Wednesday, August 12, 2015

۞ Amulet Classic ۞ [Chapter XXXIX]


Chapter XXXIX



แทงกูมองร่างไร้สติบนเตียงทั้งที่เจสสิก้ายังพยายามป้อนจูบอยู่อย่างไม่ยอมแพ้ อย่างนึกแปลกใจ ทำไมถึงดูไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
ไวเท่าความคิดร่างเล็กเดินไปยังโต๊ะผสมสารอีกครั้ง เผื่อว่าพลังจากเจสสิก้าอาจยังไม่พอ
และเพียงไม่นานเข็มที่มีสารสีม่วงอยู่เต็มหลอดนั้นก็ถูกกดลงไปยังกล้ามเนื้อภายใต้อกข้างซ้ายของร่างที่นอนแน่นิ่งนั้นก่อนจะไล่แปะสายคลื่นความถี่ให้ครบทุกจุด
เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วแทงกูก็ไม่ลืมที่จะจับชุดคลุมของร่างบางนั้นให้เข้าที่อย่างที่มันควรจะเป็น

"สิก้าพอก่อน"
เจสสิก้าผละจูบออกมาอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะโดนมือเล็กนั้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวตัวโคร่งออกไปสองสามเม็ด
ตามมาด้วยปลายเข็มที่มีของเหลวสีขาวประกายฟ้าใสนั้นจรดลงยังอกข้างซ้านของร่างบางอย่างเบามือ
ยุนอาเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจปนตกใจเลยก็ว่าได้ สารตัวนี้...Holy ถ้าจำไม่ผิดยุนอาแทบจะเพิ่งได้เห็นสารในตำนานนี้เป็นครั้งแรกเลยมั้ง
พอจะรู้ว่ามันหายากมากแค่ไหนแล้วก็ไม่คิดว่าแทงกูและเจสสิก้าจะใช้มันง่ายๆราวกับไม่ต้องคิดมากอะไรแบบนี้
นั่นคงแปลว่าพวกเค้าคงไม่ได้มีสารตัวนี้ไว้ในครอบครองเป็นจำนวนน้อยอย่างแน่นอน
เพราะเท่าที่ยุนอารู้คือมันไม่มีสูตรผสมเหมือนสารตัวอื่นๆ และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สารตัวนี้หายากยิ่งนัก
มือเล็กกดไล่สารช้าๆอย่างใจเย็นดวงตาสีฟ้าครามก็ตวัดมองใบหน้าสวยของเจสสิก้าที่กำลังกัดริมฝีปากเรียวของตัวเองไว้เพื่อสะกดกลั้นความรู้สึกที่พรุ่งพร่าน
สลับกับมองจุดที่ปายเข็มจรดอยู่เพียงไม่กี่อึดใจของเหลวสีประกายฟ้าใสนั้นก็ถูกก้อนเนื้อภายในอกของร่างบางนั้นดูดซึมไปจนหมดหลอด
แทงกูถอดปลายเข็มออกมาอย่างเบามือแล้วโยนใส่ถังข้างเตียงไป ก่อนจะหันไปพูดกับยุนอา

"อย่าคิดมากนะ วิถีการรักษาพวกพี่เป็นแบบนี้"
ยุนอาพยักหน้ารับแม้จะยังแปลกใจอยู่บ้างที่แทงกูพูดออกมาแบบนั้น แต่จากที่เห็นมานี้การรักษาของฝั่งแทริฟฟิคในวันนี้เธอก็ว่ามันแปลกจริงๆนั่นแหละ
แต่เมื่อแทงกูหันกลับมาเจอหน้าเจสสิก้าที่มีแต่เครื่องหมายคำถามด้วยอีกคนก็อดยกยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้
เจสสิก้าคงแปลกใจที่เธอเอาใจใส่ยุนอามากกว่าปรกติที่แสดงออกล่ะมั้ง

"ชั้นบอกยุนอาไปแล้ว"
แทงกูพูดเพียงเท่านั้นเจสสิก้าก็ระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงช้าๆพร้อมกับสัมผัสอุ่นนุ่มที่ริมฝีปาก
แทงกูขยับป้อนจูบให้เจสสิก้าอย่างไม่รีบร้อนนัก แต่นั่นก็ทำให้ร่างบางแทบหลอมละลายได้เช่นกัน
ไม่ว่าเมื่อไรจะนานแค่ไหนเจสสิก้าก็ยังพ่ายแพ้ในรสจูบของแทงกูอยู่ทุกครั้งไป
มือเรียวบางยกขึ้นคล้องลำคอคนตัวเล็กไว้แม้จะรู้สึกถึงพลังอันมหาศาลที่แล่นเข้ามาทั่วร่างกายหากแต่เรียวขาทั้งสองข้างนั้นกลับอ่อนเปรี้ยเสียง่ายๆ
เพียงเพราะจูบเนิบนาบจากคนตรงหน้านี้

ยุนอาเลือกที่จะโฟกัสไปที่ใบหน้าของทิฟฟานี่แทนการมองแทงกูและเจสสิก้าจูบกัน ทั้งที่พอจะรู้สาเหตุอยู่แล้วว่าสองคนนั้นจูบกันเพราะอะไร
ทั้งที่คิดว่าน่าจะชินได้แล้วที่เห็นแทงกูจูบกับใครที่ไม่ใช่เธอ แต่เอาเข้าจริงยุนอาไม่มีวี่แว่วว่าจะชินเลนแม้แต่น้อย
กับการที่ต้องเห็นแทงกูจูบกับใครถึงจะเป็นเจสสิก้าก็เถอะนะ

แทงกูผละจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่งด้วยความคุ้นเคยจึงทำให้ไม่ค่อยอยากจะหยุดการจูบกับเจสสิก้าสักเท่าไร
แต่เพราะเรายังอยู่ในขั้นตอนการรักษาทิฟฟานี่อยู่ แทงกูจึงต้องยอมตัดใจผละจูบออกมา และปล่อยให้เจสสิก้านั้นโน้มลงไปจูบทิฟฟานี่อีกครั้ง
แทงกูจัดการหยิบเข็มฉีดยาอีกหลอดนึงที่เตรียมไว้ขึ้นมาพลางจรดปลายเข็มลงยังอกข้างซ้ายของทิฟฟานี่และกดไล่สารสีแดงสดลงไปยังก้อนเนื้อเล็กๆนั้น
หลังจากที่ฉีดสารให้ทิฟฟานี่เสร็จแล้วที่เหลือแทงกูก็ทำได้แค่รอ... รอให้เจสสิก้าป้อนจูบแห่งการรักษา


.



"อืม~..."
เสียงครางต่ำในลำคอนั้นเป็นสัญญาณที่ดี ว่าร่างที่นอนไร้สติมาทั้งวันตรงหน้านี้รู้สึกตัวบ้างแล้ว

"ทิฟฟานี่..."
แทงกูเอ่ยพลางวางมือเล็กทาบลงยังหน้ามนของเจ้าของชื่อ พาให้ร่างที่เคยนอนนิ่งอยู่นั้นได้เปิดเปลือกตาขึ้น ดวงตาสีเงินเงานั้นกวาดมองไปรอบๆ
พร้อมกับเจสสิก้าที่ผละจูบออกมา ส่งยิ้มบางๆให้คนบนเตียงไปด้วยความรู้สึกที่มากมาย ...ขอบคุณพระเจ้าที่เข้าข้างเรา

"รู้สึกยังไงบ้าง"
เจสสิก้าถามอย่างเป็นห่วงเหลือเกิน เพราะที่ทิฟฟานี่ต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะเค้าช่วยเธอเอาไว้
ทิฟฟานี่ย่นคิ้วเล็กน้อยให้กับคำถามของเจสสิก้า ราวกับแปลกใจ

"เกิดอะไรขึ้นเหรอทำไมอยู่กันเกือบพร้อมหน้า"
ทิฟฟานี่ถามอย่างงงงวยพลางมองไปรอบๆ จนไปสะดุดตาเข้ากับร่างสูงที่คุ้นเคยดี ยุนอามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน...
หรือว่า...ทิฟฟานี่ตวัดสายตากลับมาที่แทงกูอีกครั้งคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันยุ่งทันที

"ถ้ามีโอกาสเธอก็ลองไปถามยุนอาใหม่นะ"

จู่ๆคำพูดของแทยอนเมื่อคืนก็ดังขึ้นในห้วงความคิดอย่างห้ามไม่ได้
ในเมื่อคฤหาสน์หลังนี้ มันไม่ใช่ว่าใครก็เข้ามาได้ง่ายๆนี่ ขนาดยูริยังไม่เคยมาได้เลย
หรือว่ายุนอากับแทงกูจะ...

"นี่เธอไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าหลับไปนานแค่ไหนน่ะ"
กลายเป็นแทงกูที่ดึงทิฟฟานี่ออกมาจากห้วงความคิดฟุ้งซ่านเหล่านั้น
ร่างบางส่ายหน้าช้าๆ เธอไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนหลับไปปรกติมาก

"เกือบ24ชั่วโมง โดยที่ยังไม่ได้กินอะไร แถมยังปลุกไม่ตื่น"
ทิฟฟานี่เลิกคิ้วอย่างแปลก ทันทีที่ได้ยินแทงกูพูดออกมาอย่างนั้น ราวกับไม่อยากเชื่อ นี่เธอหลับไปเกือบหนึ่งวันเต็มเลยเหรอเนี่ย
แล้วที่ไม่น่าเป็นไปได้ยิ่งกว่านั้นคือเธอยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เมื่อวาน
แทงกูมองใบหน้าคนที่ป่วยที่เพิ่งฟื้นและเค้าก็มองหน้าเธออยู่เช่นกัน เครื่องคำถามที่ปรากฎบนใบหน้าหวานนั้น
ทำให้คนตัวเล็กรู้ได้ทันทีว่าระหว่างเราหว่างเรานั้นคงมีเรื่องต้องคุยกันสินะ เมื่อคิดได้อย่างนั้นสองขาเรียวจึงย่างก้าวไปยังร่างสูงเพรียว


"อยากกลับคฤหาสน์หรือเปล่า หรืออยากนอนกับพี่"
ทั้งน้ำเสียงที่กระซิบพร่าทั้งสีหน้าและสายตาสีครามที่ถูกส่งไปให้ร่างสูงนั้น ราวกับพยายามจะบอกอีกคนว่าเธอมีคำตอบที่พึงพอใจอยู่แล้ว

"ชั้นคิดว่าพี่รู้คำตอบนะคะ"
ยุนอาตอบยิ้มๆ แหมถามมาได้นะแถมยังทำสีหน้าท่าทางนี่เธอดูไม่ออกเลยสิ
จริงๆแล้วถึงแทงกูไม่ทำท่าทีเหมือนจะยั่วแบบนั้น ยุนอาก็ไม่ตอบว่ากลับบ้านอยู่แล้ว
ทิฟฟานี่ตวัดสายตามองแทงกูกับยุนอาอย่างไม่ปิดบังว่าเธอค่อนข้างไม่เข้าใจจนขึ้นขั้นไม่พอใจเลยก็ว่าได้
ใช่สิดูยังไงก็รู้ว่าแทงกูน่ะชอบยุนอามากแค่ไหนอาจจะมากกว่าที่เค้าชอบเธอด้วยซ้ำ
และทั้งที่รู้ตัวดีว่าเธอไม่ควรจะมารู้สึกและคิดอะไรแบบนั้น แต่ความรู้สึกมันไม่เคยห้ามกันได้
เจสสิก้าเห็นปฏิกิริยาของทั้งสามคนแล้วก็ได้แต่ระบายลมหายใจออกมาเบาๆพลางส่ายหน้าอย่างเอือมๆ
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปกุมส่วนเดียวกันของทิฟฟานี่ไว้เชิงให้กำลังใจ
เธอเข้าใจความรู้สึกของทิฟฟานี่ดี เพราะเธอเองก็เคยผ่านช่วงเวลานั้นมาเหมือนกัน...

"สิก้าพายุนอาไปรอชั้นที่ห้อง ชั้นขอคุยกับทิฟฟานี่ก่อน"
เจสสิก้าพยักหน้ารับพลางเดินไปจูงมือเด็กร่างสูงที่ทำตามคำสั่งของแทงกูอย่างว่าง่ายเช่นกัน ก่อนจะเดินออกจากห้องแล็บไป
แทงกูยกยิ้มเล็กน้อยให้กับแผ่นหลังของเพื่อนรักและคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าของของเธอ ก่อนจะหันไปสนใจร่างบางบนเตียง
ทิฟฟานี่ยังคงมองใบหน้าขาวซีดนั้นอย่างต้องการคำตอบในทุกๆเรื่อง ที่เกิดขึ้นและกำลังจะดำเนินต่อไปนี้

"มองแบบนี้ จะถามอะไร หึ้ม?"
แทงกูสบลึกเข้ากับดวงตาสีเงินเงาพลางหย่อนกายนั่งลงยังริมเตียง
พลางเอื้อมมือไปลูบไล้ดวงหน้าสวยหวาน ที่ทำให้เธอหลงใหลได้ตั้งแต่แรกพบ

"ชั้นสามารถถามคุณได้กี่คำถามเหรอคะ"
นั่นสิในเมื่อตอนนี้ในหัวของทิฟฟานี่นั้นมีคำถามมากมายจนไม่รู้จะถามอะไรก่อนดีเลยล่ะ

"อยากถามอะไรล่ะ"
แทงกูเลิกคิ้วเล็กน้อยไม่คิดว่าทิฟฟานี่จะถามแบบนั้นออกมาเป็นคำถามแรก
แล้วก็ต้องยกยิ้มออกมาเมื่อรู้สึกว่า นี่เธอทำอะไรให้ร่างบางนั้นมีข้อสงสัยเยอะขนาดนั้นเลยหรือ

"ระหว่างคุณกับยุนอานี่มันยังไงกันคะ"
ทิฟฟานี่ยิงคำถามที่ทำให้ใจเธอร้อนรุ่มจนแทบอยู่ไม่ติดในตอนนี้ทันที รู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
แต่ก็ต้องทนเพราะเธอไม่ได้มีสิทธ์หึงหวงและอาละวาดร่างเล็กนี้ได้

"หึ้ม? เรื่องนี้เองเหรอ"
แทงกูทำเสียงยียวนอารมณ์ให้ทิฟฟานี่ต้องจิ๊ปากอย่างขัดใจ จะตอบได้หรือยัง
แม้ว่าจะหวั่นเกรงในคำตอบของแทงกูก็เถอะนะ แต่อย่างไรเสียทิฟฟานี่ก็อยากฟังจากปากเค้ามากที่สุด
ก่อนหน้านี้ยุนอาบอกไม่มีอะไรมากกว่าจูบ เมื่อวานนี้แทยอนบอกว่าเธอก็น่าจะรู้ว่าแทงกูเป็นไง
และตอนนี้ทิฟฟานี่ก็อยากจะรู้นักว่าแทงกูจะตอบว่าอย่างไร
แทงกูสบลึกอยู่กับดวงตาสีเงินเงาที่จ้องเธอราวกับเคล้นจะเอาคำตอบ

"ระหว่างชั้นก็ยุนอาน่ะเหรอ... เธอต้องการคำตอบแบบไหนล่ะ"

"แทงกูคะ! ช่วยตอบดีๆหน่อยได้มั้ย ชั้นจริงจังนะ"
ทิฟฟานี่แทบจะตะคอกใส่หน้าคนตัวเล็กอย่างห้ามไม่ได้ ก็เห็นอยู่ว่าเธอซีเรียสขนาดไหน
แล้วเค้ายังจะเอาแต่ยียวนกวนอารมณ์อยู่ได้

"ถึงกับเสียงแข็งเลยเหรอ"
จริงๆแล้วแทงกูไม่ชอบเป็นอย่างมากเวลาที่มีใครที่ไม่ใช่เจสสิก้าหรือโบอากล้ามาเสียงแข็งหรือตะคอกใส่หน้าเธอแบบนี้
แต่ก็ไม่รู้ทำไมพอเป็นทิฟฟานี่แล้วเธอถึงยังใจเย็นอยู่ได้ถึงขนาดนี้กัน หากแต่ความรู้สึกไม่พอใจนั้นก็ยังส่งผ่านสายตาให้อีกคนได้รับรู้

"ถ้าจะไม่ตอบก็ช่วยอย่าอนุญาติให้ชั้นถามเลยจะดีกว่า"
ทิฟฟานี่เบนหน้าไปทางอื่นไม่อยากสบตา ไม่อยากให้ร่างเล็กนั้นได้รู้ว่าเธอรู้สึกแย่มากแค่ไหน
จริงๆก็รู้ว่าเธอไม่ควรยั่ยโมโหเค้าทางอ้อมด้วยการขึ้นเสีนงหรือหันหน้าหนีคนตัวเล็กไปแบบนี้
แต่จะทำไงได้ล่ะก็ในเมื่อทิฟฟานี่ด็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว มันคือตัวตนของเธอที่ชอบเหวี่ยงขี้วีนอะไรง่ายๆ
แทงกูจับปลายคางของทิฟฟานี่รั้งให้หันกลับมามองหน้ากัน เธอไม่ชอบให้ใครหันหน้าหนีไม่ชอบให้ใครทำท่าทีหมางเมินใส่
ร่างเล็กกดจูบเข้ากับกลีบปากอวบอิ่มหนักๆไปหนึ่งที่ราวกับเป็นการทำโทษแล้วผละออกมาไม่ห่างนักเพื่อสบตาอีกครั้ง

"ชั้นว่าชั้นเคยบอกเธอเรื่องยุนอาไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงยังกลับมาถามอีก"
แทงกูกระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปาก มือเล็กนั้นเลื่อนกลับไปลูบไล้เรียวหน้าสวยอย่างเย้ายวน

"ก็คุณตอบไม่ชัดเจนนี่ แล้วชั้นจะมั่นใจได้จากอะไรล่ะคะ"
ทิฟฟานี่ตอบเสียงอ่อน ราวกับเหนื่อยล้าเหลือเกิน กับการที่จะต้องวิ่งตามคนๆนี้มานานแล้วนะ

"ชั้น เป็น ของ ยุนอา ชัดเจนพอหรือยัง"
ทิฟฟานี่ชะงักนิ่งไปทันทีที่ได้รับคำตอบจากคนตัวเล็ก แทงกูบอกว่าเค้าเป็นของยุนอางั้นเหรอ
อะไรกัน...ถึงกับยอมเป็นของยุนอาเลยอย่างนั้นเหรอ นี่เธอคิดว่าแค่ถูกใจกันชอบกันมีอะไรกันเฉยๆ แค่นั้นเธอก็เจ็บปวดมากพอแล้ว
แต่นี้แทงกูพูดชัดถ้อยชัดคำออกมาขนาดนั้นว่าเค้าเป็นของยุนอา

"ทิฟฟานี่..."
แทงกูเรียกอีกคนที่ดูเหมือนสติจะร่องลอยไปไหนแล้วไม่รู้นั้น ให้กลับมา ร่างบางขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น

"ตั้งแต่เมื่อไรกันคะ"
เสียงแหบหวานนั้นเบาหวิวราวกับไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป แต่ทิฟฟานี่รู้ตัวดีและเธอก็กำลังรอคำตอบจากแทงกูอยู่

"ชั้นจำไม่ได้แล้วล่ะ"

"หมายความว่าไงคะ ก่อนที่คุณจะเจอชั้นอีกงั้นเหรอ?"
แทงกูเงียบไป และทิฟฟานี่ก็คิดว่าร่างเล็กคงไม่ตอบเธอแล้วแน่นอน เพราะเค้าเลื่อนสายตาต่ำลงจากระดับสายตาของเธอแล้ว
รู้สึกตัวอีกทีชุดคลุมที่สวมใส่อยู่ก็ถูกมือเล็กลากแหวกออก จนรู้สึกได้ถึงความเย็นในอากาศกระทบผิวกายเปลือยเปล่า
ปลายนิ้วลากไล้กลับขึ้นมาช้าๆผ่านหน้าท้องแบนราบที่ขมวดเกร็งอยู่เล็กน้อยเพราะอารมณ์หวามไหวที่ถูกยั่วยวนให้ก่อตัวขึ้น
เพียงแค่โดนแทงกูลากสัมผัสเนิบนาบอย่างนั้น ร่างบางก็เริ่มแอ่นกายขึ้นบิดเร้าไปมา
แทงกูมองปลายนิ้วของตัวเองที่ลากผ่านเนินเนื้อช่วงช่วงอกสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะหายใจที่เริ่มติดขัด
ปลายนิ้วเขี่ยวนย้ำๆอยู่บนยอดอก ให้เจ้าของมันต้องส่งเสียงซี๊ดปากออกมาอย่างห้ามไม่ได้ พร้อมกับเริ่มหายใจติดขัด
แทงกูตวัดสายตากลับมาสบลึกยังดวงเนตรสีเงินเงา พร้อมกับปลายลิ้นที่ส่งออกมาไล้เลียกลีบปากสีแดงสดของตัวเอง

"อ๊ะ~"

ทิฟฟานี่หลุดครางออกมาก่อนจะหลุบตาลงมองยอดอกของตัวเองที่โดนแทงกูบดขยี้อยู่นั้น
เธอรู้สึกได้ว่าส่วนนั้นมันแข็งตัวชันขึ้นรับสัมผัสวาบหวามจากคนตัวเล็กอย่างชัดเจน
แต่อีกไม่กี่อึกใจต่อมาร่างบางก็ต้องจิ๊ออกมาอย่างขัดอารมณ์ เมื่อแทงกูนั้นก็ช่างจะ... กวนประสาท ชิส์ กำลังเคลิ้มเลย
มือเล็กหยุดการกระทำเมื่อครู่ทั้งหมดก่อนจะเปลี่ยนไปดึงสายคลื่นความถี่ออกจาก ทั้งสิบจุดที่แปะอยู่บนกายบางออก
แทงกูยกยิ้มยั่วออกมาอีกครั้งก่อนจะจับชุดคลุมร่างของทิฟฟานี่เข้าที่

"นิสัยไม่ดี.."
ทิฟฟานี่บุ่นอุบอิบอย่างขัดอารมณ์

"หึ๊ม?"
แทงกูเลิกคิ้วยียวนอารมณ์

"ไม่คิดจะรับผิดชอบเลยหรือไง"
สุดท้ายทิฟฟานี่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยออกมาอย่างน้อยใจ จะเรียกว่าน้อยใจหรืออะไรดีล่ะ
เพราะมันทั้งน้อยใจที่เค้าเหมือนจะไม่ค่อยสนใจเธอสักเท่าไรนัก เหมือนกับว่าความหลงใหลที่แทงกูเคยมีให้เธอนั้นมันลดน้อยลง
ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เราจะห่างกันไปทิฟฟานี่มั่นใจว่าแทงกูจะต้องอดใจไม่ไหวอย่างแน่นอน

"อยากให้ชั้นทำเหรอ"
ทิฟฟานี่ตวัดค้อนใส่ใบหน้าขาวซีดนั้นทันที ยังจะมาถามอีก
เธอคิดว่าเธอบอกเค้าไปตรงมากพอนะ
แทงกูเห็นท่าทางอย่างนั้นของทิฟฟานี่ก็อดยกยิเมออกมาอย่างเสียไม่ได้
ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปประกบจูบเนิบนาบที่กลีบปากอวบอิ่มที่เผยอขยับตอบรับมาอย่างเย้ายวน

ผ่านไปหลายอึดใจแทงกูผละจูบออกมากระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปาก
"ไม่ใช่ไม่อยากเอา ชั้นรู้ว่าเธอน้อยใจชั้นใช่มั้ยล่ะ"

"แต่เธอเพิ่งจะฟื้น แล้วอีกอย่างเธอก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยด้วย"
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วทิฟฟานี่ก็อดระบายรอยยิ้มออกมาไม่ได้จริงๆ ดูเหตุผลของแทงกูสิ จะไม่ให้หลงก็คงจะไม่ได้แล้วล่ะ
ที่แท้ร่างเล็กนั้นก็แอบเป็นห่วงเธอนี่เอง ชอบทำให้คิดมากอยู่เรื่อย แต่ทิฟฟานี่ก็อดไม่ได้ที่จะยั่วแทงกูต่ออีกหน่อย

"กินคุณแทนได้หรือเปล่าล่ะ"
แมงกูยกยิ้มพราย มือเล็กก็ทำเหมือนกับว่าจะรูดซิบชุดหนังของตัวเองลง เผยให้ผิวขาวซีดและบราเซียสีดำตัดกับผิวกาย
ทิฟฟานี่โลมเลียด้วยสายตาอย่างไม่ปิดบัง ผิวขาวซีดนั้นทำไมถึงได้ดึงดูดสายตาของเธอได้มากขนาดนี้กัน

"ไปกินข้าวก่อน"
แทงกูช้อนร่างของทิฟฟานี่ขึ้นมาจาเตียงอย่างง่ายดาย มือเรียวตวัดโอบรอยลำคอของร่างเล็กไว้อย่างรวดเร็ว
เพราะแทงกูไม่ให้เวลาเธอได้ตั้งตัวเลย แต่พอตั้งตัวได้มือเรียวข้างนึงก็เลื่อนไปลูบไล้เนินอกขาวซีดที่โผล่พ้นบราสำเข้มนั้นอย่างเย้ายวน
เพราะแทงกูก็ไม่ได้รูดซิบกลับขึ้นมาราวกับตั้งใจจะยั่วทิฟฟานี่อย่างนั้นแหละ



.



แทงกูอุ้มทิฟฟานี่มาจนถึงห้องของตัวเอง เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าร่างสูงนอนแผ่อยู่กลางเตียงโดยมีเจสสิก้านอนอยู่ข้างๆ

"สิก้า! ทำอะไรยุนอาห๊ะ จะยั่วเด็กชั้นหรือไง"
แทงกูเดินจ้ำอ้าวเข้าไปชิดริมเตียงพลางวางร่างของทิฟฟานี่ลงบนเตียงนุ่ม
ที่มีร่างของเจสสิก้าที่ยังนอนมองหน้าแทงกูอยู่อย่างนั้น ราวกับเมื่อครู่แทงกูไม่ได้แซะตัวเองอยู่นั่นแหละ
กับยุนอาที่ขยับยันกายขึ้นนั่งพลางเอื้อมมื้อออกมารูดซิบเสื้อของแทงกูขึ้นตามเดิม

"แหม ทำไมถ้าชั้นจะยั่วยุนแล้วไง เธอยังอุ้มฟานี่มาได้เลย"
เจสสิก้าทำเสียงขึ้นจมูกอย่างหมั่นไส้ แหม๊~ ทำมาเป็นหวงยุนอากับเธอนะ
ตัวเองนี้อุ้มทิฟฟานี่มาหน้าตาเฉยแถมเสื้อนี่ก็...ไม่ค่อยจะชวนให้คิดเลย
ทั้งที่ก็ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่แทงกูจะต้องอุ้มทิฟฟานี่มาเลยด้วยซ้ำ แต่คนตัวเล็กก็ทำ

"ก็อุ้มมากินข้าวด้วยกัน"
แทงกูเลิกคิ้วตอบก่อนจะนั่งลงข้างยุนอา เอียงศีรษะพิงซบอย่างออดอ้อน ยุนอาก็เลื่อนมือเรียวมาโอบเอวร่างเล็กไว้
คือจริงๆแล้วยุนอาก็แอบหึงแทงกูอยู่ลึกๆนั่นแหละที่เห็นอุ้มทิฟฟานี่มาในสภาพแบบนั้น เพราะทิฟฟานี่ก็ใส่เพียงแค่ชุดคลุมวาบหวิวอย่างนั้น
แถมมือไม้นี่แทบจะล่วงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แล้วแทงกูนี่ก็ช่างจะขี้อ่อยเหลือเกิน
ถึงยุนอาจะรู้ว่ายังไงซะแทงกูกับทิฟฟานี่ก็เคยมีอะไรกันมาบ่อยครั้ง แต่ก็นะ ในเมื่อแทงกูเป็นของยุนอาแล้วนี่ เธอก็มีสิทธ์ที่จะหึงหวงแทงกูได้อยู่แล้ว
ถึงแม้ว่ายุนอาจะไม่ได้แสดงออกมาอะไรมากมายว่าหึงหวงแต่อย่างน้อยก็ขอโอบเอวแสดงความเป็นเจ้าของหน่อยแล้วกัน
ซึ่งปฏิกิริยาแบบนั้นของยุนอาทำให้แทงกูเผยรอยยิ้มออกมาก่อนจะหันไปจุ๊บแก้มนุ่มๆของเด็กน้อยที่น่ารักเป็นรางวัลว่าเธอชอบการกระทำของเค้าแบบนี้ไม่น้อยเลย

ทิฟฟานี่ระบายลมหายใจออกมาเบาๆอย่างห้ามไม่ได้ ก็ดูแทงกูทำสิ ยั่วเธอจูบเธอ แต่สุดท้ายก็ไปนั่งให้ยุนอากอดแถมยังจุ๊บแก้มเด็กร่างสูงอีก
ทั้งๆที่แทงกูก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเธอน่ะคิดมากแล้วก็ขึ้หึงมากแค่ไหน แต่ก็อย่างว่าแหละแทงกูเป็นของยุนอาไปแล้วนี่ แล้วทิฟฟานี่จะทำอะไรได้ล่ะ
ในเมื่อเธอก็แค่เป็นของแทงกู แทงกูไม่ได้เป็นของเธอสักหน่อยนี่

"งั้นเราก็ไปกินข้าวกันได้แล้วล่ะ"
เจสสิก้าตัดบทพลางลุกขึ้นก้าวลงจากเตียง ระบายลมหายใจออกมาอย่างเนือยๆ ให้กับความสัมพันธ์ของทั้งสามคน
นี่ยังดีนะว่าเธอทำใจเรื่องทิฟฟานี่ได้แล้ว ไม่งั้นคงจะแย่ยิ่งกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า เพราะแค่นี้คนที่รู้ทุกอย่าง อย่างเธอก็แทบจะทำอะไรไม่ถูกแล้ว
มือบางคว้ามือเรียวของทิฟฟานี่ให้ลุกขึ้นด้วยกัน แล้วพาคนสวยหน้าหวานนั้นไปเปลี่ยนชุดก่อนจะเดินไปยังประตูไม้บานโต
และนั่นก็ทำให้แทงกูและยุนอาลุกขึ้นเดินตามมา



"หึ๊ม? แทงกู นี่เธอจะพามาให้หมดสต๊อกเลยมั้ย?"
เมื่อทั้งสี่เดินมาจนถึงห้องอาหารขนาดใหญ่ในคฤหาสน์ ที่มีโบอานั่งอยู่กับฮยอนซึงและคริสตัลนั้น
คนตัวเล็กก็โดนคุณพี่สาวตัวดีจิกแขวะทันทีด้วยความหมั่นไส้ แต่แทงกูก็ตอบรับไปด้วยการไหวไหล่อย่ากวนๆ

โบอาเบนสายตาไปมองยังร่างสูงที่เดินมาเคียงข้างแทงกู อย่างพินิจพิจารณา แน่นอนว่าเธอรู้จักยุนอาอยู่แล้ว
แต่ก็แค่รู้จักผิวเผินเพราะไม่ได้สนิทอะไรด้วยนัก ส่วนมากก็จะได้ยินชื่อของยุนอาจากปากของเจสสิก้าและแทยอนไม่ก็แทงกู
ที่ปรกติจะมาเล่านู่นนั่นนี่ให้ฟังหรือขอคำปรึกษา ใช่แล้วและนั่นก็ทำให้โบอารู้สึกสนใจกับการได้พบยุนอาในคฤหาสน์แบบนี้เป็นพิเศษ

บทสนทนาบนโต๊ะอาหารยังคงถูกหยิบยื่นให้ผู้ร่วมโต๊ะอยู่เรื่อยๆ ...


.



"ฟานี่คืนนี้นอนห้องชั้นก็ได้ จะได้ไม่ต้องนอนในแล็บคนเดียว ชั้นเป็นห่วง"
เจสสิก้าเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะเธอเกรงว่าทิฟฟานี่จะเป็นแบบวันนี้อีก
ก็เลยคิดว่าให้ทิฟฟานี่อยู่ใกล้ๆเธอน่าจะดีกว่า อีกอย่างแทงกูก็คงต้องเทคแคร์เด็กมันด้วย เล่นเอาเด็กมานอนคฤหาสน์แบบนี้
ไม่โดนโบอาสวดยับก็ดีแค่ไหนแล้ว และดูสินี่ขนาดยังไม่เข้าห้องนะร่างเล็กก็ยังนั่งเอียงซบจนแทนจะกระโดดไปนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับยุนอาแล้วนั่น

ทิฟฟานี่พยักหน้ารับอย่างไม่ขัดขืน เพราะเธอเองก็ไม่ชอบนอนในแล็บคนเดียวเหมือนกัน
อาจเป็นเพราะปรกติแล้วทิฟฟานี่ไม่ค่อยจะได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสด้วย ถึงได้ไม่คุ้นชินและไม่ชอบการนอนรักษาตัวในแล็บ
แม้ว่าลึกๆจะอยากนอนกับแทงกูแต่ดูแล้วคืนนี้เธอคงจะโดนเมินแล้วล่ะ


เมื่อแยกย้ายกันเข้าห้องแล้ว ทิฟฟานี่ก็ออกจะดูเกร็งๆอยู่หน่อย ไม่ใช่เพราะต้องนอนกับเจสสิก้าที่เคยมีสัมพันธ์กัน
แต่เป็นเพราะมีน้องสาวของเจสสิก้านอนด้วยต่างหากล่ะ ด้วยความไม่คุ้นชินแถมทิฟฟานี่เองก็ไม่ได้สนิทอะไรกับคริสตัลสักเท่าไร
แค่รู้ว่าชื่ออะไรเป็นใครเท่านั้นเองแถมยังแทบจะไม่เคยคุยกันเลยด้วย จากที่เคยเจอกันมาไม่กี่ครั้ง
ทำให้ทิฟฟานี่รู้สึกว่าคริสตัลเป็นคนนิ่งๆเงียบๆ ไม่ค่อยสนใจอะไรรอบข้างสักเท่าไร

และยิ่งตอนที่รอเจสสิก้าอาบน้ำแบบนี้... ซึ่งทิฟฟานี่ก็จำเป็นจะต้องอยู่กับคริสตัลเพียงสองคนบนเตียงขนาดคิงไซต์
แต่ดูเหมือนกับว่าคนอายุน้อยกว่านั้นจะทำราวกับว่าเธอเป็นอากาศธาตุไปเสียแล้ว
เพราะสาวเจ้าเอาแต่นอนเล่นเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมนั่นแถมใส่หูฟังอีกต่างหาก แต่เป็นแบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ

จนในที่สุดเจสสิก้าก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับกลิ่นหอมๆ ที่ทำให้ทิฟฟานี่นึกถึงช่วงเวลาที่เธอและเจสสิก้านั้นคบกัน
จนถึงตอนนี้ทิฟฟานี่ก็รู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาดีๆในความทรงจำเลยล่ะ

"มองอะไร หรืออยากกลับมากินชั้นเหรอ คนสวย"
เจสสิก้าเอ่ยเชิงแซวเมื่อเห็นว่าดวงตาสีเงินเงานั้นเอาแต่จับจับใบหน้าและร่างกายของเธออยู่ตั้งแต่ก้าวพ้นประตูห้องน้ำออกมา
ก่อนจะเหลือบไปมองน้องสาวตัวเองและส่ายหน้าออกมาอย่างเสียไม่ได้ คริสตัลคงจะยังเคืองทิฟฟานี่เรื่องเธออยู่สินะ
ถึงได้แสดงท่าทางราวกับว่ามีเพียงร่างสูงนั้นที่อยู่บนเตียงเพียงคนเดียว
แต่ก็เอาเถอะก็ยังดีที่ไม่หาเรื่องทะเลาะกัน

ร่างบางคลานขึ้นเตียงตรงไปยังร่างเพรียวที่ยังคงจ้องเธอไม่ละสายตา บนเรียวหน้าสวยหวานนั้นระบายไปด้วยรอยยิ้มละลาย
ที่เจสสิก้าเห็นมันกี่ครั้งก็รู้สึกวูบวาบในกายทุกครั้ง
ทิฟฟานี่นิ่งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกคนคลานเข้ามาช้าๆ คอเสื้อที่คว้านจนกว้างนั้นพาให้เห็นไปถึงไหนต่อไหน
ร่างเพรียวกลืนน้ำลายเอื๊อกทันทีที่เลื่อนสายต่ำลงไปยังจุดที่มันดึงดูดชวนให้มอง โอ้ว...คนสวยโนบรา...
นี่เจสสิก้าคิดจะยั่วเธอหรืออะไร เพราะดวงหน้าสวยเฉี่ยวนั้นก็ยังเอาแต่ยกยิ้มยั่วอยู่แบบนั้น
จนในที่สุดเจสสิก้าก็ขึ้นมานั่งคร่อมตักทิฟฟานี่พร้อมกับใช่สองแขนเรียวโอรอบลำคอคนหน้าหวานเอาไว้
ก่อนจะโน้มเรียวหน้าเข้าไปประกบจูบยังริมฝีปากอวบอิ่มนั้นอย่างเย้ายวน จนทิฟฟานี่เผยอกลีบปากจูบตอบกลับมา
มือเรียวยกขึ้นประคองเอวบางไว้หลวมๆ ทิฟฟานี่ไม่ปฏิเสธเลยว่าการจูบกับเจสสิก้าน่ะมันรู้สึกดีมากแค่ไหน
หรืออาจเป็นเพราะสกิลของเจสสิก้าด้วยหรือเปล่าทิฟฟานี่เองก็ยังไม่แน่ใจ

แต่ทิฟฟานี่ก็เลือกที่จะผละจูบออกมาสบตาเข้ากับสายตาเย้ายวนนั้น ทิฟฟานี่ก็ไม่รู้ว่าเจสสิก้าจะทำแบบนี้เพื่ออะไร
แต่ทุกอย่างมันฟ้องว่าเจสสิก้ากำลังยั่วเธอ และเธอก็ความอดทนต่ำเสียด้วยสิ

"อย่าทำแบบนี้เลยเจสซี่ น้องเธอก็นอนอยู่นั่น"
ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงแผ่วเบาจนแทบกลายเป็นกระซิบ เพราะเกรงว่าบุคคลที่ถูกพาดพิงนั่นจะได้ยินเข้า

"ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ตัลไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ใช่มั้ยคริสตัล"
เจสสิก้าตอบเสียงปรกติติดจะดังขึ้นหน่อยตรงท้ายประโยคเพื่อให้ร่างสูงที่นอนใส่หูฟังอยู่นั้นได้ยิน
คริสตัลพลิกตัวหันมาเลิกคิ้วเชิงถามว่ามีอะไร เรียกเธอหรือ มือเรียวก็ยกขึ้นมาดึงหูฟังออกข้างนึงเพื่อจะรอฟังพี่สาวตัวแสบนั้นพูดต่อ
เห็นแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้จริงๆเลยดูทำเข้าสิ แหมตอนยังทำใจไม่ได้นี่ซึมเป็นแมวโดนยาเบื่อ แล้วดูตอนนี้สิ...

"ชั้นเอากับฟานี่ได้ใช่ป๊ะ"
ทิฟฟานี่เบิกตาโพร่งทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นจากปากของเจสสิก้าที่ดูเหมือนจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
และหน้าของคริสตัลก็ยังคงเรียบนิ่งอยู่อย่างเดิม นี่คนในคฤหาสน์นี่เค้าเป็นเหมือนกันหมดหรือไงกัน

"ตามสบาย แต่อย่าให้ใครเดือดร้อนอีกล่ะ"
คริสตัลพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะยัดหูฟังกลับเข้าที่เดิมพลางพลิกตัวหันไปอีกทาง จริงๆก็เป็นห่วงเจสสิก้าอยู่หรอก
เพราะคริสตัลเองก็ไม่รู้ว่าถ้าเจสสิก้ามีอะไรกับคนอื่นนอกจากแทงกูจะเป็นอะไรไปอีกหรือเปล่า
แน่นอนว่าเพราะคริสตัลเองก็รู้เรื่องในอดีตของเจสสิก้าและแทงกูเช่นกัน


"ไม่ได้!"
เสียงบุคคลที่สี่ดังขึ้นพาให้ทั้งสามคนที่บนเตียงต้องหันไปมองตามเสียงนั้น
เจสสิก้ากระชับกอดลำคอทิฟฟานี่ไว้แน่นราวกับจะบอกว่าเธอไม่ยอมปล่อยร่างเพรียวนี้ง่ายๆหรอกนะ
แม้ว่าทิฟฟานี่จะละมือออกไปจากเอวของเธอแล้วก็ตาม
พลางหันไปจิกแขวะเพื่อนตัวเล็กที่อยู่ในชุดซีทูสีดำตัวจิ๋ว แหมไม่ค่อยจะอ่อย
"จะมาทำไม ไปสนใจเด็กของเธอนู่น"

แทงกูเดินจ้ำอ้าวไปหยุดอยู่ริมเตียงที่มีเจสสิก้านั่งคร่อมตักและกอดทิฟฟานี่ไว้แน่น
แต่นั่นไม่ได้ยากอะไรเลยสำหรับแทงกูที่จะแกะ(แงะ?)เจสสิก้าออกมาจะร่างเพรียวของทิฟฟานี่ และแทงกูก็อุ้มเจสสิก้าขึ้นมาอย่าง่ายดาย
ร่างบางยู่ปากพลางสะบัดหนีไปทางอื่นอย่างงอนๆ เชอะทีแทงกูน่ะทำได้ แล้วทำไมเธอจะทำมั่งมันจะเป็นไร

"ก็มาแล้วนี่ไง"
แทงกูพูดเสียงอ่อน เจสสิก้าเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถสะบัดหน้าหนีแทงกูได้ โดยร่างเล็กนั้นไม่เดือดพร่าน
แถมยังยอมง้ออย่างอ่อนโยนแบบนี้

"มาแล้วไง จะมาเอาใคร หรือแค่ห้ามเพราะหวงใคร?"
เจสสิก้ายังคงสะบัดเสียงใส่คนที่อุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด ถามว่าน้อยใจแทงกูไหมก็น้อยใจนะ แต่มันหมั่นไส้มากกว่า
และประโยคนั้นของเจสสิก้าก็ทำให้ทิฟฟานี่ถึงกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ แม้จะรู้ว่าเจสสิก้าแค่แซะแทงกูเล่นไปอย่างนั้น
แต่ทิฟฟานี่ก็ไม่สามารถที่จะไม่รู้สึกอะไรกับคำว่า มาเอาใคร กับ เพราะหวงใคร ของเจสสิก้าได้เลยจริงๆ
ถ้าคิดเข้าข้างตัวเองคำตอบก็คงเป็นทิฟฟานี่ แต่ถ้าความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นล่ะ

"ไม่เอาน่าสิก้า อย่างอแงสิ"
ว่าพลางวางร่างบางลงกับเตียงอย่างเบามือแล้วโน้มตัวตามไป เท้าแขนสองข้างขนาบร่างบางไว้
นัยน์เนตรสีฟ้าครามนั้นเอาแต่จับจ้องใบหน้าสวยระยะประชิด แม้ว่าเจสสิก้าจะยังไม่หันมาสบตากัน
แต่แทงกูก็ใช้ปลายจมูกโด่งรั้นสะกิดเบาๆที่ข้างแก้มนุ่มอย่างออดอ้อน

"พวกพี่ก็สามพีกันไปเลยจะได้จบๆ"
สุดท้ายคริสตัลก็ทนดูเจสสิก้ากับแทงกูเล่นพ่อแง่แม่งอนกันต่อไปไม่ไหว คือเรียกว่าเห็นจนเบื่อน่าจะดีกว่า

"หึ๊ม? เป็นความคิดที่ดีนะ แต่ตัลก็รู้ว่าพี่ชอบเอาทีละคน"
พูดจบปุ๊บใบหน้าขาวซีดหน้าก็แทบหงาย เพราะแรงผลักจากมือบางที่มาอย่างไม่ตั้งตัวนั้น

"กลับห้องไปได้แล้วแทง เดี๋ยวยุนรอนาน"
เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีใครอีกคนรอร่างเล็กอยู่เจสสิก้าจึงเอ่ยออกไปแบบนั้น
ไม่อยากให้คนดีๆอย่างยุนอาต้องมารู้สึกแย่กับคนอย่างแทงกูไปมากว่านี้สักเท่าไร

"จูบหน่อยสิ"
แทงกูเปลี่ยนเป็นยื่นหน้าไปหาทิฟฟานี่ที่ยังนั่งเอ๋อรับประทานอยู่นั่น ที่จู่ๆร่างเล็กก็มาทำแบบนี้ จะไม่ให้เอ๋อได้ไงล่ะ
มือเล็กรั้งคอคนที่เอาแต่นั่งนิ่งอยู่นั้นมาประกบจูบโดยไม่ต้องรอคำตอบจากร่างเพรียว
เมื่อรู้สึกถึงแรงดูดดุนที่ริมฝีปากล่างทิฟฟานี่ก็ขยับจูบตอบแทงกูไปทันทีที่ดึงสติกลับมาได้

เมื่อรสจูบเริ่มหนักหน่วงขึ้นอุ้งมือขาวซีดนั้นก็เลื่อนต่ำลงมาจากลำคอของอีกฝ่ายมายังเนินอก
กอบกุมมันไว้พลางออกแรงนวดคลึงอย่างปลุกเร้า
สองแขนเรียวของทิฟฟานี่ก็วาดโอบรอบคอร่างเล็ก เพื่อให้แทงกูนั้นแนบชิดเข้ามาอีก



"เอากันเลยมั้ย"
นั่งดูแทงกูกับทิฟฟานี่จูบกันอยู่หลายอึดใจ สุดท้ายเจสสิก้าก็ทนไม่ไหวจนต้องจิกแขวะออกไปแบบนั้น
แล้วมันก็ได้ผลเมื่อสองคนนั้นผละจูบออกมา
แทงกูหันไปเลิกคิ้วใส่ดวงหน้าสวยของเพื่อนรัก ก่อนจะเอ่ยเสียงพร่า

"ก็ดีนะ อารมณ์กำลังได้เลย"
ไม่พูดเปล่าแทงกูหันกลับไปซุกไซร้ซอกคอของทิฟฟานี่อย่างหนักหน่วง
ราวกับจะย้ำให้เจสสิก้านั้นมั่นใจว่าแทงกูนั้นอยากจะทำอย่างที่โดนจิกแขวะนั้นจริงๆ

"ไอ้หื่นแทง! กลับไปนอนห้องตัวเองเลยนะย๊ะ"
เจสสิก้าโวยวายพลางดึงไหล่เล็กของแทงกูให้ผละออกมาจากร่างของทิฟฟานี่
แต่ด้วยความที่เป็นแทงกูแล้วก็มักจะกวนอารมณ์เสมอ ร่างเล็กเปลี่ยนเป้าหมายมากดเจสสิก้าลงกับเตียงนุ่ม
ใบหน้าขาวซีดโน้มต่ำลงไปจนปลายจมูกสัมผัสกัน ดวงเนตรสีครามสบเข้านัยต์ตาสีน้ำตาลเข้มของเจสสิก้าอย่างมีความหมาย

"หรือจะให้ชั้นเอาเธอดีล่ะสิก้า~"
กระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปาก แล้วประทับจูบลงไปเบาๆ
ให้คนที่เห็นอย่างทิฟฟานี่ต้องขมวดคิ้วแน่น คืออะไร? สองคนนี้มีอะไรมากกว่าการจูบรักษาบาดแผลหรือไงกัน
เจสสิก้าดันไหล่ของแทงกูเชิงปราม เพราะตอนนี้ในห้องมีทิฟฟานี่ที่ไม่รู้เรื่องระหว่างเราอยู่ด้วย และเจสสิก้าเองก็ไม่ต้องการให้ใครรู้ไปมากกว่านี้แล้ว
แทงกูผละขึ้นมาตามแรงดันเบาๆนั้นอย่างว่าง่าย ก่อนจะหันไปเห็นเครื่องหมายคำถามที่อยู่บนดวงหน้าหวาน

"ทำหน้าอะไรแบบนั้น พวกชั้นก็แค่เล่นกันเฉยๆ"
แทงกูตอบปัดไปอย่างนั้นเพราะดูท่าแล้วทิฟฟานี่ต้องคิดมากแน่นอน ก็เลยจำเป็นต้องแก้ตัวไปก่อน
เจสสิก้ายันกายลุกขึ้นนั่งพลางหันไปมองหน้าแทงกูที่จ้องทิฟหานี่ราวกับจับกลืนกิน
แล้วก็ต้องระบายลมหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยอย่างเนือยๆ

"จะทำอะไรก็ทำแล้วกันแต่อย่าให้อาการของฟานี่ทรุดล่ะ"

สุดท้ายเจสสิก้าก็ต้องยอมแทงกูอีกอยู่ดี ก็ดูสายตาสีครามนั่นสิ เธอดูออกว่าตอนนี้แทงกูอยากครอบครองทิฟฟานี่มากแค่ไหน
เห็นแบบนั้นแล้วเธอก็คงจะไม่ใจร้ายด้วยการห้ามปรามต่อไป แม้จะยังห่วงอาการของทิฟฟานี่อยู่บ้างก็เถอะ
แทงกูยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาทันทีที่ได้รับคำอนุญาติจากเจสสิก้า ก่อนจะหันไปถามทิฟฟานี่ ให้คนถูกถามนั้นต้องปรับสีหน้าไม่ถูก

"จะให้เอาบนเตียงหรือจะไปในห้องน้ำ"
ทิฟฟานี่อ้าปากค้างกับคำถามนั้นของแทงกู คือแบบในสมองเธอมันตอบไปทันควันเลยว่าในห้องน้ำสิ
แต่ที่ทำให้ทิฟฟานี่นิ่งค้างอยู่แบบนี้ก็คือ นี่แทงกูคิดจะมีอะไรกับเธอทั้งๆที่มีเจสสิก้าและคริสตัลอยู่ด้วยแบบนี้อ่ะนะ??
พอมาคิดดูดีๆ เหมือนทั้งสามคนนั้นก็ไม่ได้จะซีเรียสอะไรกับเรื่องนั้นสักเท่าไรเลยนี่เนอะ
ก็เลยกลายเป็นทิฟฟานี่นั่นแหละที่ซีเรียส ถึงแม้ว่าปรกติจะเป็นไม่แคร์สายตาใคร
ที่ผ่านมาก็ไม่เคยแคร์ว่าจะมีข่าวกับแทงกูไปในด้านในไหน แต่การที่จะมีอะไรกันแบบที่มีคนอื่นอยู่ในเหตุการณ์ด้วยนี่ก็...
ทิฟฟานี่ขอยอมแพ้ดีกว่า ถึงแม้ว่าเธอจะเคยมีอะไรกับเจสสิก้าแล้วก็เถอะนะ

สุดท้ายก็มาจบลงในห้องห้องจนได้ ในขณะที่ทั้งสองโรมรันกันด้วยอารมณ์วาบหวาม
ร่างบางที่ยืนพิงประตูก็วาดแขนเรียวโอบรอบคออีกคนให้เแนบชิดกายเข้ามา
แทงกูก็เอ่ยขึ้นเสียงพร่าทั้งที่ยังซุกไซร้ซอกคอของทิฟฟานี่อยู่อย่างนั้น
"ถ้าเหนื่อยต้องบอกนะ ร่างกายเธอยังไม่สมบูรณ์ดี ห้ามฝืนเข้าใจใช่มั้ย"

ทิฟฟานี่ครางรับเบาๆ ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ร่างกายตัวเองนี่ แล้วปรกติก็ไม่เคยฝืน
เพราะที่เคยให้แทงกูไปนั่นมันก็ไม่เคยถึงครึ่งของพลังงานในร่างกายเธอเลยจริงๆ
จะเว้นก็แต่วันที่นองเลือดนั้นแหละที่รู้สึกว่าไม่ไหวจนไม่อยากขยับ ไม่ใช่เพราะเหนื่อยแต่เพราะความเจ็บปวดต่างหากล่ะ

มือเรียวลูบไล้ลำคอของคนตัวเล็กกว่าเนิบนาบเย้ายวน พลางเลื่อนต่ำลงมายังเนินอกที่โผล่พ้นซีทรูตัวบาง
แทงกูเลื่อนมือเล็กไปไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ทิฟฟานี่สวมใส่อยู่อย่างรีบร้อน
ราวกับว่าร่างเล็กนั้นหมดความอดทนกับความต้องการของตัวเอง

"อ๊ะ~ ทำไมวันนี้คุณดูใจร้อนจังคะ"

ทิฟฟานี่ครางเสียงสั่น ความหนักหน่วงที่ยอดอกของเธอนั้นพาให้ความกระสันเสียวแล่นไปมาในร่างกาย
ดวงตาสีเงาวูบไหวหยาดเยิ้มหลุบลงสบกับนัยน์ตาสีฟ้าครามที่ตวัดขึ้นมามองหน้าเธอ
ความร้อนแรงที่ถูกส่งผ่านสายตาพร้อมกับความหลงใหลนั้น
ทำให้แทงกูดูหื่นกระหายในกายเธอเหลือเกิน

แทงกูผละกลีบปากออกจากยอดอกสีสวยที่ชูชันเลื่อนกลับขึ้นไปประกบจูบยังกลีบปากอวบอิ่มดูดดุนอย่างหนักหน่วง
พร้อมกับมือเล็กที่ลูบไล้ต่ำลงไปผ่านหน้าท้องแบนราบก่อนจะสอดเข้าไปภายในกางเกงตัวจิ๋วที่ร่างเพรียวนั้นสวมใส่อยู่

"แปลกหรือไง ที่ชั้นอยากเอาเธอจนแทบคลั่ง"

ทิฟฟานี่ยกยิ้มยั่วทันทีที่ได้ยินแทงกูกระซิบชิดริมฝีปากอย่างนั้น
เรียวลิ้นของร่างเล็กถูกส่งออกมาเลียออกไปไล้เลียส่วนอ่อนนุ่มตรงหน้า จนรู้สึกได้ถึงแรงดูดดุน
ทิฟฟานี่ครอบครองเรียวลิ้นของแทงกูไว้ในช่องปาก พลางตวัดส่วนเดียวกันเกี่ยวพันอย่างเย้ายวน

เสียงครางในลำคอดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อส่วนล่างนั้นถูกรุกล้ำ แทงกูสอดเรียวนิ้วเข้าไปในช่องทางร้อนที่ฉ่ำเยิ้ม
ก่อนจะขยับชักเข้าออก ให้กายบางของทิฟฟานี่นั้นสั่นสะท้าน เพราะจังหวะหนักหน่วงเร่าร้อนแบบนั้น


.


"หึ้ม? จะทำอะไร พอได้แล้ว เธอควรพักผ่อน"
แทงกูเลิกคิ้วเอ่ยเสียงอ่อนหลังจากบทรักเร่าร้อนนั้นจบไปเพียงสองสามรอบ ซึ่งปรกติแล้วมันยังน้อยมากสำหรับเธอและทิฟฟานี่
แต่เมื่อสาวเจ้าทำท่าเหมือนจะยั่วเธออีก ร่างเล็กจึงต้องรีบเอ่ยปราม ก่อนที่เธอเองจะทนไม่ไหว

"คุณขี้โกงอ่ะ ชั้นยังไม่ได้กินคุณเลยนะ แทงกู"
ทิฟฟานี่ออดอ้อนแกมยั่วเย้า ก็แค่อยากแตะต้องคนตัวเล็กนี้บ้าง
ถึงแม้ว่าตอนนี้ร่างกายของเราจะเปลือยเปล่าทั้งคู่ แต่แทงกูก็ทำให้เธออยู่ฝ่ายเดียว อย่างที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น
แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้ทิฟฟานี่ถึงได้รู้สึกว่าอยากจะครอบครองแทงกูมากขนาดนี้

"จะกินชั้นเนี่ย ไม่ได้แปลว่าชั้นจะไม่เป็นของยุนอานะ"
แทงกูรู้สึกว่าการที่จู่ๆทิฟฟานี่มาเรียกร้องแบบนี้ซึ่งปรกติจะไม่มี นั่นอาจเป็นเพราะเค้ารู้สึกว่าอยากจะครอบครองเธอ
แต่ถ้าถามว่าก่อนหน้านี้ทิฟฟานี่เคยทำไหม แน่นนอนทิฟฟานี่เคยทำ เคยเป็นผู้ครอบครองแทงกู
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าแทงกูจะต้องเป็นของทิฟฟานี่ ก็แค่การปลดปล่อยอารมณ์
แต่การที่จะเป็นของใครนั้นเกิดจากความต้องการทางความคิดความรู้สึก ว่าอยากจะเป็นของใคร

ทิฟฟานี่เผยรอยยิ้มบางๆออกมา เธอรู้ดีอยู่แล้วถึงแทงกูจะไม่ตอกย้ำแบบนั้นเธอก็รู้ดีว่าเค้าไม่ได้ยอมเป็นของใครง่ายๆ
ร่างบางย่อตัวลงคุกเข่าตรงหน้าร่างเล็กเพื่อให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับหว่างขาของแทงกู
มือเรียวสองข้างยกขึ้นรั้งบั้นท้ายงอนงามนั้นเข้ามาให้แนบชิด
ประทับจูบเข้ากับเนินเนื้อขาวซีดตรงกลาง ก่อนจะส่งเรียวลิ้นออกมาลากไล้ต่ำลงไป

แทงกูเห็นอย่างนั้นแล้วก็ยกยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้
ก่อนจะเชิดใบหน้าขึ้นเปล่งเสียงครางหวานหูออกมาอย่างพึงพอใจ ทั้งเรียวขาที่แยกออกจากกันมากขึ้นเพื่อรับสัมผัส
เรียวลิ้นที่ตวัดเลียกลีบเนื้อฉ่ำเยิ้มนั้นสร้างความวาบหวามได้ไม่น้อย และยิ่งเวลาที่ทิฟฟานี่ดูดดุนชิ้นเนื้อที่บวมเปล่งนั้น
ร่างเล็กก็ถึงกับเกร็งสั่นครางเสียงกระเส่าออกมา แม้จะไร้การรุกล้ำภายในแต่แทงกูก็พึงพอใจในระดับนึงเลยล่ะ

"อาห์ ทิฟฟานี่~"



.



"นึกว่าจะอยู่ในห้องน้ำยันเช้าซะอีก"
เจสสิก้าจิกแขวะทันทีที่ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกแล้วทั้งสองร่างที่อยู่ภายในก็ก้าวออกมา
ถึงจะในห้องน้ำก็เถอะนะ แต่เสียงเนี่ย...เอิ่ม เจสสิก้าได้ยินแทบจะทุกประโยคเลยจ้า ไม่เห็นก็เหมือนเห็น

"ถ้าทิฟฟานี่หายดีแล้วก็คงจะเป็นอย่างนั้น"
แทงกูพูดพลางหันไปประทับจูบกับทิฟฟานี่อีกครั้ง ก่อนจะเดินมาจุ๊บแก้มเพื่อนสาวปากร้าย
พร้อมกับกระซิบเสียงพร่าเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน
"จริงๆคืนนี้ชั้นอยากเอาเธอมากกว่า"

เจสสิก้าได้ยินอย่างนั้นก็จัดการฟาดไหล่เล็กนั้นไปอย่างไม่หวงแรง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แทงกูสะทกสะท้านอะไรได้
แหมพูดมาได้เนอะอยากมีอะไรกับเธอมากกว่ากับทิฟฟานี่น่ะ ต่อให้แทงกูพูดมันทุกวันเช้ากลางเย็นเจสสิก้าก็ไม่มีทางเซื่อหรอก

"ตอแหลที่สุด"

แทงกูหัวเราคิกคักก่อนจะเดินออกจากห้องของเจสสิก้ามา จริงๆก็เกลียดตัวเองนะที่เป็นคนแบบนี้
เพราะเมื่อครู่นั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีอะไรกับเจสสิก้า ก็อยากจูบอยากกอด อยากครอบครองเหมือนทุกที
แต่เพราะมีทิฟฟานี่อยู่ด้วยจึงทำได้เพียงแค่จุ๊บแก้มไปเท่านั้น







----------------------------------------------------------------------------------



From Writer...


ฮ่อยยย~ จะมาอัพหลายวันแล้วแต่ก็มัวตามรูปตามคลิปสาวๆอยู่ งิงิ
แชปนี้ไม่มีไรมาก เอาใจแม่ยกแทงทิฟนิสนุง ด้วยเอ็นซีเบาๆสั้นๆ 
แฮ่เดี๋ยวฟานี่นางไม่หายสักที เอิ๊กสสส

ส่วนแทงสิคสัมหรับเรื่องนี้จริงๆแล้วไม่ได้เน้นไปทางหื่นเท่าไรอยู่แล้ว
แต่จะเน้นไปในด้านความรู้สึกที่ลึกซึ้งมากกว่าเนอะ 
เพราะงั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าจะหาเอ็นซีแทงสิคในเรื่องนี้ไม่เจอ 5555

จริงๆแล้วมันมียุนแทงต่อแหละแต่ว่าเดี๋ยวมันจะยาวไป
เอาไว้ยกยอดไปแชปหน้าแล้วกันเนอะ งิงิ

แชปนี้ไม่งงเนอะ เอ๊ะหรืองง -3-
เพราะเรามองหาอะไรที่น่าจะต้องขยายความแล้วไม่เจอง่ะ 



ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร
แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่



ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา

No comments:

Post a Comment