Saturday, December 15, 2012
۞ Amulet Classic ۞ [Chapter X]
Chapter X
ร่างบางที่เพิ่งเดินกลับออกมาจากร้านอาหารก็ตะหงิดๆอะไรบางอย่างขึ้นมา
นี่เธอลืมยุนอาไปสนิทเลยวันที่เจอกันในสนามแข่งก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปทักแถมยังหาเค้าไม่เจออีก
คิดอะไรได้ริมฝีปากอวบก็ยกยิ้มแพรวพราย ยกไอโฟนขึ้นมาจิ้มๆแล้วยกขึ้นแนบหู
"แกอยู่ไหนวะ ว่างป่ะ"
"ฉันเจอยุนอาว่ะ..."
"เออ หาเบอร์ใหม่ยุนอาให้หน่อย"
ร่างบางวางไอโฟนไว้บนตักก่อนจะรีบออกรถไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
ระหว่างที่ขับรถไปเธอก็มองหน้าจอไอโฟนที่มันสว่างวาบขึ้นมาสองครั้ง
เธอมั่นใจว่าหนึ่งในนั้นต้องมีเบอร์ยุนอาที่เพื่อนสาวเธอส่งมาให้ แต่อีกอันเธอไม่แน่ใจเท่าไร
แต่เธอก็แอบหวังให้เป็นแทงกูตอบแอปกลับมา จนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังคงพยามจะทักจะคุยกับเค้าอยู่
มีบ้างที่เค้าตอบกลับมาซึ่งไม่บ่อยนัก ครั้งไหนดีหน่อยเค้าก็คุยด้วยนาน แต่นานสุดก็ไม่ถึงห้านาทีหรอก
หลายครั้งที่เธอพยามถามตัวเองว่าทำไมถึงเอาแต่สนใจเรื่องของเค้านัก เธอยอมรับนะว่าการได้รู้ว่าที่เค้าทำกับเธอน่ะมันพิเศษ
แค่นั้้นหัวใจเธอก็เต้นแรงแล้ว นี่เธอหลังรักเค้าไปแล้วหรือไง
'จะบ้าเหรอทิฟฟานี่แกเพิ่งเจอเค้าแค่สองครั้งเองนะเว่ยนับสองครั้งนั้นรวมกันก็ยังไม่ถึง24ชั่วโมงด้วยซ้ำ'
ทิฟฟานี่จอดรถอยู่หน้าตึกแห่งหนึ่งที่เธอนัดกับเพื่อนสาวไว้ว่าจะมารับนาง
ระหว่างที่นั่งรอมันอยู่ในรถก็หยิบไอโฟนขึ้นมามาดูอย่างใจจดใจจ่อ
แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่เค้าคนนั้นตอบแอปกลับมา แต่คนที่ทักเธอมาคนนี้ก็ทำเอาคิ้วเรียวขมวดพันกันยุ่ง
8T9F8N1
ถ้าใช่โปรดตอบ...
ร่างบางจ้องโค๊ดลับซ้ำไปซ้ำมาจำได้ว่าเธอเคยใช้มันเมื่อนานมาแล้วและใช้กับคนที่พิเศษที่สุด
เพียงอึดใจเดียวหน้าหวานก็เบิกตากว้างจ้องมองจอสี่เหลี่ยมราวกับไม่เชื่อสายตา
คิดถึงเธอเหลือเกิน..
8J9H9S3
ถ้าตรงตอบใช่...
ใช่
เธอหายไปไหนมา
ฉันคิดถึงเธอแทบแย่
นึกว่าจะไม่ได้เจอกันแล้ว
โธ่ฉันจะทำแบบนั้นได้ไง
ฉันแค่ถูกส่งมาคุมในเล็ปก็เลยงานยุ่ง
แล้วนี่ฉันเพิ่งเห็นข่าวเธอ...กับเค้า
ได้คุมเล็ปเลยเหรอ
แบบนี้ก็ไม่ได้เจอกันน่ะสิ
เธอเห็นข่าวฉัน?...
ก็เห็นน่ะสิถึงได้หาวิธีติดต่อเธอจนได้เนี่ย
เรื่องมันเป็นมายังไงล่ะ
ชีวิตเราหวิดตายไม่ต่าง...
แหมนี่ถ้าฉันไม่ทำข่าวดังๆเธอก็คงลืมกัน
ฉันตอบไม่ได้หรอกว่าเรื่องมันเป็นมายังไงเพราะฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
โชคชะตาพารอดเพื่อพบกัน...
กึกๆ
ทิฟฟานี่สะดุ้งเฮือกมองไปยังต้นเสียงก็อุ่นใจ เฮ้อเธอลืมไปเลยว่ารอเพื่อนสาวอยู่แล้วนั่นมันก็ยืนเท้าสะเอววีนเธออยู่มั้ง
เปิดล็อคให้พอมันขึ้นรถมาได้ก็วีนเธอจนหูชาเลย เธอก็ได้แต่ทำเงียบแล้วขับรถต่อ
ผ่านไปพักใหญ่มันถึงได้เงียบลงแล้วก็มาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบตามประสาเพื่อนสาวไม่ได้เจอกันนาน
ถามได้ไม่ทันไรมันมาเข้าเรื่องเดิมอีกแล้ว นี่เธอเริ่มจะเบื่อเรื่องนี้แล้วนะ ที่เบื่อน่ะเพราะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรไง
ไม่ได้เบื่ออะไรหรอกโดยเฉพาะคู่กรณีอันนั้นต้องเรียกได้ว่าชอบเลยดีกว่าที่มีข่าวกับเค้า
บทสนทนาเดิมๆที่ทั้งสองฝ่ายใช้อารมณ์ต่างกันราวฟ้ากับเหวหลายคำถามที่ถูกพ่นออกมาอย่างตื่นตาตื่นใจของผู้ถาม
กลับถูกตอบด้วยคำว่า'ไม่รู้ว่ะ'อย่างเซ็งๆจากปากคนตอบเป็นแบบนั้นอยู่พักใหญ่ จนหมดคำถามนั่นแหละ
แล้วเธอก็ตัดบทมันด้วยการถามมันว่ามันรู้จักกับแทงกูเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า หรือว่าเค้ารู้จักมันมั้ย
คำตอบของเพื่อนสาวทำเอาเธอยิ้มกว้าง แต่ก่อนจะได้พูดต่อเธอก็ขับรถเข้ามาในรั้วคหาสน์หลังใหญ่
ของเพื่อนสาวเธอเองแหละอยู่ก็อยู่คนเดียวไม่รู้จะมีใหญ่ๆไปทำไม
บ่นไปลอยๆแต่มันก็ดันหันกลับมาตอบหน้าตาเฉยว่าไว้เผื่อมีผัวหลายคนจะได้ไม่ต้องแย่งห้องกัน
นั่นน ดูความคิดมันสิ แล้วปจุบันเนี่ยมีไหมล่ะซักคนก็ไม่มีไง งั้นก็เชิญมันอยู่กับคานใหญ่ๆในคฤหาสน์มันไปก่อนแล้วกัน
มานั่งเล่นในบ้านมันได้ไม่นานทิฟฟานี่ก็เปิดประเด็นที่ค้างคาอยู่เมื่อตอนอยู่บนรถมาพูดต่อ
เธอถามเพื่อนสาวเธอไปว่าชอบแทงกูหรือเปล่าอะไรทำนองนั้น มันก็คิดๆอยู่พักนึงก็เริ่มตอบมา
"เค้าน่าจะสวยนะ ขาวด้วยดูแล้วตัวไม่ใหญ่มาก ดูโหดๆเหี้ยมๆเวลาบนเตียงเค้าคงโซฮอทมากอ๊ะแก๊ อร๊ายยย"
เอิ่ม..คือตอนแรกเธอว่าเพื่อนเธอคงมองแทงกูเหมือนคนปกติทั่วไปนะ แต่มาหลังๆนี่เริ่มค่อนไปทางหื่นกามเกินไปแล้วมั้ง
เธอเลยสรุปเอาเองว่ามันคงชอบ ถ้าเค้าเลือกมันมันก็คงยอมมั้ง
หันไปถามมันต่อว่างั้นคืนนี้ไปด้วยกันไหมเธออยากรู้ว่าถ้าแทงกูเจอมันเค้าจะชอบหรือเปล่า
ถ้าเค้าไม่ชี้มันก่อนเธอก็จะดันมันไปให้เค้าได้เห็นใกล้ๆ ทำยังไงเธอคิดไว้หมดแล้ว
มันก็รีบตอบรับทันทีเพราะมันก็เหมือนเธอนั่นแหละ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีโอกาสได้เจอ
พอมีแล้วก็ต้องรีบคว้าโอกาสนั้นไว้ ทิฟฟานี่เหลือบมองว่าเพื่อนสาวเธอมันทำอะไรในไอแพด
ก็เห็นว่ามันนั่งเช็คอยู่ว่ามีคู่ไหนแข่งบ้าง แล้วก็นั่นไงว่าและมันหันมาถามว่าไม่เห็นมีรายชื่อแทงกูแข่งเลยไปแล้วจะได้เจอเค้าเหรอ เพราะปกติแล้วแทงกูจะไม่ค่อยปรากฎกายให้ใครเจอง่ายๆส่วนมากถ้าไม่ใช่วันที่เค้าแข่งก็เป็นไปได้น้อยมากที่แทงกูจะไปที่สนาม
เธอก็หันไปตอบมันว่าเจอดิถ้าไม่เจอให้ตบเลย เห็นเธอมั่นอกมั่นใจเอาขนาดนั้นนังเพื่อนสาวก็หรี่ตาจับผิดถามต่อว่าเธอนัดเค้าไว้หรือไง
จะบ้าเหรอน้ำหน้าอย่างเธอเนี่ยนะจะไปนัดเค้า คืนนั้นไปอ่อยเค้าถึงที่ยังเฟลกลับมาเลย
ตอบมันไปอย่างนั้นเหลือบมองเวลาอีกทีก็จะเย็นแล้วเธอเลยไล่เพื่อนเธอไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆ
กำชับตบท้ายไปอีกทีว่าต้องสวยที่สุดในโลกนะเว่ย หัวเราะคิกคักพลางยกไอโฟนขึ้นมาดูอีกครั้ง
พอเห็นหน้าต่างสนทนาเบอร์แทงกูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะทักเค้าไปอีก
คืนนี้คุณไปต่อที่ไหนคะ
ทำไม
แค่เค้าตอบมาก็ดีใจจะตายอยู่แล้วแต่พอเจอคำถามสั้นๆแบบนี้มันก็สะอึกแบบไปต่อไม่ถูกเหมือนกันนะ
นี่ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงบล็อคเบอร์เขี่ยทิ้งไปแล้ว แต่นี่เป็นแทงกูไงและเธอก็ยอมเค้าไง คิดหัวแทบแตกว่าจะตอบยังไงเค้าถึงจะพอใจ
ถ้าถามเค้าไปว่าไปกับเธอได้มั้ยเค้าจะตัดรอนเธอหรือเปล่าถามว่าว่างไหมก็ไม่ได้ คนบ้าอะไรวะคะเนี่ย
เค้าเป็นคนแรกเลยนะที่ทำให้คำว่า ว่างไหม โดนเธอลบออกจากพจนานุกรม
ฉันอยากไปกับคุณจัง
เธอคิดว่านั่นน่าจะทำให้เค้าพอใจมากที่สุดแล้ว ทิฟฟานี่เริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเค้าเริ่มเงียบไปนานเกินไป
เธอเริ่มจิ้มสลับไปหน้าต่างอื่นพิมคุยไปบ้างคนอื่นที่ทักมา ก็แค่ตอบฆ่าเวลาไปงั้น
แทงกูยูริเจสสิก้าและยุนอานั่งอยู่ในโซนเกรสรับเชิญ ทั้งสี่คนถูกเชิญมาเพื่อต้อนรับนักแข่งจากเอเอ็มแอลต่างประเทศ
ที่จะมาเข้าร่วมแข่งกันในรอบสามเดือน ที่ยุนโฮเลือกทั้งสี่มาต้อนรับนั้นก็ไม่ใช่เพราะอะไรก็แค่เป็นสี่คนที่อยู่บนจุดสูงสุดและดังที่สุดในเอเอ็มแอลของเกาหลีนั่นเอง
วันนี้เป็นแค่การแข่งรอบคัดเลือกกว่าทั้งสี่จะได้แข่งก็อาทิตย์หน้าโน้นเนื่องจากเป็นการแข่งที่ใหญ่พอสมควรเงินรางก็สูงจึงไม่แปลกอะไรที่มีคนมากหน้าหลายตาเข้ามาลงแข่งกัน
หลังจากที่ทำหน้าที่ต้อนรับนักแข่งเสร็จรเรียบร้อยแล้วทั้งสี่ก็มานั่งอยู่โซนเกรสรับเชิญที่ยุนโฮจัดตั้งขึ้นให้เป็นพิเศษ
การแข่งในสนามยังดำเนินไปเรื่อยๆทั้งสี่คนก็นั่งคุยติชมพวกที่แข่งอยู่ไปเรื่อย ได้มานั่งดูแบบนี้ก็ไม่เลวนะได้เห็นจุดแข็งจุดอ่อนของคนอื่นๆ
ยูริหันมาถามแทงกูว่าจะไปไหนต่อหรือเปล่า เธอก็เลยลังเลๆเพราะเธอก็อยากคุยกับทิฟฟานี่ให้รู้เรื่องนะ แต่เธอก็ไม่อยากปฏิเสธยูริ
เธอเลยถามยูริกกลับไปว่าเค้าจะไปไหน แต่ยุนอาก็โพล่งตัดขึ้นมาก่อนว่าเค้าอยากรีบกลับบ้านเค้าอยากไปหาแฟนเค้า แหมๆ ด้วยความหมั่นไส้
แทงกูเลยหยอกใส่ว่า "โอ๊ย แฟนเธอเค้าไปหนีเธอไปไหนหรอก ใช่มั้ยสิก้า" หันไปย้ำกับเจสสิก้าให้คนโดนหยอกนั้นยิ้มกว้าง
"นี่แทงกูคุณจะหวงมั้ยถ้าฉันจะจีบเพื่อนคุณน่ะ"
แทงกูหันขวับขมวดคิ้วมองหน้ายูริอย่างไม่ค่อยไว้ใจหลังจากที่ได้ยินเค้ากระซิบถามมาอย่างนั้น
ไอ้จีบน่ะไม่หวงแต่ถ้าเจสสิก้าเสียใจเมื่อไรน่ะก็ไม่รู้เหมือนกัน นั่นแหละคำตอบคือเธอไม่ได้คิดจะกีดกันอะไรหรอกนะ
แต่เจสสิก้าเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวมากไงเธอก็เลยต้องทำแบบนี้แล้วยิ่งประวัติยูรินี่อย่าได้พูดถึง
เธอยังไม่เคยเห็นเค้าคบใครจริงจังเลยแถมประวัติม่อนี่ก็เยอะกว่าเธอหลายเท่าตัวด้วย
"แหม..คุณก็ฉันยังไม่ได้จีบเค้าเลยนะเค้าจะเสียใจได้ไงล่ะ" ยูริหันมาพูดอย่างไม่ซีเรียสมาก
แทงกูก็เข้าใจนะที่ยูริดูไม่ซีเรียสน่ะเพราะเค้าไม่รู้ไงว่าเจสสิก้าเป็นยังไง ซึ่งต่างจากเธอที่รู้..และรู้เยอะด้วย
เธอเลยต้องบอกยูริไปคร่าวๆว่าเจสสิก้านะอ่อนไหวมากถ้ารักใครแล้วก็รักมากจนไม่เหลือหัวใจไว้ให้ตัวเอง
แต่ถึงจะอย่างนั้นถ้าเค้าบอกว่าไม่สามารถรักใครอย่างคนรักได้ก็ไม่มีทางที่เค้าจะเปลี่ยนใจได้เหมือนกันเอาง่ายๆคือ
เจสสิก้าน่ะห้ามจีบเล่นๆแล้วก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วยตอนที่จีบน่ะเพราะถ้าเค้าปฏิเสธแล้วทางเดียวที่เหลือคือตัดใจ
ยูริเริ่มจะมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาบ้างแล้วเธอชอบเจสสิก้านะ
แต่เธอยังไม่สามารถบอกได้หรอกว่าเธอจะจริงจังกับเค้าแค่ไหนตอนนี้มันมีแต่ความรู้สึกอยากได้อยากครอบครองเท่านั้นแหละ
เธอเคยได้ยินมานะว่าแทงกูเคยฆ่าแฟนเจสสิก้าทิ้งแค่เพราะว่าคนคนนั้นทำเจสสิก้าเสียใจ
ตั้งแต่รู้จักกับแทงกูและเจสสิก้ามาเธอก็พอจะดูออกว่าสองคนนี้รักกันยังกับอะไรดี เธอเลยได้แต่ถอนหายใจออกมายาวๆ
"แล้วถ้าฉันยังไม่มั่นใจล่ะว่าฉันชอบเพื่อนคุณแบบไหน" แทงกูหันมาเลิกคิ้วใส่ "ก็ดูดูกันไปก่อนก็ได้นิมั่นใจแล้วค่อยตัดสินใจ"
ยูริพยักหน้ารับไอ้ที่ว่าดูดูกันไปก่อนของแทงกูนี่มันดูยังไงล่ะแบบเป็นเพื่อนกันไปก่อนแบบนั้นน่ะเหรอ
"แล้วเจสสิก้าซีเรียสเรื่องสัมพันธ์ทางร่างกายมั้ย...เอ่อหมายถึงถ้าฉันจีบเค้าแล้วยังไปกับสาวไนท์ช็อตอยู่น่ะ"
ร่างสูงรีบอธิบายขยายความทันทีที่เห็นว่าแทงกูสะบัดหน้าหันขวับมามองเธออย่างไม่ไว้ใจ
พออธิบายไปแล้วเค้าก็ทำเหมือนคิดๆอยู่นะ
"อาจจะมีจิกแขวะบ้างแหละแต่ซีเรียสมั้ยนี่ไม่แน่ใจเพราะยังไม่เคยเจอใครที่ทำแบบนั้นแต่ถ้าคิดในแง่ดีเค้าอาจจะชิ้นกับสังคมแบบนี้ก็ได้มั้ง"
แทงกูบอกไปตามความรู้สึก กระซิบกันเสร็จก็หันไปสนใจVTRกันต่อ
"เฮ่ย นั่นใครวะไม่เคยเห็นเลย เหมือนจะสวยด้วยนะ"
ยูริโพล่งขึ้นพร้อมชี้ไปที่ร่างหญิงสาวคนนึงที่นั่งเปล่งออร่าอยู่โซนราคาสูงสุด
แทงกูมองตามไปพลางแตะกรอบแว่นโฟกัสภาพ "อืมมก็ถือว่าสวยนะหุ่นก็ดี" แทงกูพูดออกไปอย่างที่รู้สึก
ยูริพูดขึ้นลอยๆเชิงแซวว่า "สงสัยต้องไปสั่งแว่นมาไว้ส่องมั่งและ" แล้วก็หัวเราะออกมา ก่อนแทงกูจะพูดต่อ "จะเอาก็เรียกสิ"
ยูริหันมาเลิกคิ้วเชิงว่าเอ้าไม่เอาไปเหรอ เธอเลยเพยิดหน้าไปทีนึงเชิงว่าให้เค้าเอาไปเหอะ
แหมเธอจะเอามาทำไมล่ะ แค่นี้ก็รู้สึกแย่ๆยังไงไม่รู้แล้ว แล้วนั่นก็ใครไม่รู้มาจากไหนไม่รู้อีกไม่เคยเห็นด้วย
มาสเต็ปเดียวกันกับทิฟฟานี่เลยไม่ใช่เป็นสายใครมาอีกนะเธอยังไม่อยากปลิดชีวิตสาวๆที่อยู่ในขั้นหน้าตาดีเท่าไรเพราะแค่นี้ก็แทบจะไม่มีเหลือมาให้เลือกอยู่แล้ว
ไม่นานยูอีก็พาหญิงสาวคนนั้นก็มาหยุดยืนตรงหน้าเธอ ..เฮ่ยอะไรอ่ะเธอไม่ได้เรียก มือเล็กชี้ไปที่เพื่อนตัวสูงข้างๆ
"อ้าวของคุณยูริเองหรอกเหรอคะ" ยูอีเอ่ยแก้เก้อพลางดันร่างหญิงสาวให้เดินไปหยุดตรงหน้ายูริ
"ทำไม..ใจคอจะจับให้แต่คุณแทงกูคนเดียวเลยดิ" ยูริก็อดไม่ได้ที่จะจิกแขวะกลับไปก็แหมยัยยูอีเนี่ยทำอย่างกับแทงกูแอบให้ทิปเพิ่มงั้นแหละขยันหาให้ยังกับอะไรดี จิกแขวะแซวกันอยู่ไม่กี่อึดใจยูอีก็รีบขอตัวออกไปก่อน เห็นบอกว่าวันนี้เหมือนแจจุงหรือยุนโฮมาเนี่ยยังไม่แน่ใจ
ถึงทั้งสี่จะดูแปลกใจอยู่หน่อยที่รู้ว่าหนึ่งในสองคนนั้นจะมาที่สนามก็ปกติไม่ยักจะมากันหรอกมุดอยู่แต่ในรู แต่ยูริก็ไม่ได้สนใจอะไรมากหันกลับมามองหญิงสาวตรงหน้า
ดูสีหน้าเค้าเหมือนจะหนักใจยังไงชอบกล นี่เค้าไม่อยากรับจากเธอหรือไงกัน คิดไปปากก็เอ่ยถามชื่อหญิงสาวไป
"โบราค่ะ"
เมื่อได้คำตอบยูริก็พาตัวหญิงสาวไปคุยในจุดลับตาคนเพราะในโซนตรงนี้จะมีแค่พวกเธอสี่คนก็เถอะ
แต่คนในโซนอื่นๆก็มองเห็นได้
แทงกูหันไปมองอีกทียูริก็หายไปแล้ว บร๊ะอะไรจะเร็วปานนั้น
เลยสะกิดยุนอาให้ขยับมานั่งข้างๆแทนเว้นไว้คนอื่นมองมามันจะไม่สวย(?)
ร่างสูงทำหน้างงเล็กน้อย จนเธอบอกว่ายูริหายไปกับผู้หญิงแล้วเค้าถึงได้ฉีกยิ้มออกมาแล้วก็ขยับมานั้งข้างๆเธอ
"แจจุงมาแบบนี้ฉันว่ามันแปลกๆอยู่นะ"
แทงกูพูดขึ้นเมื่อได้รับข่าวมาจากโฟนเล็กๆที่ติดอยู่กับใบหูแทบจะทุกเวลา ยุนอากับเจสสิก้าก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันทั้งสามจึงคิดว่างั้นพวกเราควรไปทักทายแจจุงกันก่อน เผื่อมีอะไรจะได้ไม่พลาดท่า
หลังจากที่ไปทักทายแจจุงแล้วชายหนุ่มก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะมีอะไรผิดปกติเขาแค่บอกว่าก็อยากมาเปิดหูเปิดตาบ้างเท่านั้นแหละ ระหว่างที่คุยกันแทงกูก็รู้สึกแปลกๆกับสายตาของชายหนุ่มขึ้นมา ..หมอนี่ต้องคิดจะทำอะไรอยู่แน่ๆ
พอกลับมานั่งได้สักพักเจสสิก้าก็เห็นว่าทั้งแทงกูและยุนอาไม่ได้คุยอะไรกันแล้วจึงชะเง้อหน้าผ่านร่างแทงกูไปโดยเท้าแขนไว้บนตักร่างเล็ก
แล้วถามร่างสูง "นี่เธอพอจะรู้เรื่องทิฟฟานี่บ้างไหม" ยุนอาหันมาเลิกคิ้วใส่ "รู้สิรู้เยอะเลยด้วย จะถามว่าเค้าไว้ใจได้หรือเปล่าล่ะสิ"
แทงกูหันขวับมองหน้าร่างสูงทันทีจ้องรอคำตอบอยู่อย่างนั้น "ไม่รู้นะว่าตอนที่ทิฟฟานี่คบกับยุนอาเค้าจริงใจหรือหวังอะไรหรือเปล่า
แต่เค้าไม่เคยมาตามมาพูดอย่างที่ทำกับคุณแทงกูเลย"
"ฟังแล้วมันขัดๆหูยังไงไม่รู้แหะบอกให้เรียกพี่ไม่ก็เรียกชื่อเฉยๆก็ได้เรียกซะเต็มยศแบบนั้นเมื่อไรจะสนิทกันห๊ะ"
น้องยังเล่าไม่ทันจบคนตัวเล็กก็โพร่งสวดยาวซะงั้น เจสสิก้าเลยต้องหันไปกระทุ้งศอกใส่ไอ้ตัวเล็กขี้บ่นนั่นหนึ่งทีแล้วบอกให้ยุนอาเล่าต่อ
"แล้วตอนเจอกันก็เจอกันโดยบังเอิญ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ยุนเลยเข้าไปม่อใส่ตอนแรกก็เหมือนจะเหวี่ยงใส่แต่ก็ยอมให้เบอร์มา ตามจีบอยู่ประมาณเกือบเดือนก็คบกัน
แต่ระหว่างที่ตามจีบยุนก็พาทิฟฟานี่เข้าออกคฤหาสน์ตัวเองบ่อยๆพอคบก็แล้วก็ยังบ่อยจนยูริกับซอฮยอนสนิทกับทิฟฟานี่ไปด้วย แต่คบกันได้ไม่ถึงเดือน
เค้าก็ขอเลิกแล้วให้เหตุแค่ว่าเค้าเบื่อ ไม่ว่ายุนจะพูดจะบอกจะรั้งยังไงเค้าก็ไม่สน บอกแค่ว่าเค้าไม่ได้ตั้งใจเค้าก็เสียใจเหมือนกัน แต่เค้าก็ไป
หลังจากนั้นยูริให้ซอฮยอนตามเช็คอยู่ตลอดว่าทิฟฟานี่อยู่ไหนยูริจะไปลากมาลงโทษแต่คำตอบที่ได้คือเค้าไม่ได้อยู่ที่เกาหลีแล้ว"
ยุนอาเล่าโดยเลือกที่จะตัดช่วงที่ไม่สำคัญออกอย่างเช่นตอนแรกๆที่ยูริก็ตามจีบทิฟฟานี่ด้วยเพราะไม่รู้ว่าเธอจีบอยู่ เธอเลือกจะเล่าแค่ว่าทิฟฟานี่เป็นยังไงตอนคบกับเธอเพื่อให้แทงกูและเจสสิก้าลองประมวลผลดูเผื่อจะได้คำตอบว่าควรไว้ใจทิฟฟานี่แค่ไหน เธอไม่รู้หรอกว่ายูริจะว่ายังไงกับเรื่องนี้ไม้รู้ว่าพี่สาวของเธอจะยังจองร้างจองผลาญทิฟฟานี่อยู่อีกหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นการตัดสินใจของแทงกูแล้วเธอคิดว่ายูริก็คงจะไม่คัดค้านอะไรล่ะมั้ง
แทงกูยกไอโฟนขึ้นมาดูเมื่อรู้สึกว่ามันสั่นครืดคราดอยู่นั่น เมื่อเห็นแล้วก็ต้องถอนหายใจเบาๆแล้วยื่นให้เจสสิก้าดูเชิงถามว่าเอาไงดี
ลงมาหาฉันได้มั้ยคะ
ฉันจะรอคุณ
เจสสิก้าเลยหันไปถามยุนอา แล้วรายนั้นก็ดูแปลกใจอยู่มาก "ตอนทิฟฟานี่คบกับยุนอาไม่มีเลยแอปเนี่ยยุนอาทักไปก็ไม่ตอบ"
แทงกูเลยบอกว่าเพราะเธอบอกว่าห้ามโทรหรือเปล่ายุนอาเลยสรุปให้เข้าใจง่ายๆว่าทิฟฟานี่แบบที่ยุนอารู้จักน่ะเข้าหายากไม่ต่างจากแทงกูเลย
ดังนั้นเจสสิก้าเลยคิดว่าก็น่าจะลองดูนะคนนิสัยคล้ายๆกันอาจจะจับทางกันได้ก็ได้ ร่างเล็กพ่นลมหายใจออกยาวๆ แล้วพูดว่า
"เวลาอยู่ใกล้ๆคนสวยๆมันห้ามใจยากนะเว่ย " แล้วก็ลุกสะบัดก้นเดินฉับๆออกไป
ร่างเล็กเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของอีกคนเงียบๆพลางส่ายหน้าเบาๆ
คิดว่ามาได้ทางเดียว? ใบหน้าหวานหันขวับแล้วเดินเข้ามาใกล้ร่างเล็กทันที
แทงกูเลิกคิ้วเชิงถามว่าให้ลงมาทำไม มองลึกเข้าไปในแววตาสีโลหะที่ดูเว้าวอนออดอ้อน
ราวกับว่าทิฟฟานี่จะยอมเธอแล้วทุกอย่างจริงๆ
แต่ก็พยามทำนิ่งไว้ไม่ให้เค้ารู้ว่าเธอคิดและรู้สึกอะไรอยู่
มือเรียวยกขึ้นช้าๆอยากจะกอดร่างเล็กตรงหน้านี้เหลือเกิน แต่ไม่รู้เค้าจะไว้ใจมือเธออีกหรือเปล่า
เมื่อเห็นว่าเค้ายังนิ่งอยู่ก็ค่อยๆเลื่อนไปโอบรอบคอเค้าไว้
กระชับมันให้แน่นขึ้นจนทั้งสองร่างแนบชิดกันใบหน้าหวานซุกลงกับซอกคอขาวสูดกลิ่นกายหอมๆจากร่างของแทงกูแล้วพ่นลมหายใจร้อนๆเป่ารดลำคอเค้าเบาๆราวกับตั้งใจจะยั่วให้เค้าอ่อนใจ
แทงกูถอนหายใจออกมาเบาๆไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากได้แต่...
"คืนนี้อยู่กับฉันนะคะฉันยอมคุณทุกอย่างแล้ว ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ"
เสียงอู้อี้ใกล้ๆหูให้ความรู้สึกว่าเค้าเหมือนกำลังจะขาดใจ แทงกูรู้ว่าทิฟฟานี่หมายถึงอะไรที่บอกยอมที่บอกไม่รู้จะทำไง
มือเล็กจับไหล่อีกคนไว้ดันเบาๆให้เค้าผละออก เค้าแตะกรอบแว่นค้างไว้แป๊บเดียวก็เลนส์แว่นเปิดออก
แล้วตวัดขึ้นจ้องมองดวงตาของอีกคน
"ถ้ามีครั้งที่สาม....จบ"
พูดจบก็ปิดเลนส์แว่นเพยิดหน้าทีนึงเชิงว่าให้ตามมา ทิฟฟานี่กลืนน้ำลายเอื้อกพลากคิดในใจว่าแค่นี้เธอก็คงไม่กล้าที่จะคิดเล่นไม่ซื่ออะไรกับแทงกูอยู่แล้วล่ะ ก่อนจะเดินตามร่างเล็กไป
'แทงกูไม่ฆ่าเธอหรอก เชื่อฉันสิ' คำพูดนี้วนอยู่ในหัวเธอมาตั้งแต่ที่ได้ยิน เธอก็ถูกมันตามหลอกหลอนไปทุกที่
บางครั้งเธอก็คิดว่าให้เค้าฆ่าเธอทิ้งยังจะดีกว่าให้เธอมาตามอารมณ์ที่แปรปรวนของเค้าแบบนี้
แทงกูพาทิฟฟานี่มาที่รถของเค้าแต่ ...เอ๊ะเค้าเปลี่ยนรถใหม่หรือไงทุกทีก็เห็นเค้าขับแต่คันสีบลอนด์นิแล้วนี้มันสีขาว ถึงจะสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถาม
เดี๋ยวโดนเค้าโยนทิ้งกลางทาง เธอไม่รู้หรอกเค้าจะพาเธอไปไหน แต่เธอก็จะนั่งมองหน้าเค้าอยู่แบบนี้แหละ ถ้าแทงกูจะยอมคุยด้วยก็คงดี
ขึ้นรถมาเค้าก็จิ้มๆแผงควบคุม นี่มันรถบ้าอะไรของเค้าเนี่ยเธอได้แต่คิดอยู่ในใจ จิ้มแผงควบคุมเสร็จเค้าก็เปิดเลนส์แว่นออก
"วันนั้นเธอไปที่นั่นทำไม"
ออกรถมาสักพักแทงกูก็เริ่มยิงคำถามคาใจ ทิฟฟานี่หันไปเลิกคิ้วเล็กน้อยเธอไม่รู้ว่าเค้าหมายถึงวันไหน
เธอก็ออกไปไหนมาไหนทุกวันแถมไปไม่ซ้ำที่เท่าไรด้วย
"คฤหาสน์ยีล์ด"
แค่นั้นเธอก็เริ่มรู้สึกว่าอยากขอร้องให้แทงกูยิงเธอทิ้งตรงนี้เลยได้ไหม เค้ารู้ได้ยังไงกันเธอว่าเธอไปที่นั่นมา เธอป้องกันตัวดีที่สุดแล้วนะ
แล้วแบบนี้แทงกูจะรวบยอดเธอว่ามันคือครั้งที่สามที่เธอคิดไม่ซื่อด้วยหรือเปล่าล่ะ แต่ถึงเธอจะไปที่คฤหาสน์ยิลนั้นร่างบางเองก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันเป็นการคิดไม่ซื่อต่อแทงกูเลยนะ
แทงกูเห็นทิฟฟานี่ชะงักนิ่งไปก็ย้ำอีกครั้งให้ร่างบางรีบตอบ ตอนนี้แทงกูรู้สึกเหมือถูกไฟสุมอยู่เต็มอกจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
ตั้งแต่ที่ได้รู้ว่าทิฟฟานี่ได้เข้าไปในคฤหาสน์ที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ง่ายๆแบบนั้น จะให้เธอเข้าใจว่าอย่างไรดีล่ะ
"เขานัดฉันให้ไปพบ เพื่อถามเรื่องฉันกับคุณ เพราะเห็นในข่าว"
"แล้วเธอบอกอะไรพวกนั้นไปบ้าง"
ทิฟฟานี่กลืนน้ำลายเอื๊อกสูดหายใจเข้าลึกๆ นี่เธอต้องเล่าทุกอย่างให้เค้าฟังจริงๆงั้นเหรอ ดีนะที่วันนั้นเธอพูดจาระวังตัวไว้เยอะ
เพราะเธอไม่รู้ว่าแทงกูได้รู้หรือเปล่าว่าเธอพูดอะไรบ้าง ขนาดเธอไปที่นั่นเค้ายังรู้ได้
มันก็คงไม่ยากหรอกมั้งถ้าเค้าจะรู้ได้ว่าวันนั้นเธอคุยอะไรกับยุนโฮและแจจุง
เล่าจบแทงกูก็เงียบไปเค้าหรี่ตาลงเล็กน้อยแต่ไม่ได้โฟกัสอะไรทำเหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่
แล้วมันก็เป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดที่สุดสำหรับทิฟฟานี่
"เป็นอะไรกับสองคนนั้น"
ผ่านไปหลายอึดใจแทงกูก็ถามขึ้นมานิ่งๆจนทิฟฟานี่ไม่สามารถเดาได้เลยว่าคนตัวเล็กนี้คิดและรู้สึกอะไรอยู่ จึงได้แต่ตอบไปตามความจริง อย่างน้อยแทงกูก็ทำให้ทิฟฟานี่ได้รู้ว่าการที่บอกอะไรตรงไปตรงมากับเค้านั้น มันช่วยลดความไม่พอใจที่อาจจะเกิดขึ้นได้มากกว่า
"ฉันสนิทกับแจจุงมาก่อนที่เค้าสองคนจะรู้จักกัน ส่วนพี่ยุนโฮฉันก็รู้จักเขาเพราะแจจุง"
"เธอไม่ได้เป็นสายพวกนั้น?"
ทิฟฟานี่พยักหน้าช้าๆ เพราะจะเรียกว่าเธอเป็นสายของสองคนนั้นก็คงไม่ถูก
เพราะเขาก็แค่เสนองานมาและเธอก็แค่รับทำเพื่อแก้เซ็งเท่านั้นเอง มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรเท่าไรนิ
"เลือกได้ไหม"
หมายความว่าไง เลือกเหรอ?เลือกอะไร? ร่างบางหันไปขมวดคิ้วเชิงให้เค้ารู้ว่าเธอไม่เข้าใจ
"เลือกว่าจะสู้กับฉันหรือเขา"
ทิฟฟานี่อ้าปากค้าง หมายความว่าไงเธอต้องตัดใครทิ้งไปคนนึงเหรอ แต่แววตาที่ดูเครียดขรึมมีประกายความไม่พอใจแบบนั้นของแทงกู
ทำเอาทิฟฟานี่แทบหายใจไม่ออกเธอพยายามครุ่นคิดซ้ำไปซ้ำมาเพราเธอต้องตอบไม่พลาดสิ
"ฉันเลือกอยู่กับคุณช่วยคุณ แต่ฉันขอไม่สู้กับแจจุง หรือถ้าเขาต้องตายต้องไม่ใช่ด้วยมือฉัน"
แทงกูเหลือบมาร่างบางเล็กน้อยเริ่มจะอยากรู้ขึ้นมาแล้วสิว่าคนคนนี้ที่ยูริบอกว่าเก่งอยู่ในระดับนึงเนี่ยจะเก่งสักเท่าไร
พอจะฆ่ายุนโฮหรือเธอได้เลยหรือเปล่า แต่จะทำอย่างไรให้รู้ได้ดีล่ะ แล้วดูจากคำตอบของทิฟฟานี่แล้วร่างบางก็ดูจะมั่นใจอยู่พอตัวว่าเค้าเลือกจะฆ่าใครก็ได้ในนั้น
"อยากถามอะไรฉันหรือเปล่า"
"มันเยอะจนฉันรู้สึกว่าไม่ถามดีกว่า"
วินาทีนึงที่เค้าหันมายิ้มให้เธอ แค่นั้นสติเธอก็แทบหลุด เคยเป็นมั้ยเวลาที่คิดว่าตัวเองเฝ้ารอคอยคนที่ไม่เคยเดาใจไม่เคยเดาอารมณ์ได้
บางครั้งก็ลุ้นแทบตายหวังให้เค้าทำดีด้วยแต่เค้าก็ไม่ทำ แต่บางครั้งที่เราหมดหวังสิ้นหวังแล้วเค้าก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอีก
แทงกูจอดรถนิ่งแต่ยังไม่ได้ดับเครื่องอยู่หน้าสถานที่ที่เค้าพาเธอมาคืนแรก ทิฟฟานี่ออกจะแปลกใจอยู่มากนะเพราะไม่คิดว่าแทงกูจะยอมให้เธออยู่ด้วยในคืนนี้
มือเล็กยกไอโฟนขึ้นมาไล้ปลายนิ้วแตะลงไปบนหน้าจอ ดูแล้วก็เหมือนคุยแชทกับใครอยู่ นี่การเป็นผู้ต้องสงสัยมันหน้าอึดอัดขนาดนี้เลยเหรอ
"อยากไปไหนหรือเปล่า" ร่างบางหันขวับอะไรนะ?หมายความว่าไง เธอมีสิทธ์ขอให้เค้าพาไปไหนก็ได้เหรอ
"ฉันเลือกได้เหรอคะว่าอยากอยู่กับคุณที่ไหน"
"ฉันไม่เคยพาใครออกไปขับรถวนไปมาแบบนั้นหรอกนะถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือ 'คนพิเศษ' "
ทิฟฟานี่นิ่งไปอีกครั้งทำไมเค้าพูดแบบนั้นล่ะ เค้าจะแกล้งให้เธอหัวใจวายตายหรือไง
มือเล็กทาบลงเบาๆที่แก้มทั้งสองข้างรั้งให้ร่างบางนั้นโน้มตัวเข้ามาช้าๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่ายปลายจมูกจรดเข้ากับส่วนเดียวกัน
"หรือจะอยู่ตรงนี้คะ" เสียงแหบพร่าเอ่ยแผ่วเบาดวงตาสีฟ้าครามสบเข้ากับแววตาสีโลหะเย้ายวนหยาดเยิ้ม
แค่นั้นทิฟฟานี่ก็หมดหนทาง เพราะสมองมันเริ่มหยุดการทำงานไปช่วงขณะในเวลาเดียวกันกับที่หัวใจเธอมันทำงานหนักจนแทบจะขาดใจ
"ที่ไหนก็ได้แค่ฉันมีคุณ"
สิ้นเสียงหวานแผ่วเบาริมฝีปากเรียวก็แนบลงกับกลีบปากอวบแล้วขยับป้อนจูบเนิบนาบ มือเรียวยกขึ้นโอบรอบคอร่างเล็กไว้หลวมๆ
เรียวลิ้นสอดลุกล้ำเข้าไปในโพรงปากของร่างบางกวาดชิมความหอมหวานไม่รู้จักเบื่อ ต้องการเธอเหลือเกิน...
.
"หมายความว่าไง เหมือนจุดไฟเผาตัวเอง"
ยูริสะบัดหน้าจ้องน้องสาวอารมณ์ขุ่นเคืองจู่ๆเมื่อยุนอาพยามบอกให้เธอล้มเลิกแผนการของเธอไปก่อน
"มันเสี่ยงเกินไปพวกนั้นมันมีเยอะกว่าที่เราเห็น เพราะมันมีลูกน้องลีจุนรวมอยู่ด้วย"
ผู้เป็นน้องพยามอธิบายอย่างใจเย็น เพราะหลังจากที่แทงกูแยกไปหาทิฟฟานี่แล้วเธอและเจสสิก้าก็ได้คุยกันเรื่องนี้ต่อ
แลกเปลี่ยนความคิดกันเธอเองก็ยอมรับนะว่าไว้ใจเจสสิก้ามากอาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ แต่เหตุผลที่ฝ่ายนั้นให้มามันก็ถูก
เพราะเราไม่ควรทำเรื่องเสี่ยงขนาดนั้น
"แกรู้ได้ไง ห๊ะ รู้ได้ไงว่ามันมีเยอะ"
ผู้พี่อารมณ์เดือดด่านไม่ฟังอะไรทั้งนั้นชี้หน้ากร่นด่าน้องสาวอย่างเกรี้ยวกราด
ตะคอกจบก็เดินเข้าห้องปิดประตูใส่หน้า ยุนอาถอนหายใจยาวๆเหนื่อยหน่ายใจกับพี่สาวอารมณ์ร้อน
ร่างเพียวกำลังจะเดินตามเข้าไปแต่ก็ต้องชะงักไป
"พี่ยุนอาพอก่อนเถอะค่ะ ให้พี่ยูลอารมณ์เย็นลงก่อนจะดีกว่า พูดไปตอนนี้พี่เค้าก็ไม่ฟังหรอก"
ซอฮยอนคว้าข้อมืออีกคนไว้เชิงปรามเธอนั่งฟังพี่น้องเถียงกันมาตั้งแต่ต้นและเข้าใจทั้งสองคนดี
ซึ่งเธอเองก็ไม่เห็นด้วยกับยูริเอามากๆแต่เธอก็ไม่ได้มีสิทธ์อะไรไปคัดค้าน
ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าฝ่ายนั้นพรรคพวกเยอะจริง
แต่เราก็ควรสืบให้แน่ใจเสียก่อน เธอรั้งให้ยุนอานั้งลงข้างๆแล้วถามข้อมูลที่เค้ารู้มา
ฟังยุนอาเล่าเรื่องทั้งหมดก็นั่งครุ่นคิดอยู่พักนึง นึกไม่ถึงว่ายุนอาจะรู้มาจากแทงกูและเจสสิก้าโดยตรงได้เยอะขนาดนี้แต่สองคนนั้นกลับไม่บอกยูริ
และเธอพอจะเดาออกว่าถ้ายูริรู้ว่าฐานข้อมูลของยุนอามาจากไหนเค้าก็คงพยามฟังยุนอามากกว่านี้
แต่ยุนอากลับเลือกไม่พูดข้อนั้นเพราะคงกลัวจะผิดใจกัน
ยุนอาขอให้เธอช่วยเรื่องทิฟฟานี่อีกแรงตอนแรกเธอก็ลังเลเพราะกลัวว่ายุนอาจะทำใจลำบาก
แต่พอเค้ายันยืนหนักแน่แล้วว่าเค้าไม่เป็นไรแน่ๆเค้ามีแทยอนอยู่แล้ว
เธอก็เลยยอมช่วยแต่เธอไม่รับประกันนะว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน
เค้าก็พยักหน้ายิ้มๆแล้วบอกว่าจะออกไปหาแทยอนแล้ว
"พี่สิก้า..พี่แทยอนอ่ะ"
"เออเธอมาพอดีเลย ขึ้นไปดูมันทีไม่รู้ทำไมยังไม่ลงมา"
ร่างสูงขมวดคิ้วเชิงแปลกใจปกติแล้วคนรักเธอไม่เคยเป็นแบบนี้นี่นา
ขายาวก้าวถึงประตูลองหยุดเคาะเรียกสองสามทีจนได้ยินเสียงงุงงิงๆดังออกมานั่นแหละถึงได้เปิดเข้าไป
เดินมานั่งลงริมเตียงที่มีสุดที่รักเธอนอนคุดคู้อยู่ข้างๆ มือเรียวก็เอื้อมไปลูบไล้แก้มนุ่มเบาๆอย่างรักใคร่
แล้วก็มีมือเล็กคว้าท่อนแขนเธอไปซุกที่ข้างแก้ม ร่างสูงเห็นอย่างนั้นก็อดเผยยิ้มออกมาไม่ได้
แทยอนในโหมดนี้ดูน่ารักน่าถนุถนอมเอาอกเอาใจมากเลยล่ะ นานๆทีจะได้เห็นแต่เห็นทีก็แทบกรี๊ดสลบ น่ารักไปป้ะ แล้วนั่นพูดอะไรอีกอ่ะ
อย่าบอกนะว่าละเมออ่ะ เธอโน้มตัวลงไปฟังใกล้ๆ ก็จับใจความเสียอู้อี้ๆนั้นได้ประมาณว่า ล็อคห้องยัง ????? หือหมายความว่าไง
ไม่ล็อคแล้วเป็นอะไร โจรจะขึ้นห้องวันนี้เหรอหรืองูจะเข้า แม้จะงงอยู่แต่ร่างสูงก็ค่อยๆลุกขึ้นเดินไปล็อคห้องแล้วกลับมานั่งตามเดิม
จ้องมองใบหน้าใสที่หลับพริ้มให้เธอไปทั้งชาติก็คงไม่เบื่อหรอกขยับเข้าไปใกล้ๆอีกนิดเกลี่ยปอยผมออกจากใบหน้าใสแผ่วเบา
"แบบนี้เหมือนองค์หญิงแทยอนเลย"
ร่างสูงพูดออกมาลอยๆเบาๆไม่ได้หวังจะให้เจ้าตัวได้ยินเท่าไรมันก็แค่ความรู้สึกที่เธอมีเท่านั้นเอง
"เหมือนองค์หญิงแล้วนอนคนเดียว ไม่เหมือนดีกว่า"
ร่างเล็กปรือตาขึ้นช้าๆพร้อมดึงร่างสูงลงไปนอนลงข้างๆอยู่ๆเธอก็นึกอยากจะอ้อนยุนอาอย่างบอกไม่ถูกอยากจะทำตัวเป็นเด็กๆให้เค้าเอ็นดู
รอยยิ้มบางๆของเค้าตอนนี้มันทำให้เค้าดูน่ารักเสียจนเธอแทบอยากจะกลืนกินเค้าเข้าไปทั้งตัวเลย
แต่ก็นั่นแหละ..ยุนอาดีกับเธอจนบางทีเธอก็รู้สึกเหมือนไม่อยากผูกมัดเค้าไว้ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตามแต่
เพราะผู้หญิงอย่างเธอคงดีและบริสุทธ์ไม่พอสำหรับเค้าหรอก แล้วทำไมเธอถึงยังนิสัยเสียชอบอ่อยเค้าอยู่เรื่อยนะ
"ยุนอาคะ..ถ้าเค้าไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิดไว้ เธอจะรับได้หรือเปล่า"
ถามเสียงอู้อี้สบตาเค้าให้เค้ารู้ว่าเธอพูดความจริง มือเล็กก็ยกขึ้นลูบแก้มนุ่มๆของเด็กตัวสูง
"บอกแล้วไงคะว่า ไม่ว่าพี่จะคือแทยอนคนเดิมหรือไม่ใช่หรือตอนนี้พี่จะเป็นยังไง เค้าก็จะรัก"
ยิ่งได้ยินคำตอบก็ยิ่งรู้สึกซึ้งใจจนไม่รู้จะตอบแทนเค้ายังไง ทุกครั้งที่ไม่มีเวลาให้เค้าหรือเธอติดธุระอื่น
ทั้งๆที่เวลานั้นเค้าอาจจะต้องการเธอที่สุด บางครั้งเธอก็รู้สึกผิดจนอยากจะไถ่โทษบ้าง
ใบหน้าใสเผยรอยยิ้มบางๆออกมาก่อนจะรั้งต้นคอเค้าให้ขยับเข้ามาใกล้ประกบริมฝีปากลงกับส่วนเดียวกันเนิบนาบ
กลีบปากทั้งสองดูดดุนกันไปมาราวกับโหยหา ปลายลิ้นสอดเข้าไปในโพรงปากของคนอายุน้อยกว่าตวัดหยอกเย้ากับเรียวลิ้นเค้า
ความหอมหวานถูกแลกเปลี่ยนกันอย่างไม่รู้เบื่อ คนตัวเล็กเบียดกายเข้าหาร่างสูงอีกมือเรียวประคองสะโพกผายไว้ลูบไล้วนไป
มาบางครั้งก็เผลอรั้งให้ร่างเล็กนั้นแนบชิดเข้ามาอีกตามความต้องการ เสียงลมหายใจเริ่มหอบถี่เมื่อความร้อนที่สุมในกายเริ่มมากขึ้น
แทยอนค่อยๆผละจูบออกมาอย่างเสียดายแล้วปรือตามองหน้าคนอายุน้อยกว่าที่มองเธออยู่เช่นกัน
เธอชอบยุนอาตรงที่เค้าไม่เคยปิดบังความรู้สึกเลย เค้ากล้าเผยมันให้เธอรู้ กล้าสบตาแม้ว่าทุกครั้งเธอก็อาจดุเค้ากลับไปทุกครั้ง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบ เธอชอบนะชอบมากเลยด้วยเวลาที่ดวงตาใสๆคู่นั้นเต็มไปด้วยความร้อนแรงและในเวลาเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นเย้ายวน
"เคยคิดว่าไม่อยากทนบ้างมั้ย เวลาพี่ทำแบบนี้"
มือเล็กลูบไล้ลำคอเค้าเนิบนาบ ร่างสูงเผยรอยยิ้มบางๆออกมา รอยยิ้มเดียวกับที่ทุกครั้งที่เค้ามอบความอบอุ่น
แต่ทำไมตอนนี้เธอกลับมองว่ามันเซ็กซี่ก็ไม่รู้ หรือมันอาจจะเป็นเพราะสายตาร้อนแรงของเค้าหรือเปล่า
"ไม่มีครั้งไหนที่อยากทนหรอก แต่เพราะสัญญากับพี่ไว้แล้วว่าจะรอคำอนุญาตจากพี่ก่อน"
เชื่อไหมตั้งแต่เธอเคยคบใครมา ยังไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับเธอเลย
เพราะที่ผ่านมาคนก่อนๆก็จะมีแต่คำพูดหวานๆที่เอามาไว้ปิดบังความขี้ขลาดของตัวเองที่ไม่กล้ายอมรับความจริงว่าหื่นแค่ไหนต้องการเธอแค่ไหน
แทยอนแทบอยากจะพลีกายให้เค้าเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำแค่ได้ยินคำตอบเค้า
"คิดว่ามันเร็วเกินไปมั้ย"
นั่นแหละที่เธอลังเลไม่รู้สิเรื่องแบบนี้ต่างคนก็ต่างมุมมอง
"ไม่หรอกถ้าเทียบกับยุนรักพี่ตั้งแต่เมื่อไร"
นั่นสิตอนแรกเธอยังคิดว่ายุนอาพูดไปงั้นแหละว่าเค้ารัก แต่เค้าก็ทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเค้ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
"ทำไมจู่ๆถึงมาถามล่ะ"
โดนถามบ้างแล้วไง แทยอนยิ้มกริ่มในใจแอบคิด เค้ายังกล้ายอมรับเลยและเธอก็ต้องกล้าเหมือนกัน
"รู้มั้ยจริงๆในใจพี่ยอมเธอไปตั้งแต่คืนแรกที่เรานอนด้วยกันแล้ว"
.
สเตฟฟานี่ที่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียง ด้วยอารมณ์บางอย่าง
เธอกระสับกระส่ายคล้ายๆว่าจะหงุดหงิดก็ไม่เชิง ถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ความอึดอัดและไม่อยากอดกลั้นมันก็ไม่หายไปเสียที เธอคุยแชทกับเจสสิก้าอยู่และเธอก็อยากบอกเค้า
อยากให้เค้ารู้แต่เธอก็ยังลังเลกลัวว่าบอกไปมันจะกลายเป็นเธอที่ถูกมองไม่ดี
หรือเธอควรไปหาเค้าดีไปอยู่กับเค้าอยู่ข้างๆเค้า
ที่ร๊ากกก
อยู่ร้านใช่มั้ย
เค้าไปหาเธอได้มั้ย น๊าาา
ไม่เอา
บอกแล้วไงว่าปิดร้านเดี๋ยวไปหา
มีอะไรหรือเปล่า
หน้าหวานถอนหายใจออกมาอีกครั้งอยากบอกเค้าแทบตายว่ามีอะไรแต่สุดท้ายก็กล้ำกลืนตอบไปว่าเปล่า
ไม่แปลกที่เจสสิก้าจะถามแบบนั้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอขอไปหาเค้าที่ร้าน
เธอเหลือบมองนาฬิกาในจอเพิ่งบ่ายสองอีกตั้งสามชั่วโมงกว่าร้านจะปิด
เธอจะทำไงดี เธอต้องเป็นบ้าตายก่อนแน่ๆโอ๊ยยย ไปแอบส่องอยู่หน้าร้านเค้าดีไหมเนี่ย
สเตฟฟานี่แทบกรี๊ดให้ห้องระเบิด ด้วยความหนักใจ
ก็เมื่อตอนเช้าไอ้โย่งซูยองมันเพิ่งมาบอกว่ามีคำสั่งจับเจสสิก้าแทยอนและแทงกู
ซึ่งถูกกำชับไว้ว่าเจสสิก้าน่ะจับเป็นแต่อีกสองคนน่ะยังไงก็ได้
และที่เธอกระวนกระวายอยู่นี่ก็ไม่รู้จะทำไงดีฝั่งนึงก็เพื่อนฝั่งนึงก็แฟน เป็นห่วงเค้าจะบ้าตายแต่ทำอะไรไม่ได้
เพราะซูยองไม่ได้บอกว่าจะบุกตอนไหนที่ไหนยังไงอย่างน้อยถ้ารู้ตรงนี้เธออาจจะไปดักส่องรอก่อนก็ได้ ว่าแล้วก็ทักไอ้โย่งไปอีกที
แก!!!ฉันทำไงดี
ทำอะไร
อะไรของแกเนี่ย
เรื่องนั้นอ่ะเหรอ
เออดิ นี่ฉันจะบ้าตายอยู่แล้วนะเว่ย
แกก็บอกเค้าไปดิ๊
ว่าให้ระวังตัว
แล้วถ้าเค้าถามเค้าซักล่ะ
ฉันคงหลุดบอกเค้าไปหมด
แถมเพื่อนเค้าก็อาจจะต้องรับเคาะไปด้วย
แกรู้ปะ ว่าแกเปลี่ยนไป
เมื่อก่อนฉันไม่เคยเห็นแกห่วงใครแบบนี้เลย
ไม่สิแกไม่เคยแคร์ใคร
ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้
ไม่รู้ว่ารักเค้าได้ไงรักเค้าตั้งแต่เมื่อไร
รู้ตัวอีกทีเรื่องเค้าทุกเรื่องก็ทำเอาฉันแทบบ้า
เฮ้อ แกนี่นะ ไม่รู้สึกผิดบ้างหรือไง
แต่ถ้าแกจะช่วยเค้าก็ไม่เป็นไร
ในนั้นไม่มีฉันหรอก
หมายความว่าไง
เค้าส่งใครมา
สเตฟฟานี่ถอนหายใจออกมายาวๆโล่งใจไปเปราะนึง ไม่สิหลายเปราะเลยล่ะที่ซูยองบอกมาอย่างนั้น
แต่จะถามว่าเริ่มปฎิบัติการวันไหนก็แลดูจะกบฎต่อเพื่อนสาวมากไป
ด้วยความเกรงใจเพื่อนไม่อยากให้มิตรตระภาพระหว่างเราต้องจบลงเพราะเรื่องน้ำเน่า
เธอก็เลยคิดหาวิธีทำให้เธอรู้เร็วที่สุด วิธีง่ายๆตื้นๆที่คิดออกถูกหยิบมาใช้เป็นอย่างแรก
วัตถุรูปทรงสามเหลี่ยมสีเงินเงาวับขนาดเล็กหลายอันถูกวางลงบนฐานสีดำ
เธอกำลังเชื่อมต่อสัญญาณวัตถุนั้นๆเข้ากับเครื่องรับและแปลงสัญญาณ
ไม่นานก็เรียบร้อยเหลือแค่จัดการเอาไปทิ้งไว้ตามจุดต่างๆ
หลังเอาวัตถุขนาดเล็กไปทิ้งไว้ทุกที่ที่รู้ว่าเจสสิก้าต้องไปเสร็จเรียบร้อยเธอก็มาจัดการแปลงสัญญาณดักจับสิ่งมีชีวิต
ให้กลายเป็นภาพกราฟวงกลมปรากฎขึ้นบนจอLCDขนาดยักษ์
อ่าอีกอย่างเตือนเจสสิก้าไว้บ้างก็ดีไหนๆซูยองมันก็อนุญาติแล้ว
ที่รัก พักนี้เธอระวังตัวไว้มากๆนะ
เค้าเป็นห่วงอ่ะ
หือ มาแปลกนะวันนี้
เมื่อบ่ายก็งอแงจะมาหาเค้า
แล้วนี่มาบอกอย่างนี้มีอะไรหรือเปล่าคะ
ก็เค้าได้ยินมาว่าจะมีคนบุกฝั่งเธอนี่นา
แต่ไม่รู้กำหนดการ
เห..หมายความว่า?เธอรู้?
ว่าเค้าเป็นใครเหรอ
โธ่ ที่รัก ทำไมเค้าต้องไม่รู้ล่ะคะ
เค้ารู้มาตลอดแหละ
เอ้า เค้านึกว่าเธอเป็นคนธรรมดาซะอีก
ดูไม่ออกเลยง่ะ
เธอนี่ซื่อจริงๆเลยนะ
ถ้าเธอรู้ว่าเค้าเป็นใครเธอคงหัวใจวาย
เอาไว้ถึงวันนั้นเธอก็จะรู้เอง
สเตฟฟานี่ยิ้มให้กับหน้าจอสี่เหลี่ยมพลางส่ายหน้า
ไม่ใช่เธอไม่แปลกใจนะที่เจสสิก้าไม่รูว่าเธอเคยเป็นคนของลีจุน เธอนึกว่าเค้าจะรู้เสียอีก
นึกถึงเรื่องนี้แล้วก็พาลให้นึกถึงแทยอน ไม่รู้ผู้หญิงคนนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนเค้าเป็นคนธรรมที่มีอารมณ์ติสๆนะ
แต่ทำไมบางความรู้สึกมันก็บอกเธอว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัว เอาง่ายๆก็คือเธอก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าแทยอนเป็นคนธรรมดาหรือเปล่า
หรือถ้าแทยอนเป็นเชลล่าเค้าจะสู้ยังไงนะ แต่จะว่าไปเธอก็ยังไม่เคยเจสสิก้ากับแทยอนสู้กับใครเลย
.
.
"ห๊ะ เธอรู้จักเค้าเหรอ"
"จะถามอะไรอ่ะ"
"ก็วันนี้เมื่อตอนเย็นเค้าพูดเหมือนพวกนั้นจะดักจู่โจมเราอีกแล้ว"
"หึมม ก็ไม่แปลกนี่เค้ามีเพื่อนอยู่ฝั่งโน้นนิ"
"ห๊าาา นี่ฉันอยากจะบ้าตาย ฉันรักเค้าไปแล้วนะ"
"อย่าคิดมากน่าฉันว่าเค้าต้องช่วยเธอ"
หลังจากที่เจสสิก้าไปหาสเตฟฟานี่ที่ห้องและได้อยู่ด้วยกันได้ไม่กี่ชั่วโมงแทงกูก็ไปรับถึงที่เลยตอนแรกเธอก็ไม่คิดว่ามันจะมารับจริงๆ
แต่พอมันโทรมาจิกก็เลยเงิบไปเล็กน้อยก็เลยต้องจำใจบอกลาแฟนสาว
สเตฟฟานี่เดินออกมาส่งเธอหน้าโรงแรมและก็เห็นว่าไอ้เตี้ยนั่นมันแรดเอารถอีกคันนึงออกมา
มันหันมามองหน้าสเตฟแว๊บเดียวแล้วมันก็หันกลับไปทางเดิมแต่มันไม่ได้ถอดแว่นออกเลยไม่รู้ว่ามันมองด้วยสายตายังไง
และคุณแฟนสาวเธอก็ยังอุตส่าห์ยิ้มให้มันอยู่นั่นอ่ะแอบหมั่นไส้ยัยคนสวยตายิ้มอยู่ลึกๆแหละแหมรู้นะว่ารอยยิ้มตัวเองนะอนุภาพทำลายล้างสูงแค่ไหน
แต่นางก็ยังขยันแจกให้ใครต่อใครไปทั่ว แล้วเพื่อนเธอแต่ละคนนี่ก็...หึ๊ยยเจ้าชู้สุดอะไรสุดอ่ะ
ขึ้นรถมาก็เอ่ยแซวมันไปว่าทำไมช่วงนี้ขยับสลับรถจังเลยมันก็หันมาบอกหน้าตายว่า
พักนี้มันต้องเช็ครถหลังใช้ทุกครั้งเพราะทิฟฟานี่พยามตามตัวมันแทบเป็นเงา
ไม่รู้เค้าจะคิดไม่ซื่ออะไรอีกหรือเปล่า ว่าแล้วก็ถามมันเรื่องสเตฟฟานี่ไปเพราะนั่นแหละเห็นมันหันมามอง
แล้วก็อย่างที่เห็นแหละคือมันกับสเตฟฟานี่รู้จักกันอยู่แล้ว
แต่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวซึ่งเธอไม่น่าพลาดนี่ช่วงเวลาส่วนน้อยที่แทงกูไปไหนแล้วเธอจะไม่ได้ไปด้วย
แต่สังเกตุดีดีนะถ้าวันไหนไม่มีเธอนะมันต้องไปได้ใครไม่ก็ได้เจอใครมานั่นแหละดูอย่างคืนที่มันไปได้ทิฟฟานี่สิ แหมหายเงียบไปเลยเหอะ ชิส์
แทงกูเลี้ยวเข้ามาจอดในจุดพักที่มาวันนี้ก็เพราะยูริมีแข่งพวกเธอก็แค่มาตามมรรยาท
แล้วพรุ่งนี้เธอก็มีแข่งวันต่อไปก็ยุนอาอีกวันก็เจสสิก้า เธอล่ะอยากจะด่าหัวคนวางตารางจริงๆเลยไม่รู้จะเอาไปแยกกันทำไม
พอทั้งคู่ก้าวลงจากรถเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นตามปกติจนทั้งสองเดินเข้าไปทักทายนักแข่งคนอื่นๆในจุดพัก ก่อนจะเดินไปนั่งใกล้กับยูริและยุนอา
นั่งคุยกันอยู่พักใหญ่ยูอีก็เดินเข้ามาทักถามไถ่ว่ามีใครสนใจสาวๆที่เค้าพามาหรือเปล่า ตามน่าที่เค้านั่นแหละ พวกเธอเลยบอกให้ยูอีพาสาวๆเข้ามาดูตัว
แทงกูที่กำลังไล้มือไปตามเรือนร่างของหญิงสาวเพื่อแสกนอยู่นั้นก็ต้องชะงักมือไป
เมื่อจู่ๆเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นอีกทั้งๆที่ตอนนี้ก็ไม่น่าจะมีใครมาแล้วนี่นาการแข่งก็พักครึ่งอยู่แล้วคนดูฮือฮาอะไรกัน สี่สาวก็หันมามองหน้ากันเชิงไม่เข้าใจมันฮือฮาอะไรวะ
แทงกูเลยลุกเดินออกไปจากจุดพักเล็กน้อยเผื่อว่าอาจจะมีใครมาป่วนการแข่งอีก
แต่เอิ่มม คือเธอได้ยินแต่คนเรียกชื่อเธออ่ะ ถอนหายใจออกมาทีก็มันไม่มีอะไรจะฮือฮากันทำไมเนี่ยร่างเล็กกำลังจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในจุดพักตามเดิม
เอ๊ะ...เดี๋ยวนะมันรู้สึกแปลกๆหันกลับไปอีกทีก็ต้องขมวดคิ้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง แหมยังจะตามเจออีกนะ
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเสียงฮือฮา ร่างบางเดินนวยนาดเข้ามาอย่างใจเย็นจนมาหยุดระยะประชิดร่างเล็ก
"ไหนบอกไม่มาไงคะ แล้วมาอยู่นี่ได้ไง หลบหน้าฉันเหรอ"
ร่างบางเอ่ยเสียงปกติทั้งที่ในใจอยากจะกรี๊ดใส่หน้าแทงกูให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลยที่เค้าแกล้งหลอกเธอว่าจะไม่มาวันนี้ ดีนะที่เธอรู้ทันก็เลยรีบตามมา
"ฉันจะหลบหน้าเธอเพื่ออะไร ไหนๆก็มาแล้วไปนั่งด้วยกันเลยสิ"
แม้ว่าเค้าจะยังไม่ได้เปิดเลนส์แว่นแต่ก็เห็นแล้วแหละว่าเค้ายักคิ้วกวนประสาทใส่เธอ
อร๊ายยอย่ามาสะบัดหน้าเชิ่ดใส่ฉันแบบนี้นะ ด้วยความมือไวร่างบางคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็ก
ดูเหมือนตอนนี้คนดูจะหันมาสนใจพวกเธอมากกว่าจอมอนิเตอร์นะ คว้าปุ๊บฮือฮาปั๊บเลย
คงจะแช่งให้เค้าฆ่าเธออีกตามเคยสินะ เหอะ
'แทงกูไม่ฆ่าเธอหรอก แต่ ถ้ามีครั้งที่สาม..จบ '
ไม่รู้สิสองประโยคนี้มากกว่ามั้งที่จะทำให้ชีวิตเธอจบ
แทงกูชะงักไปเล็กน้อย แล้วกระตุกแขนเข้ามาเต็มแรงจนร่างบางนั้นเซมาตะครุบเอาร่างเธอเนี่ย ยิ้มเยาะสะใจไปที แอบได้ยินเหมือนทิฟฟานี่บ่นอะไรอีกล่ะ
"เล่นแบบนี่เหรอ"
"เอ้าทำไมอ่ะไม่ได้หรือไง"
มองหน้ากันอยู่ครู่สุดท้ายร่างเล็กก็ถอนหายใจออกมาราวก็เหนื่อยหน่ายอะไรสักอย่าง
"คุณรำคาณฉันเหรอ"
From...Writer
ทิฟฟานี่คงสะอึกอย่างรุนแรง 5555 แทงกูไม่ฆ่าเธอหรอกกกก เอิ๊กส
ยูลน่าหมั่นไส้เนอะ (เขียนเองหมั่นไส้เอง)
แทงกูดูเริ่มจะแปรปรวนมากขึ้นมั้ย เอิ๊กสสส
ดูสิทิฟฟานี่ใกล้จะจบแล้วมั้ง ฮ่าๆ
เห็นรีดเดอร์งงกันตอนช่วงแรกพอมาเต็มๆหายงงกันหรือยังคะ
หรือยังงงอยู่ ที่แน่ๆเรื่องนี้มันซับซ้อนมากกก(เหรอ บางที่มันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้น๊าาา) แฮ่
อ้อ..แล้วบีมว่าจะบอกรีดเดอร์ว่าเรื่อง Amulet Classic เนี่ยบีมจะรวมเล่มนะคะ
แนนอนว่ามีการรีเมคแน่ๆ แต่ราคายังไม่แน่ใจเดี๋ยวจะบอกอีกทีนะคะ แค่จะมาถามรีดเดอร์ไว้ก่อนว่าจะมีคนสนใจมากน้อยแค่ไหน แฮ่
มีแบบบ๊อกเซ็ทด้วยนะคะในเซ็ทจะมีโปสเตอร์(สั่งได้ว่าต้องการรูปไหน) มีการ์ดตัวละครแถม(การ์ดเป็นพลาสติกนะคะ)
แล้วก็มีซีดีOPVแถมให้ด้วย อีกสักพักบีมจะเอาทีเซอร์มาปล่อยให้รีดเดอร์ได้ชมกันนะคะ
ประมาณนั้นล่ะค่ะ ^^" อ่อแล้วก็จะมีสเปเชี่ยวพาร์ทของ แทงกูและเจสสิก้าด้วยนะคะ(ประมาณว่าที่มาที่ไปของสองคนนี้555)
ส่วนตัวทิฟฟานี่ยังไม่มั่นใจเท่าไรว่าจะมีมั้ย ^^"
ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร
แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่
ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment