงเชิงจับผิดขณะที่ถามขึ้นอย่างท้าทาย แหมพูดมาได้นะว่าไม่ได้ทำอะไรแล้วมือใครที่มันบีบเคล้นบั้นท้ายเธออยู่นี่ล่ะ
ร่างเล็กตวัดสายตาสบเข้ากับแววตาที่หยาดเยิ้มเป็นประกายของคนอายุน้อยกว่าเชิงปราม ก่อนที่จะเป็นเธอเสียเองที่จะทนไม่ไหว

"อะไร๊?ใครจับก้นพี่ ไม่มี๊"
ยุนอาแกล้งพูดเสียงสูงปรี๊ดพลางเลิกคิ้วขึ้นสูงหยอกเย้าคนรักในอ้อมกอด
แทยอนเห็นอย่างนั่นก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ กำลังจะพุ่งเข้าประกบจูบหนักๆลงกับริมฝีปากเรียวนั้นที่มันพ่นคำหน้าหมั่นไส้ออกมาให้เข็ด

"สาวๆ !!..โอ๊ยย กบว เซนเซอร์ที!!"
ตังอินที่คิดว่าจะเดินมาเรียกสองสาวไปทานข้าวเย็นแต่ต้องรีบหมุนตัวหันหลังกลับพร้อมใบหน้าร้อนผ่าวทันที
ก็ภาพที่เห็นนั่นน่ะ...ภาพของหญิงสาวทั้งสองมีแช่อยู๋ในสายน้ำเย็นฉ่ำเสื้อผ้าอาภรลู่แนบลงกับผิวกายขาวๆเพราะความเปียกชื้นแถมทั้งคู่กำลังทำอะไรแบบนั้นอีก
แล้วมันคงจะไม่ดูเลทมากขนาดนี้ถ้าหากว่าแทยอนและยุนอาไม่ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแบบนั้น
สองสาวเห็นอย่างนั้นก็อดหลุดขำออกมาเบาๆไม่ได้ ก่อนที่แทยอนจะดันอกของร่างสูงให้ผละออกและว่ายน้ำกลับเข้ามายังริมฝั่งที่มีชายหนุ่มยืนหลันหลังตัวแข็งทื่ออยู่นั่น

"มีอะไรเหรอพี่คังอิน"

"อ่อ...พี่จะมาบอกว่าอาหารพร้อมแล้วนะ ถ้าหิวก็ไปทานได้เลย แต่ถ้ายังก็ระวังตัวด้วยค่ำแล้วสัตว์ร้ายมันเริ่มออกล่าเหยื่อ พี่ไม่กวนแล้วตามสบายนะ"
คังอินร่ายยาวยืดพูดจบก็รีบเดินกลับไปที่เต้นท์ทันที ทิ้งให้แทยอนแอบหัวเราะคิกคักให้กับความน่ารักของชายร่างโต
ก็รู้สึกดีนะที่คังอินยังมีมรรยาท ไม่ใช่แบบลีทึกรายน้ันน่ะแทบจะตั้งกล้องแอบถ่ายเวลาเธอสวีทกับแฟนสาวได้เลยมั้ง

"หิวหรือยังคะ" ว่าแล้วก็หันไปถามไอ่ตัวดีที่ชอบพาเธอติดเรทไม่ดูตาม้าตาเรือ นี่คนเค้าจะมองเธอแย่แค่ไหนกันแล้วนะ แต่เธอไม่แคร์หรอกเพราะเธอก็ชอบ555
"หิว...แต่ไม่อยากกินข้าว" ร่างสูงว่าพลางสอดมือโอบรอบเอวร่างเล็กไว้หลวมๆ แทยอนรู้ดีว่าถ้าเธอถามว่าเค้าอยากกินอะไร คำตอบที่เธอจะได้รับคืออะไร เพราะงั้น..
"ยังไงก็ต้องกินค่ะ" พูดจบก็กะตุกมุมปากขึ้นใส่ใบหน้าทะเล้นๆของเด็กน้อยไปหนึ่งทีก่อนจะยกตัวขึ้นนั่งริมฝั่งตามเดิม
ยุนอายู่ปากใส่ร่างเล็กที่นั่งยิ้มอยู่นั่น แทยอนรู้ทันเธอแทบทุกเรื่องจนทุกวันนี้เธอแทบหมดหนทางที่จะต่อปากต่อคำกับคนตัวเล็กนี่แล้ว


หลังจากที่ทั้งสามรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นั่งคุยกันเม้าส์มอยไปถึงเรื่องแทคยอนกับลีทึก
จนยุนอาทนความอยากรู้ไม่ได้ว่าทำไมอีทึกถึงต้องทำเหมือนพยามจะขัดเวลาที่แทยอนสวีทวิ๊ดวิ๊วกับแฟนสาวไม่ได้และต้องถามออกไป
แล้วก็ถึงบางอ้อเหมือนได้รับคำตอบกลับมาว่าลีทึกนั้นคอยตามจีบแทยอนมาอยู่นานมากแล้ว
แต่ด้วยเพราะรสนิยมของแทยอนที่ชอบกินผู้หญิงด้วยกันนั้นชายหนุ่มจึงได้แต่กินแห้วไปจนถึงทุกวันนี้
แล้วคังอินก็ยังเล่าต่ออีกว่าเพราะแทยอนน่ะเคยมาที่นี่พร้อมชายหนุ่มคนนึง(ซึ่งคังอินก็ไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาว่าเป็นใครและเป็นอะไรกับแทยอน)
แต่เรื่องวันนั้นมันทำให้อีทึกปักใจเชื่อว่ายังไงแทยอนก็ต้องหวั่นไหวกับผู้ชายบ้างแน่ๆ
ยุนอารับฟังอยู่เงียบๆพลางนึกสงสัยขึ้นอีกว่าชายหนุ่มที่เคยมากับแทยอนนั้นเค้าเป็นอะไรกัน และวันนั้นเค้ามาทำอะไรที่นี่
เธอได้แต่หวังว่าแทยอนคงไม่ได้ทำเหมือนที่เค้าทำกับเธอหรอกใช่ไหม ถึงแม้ว่าเธอจะรับได้และไม่คิดอะไรที่ร่างเล็กนั้นจะเคยมีแฟนมามากมายหรือผ่านใครมาหลายคนก็ตาม
แต่พอมาคิดดูว่าถ้าหนึ่งในนั้นมันมีผู้ชายขึ้นมาเธอก็อดรู้สึกแย่เบาๆไม่ได้ ไม่ใช่ว่ารังเกียจถ้าแทยอนจะเคยผ่านผู้ชายมาแต่เรียกว่าเสียดายน่าจะถูกกว่า
แต่ก่อนที่เธอจะได้ถามถึงประเด็นนั้นกับคนตัวเล็ก...

ฟุ้บบ!!

ร่างใหญ่ของคังอินล้มนอนราบลงกับพื้นพร้อมทั้งร่างของชายฉกรรจ์สามถึงสี่่คนที่โผล่พรวดออกมาจากความมืด
และพุ่งเข้ามารวบร่างบอบบาง(?)ของหญิงสาวทั้งคู่ไว้ภายในพริบตาเดียว
ด้วยความตื่นตระหนกและตกใจทำให้ทั้งสองคนนั้นกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น

“หุบปาก!! ถ้ายังอยากมองเห็นวันพรุ่งนี้อยู่ล่ะก็..”
น้ำเสียงหยาบกระด้างที่พ่นคำขู่ออกมาใส่หน้าหญิงสาวนั้นทำให้ทั้งคู่ได้สติและสงบนิ่งลงพลางใช้ความคิดหาทางเอาตัวรอด
อาวุธที่อยู่ในมือของพวกมันนั้นก็หันเข้ามาจ่อยังลำคอระหงและพร้อมจะปลิดชีวิตของทั้งคู่ได้ทุกวินาที
ไม่ต้องคิดไปไกลเลยยุนอารู้ดีว่าคนพวกนี้เป็นใครถึงแม้ว่าพวกมันจะอำพลางใบหน้าไว้อย่างมิดชิดก็ตาม
เธอไม่ได้ห่วงตัวเองหรอกแต่ที่เธอพะวงหน้าพวะงหลังอยู่อย่างนี้ก็เพราะแทยอน เพราะแทยอนไม่ได้รู้เรื่องอะไรแต่กลับต้องมาถูกล็อคตัวไว้แบบนี้

“พวกแกต้องการอะไร จะเอาอะไรอีก”
รีบถามพวกมันออกไปเสียงแข็งถึงแม้จะห่วงแทยอนมากแค่ไหนแต่เธอก็ไม่ควรให้พวกมันรู้ว่าแทยอนนั้นมีค่าสำหรับเธอมากแค่ไหนเหมือนกัน
เพราะกลัวว่ามันจะเปลี่ยนเป้าหมายไปเล่นงานแทยอนนั่นเอง แล้วตอนนี้พวกมันพาแทยอนไปไหนแล้วล่ะ
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ดีว่าจริงๆแล้วแทยอนอาจจะสู้ไอ้พวกนี้ที่มีอาวุธอยู่ด้วยมือเปล่าได้สบายๆก็เถอะ
ร่างสูงหันซ้ายหันขวาพยามกวาดสายตามองหาร่างเล็กที่เป็นเหมือนกับลมหายใจของ แต่มันก็...ไม่มี
แทยอนหายไปไหนไม่ว่าจะพยามโฟกัสสายตาไปทางไหนเธอก็เห็นเพียงชายร่างใหญ่สองคนที่ยื่นอยู่ตรงหน้าเธอ
และร่างของคังอินที่มีศรธนูสีเงินเสียบเข้ากับต้นแขนอยู่สามดอกนอนราบอยู่ที่เดิม กับพวกมันอีกคนที่ล็อคตัวเธออยู่

“คุณก็น่าจะรู้ดีนี่..คุณยุนอา” น้ำเสียงแหบพร่าน่ารังเกียจเสียจนคนฟังต้องเบือนหน้าหนี
เจ้าของเสียงแหบพร่าสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้ร่างระหงของยุนอามากขึ้นอีกจนแทบจะแนบชิดกัน
เธอได้แต่กัดฟันกรอดนึกแค้นใจตรงที่เธอไม่สามารถโต้ตอบอะไรพวกมันได้เลยแถมยังปกป้องแทยอนไว้ไม่ได้อีก
ป่านนี้คนตัวเล็กนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างจะโดนพวกคนชั้นต่ำพวกนี้รังแก?อะไรบ้างเธอไม่อยากจะนึกเลย เอ๊ะหรือแทยอนจะรังแกมัน?

“อย่ามาใกล้ฉัน จะเอาเท่าไร”
หญิงสาวพูดเสียงเกรี้ยวพร้อมตวัดสายตาที่ดุดันกลับมาจ้องมองใบหน้าที่ถูกบดบังด้วยหมวกไหมพรม
เหลือเพียงดวงตาแวววับของมันที่โลมเลียเรือนร่างเธออยู่ทุกวินาทีที่มีโอกาส
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้รับคำตอบจากชายร่างใหญ่ตรงหน้า ร่างกายของเธอที่ถูกรัดกุมจนอึกอัดก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา...

“เฮ่ย มันเป็นอะไรวะ”
ร่างของชายฉกรรจ์ที่เคยล็อคตัวเธอล้มพับลงไปกองกับพื้นและยังไม่ทันที่อีกสองคนที่ได้ทำอะไรไปมากกว่าสงสัย ทั้งคู่ก็ล้มหมดสติไปในเวลาไล่เลี่ยกัน
ถึงแม้จะตกใจไม่เข้าใจและความรู้สึกอื่นๆอีกมากมายแต่สิ่งแรกที่เธอห่วงมากสุดนั้นคือ..

“พี่แทยอน...ได้ยินฉันไหม”
ร่างสูงตะโกนออกไปสุดเสียงพลางหมุนตัวกวาดสายตามองไปรอบๆเธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะเดินตามหาร่างเล็กจากทางไหนก่อนดี
เพราะรอบกายนั้นนอกจากกองไฟที่คังอินก่อไว้นั้นก็เหลือเพียงความมืดมิด
เธอยังคงตะโกนเรียกชื่อคนรักออกไปเรื่อยๆแต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงเสียงใบไม้ที่พริ้วไหวไปตามลมในยามค่ำคืน
ลำคอเริ่มตีบตันพร้อมกับรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาที่ขอบเรี่ยวแรงที่เคยมีกลับหายไป
ยุนอาทรุดตัวลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้นอย่างหมดสภาพพร้อมกับน้ำใสๆที่ใหลรินออกมาจากดวงตาคม ทำไมกัน...ทำไมเธอถึงไม่เคยปกป้องแทยอนได้เลยสักครั้งเดียว...

“ชู่วว...อย่ากลัวไปเลยนะ”
เสียงหวานจับใจเอ่ยกระซิบที่ข้างหูเธอมันเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยและนั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เธอได้รับรู้ก่อนที่สติของเธอจะดับวูบลง...


ร่างสูงค่อยๆปรือตาขึ้นอย่างยากลำบากเพราะเปลือกตาที่บวมเปล่งจากการร้องไห้
และตอนนี้ก็รู้แสบตาไปหมดอาจจะเป็นเพราะแสงจากหลอดไฟสีส้มคลาสสิคที่มันดันมาอยู่เอาตรงกลางศีรษะเธอพอดี
ร่างสูงกวาดสายตามองรอบๆกายก็ได้เห็นว่าที่ที่เธออยู่นี้มีลักษณะคล้ายๆห้องนอนในบังโลหรูหราตกแต่งด้วยไม้เนื้องาม...ที่นี่ที่ไหนกัน
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองของเธอ เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้เธอยังอยู่กลางป่าอยู่เลย ..แย่แล้ว!!แล้วแทยอนล่ะ แล้วนี่เธอหลับไปงั้นเหรอ
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านไปก่อนมันก็ทำให้ร่างสูงอยู่ไม่ติดรีบผุดลุกเดินไปยังที่ประตูบานใหญ่ทันที
ไม่อยากรู้แล้วว่าที่นี่คือที่ไหนแล้วตัวเองจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือหลังจากที่เธอหมดสติไปมันเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง
แต่ก่อนที่มือเรียวจะบิดลูกบิดประตูเพื่อเปิดออก เธอก็เผยรอยยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงของคนที่คุยกันอยู่ข้างนอก
...เสียงแทยอนแน่นอน เธอไม่มีทางที่จะจำเสียงของคนที่เธอรักมากที่สุดไม่ได้อยู่แล้ว

"สรุปคนพวกนั้นมันเป็นใครไม่เห็นมีตราประทับ แล้วมันเข้ามาได้ไง"
แทยอนยืนเท้าสะเอวพูดฉอดๆใส่หน้าแทคยอนและลีทึกอย่างหงุดหงิดไม่น้อย ทำไมวะคะเวลาที่เธอนึกอยากจะมาเที่ยวกับผัวเนี่ยมันดูวุ่นวายจังเลยได้แต่คิดอยู่ในใจ
ดวงตาคมเหลือบห็นว่านอกจากทั้งสามคนที่ยืนคุยกันอยู่นั้นก็ยังมีร่างของคังอินนอนหมดสติอยู่ในห้องนี้ด้วย
ดูแล้วหมอนั่นคงแค่หมดสติไปเพราะลูกธนูนั่นน่าจะแค่ชุบสารที่ทำให้เชลล่าสลบได้

"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันแต่พี่ไม่ปล่อยพวกมันไปง่ายๆแน่" แทคยอนก็ดูอารมณ์เสียไปไม่ต่างจากร่างเล็กเท่าไร เพราะปกติแล้วในป่าแห่งนี้จะไม่มีรใครสามารถเข้ามาได้ง่ายๆถ้าไม่ได้รับอนุญาติ
แต่นี่ดูแล้วเหมือนไอ้พวกคนร้ายมันเดินสะบักบ๊อบเข้ามาได้หน้าตาเฉยแบบนี้จะให้บอสแห่งเขาแทสซิทอย่างแทคยอนไม่อารมณ์ได้อย่างไรกัน

"...ตื่นแล้วเหรอคะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า" เมื่อเหลือบเห็นว่าแฟนเด็กโผล่หน้าออกมาจากห้องแล้วทำตาปริบๆอยู่นั่น
ร่างเล็กก็รีบเดินไปหาคนที่เพิ่งเปิดประตูออกมาและถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงมือเล็กยกขึ้นลูบใบหน้าดูดีที่ตอนนี้ออกจะดูบวมอยู่หน่อย
คงเป็นเพราะยุนอานั้นร้องไห้ไม่หยุดเลยแม้จะเป็นตอนที่หลับไม่ได้สติใบหน้าเค้าก็ยังคงมีน้ำใสๆไหลออกจากหางตาที่ปิดสนิทอยู่ตลอด
ยุนอารวบตัวของคนตรงหน้าไปกอดไว้แน่นทั้งเป็นห่วงทั้งรู้สึกผิดรู้สึกแย่ที่เธอไม่สามารถดูแลคนตัวเล็กนี้ได้อย่างที่เคยคิดและพูดไว้เลย
ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่รัวถามอีกคนกลับด้วยคำถามเดียวกันพลางผละออกจากอ้อมกอดเพื่อสำรวจร่างกายของคนตัวเล็ก
จนแทยอนแทคยอนและลีทึกหลุดขำออกมา

"นี่ถ้าแทยอนมันเป็นอะไรน่ะ คุณคงมาอยู่ตรงนี้ไม่ได้หรอกครับคุณยุนอา"
แทคยอนพูดกลั้วหัวเราะก่อนจะขอตัวออกไปจัดการเรื่องพวกคนร้ายที่ถูกมัดรวบตัวไว้อยู่นั้นพร้อมฉุดแขนนายลีทึกออกไปด้วยโดยที่แขนอีกข้างก็อุ้มร่างหมดสติของคังอินไว้
เพราะเขารู้ดีว่าอารมณ์นี้ที่คนรักกันเพิ่งได้เจออะไรที่ไม่ใช่เรื่องดีนัก เค้าคงอยากจะปลอบประโลมคลอเคลียกันให้หายเป็นห่วง
แต่ประโยคที่แทคยอนพูดไว้ก่อนหน้านั้นมันทำเอาคนฟังต้องขมวดคิ้วเป็นปมใหญ่
..หมายความว่าไงกันแทยอนเป็นคนอุ้มเธอมาที่นี่งั้นเหรอ หน้าอายซะมัด เธอมองใบหน้าใสด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
มือเล็กถูกยกขึ้นลูบเรือนผมของคนตัวสูงกว่าอย่างอ่อนโยนก่อนจะรั้งให้โน้มใบหน้าเข้าใกล้
แล้วแนบริมฝีปากเรียวบางลงกับส่วนเดียวกันแผ่วเบา..นุ่มนวล กลีบปากทั้งสองขยับป้อนจูบราวกับโหยหาคิดถึงเหลือเกินแม้จะห่างกันเพียงแค่อีกคนหมดสติไป
และผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงแต่ความห่วงใยนั้นมันพลั้งพรูให้กลายเป็นความคิดถึง ทั้งเรื่องแย่ๆที่ได้ประสบพบเจอในก่อนหน้านั้นอีก
ร่างเล็กออกแรงดันให้อีกคนถอยกลับเข้าไปในห้องที่เค้าเพิ่งก้าวออกมา ปิดประตูลงพร้อมกับแผ่นหลังของตัวเองที่แนบสนิทเข้ากับประตูไม้บานใหญ่
แขนเรียวทั้งสองข้างเลื่อนขึ้นไปโอบรอบต้นคอของคนตรงหน้ารั้งให้ร่างกายเค้าเบียดแนบชิดเข้ามาอีก



ยุนอาเบียดกายเข้าหาร่างเล็กตามแรงรั้งที่ต้นคอ ทั้งที่กลีบปากทั้งสองนั้นยังคงประกบดูดดุนกันอยู่ไม่ห่าง
สัมผัสนุ่มนิ่มที่ร่างกายนั้นทำให้รู้ได้ไม่ยากว่าเราอยู่ใกล้กันมากแค่ไหน มากพอที่อากาศจะไม่สามารถแทรกผ่านระหว่างเราไปได้
แม้จะยังมีเสื้อผ้าอาภรอยู่บนกายครบทุกชิ้นแต่มันก็ไม่สามารถปิดกั้นความร้อนรุ่มจากแรงเบียดเสียดสีของทั้งสองได้
มือเรียวทั้งสองข้างถูกนำมาลูบไล้สะโพกผายของแทยอนเพื่อสร้างความหวามไหวในอารมณ์
ไม่ต่างจากมือเล็กที่สอดเข้าใต้เรือนผมสีน้ำตาลยาวออกแรงขยุ้มให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความร้อนในกายว่ามันเริ่มปะทุรุนแรงขึ้นทุกวินาที

เสียงครางอื้ออึงแม้ถูกเปล่งอยู่ในลำคอแต่มันก็ดังพอที่ทั้งคู่จะได้ยินอีกฝ่าย เรียวลิ้นร้อนสอดแทรกรุกล้ำเข้าไปภายในโพรงปากของร่างเล็ก
กวาดชิมความหอมหวานที่คุ้นเคยอย่างไม่รู้เบื่อ ลิ้นเล็กตวัดเกี่ยวถูกรุกล้ำอย่างเป็นต่อราวกับกลัวว่าเค้าจะกลับออกไป
ยุนอารู้สึกได้ถึงแรงดูดดุนที่ปลายลิ้นจึงปรือเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยก็พบว่าแทยอนนั้นมองเธออยู่ก่อนแล้ว นัยน์ตาสิน้ำตาลทองนั้นช่างหยาดเยิ้มเชิญชวนขยี้อารมณ์เหลือเกิน
อีกทั้งกลีบปากอิ่มอวบนั้นยังค่อยๆรูดเรียวลิ้นของร่างสูงออกมา แล้วดูดกลับเข้าไปใหม่
แทยอนทำอย่างนั้นอยู่หลายครั้ง
จนรู้สึกได้ว่ากระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองถูกปลดออกทีละเม็ด ทีละเม็ด แม้ไม่ได้รู้สึกถึงความเร่งรีบของร่างสูง
แต่ปลายนิ้วที่ไล้ไปตามเนินเนื้อที่โผล่พ้นบราเซียของเธอนั้น ปลุกเร้าอารมณ์ร้อนได้เป็นอย่างดี

ยุนอาชักเรียวลิ้นออกมาจากกลีบปากอิ่มที่ยังพยายามดูดดุนยั่วเย้าให้ความร้อนในกายเธอปะทุขึ้นรุนแรงนั้น
ก่อนจะลากต่ำลงมายังสันกรามคมของคนช่างยั่วที่ตอนนี้ได้เอียงคอเปิดทางให้เธอและเล็มผิวกายของเค้าอย่างรู้งาน
มือเรียวทั้งสองข้างสอดเข้าไปภายในสาบเสื้อตัวบางที่แหวกออกจากกัน ลูบไล้ผิวกายนุ่มละมุนอย่างหลงไหลไปทุกสัดส่วน
เสียจนรู้สึกรำคาณสิ่งกีดขวางภายในอีกชั้นนึง ไม่เพียงคิดแต่มือเรียวนั้นยังเลื่อนขึ้นไปปลดตะขอบราสีเข้มของร่างเล็กออกให้พ้นทาง
แทยอนก็ไม่ได้ยอมให้อีกฝ่ายรุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว มือเล็กเลื่อนลงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายให้เท่าเทียมกัน ก่อนจะเลื่อนกับขึ้นไปกอบกุมก้อนเนื้อนุ่มที่มีบราเซียปรกคุมอยู่
แต่นั้นไม่สามารถขว้างกั้นระหว่างเธอกับยุนอาได้สักเท่าไร เมื่อมือเล็กนั้นสอดเข้าภายในพลางนวดเฟ้นอย่างต้องการปลุกเร้าให้คนใจเย็นตรงหน้านี้ใจร้อนสักที

ดวงหน้าเรียวสวยที่เคยซุกไซร้ซอกคอขาวของคนตัวเล็กนั้นค่อยๆผละออกมาจับจ้องใบหน้าขาวใสที่เต็มไปด้วยอารมณ์
พร้อมกับปลายนิ้วที่เกี่ยวรั้งบราเซียสีเข้มของเค้าให้เลิกขึ้นเหนือเนินอก เผยก้อนเนื้อขาวเต่งตึงและปลายยอดสีชมพูอ่อน
ดวงตาเรียวหลุบลงมองสิ่งล่อตาล่อใจนั้นอย่างไม่ปิดบังว่าเจ้าของมันจะรู้ทันความกระหายหิวของตัวเอง ริมฝีปากล่างถูกขบไว้พร้อมกับเสียงซี๊ดดังเล็ดรอดออกมา
เมื่อปลายนิ้วลากไล้เขี่ยวนไปมาบนยอดอกสีหวานอย่างอ้อยอิ่ง แต่นั่นแค่เท่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ส่วนนุ่มอ่อนไหวนั้นแข็งขืนขึ้นสู้ปลายนิ้ว
แทยอนตวัดสายตามองใบหน้าเรียวที่กำลังขบกัดริมฝีปากล่างของเค้าสลับกับปลายนิ้วที่กำลังกระชากลมหายใจของเธอให้รุนแรงขึ้น

และก็เป็นร่างเล็กที่ทนไม่ไหวอีกตามเคย ส่งอุ้งมือขึ้นไปดึงรั้งศีรษะของอีกคนให้โน้มเข้ามาซุกแนบเข้ากับร่องอกที่แอ่นขึ้นรับใบหน้าคนตัวสูงกว่าไว้
กลีบปากเรียวร้อนไล่พรมจูบไปทั่วทรวงอกก่อนจะใช้ปลายลิ้นลากวนฐานส่วนยอด แล้วตวัดขยี้ดูดดุนมันอย่างกระหายหิว ส่วนก้อนเนื้ออีกข้างของแทยอนนั้นยุนอาก็ไม่ได้ปล่อยมันให้น้อยใจ
ใช้มือเรียวนวดเฟ้นอย่างหนักหน่วงพร้อมกับปลายนิ้วที่กดขยี้ยอดอกสีหวานจนขยายตัวแข็งขึ้นสู้

มือเรียวข้างที่ถนัดก็ลากวนเวียนอยู่แถวหน้าท้องแบนราบของร่างเล็กเนิบนาบ ก่อนจะเกี่ยวกระดุมกางเกงของแทยอนให้หลุดออก
แล้วสอดแทรกปลายนิ้วลึกลงไปภายในนั้น พร้อมกับเรียวขาของร่างเล็กที่ขยับอ้าออกจากกันอย่างเชิญชวน
เสียงครางหวานถูกเปล่งออกมาออดอ้อนเจ้าฝ่ามือร้อนผ่าวที่กำลังหลอมละลายกายเล็กของแทยอน ด้วยการลากไล้ปลายนิ้ววนไปมาอยู่แถวเนินเนื้อด้านล่างของเธอ
ที่ตอนนี้มันเปียกแฉะไปด้วยของเหลวในกายที่ถูกหลั่งออกมาเพื่อคนตรงหน้าโดยเฉพาะ

"ยุนอา~"
ครางออดอ้อนเค้าเสียงหวานพร่า สองมือเล็กขย้ำเรือนผมสีเข้มฉุดให้ใบหน้าดูดีที่กำลังใช้เรียวลิ้นตวัดลามเลียยอดอกของเธอ
ให้ขึ้นมาสบตากัน ราวกับจะเร่งเร้าให้เค้าใจร้อนกว่านี้หน่อย เพราะความร้อนมันอัดแน่นอยู่ในร่างเธอจนแทบจะทนรอต่อไปไม่ไหวแม้แต่วินาทีเดียว
กลีบปากประกบเข้าหากันราวกับแรงดึงดูดแห่งเพลิงปราถนานั้นเริ่มแผดเผาสองกายให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
แทยอนละมือข้างนึงออกมาจากกลุ่มผมของยุนอา แล้วเลื่อนลงเพื่อนดุนดันข้อศอกของร่างสูงให้ส่งปลายนิ้วลึกเข้ามาอีก
ลมหายใจกระชากสูดเข้าทันทีที่ถูกเรียวนิ้วของยุนอาลากผ่านเนื้อผ้าบางที่เปียกชื้น สายตาที่เคยสบลึกเข้าด้วยกันก็ปรือจนแทบจะปิดเปลือกตาลง พร้อมกับเสียงครางในลำคอ
ปลายนิ้วลากกรีดผ่านรอยแยกแฉะชื้นแม้มีผ้าชิ้นบางขวางกั้นอยู่แต่มันไม่สามารถปกปิดส่วนนั้นของแทยอนได้เลย
เพราะยุนอาก็ยังสามารถสะกิดติ่งไตชิ้นเนื้อที่ตอนนี้มันแข็งขืนนูนออกมาอย่างชัดเจน มือเรียวข้างยังคงนวดคลึงทวงอกอิ่มอย่างหนักหน่วง

"เข้ามาสิ~"
แทยอนกระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปากเชิญชวน แล้วส่งปลายลิ้นออกมาไล้เลียกลีบปากเรียวของร่างสูง อย่างยั่วเย้า
และมันได้ผลเมื่อยุนอาสอดมือเรียวเข้ามาสัมผัสเนื้อแท้ของเธอ พร้อมกับเปล่งเสียงครางกระเส่าออกไปราวกับจะบอกเค้าว่าเธอพอใจกับสัมผัสของเค้า
ยิ่งยุนอาใช้ปลายนิ้วกดขยี้ถูไถย้ำๆอยู่ที่ส่วนชิ้นเนื้อนูนแข็งขืนของแทยอนนั้น กายเล็กก็ยิ่งแอ่นขึ้นบิดเร้ามากเท่านั้น
สะโพกมนส่ายร่อนรับแรงเสียดสีหนักหน่วงที่สร้างความเสียงกระสันจากจุดที่ถูกสัมผัสให้แล่นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
มือเล็กที่เคยดันข้อศอกของอีกฝ่ายนั้นก็เลื่อนมาประคองยังข้อมือเรียว ราวกับกลัวว่าเค้าจะชักกับออกไป แทยอนรั้งข้อมือยุนอาให้สอดลึกเข้ามาอีก
จนปลายนิ้วของร่างสูงนั้นลากกรีดผ่านช่องทางร้อนระอุของเธอ เค้าลากถูไถอยู่อย่างนั้นราวกับจะยั่วให้แทยอนคลั่งตายเสียก่อน
มือเล็กอีกข้างที่ขยุ้มเรือนผมสีเข้มนั้นก็เริ่มกำจิกแรงขึ้น เมื่อยุนอาดันเรียวนิ้วเข้ามาในช่องทางร้อนของเธอเพียงข้อเดียวของเรียวนิ้วยาวนั้น ตวัดวนไปมาสร้างความปั่นป่วนที่กระสันเสียว
จนแทยอนเผลอฝังคมเขี้ยวลงกับกลีบปากเรียวเสียลืมหวงแรง รสชาติเฝื่อนและกลิ่นคาวคลุ้งพร้องกับเสียงซี๊ดเบาๆจากร่างสูงนั้นได้ดึงสติของร่างเล็กกลับมา
เธอรีบผละออกก่อนครางขอโทษเค้าเสียงสั่น ถึงแม้ว่าบาดแผลนั้นไม่ได้ทำให้ความเร่าร้อนของยุนอาลดน้อยลง
แต่แทยอนก็ไม่ได้ต้องการให้อีกคนนั้นเจ็บตัวเพราะการร่วมรักกับเธอเช่นกัน แทยอนจับจ้องกลีบปากเรียวที่มีของเหลวสีแดงซึมออกมานั้น
มันกลับทำให้คนตรงหน้าดูจัดจ้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ อาจเป็นเพราะในเวลานี้นัยน์ตาสีเข้มที่มองเธอกลับมาเช่นกันนั้นแทบไร้การปิดกั้นความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น
 ...สายตาแบบนี้สามารถหลอมละลายแทยอนได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ได้สบมัน...

ยิ่งได้เห็นสายตาแบบนั้นของยุนอาอีก กายเล็กก็เริ่มปั่นป่วนความเสียวซ่านจากปลายนิ้วของร่างสูงที่ถูขยี้ชิ้นเนื้อนูนของเธอนั้นก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้น
และนั่นก็ทำให้แทยอนทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว มือเล็กทั้งสองข้างเริ่มจัดการกับสิ่งที่น่ารำคาณในเวลานี้บนร่างตัวเองส่วนบนไปจนหมดสิ้น
แล้วเปลี่ยนไปจัดการกับช่วงล่างจนพ้นทาง ไม่รอให้เสียเวลาเปล่า
แทยอนดันร่างสูงไปนั่งลงยังเตียงนุ่มพร้อมกับก้าวขึ้นไปคร่อมตักเค้าไว้ โดยที่ปลายนิ้วของยุนอานั้นยังคงทำน่าที่บดขยี้จุดเสียวของเธออยู่ไม่ห่าง

ร่างเล็กเบียดสะโพกเข้าหาหวังจะให้เรียวนิ้วยาวนั้นลากลึกเข้ามาอีก แต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังโดนคนอายุน้อยกว่ากลั่นแกล้ง เมื่อยุนอานั้นยังคงขยี้อยู่จุดเดิม
แทยอนก้มลงซุกไซร้ลำคอระหงของคนขี้แกล้ง ก่อนจะฝังคมเขี้ยวลงไปด้วยความขัดใจ แต่ก็ออมแรงไว้เพื่อไม่ให้เกิดบาดแผลบนร่างกายเค้าอีก
พลางยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเปิดทางให้เค้าได้ล้วงลึกมากขึ้น

ยุนอายกยิ้มชอบใจที่ได้แกล้งอีกคนจนสำเร็จ แน่นอนว่าทุกครั้งเธอรู้ว่าแทยอนต้องการอะไร และเธอก็ต้องการเช่นกัน
แต่การได้แกล้งยั่วคนตัวเล็กบ้างนั้นทำให้เธอได้รู้สึกถึงมุมที่แทยอนต้องการเธอมากขึ้น และตอนนี้ยุนอาก็พอใจเป็นอย่างมาก
เมื่อรู้สึกเช่นนั้นเรียวนิ้วจึงถูกดันให้สอดลึกเข้าไปในช่องทางร้อนที่เต็มไปด้วยของเหลวอุ่นและลื่นนิ้ว พร้อมกับสะโพกมนที่กดทับลงมา
กลีบเนื้อของแทยอนนั้นกลืนกินเรียวนิ้วของยุนอาไปจนมิดโคน ...

ร่างสูงโน้มใบหน้าเข้าหาเนินอกเต่งตึงที่ล่อตาล่อใจ พลางดูดกลืนอย่างกระหายหิว ปลายลิ้นลากตวัดส่วนยอดที่แข็งขืนอย่างหนักหน่วง
เช่นเดียวกับเรียวนิ้วที่ถูกสะโพกมนกะแทกสวนทางกันอยู่ ทั้งเร็ว แรง
แทยอนครางเรียกชื่อคนรักไปไม่รู้ครั้งที่เท่าไรแล้วแต่เธอก็ยังคงเรียกชื่อเค้าซ้ำๆอยู่อย่างนั้นพร่ำบอกว่าสัมผัสของเค้าถูกใจเธอมากมายแค่ไหน ยุนอา อาห์ ดี แทชอบจัง...

จังหวะร้อนรักยังคงถูกทั้งคู่เร่งขึ้นเรื่อยๆ เสียงผิวเนื้อแฉะฉ่ำกระทบกันรัวเร็วแข่งกับเสียงครางแหลมสูงของแทยอน
มือเล็กทั้งสองข้างเกาะไหล่ผายของคนใต้ร่างไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวกายที่คล้ายจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ภายในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้

แม้จะถูกความเสียวซ่านเล่นงานอย่างหนัก แต่แทยอนก็ยังคงเร่งจังหวะกระแทกสะโพกเข้าหาข้อนิ้วของยุนอาให้แรงขึ้นอีก
เสียงครางสั่นกระเส่านั้นยิ่งชวนให้คนได้ยินต้องรีบเร่งจังหวะขึ้นอีก ยุนอาดูดยอดอกของแทยอนอย่างหนักหน่วงจนเกิดเสียงดังชัด
ก่อนจะผละออกมามองใบหน้าขาวใสที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงเรื่อเพราะความร้อนในกายที่อัดแน่น อีกทั้งยังกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้ เรียวคิ้วบางถูกเหนี่ยวเข้าหากัน นัยน์ตาสีน้ำตาลทองปรือเปลือกตาสบกัน...




"เธอรู้หรือเปล่าว่าคนพวกนั้นเป็นใคร" หลังจากที่บทรักแห่งความห่วงใยได้จบลง ร่างเปลือยเปล่าของแทยอนที่ทาบทาบออยู่บนร่างของคนตัวสูง
ก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนถูกถามหวังรอคำตอบที่เธอก็ไม่คิดจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว
"พวกมันเป็นคนของบ่อนที่พี่ยูลชอบเข้าไปอยู่บ่อยๆ แต่ยุนไม่รู้ว่าพี่ยูลเข้าไปทำอะไรพวกมันถึงได้มาเล่นงานยุนอยุ่แบบนี้"
"แล้วยูลมันรู้หรือเปล่า นี่แสดงว่าเธอเจอแบบนี้หลายครั้งแล้ว?" แทยอนดูจะไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเมื่อได้รู้ความจริงจากปากแฟนสาว
ก็แน่ล่ะมีอย่างที่ไหนปล่อยให้คนพวกนั้นมาข่มขู่เมื่อไรก็ได้อย่างนี้ ยุนอาปฏิเสธการรับรู้ของยูริแต่ก็ยอมรับว่าเธอเจอพวกมันมาบ่อยครั้ง
แต่เธอก็ทำอะไรมันไม่ได้เลยสักครั้งก็ใครจะไปรู้ว่ามันจะเข้ามาเมื่อไรแล้วมาทีก็ไม่ใช่แค่คนสองคน แถมทุกครั้งก็โดนมันรวบตัวได้ก่อนทุกครั้งอีก
แทยอนเอ็ดขึ้นมาทันทีว่าทำไมถึงปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ได้ คนรักเธอตอนนี้ดูโมโหจัดจนดูน่ากลัวผิดกับแทยอนที่ดูน่ารักน่าหยิกอยู่มากโข
ถึงแม้ว่าอาการโมโหของร่างเล็กนั้นจะไม่ได้แสดงออกถึงอารมณ์โกรธจัดที่เดือดพล่าน
หากแต่นิ่งงันเฉยชาประจวบเหมาะกับแววตาที่หนักแน่นดุดันราวกับจะเฉือนเลือดเฉือนเนื้อกันได้ภายในไม่กี่วินาที
ยุนอาพูดอะไรต่อไม่ออกเพราะไม่กล้าพูดอะไรออกไปอีกมันไม่แน่ใจ ก็แทยอนเล่นจ้องหน้าเธอราวกับเธอผิดเสียอย่างนั้น
ไม่นานร่างเล็กก็ยันกายเปลือยเปล่าของตัวเองขึ้นนั่งคร่อมร่างของคนตัวสูงยกมือเสยผมอย่างขัดใจพร้อมกับพ่นลมออกทางจมูกยาวๆก่อนจะผุดลุกออกไปจากร่างเธอ
ยุนอายันกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองดูคนตัวเล็กที่กำลังแต่งตัวอย่างลวกๆอยู่นั้นจนแทยอนเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าเตียงอีกครั้ง

"อยู่ในนี้จนกว่าพี่จะเข้ามา แล้วก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก" ยุนอากลืนน้ำลายเอื๊อกพร้อมพยักหน้ารับช้าๆไม่กล้าขัดคำสั่งของผู้เป็นภรรยา
ถึงแม้ในใจจะอยากคัดค้านแค่ไหนแต่ก็ต้องหุบปากเงียบไว้ ไม่อยากให้แทยอนต้องหงุดหงิดไปมากกว่านี้
หลังจากที่แทยอนออกไปสักพักแล้ว ร่างสูงก็ลุกไปอาบน้ำชำระร่างกายให้มันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างพลางคิดอะไรไปเรื่อย
วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าแทยอนนั้นเวลาโกรธแล้วน่ากลัวอย่างที่เจสสิก้าเคยบอกไว้ไม่มีผิดเพี้ยน
แต่พอนึกๆไปว่าจริงๆแล้วแทยอนเป็นใคร...ก็แอบใจหาย ที่ใจหายน่ะคือทำไมเธอถึงไม่เคยเอะใจบ้างว่าแทงกูและแทยอนน่ะ มีอะไรคล้ายๆกันอยู่หลายอย่างมาก



“พี่สิก้า...คือว่าขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย” เจ้าของชื่อหันมาพร้อมยิ้มรับเชิงให้เธอถามต่อ
“ทำไมวันนั้นพี่ต้องทำเหมือนกับว่าไม่ควรพูดชื่อพี่แทงกูให้พี่แทยอนได้ยินด้วยล่ะ”
ในที่สุดคำถามที่ค้างคาใจยุนอามาหลายวันได้ถูกถามออกไป เจสสิก้าขมวดคิ้วเล็กน้อยมองหน้าเธอราวกับจะถามว่านึกอะไรถึงได้มาถามเรื่องนี้อย่างนั้นแหละ
“อยากรู้?... แทยอน..แทงกูน่ะเป็นผู้มีสายเลือดเดียวกัน แต่มีประวัติที่แย่และไม่ค่อยน่าจำ เลยทำให้การที่จะพยามพาสองคนนั้นมาเจอกันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร”
หลังจากที่ยุนอาพยักหน้ารับว่าจะไม่บอกใครเจสสิก้าก็พูดถึงสองคนนั้นให้เธอฟังแบบคร่าวๆ คิ้วเรียวเริ่มขมวดเป็นปมใหญ่เมื่อคิดตามที่เจสสิก้าพูดมา แทยอนกับแทงกูมีสายเลือดเดียวกัน เห...
“หมายความว่าไงสองคนนั้นเป็นพี่น้องกัน?แต่ไม่ถูกกันงั้นเหรอ”
“เธอจะคิดอย่างนั้นก็ได้นะ แต่แทงกูเพิ่งจะมาปรากฏตัวในเกาหลีเมื่อห้าปีก่อนเพื่อตามฆ่าคนคนนึงหลังจากนั้นมันก็อยู่มาจนถึงทุกวันนี้”
ให้ยุนอาเดานะเธอก็คงจะเดาว่าก่อนหน้านั้นแทงกูคงจะอยู่และโตที่แอลเอซึ่งเป็นประเทศที่พ่อของแทยอนและแทงกูอยู่เธอถึงได้ไม่เคยเจอเค้ามาก่อนเลย
ถึงแม้จะอยากรู้ว่าทำไมสองคนนั้นถึงได้ไม่ถูกกันแต่ดูท่าแล้วเจสสิก้าคงไม่ยอมบอกง่ายๆแน่เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเจสสิก้าก็คงจะพูดออกมาแล้วล่ะ
ที่อยากมั่นใจอีกเรื่องคือระหว่างแทยกับแทงกูเนี่ยใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันนะ แต่จากความรู้สึกบางครั้งแทยอนก็เหมือนจะเป็นพี่
ที่รู้สึกแบบนั้นคงเป็นเพราะแทยอนตัวสูงกว่าแทงกูล่ะมั้ง แต่บางความรู้สึกก็เหมือนแทงกูเป็นพี่แทยอนเพราะอะไรหลายๆอย่างทำให้ยุนอารู้สึกว่าเหมือนแทงกูผ่านโลกมาเยอะกว่าแทยอนยังไงไม่รู้
“แล้ววันที่พี่แทงกูช่วยยุนจากพวกคนของลีจุนล่ะ”นึกขึ้นได้อีกเรื่องก็รีบถามต่อ
“เธอจะถามว่าทำไมแทงกูถึงช่วยเธอ? เธอก็รู้นิว่าแทงกูเป็นคนยังไงมันทนเห็นเด็กตัวยาวๆอย่างเธอโดนรุมสังหารเพราะเหตุผลไร้สาระไม่ได้หรอก”
“หมายความว่าไง พวกพี่รู้ว่าเหตุผลของพวกนั้นคือคิดว่าพี่ยูลเป็นคนสั่งยิงธนูเหรอ” เจสสิก้าพยักหน้าช้าๆ
“มันมีเหตุผลอยู่ไม่กี่ข้อหรอก อีกอย่างคนที่จะยิงธนูเพียงดอกเดียวแล้วปลิดชีวิตเชลล่าที่แข็งแกร่งได้ง่ายๆแบบนั้นน่ะต้องมีพลังมหาศาลแค่ไหน
แทงกูมันถึงได้ไม่คิดว่ายูริจะอยู่เบื้องหลังไง ไม่ใช่ว่าดูถูกพี่สาวเธอนะ แต่คนที่จะทำแบบนั้นได้มีแต่พวกกึ่งเทพเท่านั้นแหละ”
ยุนอาก็รู้ดีว่าเจสสิก้าพูดความจริงทั้งหมดเพราะเธอเองก็คิดว่าคนนั้นจะต้องเก่งมากแน่ๆเพราะปกติแล้วอย่างลีจุนน่ะต่อให้ถูกยิงจนตัวพรุนก็ยังไม่ตายง่ายๆหรอก
แล้วใครกันที่สามารถปลิดชีวิตเขาได้เพียงแค่ใช้ศรธนูเพียงดอกเดียว...





ร่างสูงสะบัดหน้าแรงๆเพื่อไล่ความคิดความข้องใจออกไปเมื่อรู้ตัวว่ายืนเปลือยกายอยู่หน้ากระจกบานใหญ่นี้นานเกินไปแล้ว
เธอควรจะอาบน้ำให้เรียบร้อยและรอแทยอนกลับเข้ามา

เสียงน้ำจากบัวไหลสาดกระทบกับผิวขาวใสของเรือนร่างระหงดังขึ้นอยู่ครู่และเบาลงพอให้ร่างกายชุ่มน้ำไปทั่วทั้งตัว
มือเรียวกดเอาแชมพูมาชะโรมให้ทั่วศีรษะออกแรงขยี้มันเบาๆอยู่แบบนั้นแล้วเปิดน้ำจากฝักบัวเพื่อชำระล้างออก กลุ่มฟองสีขาวนวลไหลลงจากปลายผม
ผ่านเนินอกคู่สวยที่สะท้อนขึ้นลงตามแรงแขนที่ยกขึ้นขยี้เรือนผมเปียกชุ่มเพื่อให้ฟองจากแชมพูไหลออกมากลับสายน้ำ..

"อาบน้ำอยู่เหรอ"
เสียงแทยอนดังเข้ามาจากอีกฝั่งของประตู ยุนอาตอบรับกลับไปสั้นๆพร้อมกับถามต่อว่าจัดการเรื่องนั้นเสร็จแล้วเหรอ แต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาจากอีกฝ่าย
ร่างสูงปิดฝักบัวจนเสียงน้ำเงียบไป เธอไม่แน่ใจว่าแทยอนตอบเบาจนเธอไม่ได้ยินหรือเค้ายังไม่ได้ตอบกลับมา
ยุนอายืนรอฟังอยู่อีกครู่นึงก็ยังไมม่มีเสียงตอบรับกลับมาจากอีกคน จนร่างสูงต้องเรียกอีกฝ่ายเพื่อเช็คดูว่าเค้ายังอยู่หรือเปล่า
แต่ยังไปสิ้นเสียงดีผ้าม่านกันน้ำก็ถูกสะบัดรูดให้เปิดออกพร้อมกับร่างของเจ้าของชื่อที่เธอเพิ่งจะเอ่ยเรียกไป
"เสร็จแล้วค่ะ" แทยอนเอ่ยเบาๆราวกับกระซิบพร้อมกับพาตัวเองเข้ามายังบริเวณห้องอาบน้ำที่มี่ร่างสูงยืนจ้องมองร่างเปลือยเปล่าของเธออยู่นั้น
ร่างเล็กยิ้มบางๆก่อนจะเดินนวยนาดเข้าไปใกล้อีกฝ่าย

"อาบน้ำต่อสิคะ"
กลีบปากบางขยับเอ่ยต่อมือเล็กก็เอื้อมผ่านร่างสูงไปเพื่อจะเปิดน้ำจนร่างทั้งคู่เบียดเข้าหากันแนบชิด
มือเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นโอบรอบเอวเล็กไว้ตามความเคยชินและร่างสูงเองก็คงทนไม่ไหวถ้าจะไม่ลูบไล้ฝ่ามือนุ่มไปตามผิวขาวๆนั้น
ก็แทยอนเล่นทำแบบนี้อย่างกับตั้งใจจะยั่วเธอแบบนี้ให้เธออดใจอย่างไรไหว สายน้ำไหลกระทบแผ่นหลังของคนตัวสูงอีกครั้ง เมื่่อมือเล็กถูกชักกลับมาก็ดันร่างของยุนอาเบาๆให้คลายเรียวแขนออก
ก่อนทีร่างเล็กจะขยับเปลี่ยนเป็นตัวเองที่เข้าไปรับน้ำจากฝักบัวบ้าง เรือนผมสีบลอนด์สว่างลู่ลงแนบผิวเนื้อตามสายน้ำที่ไหลผ่านใบหน้าใสเงยขึ้นเล็กน้อย
เปลือกตาทั้งสองข้างปิดลงเพื่อรับความเย็นชุ่มจากกระแสน้ำให้ร่างกายที่เหนื่อยล้าได้สดชื่นขึ้นมาจนพอใจแล้วมือเล็กก็ยกขึ้นเสยผมไปไว้ด้านหลัง
ปรือเปลือกตาขึ้นมาก็เห็นว่าร่างสูงหนั้นจ้องเธอด้วยสายตาหยาดเยิ้มอยู่ราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว มือเล็กถูกยกขึ้นดันใบหน้าอีกคนไปอย่างหมั่นเขี้ยว แต่ยุนอาก็ยังคงฉีกยิ้มกว้างกลับมา
พร้อมทั้งเอื้อมมือไปกดแชมพูมาชะโรมบนเรือนผมเธอขยี้อย่างเบามือราวกับกลัวว่าเธอจะเจ็บ

"เอ๊ะ..จิวหูเธอหายไปไหนคะ" ยุนอาขยับไปมองที่ใบหูของร่างเล็กทั้งสองข้างให้แน่ใจว่าจิวที่ร่างเล็กเคยใส่อยู่และไม่ยอมถอดออกไม่ว่าเวลาไหน ตอนนี้มันหายไปสี่ห้าอัน
"มันคงหลุดตอนที่โดนล็อคตัวมั้งช่างมันเถอะค่อยไปซื้อใหม่" ร่างเล็กตอบอย่างไม่ใส่ใจก็แค่จิวใส่หูเอาอะไรมากล่ะหายก็แค่ซื้อใหม่
ร่างสูงพยักหน้ารับและไม่ได้ถามอะไรออกไปอีกเพราะแทยอนบอกแล้วว่าอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก
และเธอก็ไม่อยากทำให้ร่างเล็กไม่พอใจ มือเรียวเอื้อมไปเปิดฝักบัวอีกครั้งเพื่อล้างแชมพูให้คนตัวเล็ก
แทยอนมองร่างเปลือยเปล่าของแฟนเด็กที่กำลังทำตัวน่ารักอยู่นั้นก็แอบถอนหายใจออกมาเบาๆ
เธอยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังปิดบังยุนอาอยู่ในขณะที่อีกคนนั้นพร้อมจะบอกเรื่องของเค้าให้เธอได้รู้ในทุกเมื่อ...แต่ความคิดทั้งหมดก็ต้องหายวับไป จู่ๆริมฝีปากล่างก็ถูกขัดแน่น
เมื่อสายตาเจ้ากรรมมันดันเลื่อนไปหยุดโฟกัสอยู่ที่เนื้อทรวงอกของคนตรงหน้าที่สะท้อนขึ้นลงเพราะเค้ากำลังล้างแชมพูออกจากเรือนผมเธอ
แทยอนพยามข่มสายตาให้เลื่อนไปมองใบหน้าเค้าแทนแต่ด้วยส่วนสูงและเค้าก็ต้องเอื้อมมือทั้งสองข้างขยี้ศีรษะอีก มันเลยบังคับให้เธอต้องกลับมามองยังจุดเดิม
มือเล็กกำแน่นข่มตัวเองไว้ไม่ให้ยกไปสัมผัสสิ่งเย้ายวนนั้น จนในที่สุดร่าสูงก็ปิดน้ำอีกครั้ง

"เป็นอะไรคะทำไมนิ่งจัง" เด็กร่างสูงเอ่ยทักพร้อมกับชะโรมครีมอาบน้ำลงยังผิวกายของร่างเล็กลูบไล้ไปทั่วราวกับตั้งใจจะปลุกอารมณ์ดิบเธออย่างนั้นแหละ
"เธออาบเสร็จแล้วเหรอถึงได้มาอาบให้เค้าเนี่ย" เงยหน้าถามคนตัวสูงอย่างไม่ไว้ใจเพราะเธอเริ่มจะไม่อยากทนแล้วสิ ยุนอาก็ตอบตามตรงว่าเค้ายังอาบไม่เสร็จแต่อยากอาบให้เธอก่อน
แทยอนเลยถือโอกาสบอกว่าเดี๋ยวเธอจัดการตัวเองต่อให้เค้าไปจัดการตัวเค้าได้แล้ว ตอนแรกร่างสูงก็อิดออดอยู่แต่ก็ยอมทำตาม
ไม่ใช่อะไรหรอกแทยอนแค่กลัวว่าคืนนี้เราจะไม่ได้นอน ก็เท่านั้น..




From...Writer


แอร๊ย ยุนอาแอบไปถามเจสสิก้ามาตั้งแล้วแหละแต่เค้าไม่ได้บอก 55+

ได้รู้กันบ้างแล้วเนอะว่าแทงกูกับแทยอนน่ะยังไง

ทิฟฟานี่ช่วงนี้กำลังเหมือนโดนพวกโรคจิตคุกคราม หุหุ

แต่นางยังต้องทนเพื่อผลประโยชน์จากแจจุงอยู่ แง่มๆ


ขอเสริมเล็กน้อยเรื่องรูปประของเรื่องนี้นะคะ ขอย้ำว่ายังมีอีกเยอะ

แต่อย่าเพิ่งด่าหัวบีมว่าอีนี่แม่มเมิงจะแปะโลโก้เกะกะทำผักชีอะไรวะนะคะ55+

เพราะว่าทุกรูปที่ไม่มีโลโก้แปะจะอยู่ในบ๊อกเซ็ทน่ะค่ะ ^^"


ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร

แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่


ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา

No comments:

Post a Comment