Tuesday, December 18, 2012
۞ Amulet Classic ۞ [Chapter XII]
Chapter XII
"จุนฮยองครับ ...อ๊ะ!" ร่างเล็กเม้มริมฝีปากแน่ชื่อนี้ร้ายนัก ได้ยินเต็มสองหูเลยเคบีโดนมันเล่นแล้วแน่ๆ
หันไปมองร่างบางข้างๆเล็กน้อยเธอไม่รู้จริงๆเค้าเก่งแค่ไหนพอจะรับมือหมอนั่นได้หรือเปล่า
"เธอคิดว่าเธอสู้ฉันได้มั้ย ตอบมาตรงๆ" นั่นแหละที่พอจะช่วยให้เธอตัดสินใจได้บ้าง หน้าหวานหันขวับกลับมามองหน้าเธอด้วยสีหน้าไม่เข้าใจแทงกูเห็นอย่างนั้นจึงต้องรีบอธิบายต่อ
ทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่กับเส้นทางคดเคี้ยวข้างหน้า "ฉันจะได้ตัดสินใจได้ว่าควรให้เธอออกไปช่วยเคบีก่อนดีมั้ย"
"กับหมอนั่นน่ะฉันเคยสู้" ทิฟฟานี่เลือกตอบอะไรที่มั่นใจดีกว่าจะเดาว่าเธอจะสู้แทงกูได้หรือเปล่า "งั้นเธอไปช่วยเคบีก่อนได้มั้ย"
"แล้วคุณล่ะ ถ้ามันมาเล่นคุณล่ะ อย่างหมอนั่นน่ะมันเล่นสกปรกแน่ๆ" ร่างเล็กเม้มปากเน้นขึ้นอีกความกดดันทำให้เธอเหยียบคันเร่งให้จมเท่าไรมันก็ยังรู้สึกว่าช้าอยู่ดี
บางทีก็ไม่ได้นึกห่วงตัวเองเท่าไร แต่ว่า...ที่ทิฟฟานี่ถามแบบนั้น...เค้าห่วงเธองั้นเหรอ แทงกูคิดว่าตัวเองคงไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกถึงมันจะมาเล่นเธอก็เถอะ
เหลือบเห็นทิฟฟานี่เหมือนจะพยามติดต่อใครซักคนเธอแอบได้ยินเค้าพูดอะไรบางอย่างออกมา เหมือนจะเป็นโค๊ดลับนะ
ครู่นึงก็หันมาบอกหันเธอเปิดหลังคารถชั้นแรกออกแทงกูก็เอื้อมไปกดให้ทันที
เพียงแค่อึดใจเดียวทิฟฟานี่ก็ขึ้นไปอยู่ด้านบนหลังคารถแล้ว ร่างบางแว๊บไปแว๊บมาในพิกัดใกล้ๆกับเคบีไม่นานก็มีใครไม่รู้เข้ามาอีก
เวรแล้วคนของใครวะ แทงกูรีบหันกลับไปมองแผนที่ อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว
หันกลับไปมองจอพิกัดอีกครั้ง....
ฟึบบ
แทงกูหักพวงมาลัยหลบวัตถุประหลาดขนาดใหญ่ที่ตกลงมาอย่างรุนแรงจนฝังลงที่พื้นไปเกือบครึ่ง เฮ่ยเอางี้เลยเหรอ
ไม่นานมันตกลงมาอีกสองสามอันนี่เธอทำได้แค่หลบงั้นเหรอ ไอ้บ้านี่มันเป็นใคร
มันไม่ใช่จุนฮยองนี่ เห็นปลายทางอยู่ลิบๆข้างหน้าแล้ว จัดการเซ็ทค่าขับเคลื่อนอัตโนมัติต่ออีกเล็กน้อยเสร็จแล้วก็เปิดหลังคาออกอีกชั้น
อ่อ...นี่แทคยอคยังจะไม่เลิกคิดฆ่าเธออีกงั้นเหรอแล้วนี่จิกหัวใครมาสู้กับเธอแทนอีกล่ะ ปืนสั้นขนาดเล็กถูกหยิบออกมาแล้วลั่นใส่ร่างที่แว๊บไปแว๊บมาอยู่ไม่ไกล
อ่า...มันเสียหลักแล้ว ร่างเล็กมองพิกัดอีกครั้งแล้วกระโดดออกจากรถไปทันที เธอเลือกเอาฟิลชั่นมาเพราะแบบนี้แหละ
เพราะมันน่าไว้ใจที่สุดเรื่องตั้งระบบอัตโนมัต ว่าแล้วก็ไปเก็บไอ้บ้านั่นก่อน มันโรคจิตรปะวะไปยกอะไรมาโยนใส่แบบนั้น
ร่างชายหนุ่มที่เสียหลักไปเมื่อครู่ก็พุ่งไปยังร่างเล็กเช่นกันแทงกูลั่นปืนใส่นำไปก่อนขณะที่่ความไวของฝีเท้าก็ยังไม่ลดน้อยลง
พร้องฃมเบี่ยงหลบกระสุนของอีกฝ่ายที่ยิงกลับมาไม่ยั้ง หึ๊ยเสียเวลาจริงเลยวะ หมอนี่จากตอนแรกที่คิดว่าจะให้มันแค่หมดสติ
แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว ร่างเล็กรีบจัดการชักปืนอีกกระบอกออกมาปลายเรียวยาวชี้ไปยังพื้นที่ที่เป้าหมายอยู่
ฟลุบบ
ร่างชายหนุ่มล้มพับแน่นิ่งไปพร้อมกับกลุ่มควันสีขาวขนาดย่อมแล้ว ไม่รอช้ารีบหันกลับแล้ววิ่งตรงไปยังจุดที่สองคนนั้นอยู่ทันที
เวร...แทงกูกัดฟันกรอด สองมือยกกระบอกปืนกราดยิ่งใส่ร่างสูงของจุนฮยองที่ยืนเก๊กรอรับการจู่โจมอยู่นั่น
ซึบ ซึบ ซึบ ซึบ ฟลุบ ฟลุบ ฟลุบ
จุนฮยองเซถลาไปถามแรงกระสุนที่ฝังลงบนร่างของมันทิฟฟานี่เห็นเธอแล้วจึงรีบวิ่งกลับเข้ามาหาพร้อมกับร่างเคบีที่ดูสะบักสะบอม
แทงกูบอกให้เคบีกลับไปที่จุดพักก่อนให้เจสสิก้ารักษาให้ หรือยังไงฝากเอารถเธอไปด้วยก็ได้ พูดไปมือก็เก็บปืนสองกระบอกกลับเข้าที่แล้วหยิบอาวุธใหม่ออกมาหน้าตาคล้ายหอก
แต่มันมีปลายเรียวแหลมและคมราวกับใบมีดทั้งสองด้าน "ไอ้ขี้เก๊กนี่อ่ะมันต้องเจออันนนี้.." มือซ้ายถือหอกไว้มือขวาก็ชักปืนหมอกออกมายิงไปโดยไม่ต้องเลงมาก
ให้มันไปแถวๆนั้นพอ ยกนิ้วแตะกลางแว่นหนึ่งครั้งแล้วกระโดดพุ่งเข้าไปในกลุ่มหมอกควันทันที
ทิฟฟานี่ยืนเท้าสะเอวมองร่างเล็กที่เพิ่งกระโดดหายเข้าไปในกลุ่มควันสีขาวขุ่น “อะไรของเค้าวะเล่นยิงแก๊สน้ำตาแบบนี้ฉันก็เซ็งเลยดิ
จะเล่นอะไรก็ไม่เคยคิดจะบอกหรอกจะได้พกแว่นมาบ้าง เอ๊ะ..หรือฉันพกมา “แตะๆดูแว่น “โธ่เว่ยย!! อีทิฟฟานี่อีบ้าา มึงจะเอาแว่นแฟร์ชั่นมาทำไมวะ
โอ๊ยย หงุดหงิด” โยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี “นี่แทงกูจะเป็นยังไงบ้างเนี่ยแก๊สน้ำตาบ้าอะไรของเค้าเนี่ย
แล้วทำไมมันไม่จางไปสักทีเล่า กูจะไปช่วยผัว(?)โว๊ยย..”
'อะไรเมีย(?)บ่นอะไรเยอะแยะน่ะ เข้ามาสิเธอตาโลหะนิ'
จู่ๆเสียงที่คุ้นเคยก็ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาตการรับฟัง ทิฟฟานี่เบิกตากว้างหันซ้ายหันขวา "เสียงแทงกูนิ เค้าพูดกับฉัน? เค้าได้ยินที่ฉันบ่น?"
'ก็พูดกับเธอน่ะสิมีใครอีกหรือไงดวงตาโลหะน่ะ ทิฟฟานี่...อึก' แม้จะยังงงแต่ก็พุ่งเข้าไปตามที่เค้าบอกซุ่มเสียงท้ายประโยคของแทงกูนั่นมันพาให้เธอใจไม่ดี
พอเข้ามาก็สาวเจ้าก็ต้องชะงักนิ่งงัน ราวกับโดนภาพตรงหน้าทุบกลางศีรษะจนสตั๊น แน่นอนว่าภาพนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้เธอไม่เคยเห็นและไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น
ไม่สิต้องบอกว่าไม่คิดว่าภาพนี้มันจะมีอยู่จริงๆ และเธอมั่นใจได้เลยว่าไม่มีใครเคยเห็นเหมือนกัน เว้นแต่คนสนิทอย่างเจสสิก้าซึ่งเธอไม่แน่ใจเท่าไร
ผิวขาวประดุจหิมะของแทงกูบัดนี้มันถูกเคลือบด้วยของเหลวสีแดงข้นไปทั่วทั้งร่าง
เรือนผมสีบลอนด์สว่างที่เธอเคยเห็นว่ามันมีไฮท์ไลท์สีแดงแซมอยู่ ตอนนี้มันได้เปียกชุ่มไปด้วยเลือดไม่เว้นแม้แต่บนใบหน้าของเค้า
ไม่ต่างจากจุนฮยองแต่รายนั้นเธอไม่สนหรอก และกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ ทันทีที่ตั้งสติได้เธอก็รีบล็อคเป้าไว้ หมอนั่นยังไม่รู้ตัวมันยังสนใจการโจมตีของแทงกูอยู่
และเธอจำต้องใช้อาวุธหลายชิ้นเลยทีเดียว มันคงแกร่งพอๆกับแทงกู...
ร่างบางพุ่งเข้าใส่เป้าหมายที่ยืนหันหลังอยู่อย่างรวดเร็ว มือเรียวทั้งสองข้างตวัดฟาดขนาบศรีษะของจุนฮยองเต็มแรง ร่างสูงชะงักนิ่งไปก่อนจะเหลียวหันกลับมามองเธอช้าๆ
"ทิฟฟานี่..." ซุ่มเสียงสุดท้ายก่อนที่ชายหนุ่มจะทรุดตัวคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ
"บอกแล้วไงต้องมีวันนี้"
เสียงหวานแหบเอ่ยเรียบๆอย่างเย็นชา ก้มมองใบหน้าที่เคยหล่อเหล่าในระดับนึงถูกของมีคมกรีดลึกไปทั่วใบหน้าซ้ำจุดเดิมบ้างจนเป็นแผลเหวอะหวะ
ชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงข้นทั่วทั้งใบหน้าลำคอไล่จนไปถึงร่างกาย กลิ่นคาวคลุ้งกระจายอยู่รอบทิศทาง พื้นที่เคยเป็นสีฟ้าขาวประดุจน้ำแข็ง
ตอนนี้มันได้เปรอะไปด้วยคราบเลือดสีแดงโกเมนที่ไหลชุ่มเป็นวงกว้าง
แทงกูเดินเข้ามานิ่งๆเปิดเลนส์แว่นออก มือเล็กยกขึ้นปาดคราบเลือดบนใบหน้าส่วนล่างของตัวเองแม้จะไม่ช่วยให้คราบเลือดหายไปมาก
แต่ก็ช่วยให้เห็นว่าเค้าแสยะรอยยิ้มน่าสมเพศใส่ร่างชายหนุ่ม ก่อนจะตวัดปลายเรียวแหลมของหอกสองคมเข้าที่ลำคอของชายหนุ่มอย่างเลือดเย็น
ร่างบางชะงักนิ่งไปอีกครั้งเมื่อเห็นอวัยวะส่วนสำคัญของเขาหลุดลงล่วงลงสู่พื้นต่อหน้าต่อตา แต่พอเรียกสติกลับมาได้ก็รีบวิ่งเข้าไปประคองอีกคนไว้ด้วยความเป็นห่วง
"คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ มีแผลตรงไหนหรือเปล่า"
"ตอนนี้ยังไม่เป็นไรหรอก มีแผลที่เดียว" หมายความว่าไงตอนนี้ยังไม่เป็นไร แล้วต่อไปล่ะ แผลเค้าอยู่ไหนร่างเค้าโชกเลือดจนเธอมองหาบาดของเค้าแผลไม่เจอแล้ว
แทงกูรั้งชายเสื้อ(เอวลอย)ขึ้นจนถึงกลางหน้าอกทิฟฟานี่เบิกตากว้างยกมือปิดปากด้วยความตกใจ ที่เค้ายังไม่ตายแถมยังเหมือนยังไม่โดนอะไร
"อาวุธหมอนั่นน่ะพิษมันร้ายแรงอยู่"
โอ๊ยย เค้าเป็นคนบ้าอะไรแบบนี้เนี่ยย ตัวจะทะลุเป็นรูโบ๋อยู่แล้วยังจะมามัวพูดเชิงวิเคราะห์อะไรแบบนี้อีก
เธอจะทำไงดีเนี่ยให้เค้าวิ่งกลับไปคงตายคาทาง เค้าสั่งให้เธอวิ่งไปดูรถว่าเคบีได้เอากลับไปหรือยัง ตอนแรกเธอก็อิดออดบอกจะอุ้มเค้าไปด้วย
แต่ก็โดนเค้าดุกลับมาเลยต้องจำใจรีบไปให้เร็วที่สุด เห็นทิฟฟานี่ออกไปแล้วร่างเล็กก็พยามติดต่อโบอาหรือเจสสิก้าพวกนั้นเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
พยามติดต่อไปอีกมือก็หยิบเอาขวดสารเคมีที่ขอโบอาไว้ เปิดขวดยกขึ้นกระดกทันทีจนหมดไปสองขวดไม่นานทิฟฟานี่ก็กลับมา ใช่เคบีเอารถไป แหงล่ะสภาพนั้นเดินก็จะตายแล้ว
"ทิฟฟานี่ จูบฉัน"
เค้าถ่มเลือดจางๆออกมาหลังจากพูดจบ ร่างบางถึงกับผงะนี่เค้าอารมณ์ไหนเนี่ย จนเค้าถามอีกครั้งว่าไม่กล้าจูบเค้าสภาพนี้หรือไง
เปล่าเลยเธอแค่มึนงงกับอารมณ์เค้าเท่านั้นเอง แต่จะอย่างนั้นก็เถอะเพราะเธอก็ควรจะชินกับการแปรปรวนแบบนี้ได้แล้ว
ร่างบางขยับเข้าใกล้แล้วแนบริมฝีปากอวบลงกับส่วนเดียวกัน
กลิ่นคราวเลือดกรุ่นเข้ามาในโพรงปากพร้อมกับรสเฝื่อนฝาดทิฟฟานี่หลับตาแน่นขยับจูบตอบเค้าไป
ไม่นานแทงกูก็ผละออกช้าๆ แหมพอเธอเริ่มเคลิ้มๆล่ะรีบผละออกทันทีเลยนะ มือเล็กรั้งชายเสื้อขึ้นดูอีกครั้ง
เฮ่ยแผลมันเล็กลงไปเหรอ ตวัดสายตามองหน้าเค้าอย่างอึ้งๆ แต่เค้าก็ยังมีหน้ามายักคิ้วกวนๆใส่อีก
เค้าปิดเลนส์แว่นลง นี่อย่าบอกนะ "วิ่งกลับกัน นั่นไง"
"ไหวแน่เหรอไม่ใช่ใกล้ๆเลยนะคะ"
"ไม่ไหวก็แค่ให้เธออุ้มต่อไปไง พิสูจน์รักแท้อ่ะเคยได้ยินป้ะ" เออดีผัวกูเหรอเนี่ยแมนซิบ(ประชด)
วิ่งมาสักพักน่าจะเกือบครึ่งทางแล้ว นี่เธอเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเค้าอึดขนาดนี้อ่ะความเร็วยังไม่ลดลงจากตอนแรกเลย
ดีนะที่ความเร็วร่างกายเราไม่ห่างกันมากอาจจะเร็วเท่าๆกับรถยนต์ธรรมดาๆแต่ไม่อาจเร็วเท่าเคบีได้ กลับมานึกแล้วก็ทึ่งหมอนั่นจริงๆ
เกิดมาเธอก็เพิ่งเคยเจอทักษะแบบนี้เหมือนกัน ได้ยินแทงกูบ่นเป็นห่วงฝั่งนู้นบางทีเธอก็อยากสวนเค้าไปนะว่าช่วยห่วงตัวเองก่อนได้มั้ย
พิษที่บาดแผลนั่นจะส่งผลต่อร่างกายเค้ายังไงเธอไม่รู้ แต่ที่แน่ๆเธอรู้พิษของจุนฮยองน่ะ
โดนแค่เฉือนเนื้อก็อาจตายได้แล้วนี่นา ตอนเธอโดนยังเกือบไม่รอดเลย
เฮ้อทำไมคนคนนี้ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งน่าทึ่งขนาดนี้นะ ถ้าคิดเล่นๆเค้าคนเดียวคงบุกคฤหาสน์ยิล์ดได้สบายๆเลยมั้ง
แล้วทำไมเค้าไม่ทำ....
"แทงกูคะหยุดก่อนดีมั้ย หรือได้ให้ฉันอุ้มไปเลยก็ได้นะคะ"
เค้าเริ่มหอบหายใจแรงแล้วความเร็วตกลงไปบ้างแต่ก็วิ่งมาได้เกินครึ่งเค้าหันมามองหน้าเธอเลิกคิ้วเชิงถาม เอาจริง?
พยักหน้าตอบเค้าไป "เขินอ่ะ" โอ๊ยยยคุณขราาาอาการนี้มันใช่มั้ยยย มันสมควรเขินมั้ยเนี่ย ไม่รู้แหละตอนนี้เธอน่าจะแรงเยอะกว่าเค้า
คว้าหมับเข้าที่ข้อมือรั้งเค้าไว้แล้วช้อนร่างเค้าขึ้นมาทันที "แหมแบบนี้ฉันก็เป็นเมียเธอเลยดิ" หันไปยิ้มบางๆให้เค้าแล้วเร่งฝีเท้าขึ้นอีก
เนียนเลยๆโอบคอซบหน้าเนี่ยไวเชียวเลยนะ นี่ถ้าไม่บาดเจ็บมากขนาดนี้เธออาจจะกล้าโยนเค้าทิ้งก็ได้
โห่วว ไอ้จุนฮยองมันตายห่าไปนานละอีลูกสมุนพวกนี้มันรู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ยยังตีกันอยู่เลย คนดงคนดูแฟนคงแฟนคลับหายหัวกันกลับไปหมดละ
แทงกูบอกให้หยุดแล้ววางเค้าลงก่อน พอยืนได้ก็ทำท่าเหมือนมึนๆอยู่หน่อย แล้วก็ทำท่าเหมือนจะเอาอะไรออกมาเล่นอีกล่ะ
รู้ว่ารวยแต่ไม่ต้องเอามาอวดมากได้ป้ะ อิจฉาเว่ยเค้ายื่นลูกกลมๆมาให้สองสามลูกแล้วบอกปาใส่พวกนั้นที เฮ่ยลูกบ้าอะไรวะเนี่ย
เออๆโยนไปเหอะเดี๋ยวโดนผัว(?)ดุอีกปาทีละลูกต่อๆกัน สักพักก็มีผนึกสีชมพูทรงสี่เหลี่ยมสูงขึ้นมากักตัวพวกลูกมุนเอาไว้ในนั้น
โห่วมีงี้ด้วย?? เธอหันไปมองหน้าเค้าเชิงว่าไอ้ขี้โกง!! แต่เค้าก็ยักคิ้วกวนๆกลับมาแล้วเดินตรงเข้าไปในจุดพัก
เค้ายังเดินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยอ้ะ ยืนเอ๋ออยู่แว๊บนึงก็วิ่งตามเค้าไป
"แทงกู!!! ท..แทง!!!"
เจสสิก้าวิ่งถลากอดร่างเล็กที่เคลือบด้วยเลือด(แห้ง) ไม่มีบทสนทนาใดๆหลุดออกมา จากทั้งสองร่างที่กอดกันแนบแน่น
ท่ามกลางสายตาตื่นตระหนกปนแปลกใจบวกงง เออนั่นแหละอย่างที่ทิฟฟานี่ว่าไม่เคยมีใครเคยเห็นแทงกูสภาพนี้แน่ๆ
"เกิดอะไรขึ้น...ทิฟฟานี่" ยูริเดินเข้ามาถามเสียงเรียบสีหน้าดูไม่ค่อยไว้วางใจเธอเท่าไร
"ทิฟฟานี่ไม่ได้ทำอะไรหรอก" แทงกูหันมาตอบ ใช่ไงก็มัวแต่ยืนเอ๋อจนเธอถูกไอ้บ้านั่นมันพุ่งหอกใส่กลางอกตอนคุยกับเค้านั่นแหละ
"ไว้เล่าทีหลังแล้วกัน"
ยูริหันไปพยักหน้ากับร่างเล็ก ทิฟฟานี่เหลือบไปมองคู่ซี้ที่ยืนกอดกันแน่นอยู่ก็ต้องรีบสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นทันที...ไม่อยากเห็น
ภาพเจสสิก้าสอดมือเข้าไปใต้เสื้อหนังของแทงกูอย่างนั้น...เธอรู้ว่าเจสสิก้าเพียงแค่จะรักษาบาดแผลของแทงกูแต่เธอก็ทนเห็นมันไม่ได้หรอก
ผ่านไปหลายอึดใจเจสสิก้าผละกอดออกมาแทงกูก็พยามจับๆตรงที่โดนแทงไม่รู้หายหมดยัง ตอนนี้คนอยู่เยอะเลยไม่กล้าแรดเปิด555
เออช่างเหอะรู้สึกดีขึ้นเยอะและ ถามหาเคบีก่อนรายนั้นสิน่าห่วง แต่พอร่างสูงเดินออกมาก็เบาใจ เจสสิก้าบอกเกือบมาไม่ทันแหนะ
ว่าแล้วก็บอกให้คนไปเก็บซากไอ้ขี้เก๊กนั่นและถ้าเจอซากอะไรก็เก็บไปให้หมด
"ส่วนที่เหลือก็แยกย้ายกันกลับได้ขอบใจมาก อ้อแวะไปเจอกันที่คฤหาสน์ยูริก่อนนะ"
ขับรถออกมาได้สักพักทิฟฟานี่ก็แต่จ้องใบหน้าคนตัวเล็ก" จ้องอะไรนักหนาเนี่ย มันหน้าจ้องนักหรือไง หึ๊ย"
ทีหลังต้องหาระบบทำความสะอาดไว้ด้วย สภาพแบบนี้เธอก็รับตัวเองไม่ได้ว่ะ ดีนะได้ล้างหน้าไปบ้างแล้ว
จะว่าไปทิฟฟานี่..จนถึงตอนนี้เธอยังไม่รู้เลยว่าเค้าเก่งแค่ไหนกัน
ทิฟฟานี่นั่งมองคนข้างๆไปในสมองก็มีแต่คำถามเกิดขึ้นมากมาย
"ตอนนั้นที่คุณเรียกฉันที่คุณได้ยินฉันนั่นคืออะไร คุณทำได้ตั้งแต่เมื่อไรทำไมฉันไม่รู้" ทิฟฟานี่รัวประเด็นหลักที่ทำให้เธอเอ๋อได้มากที่สุดในชีวิต
"นี่เธอไม่รู้จริงๆเหรอ" แทงกูหันมาเลิกคิ้วถามเธอส่ายหน้าช้าๆกลับไป แล้วเค้าก็กำลังจะกินแรงรถอีกแล้ว
ใครบอกแทงกูมีสัจจะ ใครบอกแทงกูเล่นแบบโต้งๆ ใครบอกแทงกูดีทุกอย่าง เธอคนนึงแหละที่ไม่เชื่อ
แทงกูที่เธอได้สัมผัสเหรอ กวนประสาท เกรียน 'ขี้โกง' ขี้แกล้ง และที่สำคัญ'หลอกลวงขั้นเทพ'
ไม่รู้แหละใครจะว่าเค้าหลอกลวงอะไรแต่ที่แน่ๆเค้าชอบหลอกให้หัวใจเธอปั่นป่วน เดี๋ยวเต้นแรงเดี๋ยวหยุดเต้น
ถึงเธอไม่ได้เป็นโรคหัวใจแต่เธอคิดว่ามันคงไม่ต่างกันเท่าไร
ร่างเล็กหัวเราะเบาๆขยับนั่งหันหน้ามาหาเธอ
"เพราะไอ้นี่ไง" มือเล็กตบพวงมาลัยเบาๆ
"ห๊ะ นี่ทักษะฟิวชั่นมันมีแบบนี้ด้วยเหรอ"
"มันมีอะไรหน้าทึ่งกว่านี้อีกเยอะแต่เรายังไปไม่ถึงขั้นนั้นเฉยๆ" เค้าพูดพร้อมยิ้มบางๆ
"แล้วเราจะอยู่ขั้นไหนมันขึ้นอยู่ที่อะไรล่ะ"
นิ้วเรียวจิ้มลงที่อกข้างซ้ายของตัวเองเชิงว่าอยู่ที่เรารักกันมากแค่ไหน
"แล้วรวมถึงเรื่องจูบด้วยหรือเปล่า" เอียงคอถามเค้าต่อ ทิฟฟานี่หมายถึงการจูบที่เธอสามารถถ่ายโอนความเจ็บปวดและบาดแผลมาจากแทงกูได้
"แค่ส่วนนึงอีกส่วนนึงต้องมีตัวช่วยถ้าอยากรู้มากกว่านี้รอวันที่จะมาเป็นเมียฉันจริงๆก่อนถึงจะบอก"
เค้าพูดจบก็กระตุกยิ้มมุมปากใส่เธอ
อะไรเนี่ยนี่เธอพร้อมจะเป็นเมียเค้าตลอดเวลาอยู่แล้วนะเนี่ยเหลือแต่เค้านั่นแหละไม่ยอมรับเธอเป็นเมียสักทีหึ๊ย
ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่เธอก็ทำได้แค่ยู่ปากใส่เค้าเท่านั้น
.
.
"เฮ้ยย ไอ้แทงกู นี่เธอตั้งใจใช่มะ" เจสสิก้าแผรดเสียงแหลมๆเสียบเข้าโสตประสาท เมื่อมาถึงคฤหาสน์ของยูริได้สักพัก
ก็เม้าส์มอยกันถึงเรื่องที่เพิ่งสู้กันมาจนพอใจ และซากของจุนฮยองก็ถูกนำมาไว้ที่นี่ด้วย
และพอเจสสิก้าเดินเข้าไปดูใกล้ๆก็แผรดออกมาอย่างที่เห็น แทงกูตอบเออตั้งใจอยู่แล้วเกลียดขี้หน้ามันเออว่าแล้วก็ขอเล่าเรื่องนี้หน่อยเหอะ คือแบบมันไม่ไหวและ
ตั้งแต่ที่เธอพุ่งเข้าไปในกลุ่มหมอกควันนั่นเชื่อมั้ยไอ้ขี้เก็กนั้นมันแทบทำอะไรไม่ได้เลย เธอก็เลยสนุกเลยดิ เชือดมันไปเชือดมันมา
จนมาเอะใจว่าทำไมทิฟฟานี่ไม่ตามเข้ามาสักทียืนบ่นอยู่นั่นแหละ ถึงได้เรียกเค้าและแบบไอ้รอบแรกมันไม่ยังไงหรอก พอจะพูดรอบสองเนี่ยดิ โหยยแทบกระเด็นออกจากกลุ่มควันเลย
ก็จู่ๆมันก็มีหอกสี่อันพุ่งเข้าหาร่างเธอจากสี่ทิศแบบไอ้หมอนั่นทำอย่างกับว่ามันกับเสกได้เลย
หลบพ้นไปสามอันอย่างน่าอับอายที่ดันหลบอันจากด้านหน้าไม่ได้ หลังจากนั้นทิฟฟานี่ก็เพิ่งคิดได้แล้วก็เข้ามา
เคบีบอกว่าตอนเขาก็โดนแบบนี้ลักษณะเดียวกันเลย ตอนที่เขาพยามจะพูดจู่ๆก็มีหอกพุ่งเข้ามาหลบทันแต่ไม่พ้น
ไอ้จุนฮยองนี่ใจคอมันจะจู่โจมได้แค่ทีเผลอป่ะเนี่ย งั้นก็แสดงว่าเลือดพวกนี้ที่เลอะเต็มตัวแทงกูนี่ก็คือเลือดจุนฮยองงั้นดิ
คุยกันต่ออีกไม่นานก็รีบแยกย้ายแทงกูเองก็แขยงตัวเองเต็มทนแล้ว กำลังจะก้าวขึ้นรถก็ต้องชะงักเพราะทิฟฟานี่มาคว้าข้อมือไว้ก่อน เลยหันไปบอกอย่างไวว่าวันนี้ขอพัก
ร่างบางยิ้มหวานตอบกลับมา"แค่มาขอจูบก่อนกลับได้มั้ยล่ะ" รอให้เค้าพูดจบแล้วก็รีบดึงร่างบางเข้ามาแนบชิดประกบจูบร้อนแรงจนพอใจ
"ไปได้แล้ว อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ"
.
.
หลังจากวันที่แทงกูสู้กับจุนฮยองไปคืนนั้น จนถึงวันนี้แทงกูก็ยอมคุยกับทิฟฟานี่บ่อยขึ้น แต่ถึงจะอย่างนั้นเธอก็ยังเกร็งๆที่จะตอบเค้าอยู่
ไม่รู้สิเวลาที่จู่ๆเค้าก็เงียบไปบางทีหัวใจก็เหมือนจะดับวูบลง สู้ให้เค้าตอบแบบถากถางเยียดหยามกวนประสาทยังจะดีซะกว่า
แต่เธอก็พยามจะคิดว่านั่นเป็นเรื่องปกติของเค้าอยู่แล้วเธอพยายามหลอกถามจากทุกคนที่เธอรู้จักและรู้จักกับเค้า
จนแล้วจนรอดยังไงที่เค้าทำกับเธอก็พิเศษที่สุดจริงๆ เว็บเอเอ็มแอลเดี๋ยวนี้ก็เริ่มปัญญาอ่อนเริ่มมีข่าวซุบซิบคนดังในเอเอ็มแอลมากขึ้น
เห็นมีข่าวยูริกับเพื่อนสาวเธอวันนั้นด้วย แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่พ้นเรื่องเธอกับแทงกูอยู่ดี
เธอรู้นะว่าแทงกูรู้เรื่องข่าวหมดแหละมันจะเขียนตอกไข่ใส่นมอะไรเยอะแยะ แต่เค้าก็ทำเหมือนไม่รู้เรื่องไม่รู้สึกอะไรไม่แคร์ เพราะเค้าก็ยังคงทำมันโต้งๆ
เค้าอยากจะจูบเธอกลางฝูงชนเค้าก็จูบไม่เคยมีเลยว่าเดี๋ยวคนเห็น เดี๋ยวเป็นข่าวอีกไม่มีเลย และที่สำคัญถ้าไม่ต้องแก้ผ้าเค้าก็จะชอบอยู่กลางฝูงชน
อย่างวันก่อนที่ยุนอาแข่งเค้าก็ยอมให้เธอเข้าไปอยู่ด้วย แต่เธอก็ต้องพยามเว้นระยะห่างจากเค้าให้ได้อย่างที่เจสสิก้าเคยบอก
และก็ดูเหมือนว่าเค้าจะชอบนะแต่บางทีความเป็นเธอมันก็ทำให้พลั้งพลาดทำอะไรไม่ควร อย่างไปรั้งเค้าหึงเค้าโวยวายใส่เค้า มากสุดก็เผลอกระชากเค้านั่นแหละ
เค้าก็ชักสีหน้าใส่เธอพอหลบตาเชิงรู้สึกผิดเข้าหน่อยเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่วันนั้นจะขออะไรไม่ค่อยได้อีก
ถามว่าเธอยังคิดจะสืบเรื่องเค้าอยู่มั้ย เธอคงไม่กล้าพอตอนนี้เธอได้มาตั้งขนาดนี้แล้ว ก็ไม่ควรโลภเพราะเค้าน่าจะเปิดโอกาสให้เธอมากขึ้น
ส่วนเมื่อคืนที่เจสสิก้าแข่งเธอก็ไปเหมือนเดิมแต่รู้สึกเหมือนคืนนั้นเค้าจะอารมณ์ดีมั้ง เลยนัดรับเธอนั่งรถไปด้วย เค้ายังกล้าเอาฟิลชันไปให้คนแซวอีกอ่ะ
จนโดนเม้าส์ว่าเป็นแฟนกันเป็นแม่ของลูกอะไรไปโน้น เอาเข้าจริงเหรอเค้าก็ยังบอกแค่ว่าเธอคือคนพิเศษของเค้า ไม่ใช่แฟนไม่ใช่เมียไม่ใช่แม่ของลูก
เอิ่มมนั่นแหละก็ไม่รู้ควรจะดีใจดีมั้ย ทำทุกอย่างเหมือนเป็นแฟนนะ แต่ห้ามหึงหวง และยังมีคำว่าโสดแปะกลางหน้าผาก
แต่คืนนั้นเค้าก็ตามใจเธอมากอยู่นะ ถามว่าไปไหนอยากได้อะไร บางทีเค้าก็ตอบคำถามเธอ
พอมานึกถึงวันนี้ก็ถอนหายใจคงไม่ได้เจอเค้าหรอกไม่มีใครในเพื่อนเค้าแข่งแล้วนิ แล้วก็ถอนหายใจออกมายาวๆ เธอคงมีใจเค้าแล้วจริงๆสินะ
กลับมานึกแล้วก็ขำตัวเองขำตัวเองที่ยอมเค้าได้ขนาดนี้ ขำที่ทำเหมือนโดนเค้าสะกดให้อยู่ในกำมือเค้าตั้งแต่แว๊บแรกที่ได้เห็นดวงตาของเค้า
ดวงตา...
คิ้วเรียวขมวดเป็นปมใหญ่อีกครั้งนึกไปถึงสิ่งที่เค้าพูด ดวงตาโลหะ งั้นเหรอเค้าหมายความว่ายังไงอ่ะ
และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เธอไม่รู้เลยเธอมีดวงตาเป็นสีเทาตั้งแต่เกิดก็จริง ทุกคนต่างคิดและเข้าใจกันไปเองว่ามันก็เป็นเรื่องปกติ
เพราะทั้งพ่อและแม่ของเธอก็ไม่ได้ตาสีดำนิ ว่าแล้วก็ข้องใจต้องลองหาวิธีรู้ให้ได้อีกอย่างพ่อเธอก็ไม่ใช่คนเอเชียด้วยจึงไม่ได้มีใครสงสัยอะไรนัก
แล้วนี่แจจุงก็ทักเธอมายิกๆๆเลยจนเธอแทบไม่อยากจะคุยอะไรกับเขาแล้วเนี่ยคือแบบบางทีมันก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าอย่างที่เขาต้องการ
หรือมีบางเรื่องแต่เธอก็ไม่ได้อยากให้เขารู้นิ อย่างเรื่องเบอร์แทงกูเธอก็เลือกที่จะไม่บอก ความจริงเธอก็แอบเคืองหมอนั่นอยู่ด้วยแหละที่มันคิดส่งคนไปติดกล้องในห้องที่แทงกูใช้นอนกับเธอ
คือแบบบางอย่างมันก็เรื่องส่วนตัวป้ะ นี่ถ้าแจจุงได้คลิปที่เขาต้องการไปแล้วเอาไปเผยแพร่เนี่ยคนเสียหายมันก็ไม่ใช่แค่แทงกูคนเดียวไงมันก็พ่วงเธอเข้าไปด้วย
ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะที่มีข่าวกับแทงกูน่ะแต่ทิฟฟานี่ก็ไม่ใช่พวกผู้หญิงไร้ค่าไร้ศักดิ์ศรีจนจะยอมให้ใครแตะต้องง่ายๆยิ่งถ้าเรื่องบนเตียงนี่อย่าได้คิดเลย
จะมีก็แต่แทงกูนั่นแหละที่เธอพลาดท่าให้ไปในตอนแรก ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจทำไมเธอถึงเอาชนะคนคนนี้ไม่ได้สักทีนะ แล้วนี่แจจุงก็คงมาถามเรื่องฟิลชันอีกสินะเฮ้อ
"อื้อ~ ยุนอาคะ คิดถึงจัง"
แทยอนดึงเด็กร่างสูงให้ลงมาทาบทับบนตัวเธอ สี่วันเต็มๆเลยนะที่ไม่กอดไม่ได้หอมไม่ได้จูบไม่ได้ใกล้ชิด
ก็แหงล่ะพักนี้ช่วงใกล้จะปลายปีแบบเธอมีเรื่องให้ทำเยอะเลยเดี๋ยวก็ต้องไปค้างที่อื่นบ่อยๆ
นี่เธอก็เพิ่งกลับถึงร้านเมื่อเกือบสว่างเองพยามรีบกลับแล้วนะแต่ก็...ทำไม่ได้ แล้วตัวยุนอาเองก็ต้องไปที่สนามอยู่บ่อยๆด้วยมันเลยทำให้เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันของเราสองคนมีน้อยลง
ยังไม่ทันได้นอนเลยเด็กตัวสูงมันก็ขึ้นมาหาถึงห้องบอกคิดถึงใจจะขาด เธอก็ไม่ต่างกันหรอกใจจะขาดจริงๆ
มาถึงก็ฉุดมันมานอนทับตัวเองเนี่ยแหละพอเป็นแบบนั้นมันก็ออดอ้อนคลอเคลียใหญ่ทั้งจูบทั้งซุกไซร้ ปากก็พูดคิดถึงคิดถึงไม่หยุด
"ว๊ายย พี่แทยอนเค้าขอโทษ เค้าคิดถึงพี่มากไปหน่อยเลยลืมตัว"
ร่างเล็กเลิกคิ้วสงสัยเธอยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ กำลังเคลิ้มๆอยู่เลยไหงไอ้เด็กนี่ก็ผละออกไปซะงั้นแล้วก็เอานิ้วถูๆแถวไหปลาร้าเธออยู่เนี่ย
ถามมันก็ยึกยักไม่ตอบจนต้องดุมันไปอ่ะมันถึงได้ยอมบอกว่าเผลอทำรอยไว้เต็มเลย เออไหนๆมึงก็ทำรอยความเป็นเจ้าของกูและ
งั้นมึงก็ช่วยรับผิดชอบด้วยการมาเป็นเจ้าของกูจริงๆเลยแล้วกัน
"อื้มมช่างมันเหอะ แต่ทำไว้แบบนี้พี่ค้างนะ"
ว่าแล้วก็ยั่วเด็กมันไปอีกพูดจบก็ดึงมันมาประกบจูบในหัวก็คิดซ้ำไปซ้ำมา ว่ามันสมควรแล้วหรือยังกับการทำตามใจตัวเอง
ทำตามความต้องการของตัวเอง แม้มันไม่ใช่ครั้งแรกก็เถอะนะ แต่เธอไม่สนใจแล้วได้มั้ยอ่ะ เธออยากเป็นของเค้าจริงๆ
แม้ว่าตอนนี้ร่างเล็กจะโดนรุกหนักกว่าทุกครั้งแต่เธอก็ยังไม่ห้ามไม่ขัดใจเค้า กลีบปากก็ยังขยับป้อนจูบร้อนแรงอยู่ไม่ขาดปลายนิ้วก็ไล้ไปตามต้นคอของเค้า
จนทั้งคู่ลมหายใจเริ่มขาดห้วง หวะการหายใจหายเริ่มหอบถี่ บ่งบอกถึงอารมณ์และความร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี
มือเรียวที่เคยลูบไล้เอวเล็กค่อยๆขยับสอดเข้าไปใต้ชายชุดนอนตัวบางและเลื่อนสูงขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ
ยุนอาพยามควบคุมสติไม่ให้หลุดลอยไปไกล เธอไม่รู้ว่าคนตัวเล็กนี่จะยินยอมหรือเปล่า ได้แต่ลากปลายนิ้วย้ำๆอยู่ใต้ทรวงอกของแทยอนให้เค้ารู้ตัวว่าเธอกำลังขออะไร
เธอรู้ดีว่าคนรักของเธอคนนี้ชอบอ่อยชอบยั่วมากแค่ไหน แต่เค้าก็ไม่เคยยอมให้เธอได้แตะต้องจุดสงวนเลย มากสุดก็แค่สะโพกและบั้นท้ายซึ่งก็จัดอยู่ในจุดสงวนเช่นกัน แต่ก็ไม่เท่าทรวงอกจริงมั้ย
แม้ว่าแทยอนจะไม่เคยใส่บราเวลานอนกับเธอหรือเวลาที่อยู่กับเธอในชุดนอนเลยก็เถอะ โดยให้เหตุผลมาตรงๆว่าอยากอ่อยเธอไม่ได้เหรอ แต่ก็นั่นแหละเค้าแค่อ่อยไงยังไม่ได้ให้
ปลายนิ้วไล้ย้ำอยู่ใต้ทรวงอกไปครู่นึงแล้วแทยอนก็ยังไม่ห้ามไม่ปรามเลยค่อยๆเลยขึ้นไปข้างๆก่อนจนสัมผัสได้ถึงรุปทรงของเนินอกอวบ
ในขณะที่ทั้งคู่ยังคงป้อนจูบให้กัน เรียวลิ้นก็ตวัดหยอกล้อกันอยู่แบบนั้น มือเล็กข้างนึงละออกจากลำคอของร่างสูงแล้วดันมือของเค้าให้กอบกุมก้อนเนื้อของเธอสักที
ยุนอาแทบอยากจะคลั่งตายที่สาวเจ้าออกตัวแรงอีกแล้ว มือเรียวนวดคลึงก้อนเนื้อขนาดพอดีมือเบาๆเธออยากจะถนุถนอมร่างเล็กนี้ที่สุด
แทยอนผละจูบออกมาแล้วรั้งลำคอเค้าให้ใบหน้าดูดีนั้นแนบชิดเข้ากับซอกคอขาว
ปลายลิ้นและเล็มไปตามใบหูของคนด้านบนจนเค้าหลุดครางออกมาไม่ต่างจากเธอ ความพอใจในสัมผัสที่เค้าให้มานั้นจนมันอดไม่ได้จริงๆที่จะครางเบาๆให้เค้าได้ยิน
"ถ้าพี่ยอม..เธอจะคิดว่าพี่ง่ายหรือเปล่า"
ร่างเล็กกระซิบเสียงแผ่วข้างๆหู ร่างสูงชะงักไปทันทีเค้าชักมือกลับออกมาจากเสื้อเธออย่างรวดเร็ว
และผละใบหน้าออกจ้องมองหน้าเธอให้เธอต้องแอบถอนหายใจเบาๆ แม้จะหงุดหงิดไม่น้อยที่ร่างสูงหยุดทำแต่เธอก็รู้ดีว่าเราควรคุยกันให้เข้าใจก่อน
"ถ้าพี่คิดแบบนั้นเค้าไม่ทำก็ได้นะ"
ถ้าเป็นคนอื่นพูดเธอคงคิดว่าเค้าประชดเธออยู่แน่ แต่ทำไมพอเป็นยุนอาเธอกลับรู้สึกว่าเค้าพูดออกมาจากใจ
เพราะเค้าไม่อยากทำให้เธอลำบากใจ แต่เค้าก็ไม่เคยคิดหรอกว่าถึงเค้าจะไม่ทำแต่เธอก็อยากให้เค้าทำอยู่ดี
"เปล่าแค่อยากรู้เธอคิดยังไง"
เออเธอก็แค่อยากรู้เห็นพวกเมะมันชอบพูดกันเวลาได้ใครแล้วมันก็บอกอีนี่แม่มง่าย
ที่รู้เพราะเมื่อเธอก็มีเพื่อนเป็นคาสโนวี่เหมือนกันไง แต่เธอไม่เคยคิดแบบนั้นหรอกถึงเธอจะเคยได้ใครมาเยอะแล้วก็เถอะ
คงเป็นเพราะเธอเข้าใจอารมณ์ของอีกฝ่ายเหมือนกันมั้ง ว่าที่ยอมเพราะอะไร
"เค้าไม่คิดแบบนั้นหรอก รู้มั้ยเค้าคิดว่าพี่ใจแข็งมากเลยนะ คิดดูสิเราอยู่ในอารมณ์นั้นด้วยกันกี่ครั้งแล้วแทบนับไม่ท่วน
แล้วก็ไม่ต้องแอบๆซ่อนๆ มีทุกอย่างอำนวยหมด แถมบางทีทุกอย่างก็เป็นใจหมดแต่พี่ก็ใจแข็งไม่ให้มันเกิดขึ้น
เค้ารู้สึกนะว่าทุกครั้งพี่ก็ต้องการ แต่พี่ก็ตัดใจได้ทุกครั้ง
รู้มั้ยเค้าไม่เคยเจอใครใจแข็งขนาดนี้เลย ถ้าเป็นคนอื่นนะคงยอมเค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่จูบกันแล้ว"
นั่นแหละคือความจริงที่ยุนอารู้สึกทึ่งกับผู้หญิงคนนี้มาก เธอไม่ประชดนะไม่ว่าเค้าด้วยจริงๆ ตอนแรกๆเธอก็คิดว่าแทยอนคงเล่นตัวไปงั้นแหละครั้งสองครั้งเดี๋ยวก็ยอม
แต่เปล่าเลยเค้าใจแข็งจริงๆ แล้วยิ่งเห็นว่าเค้าชอบยั่วแบบนี้นะยอมรับเลยว่าตอนแรกก็แอบคิดว่าเค้าคงง่าย
พอมาถึงตอนนี้เธอกลับคิดว่าเธอไม่ได้ทำเค้าง่ายๆหรอก แต่เธอก็ยินดีนะไม่เป็นไรเธอก็ยังรักเค้าเหมือนเดิม แต่มีบางเรื่องที่เธอแปลกใจ
From...Writer
แอร๊ยๆ ยุนแทชักจะกริ่มๆ 5555+
จนถึงตอนนี้แล้วใครคิดว่าแทงกูเก่ง....
ทิฟฟานี่แหละคนนึง หึหึ
แต่ความจริงแล้วน่ะ....อุ๊บส์
แชปที่แล้วเห็นรีดเดอร์บอกงงกัน
งงอะไรเหรอคะถามบีมได้น๊า งิงิ
ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร
แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่
ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment