Sunday, July 6, 2014

۞ Amulet Classic ۞ [Chapter XXXVI]

Chapter XXXVI [FullVer.]



*สีเทาคือเล่าย้อนไปในอดีต


-Taengoo-


"วันนี้ยุนดูเหนื่อยมากนะ"
น้ำเสียงอบอุ่นถูกเปล่งออกมาเพียงแผ่วเบา พลางเอื้อมมือเรียวเล็กไปลูบไล้ดวงหน้าที่ดูดีแม้ยามเหนื่อยล้าเช่นนี้
แทงกูมองร่างสูงอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกของตัวเองแม้แต่น้อย ว่าเธอเป็นห่วงยุนอามากแค่ไหน หลังจากที่นั่งอยู่ข้างๆยุนอาตลอดระยะเวลาในการแข่ง
ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้จะไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมายแต่อย่างไรเสียยุนอาก็ยังต้องใช้สมาธิในการบังคับคันรถที่แล่นด้วยความเร็วสูงบนเส้นทางคดเคี้ยว
และแทงกูก็คิดว่ายุนอาอาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอด้วยแหละ
เพราะหกวันที่ผ่านมาถึงจะแข่งเสร็จแล้วแต่ยุนอาก็ยังคงนั่งแช่อยู่กับเธอจนดึกดื่นหรือบางคืนก็เกือบสว่าง
อย่างเมื่อคืนเนี่ยก็ชวนกันไปขับรถเล่นกันต่อ โดยที่ให้ยุนอาเอารถไปเก็บที่คฤหาสน์ก่อนแล้วก็นั่งรถแทงกูออกมา ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างที่ทั้งสองคนต้องการ

"ก็นิดหน่อยค่ะ แต่ได้เห็นหน้าพี่ยุนก็รู้สึกดีขึ้นมาเยอะแล้ว อีกอย่างวันนี้ก็วันสุดท้ายแล้วด้วย..."
ยุนอาเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยสบลึกเข้านัยน์ตาสีฟ้าครามที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากมายอย่างที่ไม่เคยมีใครได้รับมันมาง่ายๆจากดวงตาคู่นี้
แต่รอยยิ้มละมุนของร่างสูงก็ต้องจางหายไปเมื่อได้เอ่ยช่วงท้ายประโยค นั่นสินะวันนี้ก็วันสุดท้ายแล้วที่ซอฮยอนวางตารางไว้ให้
และนั่นก็ทำให้ยุนอาเริ่มรู้สึกหวิวไหวเมื่อต้องคิดว่าเธออาจจะไม่ได้พบหน้าคนตัวเล็กนี้อีกง่ายๆ ความกังวนก็ตีรวนขึ้นมาในความรู้สึกทันที
เพราะร่างสูงคงลืมไปแล้วว่ายูริไม่มีทางหยุดไว้แค่นี้แน่หากพี่สาวของเธอนั้นยังไม่ได้รับข้อมูลส่วนที่เค้าต้องการ
และยุนอาเองก็คงลืมไปแล้วว่าตัวเองต้องทำอะไรเพื่อพี่สาวคนนี้บ้าง หรือยุนอาก็อาจจะลืมไปแล้วว่าตัวเองก็ไม่ควรรู้สึกอย่างนั้นกับแทงกูเช่นกัน

"เป็นอะไรไปคะเด็กน้อย~"
เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปหลายอึดใจอีกทั้งสีหน้าที่ดูวิตกกังวนนั้นทำให้ผู้พบเห็นอย่างแทงกูทนมองอยู่เพียงเท่านั้นไม่ได้
จึงต้องเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงหวานหูพลางขยับใบหน้าเข้าใกล้ใช้ปลายจมูกโด่งรั้นคลอเคลียที่ข้างแก้มนุ่ม
ของคนอายุน้อยกว่าที่เอาแต่มองไปข้างหน้าเชิงออดอ้อนและเป็นการเรียกความสนใจจากอีกฝ่ายไปด้วย

"อ่ะ...อื้มม~"
ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่ออีกเพียงแค่หันหน้ากลับไปหาคนข้างๆช้าๆก็โดนร่างเล็กนั้นฉวยโอกาสประกบกลีบปากเข้าที่ส่วนเดียวกันอย่างรวดเร็ว
ทำให้คำที่กำลังจะถูกพร่ำบอกออกมานั้นถูกกลืนกลับลงคอไปอย่างง่ายดาย
ยุนอาไม่ได้ปัดป้องสัมผัสนั้นจากแทงกูแม้แต่น้อย ในด้านกลับกันร่างสูงกลับขยับเรียวปากจูบตอบอีกฝ่ายไปอย่างไม่ยอมแพ้
ปลายลิ้นร้อนที่ตวัดหยอกล้อกันนั้นพาให้ยุนอาแทบลืมความเหนื่อยล้าทั้งหมดที่มีอยู่ไปได้อย่างน่าแปลกใจ

และก็ยังเป็นเช่นทุกครั้งที่ได้จูบกับคนตัวเล็กตรงหน้านี้ ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งต้องการมากขึ้นอีก
แม้ว่าในสมองจะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าไม่ควรทำอะไรแบบนี้เธอไม่ควรนอกใจและนอกกายแทยอนแบบนี้
แต่ทำไมร่างกายถึงได้ไม่ยอมเชื่อฟังความคิดจากสมองบ้างเลย กลีบปากยังคงเผยอตอบรับกันอย่างเย้ายวน
อีกทั้งมือเรียวที่เริ่มขยับไปประครองที่เอวบางของร่างเล็กอย่างลืมตัว

แต่แทงกูเองก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธแม้มือเรียวของยุนอาจะเริ่มลูบไล้ไปเรื่อยเปื่อย
หากแต่มือเล็กข้างขวานั้นกลับถูกยกขึ้นประครองในหน้าของยุนอาไว้อย่างหลงใหล และมือเล็กข้างซ้ายก็ถูกยกขึ้นโอบลำคอของร่างสูงไว้เช่นกัน
ภายในรถสปอตสีบลอนด์เงินคันหรูนั้นมีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ภายใน

แทงกูขยับกายจากเบาะคนขับเปลี่ยนไปนั่งคร่อมตักร่างสูง โดยที่กลีบปากนั้นยังคงทำหน้าที่ขยับป้อนจูบให้กับคนอายุน้อยกว่าได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
มือเรียวของยุนอาที่เคยลูบไล้อยู่แถวช่วงสะโพกมนและบั้นท้ายงอนงามนั้นก็เลื่อนกลับขึ้นมารูดซิบชุดหนังรัดรูปของร่างเล็กลงช้าๆ

ก่อนจะผละจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่งราวกับเสียดายรสจูบที่หอมหวานนั้นเหลือเกิน และจะก้มลงซุกไซ้ยังซอกคอขาวซีดของร่างเล็กเนิบนาบเย้ายวน
แทงกูเชิ่ดปลายคางขึ้นเล็กน้อยเพื่อเปิดทางให้ร่างสูงนั้นได้ทำอะไรได้สะดวกขึ้น
มือเล็กข้างขวาที่เคยประครองใบหน้าดูดีก็เลื่อนขึ้นไปสอดเรียวนิ้วเข้าใต้กลุ่มผมสีน้ำตาลธรรมชาติไว้
พร้อมกับเผยรอยยิ้มบางๆออกมาโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันเห็น รอยยิ้มที่ยากเกินจะคาดเดาว่าร่างเล็กนี้กำลังคิดอะไรอยู่
ก่อนจะปรับองศาใบหน้าให้พอเหมาะและส่งปลายลิ้นร้อนออกไปและเล็มใบหูนุ่มของอีกฝ่ายราวกับจะยั่วให้คนอายุน้อยกว่านั้นคลั่งตายเสียตอนนี้

"แทยอน~..."
ยุนอาครางออกมาเพียงแผ่วเบาราวกลับคนไม่มีสติ แต่แทงกูกลับได้ยินมันชัดเจน ทั้งที่กลีบปากยังคงคลอเคลียอยู่แถวซอกคอขาวซีด
ร่างเล็กกระตุกเรียวคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยปลายลิ้นที่เคยลากวนไปมาอยู่บริเวณใบหูก็หยุดนิ่งแตะค้างไว้แบบนั้น คล้ายว่ากำลังคิดอะไรอยู่
แต่มือเล็กที่ขยุ้มกลุ่มของอีกฝ่ายกลับออกแรงกดศีรษะเค้าเบาๆราวกับรู้ว่ายุนอาจะผละใบหน้าขึ้นมาอย่างนั้นแหละ
แต่แทงกูไม่ได้ต้องการแบบนั้นเธอต้องการให้ยุนอาทำมันต่อไป ถึงแม้ว่าร่างสูงนั้นจะครางออกมาเป็นชื่อแทยอนก็ตาม

ยุนอาขมวดคิ้วอย่างนึกหงุดหงิดตัวเองที่เผลอครางเรียกชื่อแทยอนออกไปเสียได้ แต่สัมผัสจากแทงกูนั้นก็เหมือนกันแทยอนเสียจนน่าตกใจจริงๆ
จะเงยหน้าขึ้นไปขอโทษแทงกูก็โดนเจ้าตัวกดศีรษะลงมาเสียอย่างนั้น ยุนอาจึงรับรู้ได้ว่าร่างเล็กนี้ไม่ต้องการให้เธอหยุดสัมผัสเค้า
ถึงแม้เธอจะเผลอครางเรียกชื่อแทยอนออกไปอย่างนั้น
กลีบปากเรียวไล่พรมจูบเบาบางจากลำคอเลื่อนมายังกระดูกไหปลาร้าใช้ปลายลิ้นไล้เลียอย่างออดอ้อน
ราวกับแทนคำขอโทษที่เมื่อครู่เผลอพรั้งปากออกไปด้วยความคุ้นชิน

แม้ว่าแทงกูจะตัวเล็กกว่าแทยอนอยู่ไม่น้อย
อีกทั้งผิวที่ขาวซีดนั้นบงบอกถึงความเป็นเชลล่าได้มากกว่าผิวขาวเปล่งปลั่งมีเลือดฝาดคล้ายมนุษย์ปรกติของแทยอนก็ตามที
ปลายลิ้นร้อนลากต่ำลงมาจนถึงเนื้อนุ่มช่วงเนินอกที่ถูกเจ้าของมันแอ่นขึ้นเล็กน้อยเพื่อรับสัมผัส
ยุนอาบรรจงประทับจูบผละแผ่วที่หนักแน่นด้วยความรู้สึกลงยังรอยไหม้สีนิลบนเนินเนื้อของอกข้างซ้ายที่โผล่พ้นบราเซียสีเพลิงนั้น
ราวกับตอกย้ำตัวเองว่าตอนนี้กำลังเล่นบทรักอยู่กับใคร

แทงกูครางอืมในลำคออย่างพึงพอใจในสัมผัสของยุนอาไม่ว่ายุนอาจะทำอะไรก็ถูกใจเธอไปเสียหมด
มือเล็กถูกละออกจากเรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติก่อนจะใช้มันกระชากบราเซียสีเพลิงของตัวเองออกอย่างขัดใจ
พร้อมกับโยนมันทิ้งอย่างไม่ใยดีและกลับมาสนใจร่างสูงตรงหน้าอีกครั้ง
มือเล็กข้างเดิมกระชับปลายซิบชุดหนังของอีกฝ่าย หมายจะรูดมันลงให้พ้นทางเช่นกัน แต่กลับถูกเจ้าของมันคว้าข้อมือไว้เสียก่อน

"มันคงไม่เป็นที่น่าประทับใจสัมหรับพี่"
ยุนอาเอ่ยเสียงอู้อี้ทั้งที่กลีบปากนั้นยังคงคลอเคลียอยู่กับรอยไหม้สินิลบนเนินอกข้างซ้ายของแทงกูอยู่อย่างนั้น
ไม่ใช่ว่าหวงเนื้อหวงตัวกับแทงกูแต่เนื้อกายของเธอในตอนนี้อาจจะไม่ได้น่าจับจ้องเลยสัมหรับแทงกูก็เป็นได้
แทงกูได้ยินอย่างนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้กับการถ่อมตัวของคนอายุน้อยกว่า
ร่างเล็กงอตัวลงเล็กน้อยเพื่อใช้ปลายจมูกโด่งรั้งกดแนบเข้ากับข้างแก้มนุ่มของเด็กร่างสูงสูดหายใจเข้าเต็มปอดอย่างเอ็นดูก่อนจะเอ่ยต่อเสียงหวานยียวนอารมณ์

"ไม่มีอะไรที่เป็นยุนแล้วพี่ไม่ประทับใจหรอกนะคะ"
สิ้นประโยคหวานหูนั้นยุนอาก็นิ่งไปราวกับถูกสะกด มือเล็กจึงค่อยๆรั้งปลายซิปลงช้าๆเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวเนียนชวนสัมผัส
ที่ถูกประดับไปด้วยรอยกลีบกุหลาบสีฉ่ำจากบทรักร้อนแรง
ดวงตาสีฟ้าครามกวาดมองร่องรอยบทรักมากมายจนแทบนับไม่ท้วนบนเนื้อกายของคนอายุน้อยกว่าแล้ว ก็กระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
ผิวเนื้อกายจากช่วงไหปลาร้าลงมายังเนินอกที่โผล่พ้นบราเซียสีเข้มนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยประทับเพื่อแสดงถึงความเป็นเจ้าของ
อีกทั้งช่วงไหล่ผายก็ยังมีเช่นกันแถมยังมีรอยเขี้ยวที่ถูกฝังลงบนไหล่ทั้งสองข้างจนเกิดเป็นรอยแผลที่ยังไม่สมานดี

"ยุนพยายามฉีดสารฟื้นฟูแล้วปรกติมันควรจะหายไปแล้วแต่ไม่รู้ทำไมคราวนี้มันถึงไม่หาย"
ยุนอาอธิบายอย่างออดอ้อนเพราะเกรงว่าคนตัวเล็กตรงหน้าอาจจะไม่พอใจที่เห็นร่องรอยบทรัทบนร่างกายเธอ
มันเป็นเรื่องจริงที่ปรกติแล้วจการฉีดหรือหยดหรือดื่มสารฟื้นฟูเข้าไปก็จะสามารถทำให้แผลสมานตัวอย่างรวดเร็วอย่างไร้ร่องรอย และรอยบทรักจะจางหายไปเช่นกัน
แต่ยุนอาก็ไม่รู้จนบัดนี้ว่าทำไมรอยที่แทยอนทำไว้คราวนี้ถึงยังอยู่ ทำอย่างกับรู้ว่าเธอจะนอกกายอย่างนั้นแหละ
แต่ยุนอาก็ยังคงคิดและรู้สึกอยู่เต็มอกว่าแทยอนรู้ แต่ก็แหละร่างสูงเองก็ยังคงไม่สามารถหักห้ามใจได้เลย

"หึ๊มม~ พี่ว่ามันทำให้ยุนน่ากินมากขึ้นนะ รอยพวกนี้น่ะเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าเธอน่ะอร่อยแค่ไหน"
แทงกูกระซิบเสียงพร่าที่ข้างๆจุดรับฟัง ปลายนิ้วซุกซนก็ไล้ไปตามรอยกลีบกุหลาบบนผิวเนื้อของคนอายุน้อยกว่าอย่างปลุกเร้า
เอ่ยจบก็ก้มลงส่งเรียวลิ้นออกไปไล้เลียรอยแผลที่ถูกฝังคมเขี้ยวช่วงไหล่มนอย่างหื่นกระหาย
ยุนอาส่งเสียงซี๊ดออกมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อร่างเล็กนี้ยั่วถูกจุดเหมือนกับที่แทยอนชอบทำไม่มีผิดเพี้ยน
ทั้งน้ำเสียงคำพูดและการกระทำ และทั้งหมดนั้นยิ่งทำให้ยุนอาไม่สามารถที่จะห้ามตัวเองไว้ได้เลย

มือเรียวที่เคยพันธนาการข้อมือเล็กอยู่ก็คลายออกแล้วเลื่อนไปกอบกุมก้อนเนื้อนุ่มช่วงอกของคนบนร่างพลางออกแรงนวดคลึงมันไปตามอารมณ์
เรียวปากบางแตะลากต่ำลงไปจากรอยไหม้สีนิลอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะหยุดอยู่ตรงปลายยอดอกสีหวาน
เผยอกลีบปากเล็กน้อยเพื่อคาบเอาปลายเนื้อนุ่มที่เริ่มขยายตัวแข็งชันขึ้นมาครอบครองไว้ในโพรงปาก ดูดดุนมันจนได้ยินเสียงครางหวานๆจากเจ้าของมัน
ร่างเล็กแอ่นกายมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อความหวิวไหวในร่างกายเริ่มก่อตัวและเพิ่มพูนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
ยิ่งถูกปลายลิ้นร้อนชื้นของยุนอาตวัดใส่ยอดอกมากเท่าไรแทงกูก็ยิ่งต้องการมากขึ้นเท่านั้น

มือเล็กสอดผ่านใต้วงแขนของร่างสูงไปยังแผ่นหลังก่อนจะเกี่ยวกระตุกให้ตะขอบราสีเข้มนั้นหลุดออกอย่างง่ายดาย
แทงกูชักมือกลับออกมากอบกุมก้อนเนื้อนุ่มของคนอายุน้อยกว่าไว้นวดคลึงมันไปตามอารมณ์
อีกทั้งปลายนิ้วก็ลากย้ำเสียดสีกับยอดอกที่เริ่มขยายตัวแข็งชันขึ้นสู้ปลายนิ้ว
ดวงหน้าขาวซีดก้มลงซุกไซ้ลำคอระหงของคนอายุน้อยกว่าอย่างหื่นกระกระหาย
พร้อมกับร้องครางเสียงหวานเรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างออดอ้อน

แทงกูละมือข้างที่เคยใช้มันโอบรอบคอร่างสูงไว้นั้น เคลื่อนคว้าเอามือเรียวข้างที่ถนัดของยุนอาขึ้นมา
พลางผละใบหน้าออกจากซอกคอขาวที่ประดับไปด้วยรอยกลีบกุหลาบ ปลายลิ้นร้อนถูกส่งออกไปตวัดเลียเรียวนิ้วที่ยาวที่สุดอย่างเชิญชวน
จนเจ้าของเรียวนิ้วนั้นต้องผละใบหน้าออกจากเนินเนื้อนุ่มเพื่อมองการกระทำที่ยั่วยวนอารมณ์ของอีกฝ่าย
กลีบปากล่างถูกขบกัดไว้อย่างห้ามไม่ได้เมื่อเห็นแทงกูส่งเรียวนิ้วของเธอเข้าโพรงปากไปอย่างเนิบนาบ
ฟันคมขบเข้าที่โคนนิ้วเบาๆอย่างปลุกเร้าก่อนจะค่อยใช้กลีบปากนุ่มรูดเรียวนิ้วกลับออกมาช้าๆ
ทั้งที่นัยน์ตาสีฟ้าครามที่ดูเร้าร้อนนั้นยังคงจับจ้องใบหน้าดูดีของคนอายุน้อยกว่าอยู่ไม่ละสายตา
ไม่ว่าเมื่อไหร่ร่างเล็กก็ยังคงอยากจะยั่วคนๆนี้ให้คลั่งเธออยู่ทุกวินาที
แทงกูกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นว่ายุนอานั้นขบกลีบปากล่างของตัวเองจนมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย
อีกทั้งแววตาที่ทอประกายร้อนแรงของความต้องต้องการอย่างไม่ปิดบังนั่นอีก

มือเล็กอีกข้างละออกจากก้อนเนื้อนุ่มช้าๆดึงความสนใจของร่างสูงให้ต้องหลุบตามองตาม
ก็ได้เห็นว่าแทงกูกำลังใช้มือข้างนั้นปลดกระดุมและรูดซิบสีเงินเงาของกางเกงหนังขาสั้นที่ร่างเล็กนั้นสวมใส่อยู่ลงช้าๆ
ราวกับจะยั่วให้คนมองต้องคลั่งตายเสียอย่างนั้น ยุนอาส่งเสียงซี๊ดออกมาเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่อาจจะนับได้
ยิ่งได้เห็นผิวขาวซีดช่วงล่างที่เผยออกมาช้าๆนั้นภายในใจก็ยิ่งร้อนลุ่ม อยากจะกระชากกางเกงหนังตัวสั้นนี้ออกไปเสียวินาทีเลยจริงๆ
ก่อนจะรู้สึกถึงแรงดูดดุนที่เรียวนิ้วอีกครั้งเรียกให้ยุนอาตวัดสายตาขึ้นไปจับจ้องใบหน้าขาวซีดกับดวงตาสีฟ้าครามที่ดูเย้ายวนเหลือเกินนั้นอีกครั้ง

แทงกูดึงปลายนิ้วของยุนอาออกจากโพรงปากของตัวเองช้าๆจนหลุดออกมาทั้งหมด
ยกยิ้มยั่วคนตรงหน้าตามไปอีกทีก่อนจะพาเรียวนิ้วที่ชุ่มไปด้วยของเหลวภายในโพรงปากนั้น
สัมผัสลงยังหลุมตรงกลางหน้าท้องแบนราบของร่างเล็ก และลากต่ำลงไปเรื่อยๆจนถึงขอบกางเกงหนังที่แยกออกจากกันอยู่ก่อนแล้ว
ยักคิ้วท้าทายใส่เด็กร่างสูงไปอีกครั้งและปล่อยให้มือเรียวของยุนอานั้นเป็นอิสระ

"พี่...เคะด้วยเหรอคะ"
ถามย้ำเพื่อความแน่ใจทั้งที่ปลายนิ้วก็ยังคงลากวนไปมาอยู่แถวท้องน้อยที่โผล่พ้นผ้าชิ้นบางสีเพลิงของแทงกูอยู่อย่างนั้น
แม้ทุกอย่างที่แทงกูแสดงมันออกมาให้เธอได้สัมผัสในตอนนี้จะชัดเจนมากพอแล้วก็ตาม หรือมันอาจจะคือคำขออนุญาติทางอ้อมก็ไม่แน่ใจ
แทงกูยกยิ้มเล็กน้อยกับความตรงไปตรงมาของยุนอา จุดนี้แหละที่ทำให้เธอหลงใหลเด็กคนนี้จนโงหัวไม่ขึ้น

"ปรกติก็ไม่หรอก แต่อยากเคะให้แค่เฉพาะกับบางคน เหตุผลแค่นี้พอไหมคะเด็กน้อย~"
ยุนอาเผยรอยยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้กับคำตอบที่ชวนให้ประทับใจแบบนั้นของคนที่เธอประทับใจอยู่ก่อนแล้วก็ยิ่งประทับใจมากขึ้นอีก
แทงกูเอ่ยจบก็ยกตัวขึ้นจากตักของยุนอาเพื่อให้ร่างสูงนั้นจัดการดึงกางเกงหนังขาสั้นของเธอออกให้พ้นทาง
เหลือเพียงชั้นในสีเพลิงตัวจิ๋วที่ชื้นแฉะช่วงกลางกายให้ยุนอาได้จับจ้อง

ก่อนจะใช้มือเรียวทั้งสองข้างขย้ำบั้นท้ายงอนงามของแทงกูพร้อมกับออกแรงรั้งให้ร่างเล็กนั้นแนบชิดเข้ามาอีก
ร่างสูงถดกายลงเล็กน้อยเพื่อปรับระดับใบหน้าของตัวเองให้อยู่ตรงกับระหว่างขาของร่างเล็ก ที่ถูกมือเรียวทั้งสองข้างของเธอประคองอยู่ที่บั้นท้ายงอนงามนั้น
ไม่รอช้ายุนอาส่งปลายลิ้นร้อนออกไปลามเลียของเหลวลื่นที่เปรอะอยู่แถวขาอ่อนด้านในของแทงกูอย่างหื่นกระหาย จนเจ้าของมันร้องครางเสียงพร่าออกมา
อีกทั้งสายตาร้องแรงนั้นยังคงจับจ้องอยู่กับจุดศูนย์กลางที่ยังมีผ้าชิ้นบางสีร้อนแรงแฉะชุ่มนั้นปรกปิดอยู่มิดแหล่ไม่มิดแหล่
เนื่องจากเรียวขางทั้งสองขาที่อ้าออกจากกันเสียกว้างทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผิวเนื้อขาวซีดกับขอบผ้าสีเพลิงเล็กน้อย
ยุนอาจัดการกับของเหลวที่ขาอ่อนด้านในของแทงกูทั้งสองข้างเรียบร้อยแล้วก็ขยับเลื่อนเข้าไปยังช่วงขาหนีบ
กวาดกลืนของเหลวลื่นที่ร่างเล็กหลั่งออกมาอย่างหลงใหล

"ยุนอา~ ซี๊ด~"
แทงกูครางเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงสั่นพร่าก่อนจะซี๊ดปากตามเมื่อยุนอากดปลายจมูกและกลีบปากทาบเข้ามายังกลางกายของเธอ
แม้จะยังมีผ้าชิ้นบางกั้นอยู่แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะแทงกูรับรู้ถึงสัมผัสจากยุนอาได้อย่างชัดเจน แรงดูดเบาๆนั้นสร้างความวาบหวามให้กับแทงกูมากพอ
ที่จะทำให้มือเล็กนั้นต้องขยุ้มเรือนผมสีน้ำตาลธรรมตาลเล็กน้อยเพื่อระบายความรู้สึกวาบหวามนั้น หรือเป็นการพยายามบอกอีกคนว่าเธอต้องการมากกว่านี้อีก
ปลายลิ้นเรียวตวัดเลียผ่านรอยแยกตรงกลางกายเล็กผ่านเนื้อผ้าบางๆสีเพลิงที่แนบเข้ากับผิวเนื้อจนเห็นเป็นรูปสรีระของแทงกูได้อย่างชัดเจน
ยุนอาตวัดปลายลิ้นย้ำๆตรงปุ่มนูนระหว่างกลางของรอยแยกจนร่างเล็กเริ่มขมวดเกร็งหน้าท้องเป็นระยะๆ

แทงกูสะบัดใบหน้าเชิดขึ้นพร้อมครางเสียงสูงเพราะความรู้สึกเสียวซ่านที่แล่นผ่านเข้ามาในร่างกายอย่างรวดเร็ว
ก็ยุนอาเล่นดูดจุดที่ไวต่อความรู้สึกของเธออย่างหนักหน่วงแบบนี้ ใครจะไปทนไหวกันล่ะ
มือเล็กเผลอดันศีรษะของคนอายุน้อยกว่าให้กดแนบเข้ายังช่วงระหว่างขาเล็กน้อย
เพราะความเสียวซ่านที่พรั่งพรูขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัวจนแทบจะทนไม่ไหว
ดวงตาสีฟ้าครามที่หยาดเยิ้มตวัดลงมองมองใบหน้าดูดีที่เหลือบขึ้นมาสบตาเธอเช่นกัน
สายตาของยุนอาในเวลานี้ช่างดูร้อนแรงเสียจนแทงกูแทบคลั่งอีกทั้งยังเจือปนไปด้วยความอบอุ่นที่น่าหลงใหลอีก
มือเล็กเลื่อนจากศีรษะมาลูบไล้ยังข้างแก้มนุ่มราวกับจะบอกอีกฝ่ายว่าเธอหลงใหลเค้ามากแค่ไหน
ก่อนจะเลื่อนมือเล็กผ่านใบหน้าของยุนอาออกมยังระหว่างขาของตัวเอง ปลายนิ้วถูกลากเนิบนาบตามเรียวขาช่วงต้นเข้ามาจนถึงขาหนีบ
แล้วคว้าขย้ำเอาผ้าชิ้นบางสีเพลิงตรงกลางกายกระชากมันออกอย่างไม่ใยดี และผ้าชิ้นบางสีร้อนแรงที่ขาดวิ่นก็ถูกโยนทิ้งไป
ยุนอามองการกระทำนั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เคยคิดว่าแทยอนออกตัวแรงมากแล้วแทงกูก็ไม่แพ้กันเลย
และร่างสูงก็ไม่อาจละสายตาออกจากจุดที่โฟกัสอยู่ในตอนนี้ได้เลย

"มองอยู่นั่นแหละจัดการมันสักทีสิคะ ยุนอายา~"
ไม่เอ่ยเปล่ากายเล็กยังแอ่นขึ้นเชิญชวนให้อีกฝ่ายลงมือทำต่อเสียที ทั้งเรียวขาที่ขยับอ้าออกจากกันมากขึ้นอีก
แทงกูครางออกมาเสียงหวานทันทีที่ยุนอาประกบเรียวปากเข้ากับชิ้นเนื้อที่ขยายตัวจนบวมเปล่งของเธออย่างหื่นกระหาย
ปลายลิ้นเรียวตวัดเสียดสีส่วนปลายชิ้นเนื้อที่แข็งชันย้ำๆ อีกทั้งยังออกแรงดูดกลืนส่วนนั้นจนความเสียวซ่านแล่นกลับเข้ามาเล่นงานแทงกู
จนมือเล็กต้องเลื่อนไปขย้ำที่เบาะรถจนขาดกระจุยเพราะแรงที่มีมหาศาลของเธอแทนร่างกายของยุนอา
เพราะเกรงว่าตัวเองจะทำให้เด็กร่างสูงตรงหน้านี้ได้รับบาดเจ็บจากการร่วมบทรักกับเธอ
หน้าท้องหดเกร็งไปตามแรงดูดตรงส่วนอ่อนไหวยุนอายังคงสร้างความเสียวซ่านวาบหวามให้คนตัวเล็กอยู่อย่างนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
มีแต่จะทำให้มันมากขึ้นเรื่อยๆเสียด้วยซ้ำและแทงกูก็ชื่นชอบมันมากเสียด้วยสิ พึงพอใจกับทุกอย่างที่เป็นยุนอาจริงๆแม้จะเหตุผลไม่ได้ก็ตาม

ยุนอาเลื่อนกลีบปากลงต่ำอีกหน่อยก่อนจะประทับจูบลงเบาๆยังกลีบเนื้อนุ่มบางๆด้านในที่เปียกชุ่มไปด้วยของเหลวลื่นที่ถูกหลั่งออกมาจากทางร้อนของแทงกู
ร่างเล็กครางเสียงกระเส่าออกมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อรู้สึกถึงความอุ่นชื้นลากวนไปมาอยู่แถวปากช่องทางร้อนของเธอแต่ก็ไม่เข้ามาสักที
นัยน์ตาสีฟ้าครามตวัดลงมองใบหน้าของอีกฝ่ายก็ไปเห็นว่ายุนอายังคงบรรจงใช้ปลายลิ้นของเค้าและเล็มกลีบเนื้อบางๆด้านในของเธออยู่
ทั้งทีดวงตาสีน้ำตาลเข้มนั้นจับจ้องลึกเข้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

"ยุนอา~"
ครางออดอ้อนมากขึ้นอีก มือเล็กก็ออกแรงดันศีรษะของยุนอาเล็กน้อย ราวกับเร่งเร้าให้เค้าเลิกใจเย็นเสียที
ยุนอายกยิ้มเล็กน้อยที่ยั่วแทงกูได้สำเร็จ เพียงช่วงอึดใจเดียวปลายลิ้นร้อนก็ตวัดสอดใส่เข้าไปในช่องทางร้อนที่เปิดอ้ารออยู่ก่อนแล้ว
ลากวนไปมาเสียดสีกับผนังเนื้ออ่อนภายในที่ชุ่มแฉะไปด้วยของเหลวลื่น ที่ยุนอารู้สึกหลงใหลกับการกลืนกินมันเสียเหลือเกิน
แทงกูเชิดคางมนขึ้นเล็กน้อยเปลือกตาปลือปิดลงซึมซับความสุขสมที่ยุนอามอบให้อย่างเต็มใจ เสียงครางหวานหูยังถูกเปล่งออกไปให้คนอายุน้อยกว่าได้ยินอยู่เรื่อยๆ

มือเล็กข้างนึงถูกละออกจากเบาะรถเลื่อนต่ำลงไปถึงช่วงท้องน้อยที่มีใบหน้าดูดีแนบชิดอยู่ไม่ห่าง
ก่อนจะใช้ปลายนิ้วทั้งสองวางทาบกับกลีบเนื้ออูมอวบทั้งสองข้างของตัวเอง
ออกแรงรั้งให้แยกออกจากกันมากขึ้นอีกพลางแอ่นกายรับสัมผัสจากเรียวลิ้นร้อนที่ตวัดลามเลียอยู่ภายใน
ยุนอามองการกระทำนั้นของแทงกูอย่างอึ้งๆเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้เพียงแค่ภายในช่วงเวลาที่เราเริ่มเล่นบทรักกันมานี้
แม้จะรู้สึกคลั่งในกระทำกระเหล่านั้นของแทงกูจนแทบจะอยากกัดลิ้นตัวเองมากเพียงใดแต่ร่างสูงก็ทำได้เพียงกรีดร้องอยู่ภายในใจ
ยุนอาเกร็งเรียวลิ้นร้อนขึ้นก่อนจะดันมันเข้าไปในช่องทางร้อนของแทงกูให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้
จนกลีบปากแล้วปลายจมูกโด่งนั้นฝั่งลงไปในส่วนอ่อนไหวของแทงกูไปด้วย เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วร่างสูงก็ออกแรงดูดอย่างหนักหน่วง
จนแทงกูร้องครางเสียงหลง ยุนอากลืนกินของเหลวลื่นที่ถูกกายเล็กหลั่งไหลออกมามากมายนั้นอย่างหื่นกระหาย

เมื่อพอใจแล้วยุนอาก็ผละใบหน้าออกมาอย่างอ้อยอิ่งราวกับเสียดายความหอมหวานนั้น
ก่อนจะลดระดับมือเรียวทั้งสองข้างที่ประคองบั้นท้ายงอนงามของแทงกูไว้ แล้ววางร่างเล็กลงให้นั่งคร่อมตักเธอตามเดิม
แล้วเลื่อนมือเรียวทั้งสองข้างกลับขึ้นมากอบกุมก้อนเนื้อนุ่มช่วงอกของแทงกูไว้ออกรงเคล้นคลึงอยากหนักหน่วงตามอารมณ์แรงปรารถนา
กลีบปากก็พุ่งเข้าประจูบออดอ้อนคนอายุมากกว่าไปพร้อมกับขยับกายให้เข้าที่
แทงกูกดจูบตอบกลับมาอย่างร้อนแรง ไม่นานเรียวลิ้นทั้งสองก็ถูกส่งออกมาตวัดเกี่ยวรัดกันราวกับโหยหามานานแสนนาน

แทงกูเบียดกลางกายของตัวเองเข้าแนบชิดกับหน้าท้องแบบราบของยุนอาแล้วส่ายร่อนสะโพกเล็กน้อย
เพื่อให้จุดอ่อนไหวของเธอนั้นเสียดสีเข้ากับกร้ามเนื้อหน้าท้องที่น่าหลงไหลของยุนอา
ราวกับจะบอกอีกฝ่ายว่าเธอยังต้องการเค้าอยู่ไม่น้อยไปกว่าเดิมเลยหรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
มือเล็กเลื่อนไปคว้าเอาข้อมือเรียวข้างที่ถนัดให้ละออกจะเนินเนื้อช่วงอกของเธอ ก่อนจะยกมันขึ้นมาพลางพละจูบอันแสนหวานนั้นอย่างเสียดาย
นิ้วเรียวยาวถูดส่งเข้าไปในโพรงปากร้อนจนสุดโคน แทงกูตวัดสายตาสีครามขึ้นสบกับดวงตาสีน้ำตาลที่ดูร้อนแรงเหลือเกิน
ก่อนจะออกแรงดูดดุเรียวนิ้วของยุนอาอย่างยั่วยวนพลางใช้กลีบปากอิ่มรูดมันออกมา
แล้วส่งกลับเข้าไปอีกฟันคมขบลงส่วนโคนนิ้วเล็กน้อยเชิงหยอกล้อ จนเจ้าของเรียวนิ้วยาวนั้นอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
แต่นั้นช่างเป็นรอยยิ้มที่ร้อนแรงเสียเหลือเกินในสายตาของแทงกู
ไม่นานแทงกูก็ชักนิ้วเรียวของยุนอาออกจากโพรงปากของตัวเอง และส่งปลายลิ้นออกไปไล้เลียช่วงปลายนิ้วเนิบนาบ

"พี่... แท..ง~"
ยุนอาครางออกมาราวกลับเพ้อทั้งที่ยังคงสบลึกเข้านัยน์คาสีฟ้าครามที่ทอประกายเร่าร้อนนั้น
พลางขบกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้อย่างห้ามไม่ได้ เมื่อโดนร่างเล็กตรงหน้านี้ยั่วถูกจุดแบบที่แทยอนชอบทำและยุนอาก็แทบคลั่งตายทุกครั้งคราว

รู้ตัวอีกทียุนอาก็สึกได้ถึงความนุ่มลื่นที่ปลายนิ้วคล้ายกับตอนที่แทงกูลามเลียมัน
หากแต่ตอนนี้ทั้งอุ้งมือของยุนอานั้นถูกคนตัวเล็กพามันไปยังส่วนล่างแล้วเรียบร้อย
ไม่ต้องเสียเวลาขบคิดเลยว่าตอนนี้เรียวนิ้วของยุนอาเสียดสีอยู่กับอะไร

แทงกูครางอืมอย่างพึงพอใจเมื่อเจ้าเรียวนิ้วนั้นได้ทำหน้าที่ของเค้าต่อไปได้อย่างดีเยี่ยม
มือเล็กที่เคยพันธนาการส่วนเดียวกันของยุนอาไว้นั้นก็ให้อิสระแก่อีกฝ่ายไป
ก่อนจะเลื่อนมือเล็กกลับขึ้นมากอบกุมก้อนเนื้อเนินอกของที่เต็มไปด้วยรอยกลีบกุหลาบ
ออกแรงเคล้นคลึงไปพร้อมกับใช้ปลายนิ้วสะกิดที่ส่วนปลายยอดอกที่แข็งชันขึ้นสู้เรียวนิ้ว
กดย้ำเสียดสีเน้นๆอยู่อย่างนั้นไม่ต่างจากที่ชิ้นเนื้อบวมเปล่งของแทงกูโดนเรียวนิ้วของยุนอาขยี้อยู่เช่นกัน

"อืม~ยุนอา~"
ครางเสียงหวานพร้อมกับก้มลงพรมจูบซุกไซ้ไปตามลำคอระหงขอร่างสูง
สะโพกมนก็ส่ายร่อนแอ่นไปมารับสัมผัสจากปลายนิ้วที่ลากย้ำผ่านรอยแยกของกลีบเนื้อบางๆด้านใน
ยุนอาใช้มืออีกข้างประคองบั้นท้านงอนงามที่ส่ายร่อนไปมาของแทงไว้พลางลูบไล้สลับกับขย้ำเคล้นคลึงด้วยอารมณ์แรงปรารถนาที่ปะทุมากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งอยากได้มากกว่านี้อีก

ใบหน้าดูดีหน้ากดเข้าซุกไซ้เนินอกเต่งตึงที่กระเพื้อมขึ้นลงตามการขยับกายอย่างหื่นกระหาย
กลีบปากขบเม้มเนินเนื้อนุ่มแต่ยุนอาจะยังคงควบคุมสติตัวเองไว้อยู่พยายามที่จะไม่ทำให้ผิวขาวซีดของแทงกูนั้นต้องมีรอยด่างพร้อย
เพราะเกรงว่าคนตัวเล็กนั้นอาจจะไม่พอใจก็เป็นได้

"ยุนอา~ พี่เป็นของเธอนะ~ เข้ามาสิ~"
แทงกูกระซิบเสียงหวานพร่าพร่ำบอกอีกฝ่ายให้เค้ามั่นใจ ราวกับรู้ทันว่าคนอายุน้อยกว่านั้นอาจจะไม่กล้ารุกล้ำเข้ามาภายในของเธอมากกว่านี้
พลางยกกายขึ้นจากตักของร่างสูงเล็กน้อยเพื่อเปิดทางให้อีกฝ่ายทำอะไรได้ง่ายขึ้น
ยุนอาเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาสีฟ้าครามอันทรงเสน่ห์ที่จับจ้องใบหน้าเธออยู่ก่อนแล้ว ราวกับไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าได้ยินอะไร
...พี่แทงกูเป็นของชั้น...

ตอกย้ำตัวเองอยู่ในใจว่าแทงพูดอะไรออกมา เพราะยุนอารู้ดีว่าแทงกูนั้นไม่เคยยอมเป็นของใครมาก่อน
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาไขข้อข้องใจอะไรทั้งนั้นไม่อยากทำให้ร่างเล็กตรงหน้านี้เสียอารมณ์
และเมื่อได้มีโอกาสที่แสนจะหายากนี้ยุนอาก็ควรรีบคว้าไว้

ไวเท่าความคิดเรียวนิ้วยาวถูกสอดใส่เข้าในช่องทางร้อนของแทงกูช้าๆ
เสียดสีกับผนังเนื้ออ่อนที่ชุ่มไปด้วยของเหลวลื่นเนิบนาบให้เจ้าของเรียวนิ้วนั้นได้ซึมซัมความรู้สึกนี้ไว้
แทงกูครางอืมอย่างพึงพอใจกับแรงเสียดสีภายในที่ได้รับ พลางใช้ปลายจมูกโด่งรั้นคลอเคลียที่ข้างแก้มนุ่มอย่างออดอ้อน ชอบเหลือเกินสัมผัสจากคนๆนี้ที่ต้องการมาตลอด
ไม่นานยุนอาก็กดเรียวนิ้วยาวให้ฝังเข้าไปในช่องทางร้อนของร่างเล็กจนสุดโคนแช่ทิ้งไว้แบบนั้นอยู่เพียงครู่เดียวก็เริ่มขยับ
เมื่อรู้สึกว่าช่องทางร้อนของแทงกูนั้นไม่ได้คับแน่นมากอย่างที่คิดไว้ ถึงจะน่าแปลกใจเพราะคิดว่าแทงกูคงไม่เคะให้ใครง่ายๆ แต่ทำไมช่องทางนั้นถึงได้
...นี่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้...

ใบหน้าดูดีขยับหันเล็กน้อยเพื่อประกบจูบคนอายุมากกว่าที่เอาแต่ครางเสียงหวานและออดอ้อนเธอด้วยการใช้ปลายจมูกและกลีบปากคลอเคลียแก้มเธออยู่นั้น
เมื่อถูกประกบปากแล้วแทงกูก็เผยอกลีบปากจูบตอบอย่างร้อนแรง
สะโพกมนส่ายร่อนรับจังหวะการชักเรียวนิ้วเข้าออกของยุนอาอย่างช่ำชอง
อีกทั้งมือเล็กของก็ยังคงทำหน้าที่เคล้นคลึงก้อนเนื้อนุ่มและตวัดปลายนิ้วกดขยี้ยอดอกของร่างสูงอย่างปลุกเร้าอยู่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
จนได้ยินเสียงครางอืมในลำคอจากร่างสูงที่เร็ดลอดออกมาแม้ว่ากลีบปากทั้งสองจะยังประกบจูบดูดดุนกันอยู่

สุดท้ายก็เป็นแทงกูที่ต้องผละจูบออกมาสะบัดปลายครางเชิดขึ้นสูงครางร้องเสียงกระเส่า
เมื่อยุนอาเร่งจังหวะกระแทกเรียวนิ้วเข้าออกในช่องทางร้อนของเธอทั้งเร็วทั้งแรง
เสียงอุ้งมือกระทบกับเข้ากลีบเนื้ออูมอวบที่ดังระรัวนั้นเป็นสิ่งยืนยันได้อย่างดิบดีว่ายุนอากระแทกเรียวนิ้วเข้าออกเร็วแรงแค่ไหน
ของเหลวลื่นหลั่งไหลออกมาจากช่องทางร้อนของแทงกูไม่ขาดสายจนชุ่มแฉะไปทั่วบริเวนรวมไปถึงหน้าขาของยุนอาด้วย
ความเสียวซ่านที่พุ่งพร่านอยู่ภายในกายเล็กนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆอัดแน่นจนแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ
มือเล็กทั้งสองข้างขยับเลื่อนผ่านไหล่ผายของร่างสูงไปคว้าเบาะหนังกำจิกมันอย่างไม่หวงแรงจนทะลุขาดลุ่ย
เพื่อระบายความเสี่ยวซ่านที่ยังคงแล่นเข้ามาเรื่อยๆ แต่ถึงจะอย่างนั้นสะโพกมนกลับสะบัดเข้าแรงกระแทกจากเรียวนิ้วของร่างสูงอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน

"ยุน~ อ..อิกนิ้ว.."
สิ้นสุดคำขอแทงกูก็ซี๊ดปากออกมากอย่างห้ามไม่ได้ เพราะเรียวนิ้วที่ถูกสอดใส่เพิ่มเข้าไปอย่างรวดเร็ว
พาให้ความเสียวซ่านที่มีมากอยู่ก่อนแล้วทวีคูณอีกเป็นเท่าตัว ยุนอาจัดการกับทุกอย่างได้อย่างดิบดีเรียกได้ว่าช่ำชองไม่น้อยหน้าแทงกูเลยก็ว่าได้
อัตตราความเร็วแรงไม่มีวี่แววว่าจะถดถอย แม้ว่าใบหน้าจะก้มลงดูดดุนยอดอกสีสวยที่ชูชันของแทงกูอยู่ก็ตาม

ร่างเล็กขมวดเกร็งสั่นมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อความอัดอั้นทั้งหมดใกล้จะระเบิดออกมาเต็มที ใบหน้าขาวซีดก้มลงดูดเม้มลำคอระหงของร่างสูงอย่างหนักจนเกิดรอยสีกุกลาบ
ก่อนก็ลากเลื่อนลงมาฝังคมเขี้ยวลงยังไหล่มนโดยที่เว้นระยะไว้ไม่ไห้ซ้ำถูกรอยเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว
ยุนอาซี๊ดปากออกมาทั้งที่กลีบปากยังคงคาบยอดอกของแทงกูอยู่ไม่ห่าง แม้จะรู้สึกเจ็บแปลบที่ช่วงไหล่แต่ข้อมือเรียวก็ยังคงเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนมือเรียวอีกข้างก็ขย้ำบั้นท้ายของร่างเล็กไว้แน่นราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะขยับกายหนีไปไหน ทั้งที่สะโพกมนนั้นก็ยังคงสะบัดสวนทางกับเรียวนิ้วยาวของเธออยู่อย่างเดิม

สิ้นเสียงครางแหลมสูงครั้งสุดท้ายพร้อมกับกายเล็กที่กระตุกอย่างรุนแรง ยุนอาแช่เรียวนิ้วทั้งสสองไว้ในช่องทางร้อนทำกำลังตอดรัดเธออยู่อย่างหนักหน่วง
ใบหน้าดูดีซบแนบเข้ากับเนินอกที่กระเพื้อมขึ้นลงตามจังหวะหอบหายใจของร่างเล็กที่ออกจะแรงกว่าปรกติอยู่หน่อย เช่นเดียวกับเสียงหัวใจที่ยุนอาได้ยินมันชัดเจน
เปลือกตาปรือปิดลงช้าๆอยากซึมซับความรู้สึกระหว่างเราไว้ เพราะเกรงว่ามันอาจจะเป็นครั้งแรกและอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วยก็ได้
เพราะยุนอาไม่เคยหยั่งถึงความรู้สึกของแทงกูได้เลยแถมยังไม่กล้าคิดเอาเองด้วยว่าที่แทงกูทำแบบนี้เพราะชอบพอเธอจริงๆหรือเพราะอะไรกันแน่
ไม่กล้าคิดหรอกว่าเธอเองจะมีค่าสัมหรับแทงกูมากแค่ไหนแม้ว่าแทงกูจะพูดออกมาว่าเค้าเป็นของเธอแล้วก็ตาม
มือเล็กละออกจากเบาะหนังที่ขาดวิ่นเลื่อนมาโอบเรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติของอีกฝ่ายไว้อย่างรักใคร่พลางซบดวงหน้าขาวซีดลงกับซอกคอของเด็กร่างสูง

"พี่ทำเธอเจ็บอีกแล้ว..."
แทงกูพูดออกมาเบาๆทั้งทีใบหน้าขาวซีดนั้นยังคงซบแนบอยู่ที่ลำคอระหง
แต่คนได้ยินกลับผละออกมามองดวงหน้าขาวซีดอย่างไม่เข้าใจ อีกแล้ว??? คืออะไร แทงกูเคยทำอะไรให้เธอเจ็บงั้นเหรอ
ทำไมยุนอาถึงนึกไม่ออกเลยล่ะว่าแทงกูเคยทำอะไรให้เธอเจ็บงั้นเหรอ

กำลังจะเปิดปากถามสิ่งที่ข้องใจออกไปก็โดนคนตัวเล็กนั้นประกบจูบเข้ามาเสียอย่างนั้น
และยุนอาก็ทำได้เพียงกลืนคำถามนั้นกลับลงคำไปเพื่อป้อนจูบตอบอีกฝ่ายไปอย่างอย่างอ่อนโยน
นิ้วเรียวที่ยังคงถูกแช่ทิ้งไว้ในช่องทางร้อนเริ่มขยับเล็กน้อยเพื่อที่จะถอนมันออกมาช้าๆราวกับไม่อยากทำอย่างนั้นแหละ
แต่แล้วยุนอาก็ต้องชะงักไปเล็กน้อยมือจู่ๆแทงกูก็คว้าข้อมือเธอไว้และดันมันกลับเข้าไปในช่องทางร้อนจนสุดโคนอีกครั้ง

"พี่อยากให้ยุนอยู่ในนี้นานกว่านี้ได้หรือเปล่า"
แทงกูกระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปากก่อนจะยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงครางรับจากร่างสูง
สุดท้ายเธอก็ทำให้ยุนอาต้องแปดเปื้อนจนได้ทั้งที่อุตส่าห์พยายามหักห้ามใจมาเสียนานนม

.



.

หลังจากที่แทงกูพายุนอากลับมาส่งยังคฤหาสน์แล้วร่างสูงก็ก้าวเดินฉับๆตรงไปยังห้องแล็บแทนที่จะเป็นห้องนอน
มือเรียวก็ยกขึ้นกุมลำคอของตัวเองไว้ตั้งแต่ก้าวลงจากรถของแทงกู ราวกับกลัวว่าจะมีใครเห็นอย่างนั้นแหละ
ปัดโธ่ววว ก็ใครมันจะไปคิดล่ะว่าจะโดนพี่แทงกูเล่นแบบนี้

เมื่อรถสปอตคันหรูหยุดนิ่งสนิทที่ประตูบานโตของคฤหาสน์ของยูริเรียบร้อยแล้ว
ปลายนิ้วเรียวก็ยกขึ้นแตะลำคอที่มีรอยกลีบกุหลาบประทับอยูเพียงรอยเดียวที่โผล่พ้นเนื้อผ้าของคนตัวสูงเบาๆพลางยกยิ้มยียวนอารมณ์
"นี่...โทษฐานที่ครางชื่อแทยอนขัดอารมณ์พี่"

ยุนอาขมวดคิ้วเชิงเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคแอบแฝงความในแบบนั้นของแทงกู
ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ตัวว่าร่างเล็กนี่ดูเม้มที่ลำคอเธอหนักหน่วงพอที่จะมีรอยช้ำเกิดขึ้น แต่ทำไมแทงกูต้องพูดเหมือนเป็นการทำโทษเธออย่างนั้นล่ะ
ร่างเล็กลากปลายนิ้วต่ำลงมาอีกหน่อยจนมาถึงถึงช่วงไหล่มนที่ยังรู้สึกเจ็บแปลบๆอยู่บ้างเวลาที่ถูกเนื้อผ้าเสียดสี

"และนี่ ไว้ตอกย้ำตัวเองว่าพี่เป็นของเธอ"
แทงกูยกยิ้มพรายอีกคนั้งอย่างพึงพอใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเรา
แม้เธอจะทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ยุนอาต้องแปดเปื้อนก็ตามที

"พี่เป็นของยุน... จริงๆเหรอคะ"
ยุนอาสลัดความคิดมากมายในคราแรกทิ้งไปทันทีที่ได้รับรู้ว่าแทงกูพูดอะไรออกมาอีก
มือเรียวยกขึ้นกุมมือเล็กที่ใช้ปลายนิ้วแตะไหล่ผายของเธออยู่พามันมาวางไว้ที่หน้าตักพลางกระชับเบาๆ
ราวกับอยากให้เจ้าของมือเล็กนั้นได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเธอจริงๆ
...ถ้าพี่ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็ช่วยอย่าทำให้ชั้นเผลอให้ใจไปกับพี่มากกว่านี่เลย พี่แทงกู...

"คิดว่าพี่พูดเล่นหรือไง พี่เป็นของเธอนะเด็กน้อย"
กระชับมือเล็กกุมตอบกลับไปอย่างเต็มใจพลางเผยรอบยิ้มบางๆออกมาขณะที่พร่ำบอกความรู้สึกจากหัวใจ
แม้จะรู้สึกแปลกๆอยู่หน่อยที่ต้องเอ่ยย้ำออกไปตรงๆแบบนี้แต่แทงกูก็ยินดีที่จะบอกให้ร่างสูงตรงหน้านี้ได้มั่นใจ
เอ่ยจบก็โน้มกายเข้าไปประทับกลีบปากเข้ากับส่วนเดียวกันของยุนอาเพียงแผ่วเบาแต่กลับหนักแน่นไปด้วยความรู้สึก
เพียงชั่วอึดใจเดียวใบหน้าขาวซีดก็ผละออกมา สบตาเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลที่ตอนนี้ดูสั่นไหวเหลือเกิน ยุนอากำลังสับสน
ยุนอานิ่งไปราวกับถูกมนสะกดไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าจะได้ยินประโยคนี้จากคนๆนี้ถึงสามครั้งภายในช่วงเวลาไม่ถึงวัน
เรื่องของแทงกูก็ใช่ว่ายุนอาจะไม่รู้แถมเรื่องแบบนี้น่ะไม่ว่าใครก็เถอะถ้าหากคิดจะสนใจผู้หญิงตัวเล็กคนนี้แล้ว
มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหาข้อมูลส่วนนี้เจอ เรื่องที่ว่าแทงกูไม่เคยยอมเป็นของใคร ไม่เคยใจอ่อนยอมให้ใครราวกับเป็นคนไม่มีหัวใจ
จะเว้นก็แต่กับเพื่อนรักอย่างเจสสิก้าเท่านั้นที่สามารถหืออือกับแทงกูได้ และอีกคนที่สามารถทำให้แทงกูดูอ่อนลงได้ก็คือทิฟฟานี่
แล้วนี่แทงกูพูดออกมาเสียง่ายดายแบบนั้นจะไม่ให้ยุนอาแปลกใจจนถึงขั้นตกใจได้อย่างไร


"กลับมาแล้วเหรอคะ วันนี้กลับช้ากว่าปรกตินะ แล้วนั่นเป็นอะไรไปคะ"
ซอฮยอนทักขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อจู่ๆประตูห้องแล็บก็ถูกเปิดพร้อมกับร่างผอมบางของยุนอา ที่ยืนกุมลำคอระหงของเค้าอยู่
เหลือบมองนาฬิกาตอนนี้ปาเข้าไปเกือบเจ็ดโมงเช้าแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเชิงแซวไปเล็กน้อยพลางยกนิ้วขึ้นทำท่าจิ้มๆบริเวณคอของตัวเอง

"ว่าแต่เธอเหอะ ไม่หลับไม่นอน โดนพี่ยูลใช้ทำอะไรอีกล่ะ"
ยุนอาเลือกจะปัดความสนใจของซอฮยอนออกไปโดยการถามกลับไปอย่างนั้น จะตอบไปว่าอะไรล่ะกลับช้าเพราะมัวไปทำอะไรกับแทงกูมา
แล้วก็ที่กุมคอไว้นี่ก็เพราะโดนแทงกูประทับรอยไว้ อย่างนั้นหรือไง ไม่ใช่แน่นอนยุนอาไม่คิดจะบอกใครง่ายๆหรอกน่า
ว่าแล้วก็เดินผ่านร่างเพรียวไปอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดว่าจะฟังคำตอบที่ตัวเองได้ถาม เพื่อมุ่งตรงไปยังตู้ขนาดใหญ่สีเงินเงาที่บรรจุหลอดสารมากมายหลายชนิด
ไล่กวาดสายตามองหาชื่อสารที่ต้องการเพียงแว๊บเดียวก็คว้าหลอดเรียวเล็กนั้นขึ้นมา ราวกับจำได้แม่นมามันอยู่ส่วนไหนของตู้ขนาดใหญ่นี้
สารสีแดงที่มีตัวอักษร Recovery สลักไว้ที่ข้างหลอดนั้นถูกกระดกขึ้นกรอกโพรงปากที่เผยออ้าออกรออยู่ก่อนแล้วอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะพยายามส่องเงาตัวเองจากประตู้สีเงาเพื่อเช็คดูว่ารอยกลีบกุหลาบบนลำคอนั้งจางหายไปหรือยัง
แล้วคิ้วเรียวก็ต้องกระตุกขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อยังเห็นว่ารอยกลีบกุหลาบนั้นยังไม่เจือจางลงไปเลยแม้แต่น้อย

"หึ๊มม ไปโดนใครประทับตรามาคะเนี่ย คุณแทงกูแน่เลย~"
ยุนอาหันควับไปตามเสียงทะเล้นที่เอ่ยแซวขึ้นนั้น ก็พบว่าซอฮยอนยืนกอดอกยกนิ้วชี้ข้างนึงแตะริมฝีปากตัวเองเชิงครุ่นคิดอยู่ด้านหลัง
เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้วยุนอาจึงทำได้เพียงระบายลมหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เห็นจนได้สินะ

"ไหนๆก็เห็นแล้วงั้นก็มาช่วยกันหน่อยสิ ทำไม่มันไม่หาย"
ยุนอาเลือกถามออกไปแทนคำตอบอีกครั้ง เพราะไม่ได้ต้องการให้ใครรู้เรื่องระหว่างเธอกับแทงกูสักเท่าไร
ถึงแม้ว่าซอฮยอนจะพอเดาได้แต่ยุนอาก็ไม่อยากยืนยันให้แน่ชัด

"ก็ดื่มสารฟื้นฟูไปแล้วมันไม่หายเหรอคะ"

"เห็นไม่ใช่เหรอว่าชั้นดื่มไปแล้ว แล้วหายไหมล่ะเนี่ย"
ยุนอาส่งค้อนให้คนอายุน้อยกว่าไปทีนึง แหมถามมาได้นะว่ามันไม่หายเหรอ ก็เห็นอยู่เด่นหราขนาดนี้ -.-"
พลายยกมือขึ้นลูบรอยกลีบกุหลาบนั้นเบาๆ ถ้าไม่หายแบบนี้จะทำอย่างไรดี เพราะเธอคงไม่กล้าให้แทยอนเห็นเป็นแน่นอน
ถึงจะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าแทยอนรู้ก็เถอะ แต่ยุนอาก็คงไม่กล้าพอที่จะเอาหลักฐานไปให้เห็นตำตาแบบนี้หรอกนะ
นี่ก็เจ็ดโมงเช้าแล้วด้วยโดยปรกติยุนอาก็ไม่เคยไปหาแทยอนเกินเก้าโมงเช้าเลย จะเว้นก็แต่มีเหตุจำเป็น แล้วเป็นแบบนี้ยุนอาควรจะทำอย่างไรดีกันล่ะ

ซอฮยอนเองก็พยายามช่วยยุนอาสุดความสามารถเช่นกัน เพราะเธอก็รู้กิจวัตรประจำวันของยุนอาดีอยู่ว่าร่างสูงบางนี้จะต้องออกไปไหน
และซอฮยอนเองก็ไม่ได้อยากให้ยุนอาต้องบาดหมางกับแทยอนเพราะต้องช่วยยูริสืบเรื่องลูกธนูสีม่วงนี้เช่นกัน
เธอลองทุกวิถีทางแล้วไม่ว่าจะ เทสารฟื้นฟูลงบนรอยกลีบกุหลาบนั้น หรือฉีดสารเข้าร่างกายของยุนอา หรือจะให้ยุนอาดื่มสารฟื้นฟูเข้าไป
แต่ดูเหมือนว่ารอยสีระเรือนั้นยังคงตราตรึงเห็นชัดเจนอยู่อย่างเดิม

"คุณแทงกูนี่นะ... ไม่เจ๋งจริงทำไม่ได้นะเนี่ย"
สุดท้ายซอฮยอนก็ระบายลมหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แม้จะพยายามคิดหาวิธีทางอื่นเพื่อช่วยยุนอาแต่ให้คิดยังไงก็คิดไม่ออกเลยจริงๆ
เพราะเคสนี้ซอฮยอนเองก็เพิ่งจะเคยเจอเหมือนกัน

"งั้นพี่ยุนลองดื่มสารเร่งดูหน่อยสิคะ"
ว่าพลางยื่นหลอดสารที่บรรจุของเหลวสีขาวขุ่นที่มีอักษร Power สลักไว้ข้างหลอดให้กับร่างสูงบาง
ยุนอาซึ่งไม่มีทางเลือกจึงต้องรับมาและกระดกขึ้นกรอกปากตัวเอง สารตัวนี้ถ้าไม่จำเป็นจริงๆเธอก็ไม่เคยคิดจะแตะมันเลยแม้แต่น้อย
ถึงคุณสมบัติของมันจะเจ๋งแค่ไหนแต่สุดท้ายมันก็มีโทษเช่นกัน



หลังจากที่ส่งยุนอาเสร็จแล้วแทงกูก็นึกขึ้นได้ จริงสิ บอกเจสสิก้าไว้ว่าจะรีบกลับนี่หว่า ป่านนี้โวยวายคฤหาสน์ถล่มไปแล้วแน่เลย
คิดได้ดังนั้นปลายเท้าก็เหยียบคันเร่งให้จมลึกลงไปอีก ก็คิดไม่ถึงว่าจะเล่นบทรักกับยุนอายาวยืดหลายบทขนาดนี้ และคาดไม่ถึงว่ายุนอาก็จะไม่เบรคไม่ห้ามปรามกันแบบนี้
นี่เล่นต่อกันเรื่อยๆจนลืมดูเวลากว่าจะรู้สึกตัวว่าเช้าแล้วก็ตอนที่โดนแสงตะวันสาดส่องผ่านกระจกรถเข้ามานั่นแหละ
เฮ้อ... ทำไงได้ล่ะก็ยุนอาแซ่บเวอร์ซะขนาดนี้ >~<

เมื่อมาถึงยังคฤหาสน์ของตัวเองร่างเล็กก็จัดการจอดรถไว้ในที่ประจำก่อนจะรีบตรงปรี่วิ่งขึ้นไปยังห้องของเจสสิก้า
...อ่ะอ่าว ไม่อยู่?...
หลังจากเปิดประตูไม้เนื้องามบานใหญ่เข้าไปแล้วคิ้วเรียวก็ถูกยกขึ้นอย่างแปลกใจ เมื่อไม่พบร่างบางที่ควรจะยังคงนอนหลับไหลอยู่บนเตียง
สองขาเรียวจึงสาวท้าวเดินหาให้ทั่ว ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว... ก็ไม่มี
สุดท้ายแทงกูก็ต้องเดินกลับออกมาจากห้องของเจสสิก้าเพื่อไปดูยังห้องของตัวเองที่อยู่ถัดไป สำรวจเช่นเดียวกันแล้วก็ไม่พบ
คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันแน่น เวลาเช้าๆแบบนี้ปรกติเจสสิก้าก็จะยังคงหลับไหลอย่างสบายใจนี่ แต่วันนี้
...เธอหายไปไหน...

"เจ๊ เห็นสิก้าป่ะ"
สุดท้ายแทงกูก็ต้องเดินผ่านห้องของตัวเองไปเคาะประตูห้องของโบอา ที่พอเปิดประตูมาก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์และก็ทำท่าทางเหมือนจะ..

"หายไปไหนมาทั้งคืน ห๊ะ!"
นั้นไงโดนอีกแล้ว แทงกูคอตกทันทีเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะโดนสวดอีกยาว ระบายลมหายใจออกมาเบาๆอย่างช่วยไม่ได้
ไม่มีอะไรจะแก้ตัวและก็ไม่คิดจะเถียงอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน

"อยู่ในแล็บ ไปคุยกันเอง"
0.o แทงกูเงยหน้ามองคนอายุมากกว่าอย่างแปลกใจ ที่ครั้งนี้โบอาไม่ได้สวดยาวอย่างเคย ว่าแล้วก็รีบขอตัวไปยังห้องแล็บตามที่โบอาบอก
ไปคุยกันเอง? พูดอย่างกับมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นแหละ เจสสิก้างอนงั้นเหรอที่เธอกลับช้าเกินไป หรือมีเรื่องอะไรอีกล่ะ

เมื่อร่างเล็กเดินมาหยุดที่หน้าประตูห้องแล็บเพื่อให้เครื่องตรวจแสกนดวงตา ก่อนที่ระบบจะเปิดประตูให้โดยอัตโนมัติ
หึ๊มม? ทิฟฟานี่?

แทงกูนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อทันทีที่บานประตูเปิดออกก็พบกับหนึ่งร่างที่ถูกแช่อยู่ในแคปซูนขนาดใหญ่
กับอีกหนึ่งร่างที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมก็สายระโยงระยางไปทั่วร่าง
เกิดอะไรขึ้นกัน
ร่างเล็กตรงปรี่เข้าไปหาร่างที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น
ทั้งที่ดวงตาสีฟ้าคมครายนั้นก็ไล่สำรวจความเรียบร้อยของร่างบางบนเตียง

"สิก้า.. ชั้นขอโทษ"
เสียงสั่นเครือถูกเปล่งออกมาไม่ดังนัก เจ้าของชื่อไม่จำเป็นต้องรับรู้ถึงมันก็ได้ เพียงแค่อยากเอ่ยออกไปอย่างนั้น
เพราะรู้สึกผิดจับหัวใจที่ ปล่อยให้เจสสิก้าต้องเป็นแบบนี้อีกแล้ว
ใบหน้าขาวซีดโน้มลงซบบนอกของร่างบางช้าๆ ปล่อยให้น้ำใสๆประกายสีครามนั้นหลั่งไหลออกมาจากดวงตาคมที่ค่อยๆพริ้มหลับลงช้าๆอยู่นั้นหลายอึดใจ
แทงกูผละใบหน้าขึ้นมาจับจ้องดวงหน้าเรียวสวยของคนบนเตียงอีกครั้ง ทั้งที่นัยน์ตาสีฟ้านั้นยังคงคลอไปดวงหยอดน้ำใสๆที่มีประกายเฉดสีเดียวกับดวงตาคม
ก่อนจะโน้มกายลงประทับริมฝีปากลงยัง หน้าผากมน เปลือกตาทั้งสองข้าง ปลายจมูกโด่ง ปลายคางมน และและสุดท้ายริมฝีปาก
ร่างเล็กจุมพิศแช่ค้างไว้อย่างนั้นไม่ยอมผละออกมาสักที จนรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของร่างบาง
แรงรั้งเบาๆที่ช่วงท้ายทอยนั้นพาให้ดวงหน้าขาวซีดเผยอกลีบปากสีฉ่ำขึ้นเช่นเดียวกับกลีบปากเรียวบางของเจสสิก้า
ความรู้สึกอ่อนไหวถูกส่งผ่านเรียวปากที่กำลังเผยอขยับตอบรับกันเนิบนาบบางเบานั้น มันแทนคำขอโทษได้อย่างดิบดี

"ขี้แยอีกแล้ว"
เมื่อทั้งจูบผละออกจากกัน เจสสิก้าก็เอ่ยเชิงแซวขึ้นเบาๆ เพราะไม่อยากให้แทงกูต้องเครียดอีกจริงพยายามจะพาเราทั้งสองออกไปจากโหมดอารมณ์ที่ชวนให้น่าอึดอัดนั้นเสีย

"เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้ แล้วนั่นอีก"
แทงกูถามด้วยความเป็นห่วงจับใจ พาลให้กร่นด่าตัวเองภายใต้ความรู้สึกที่เธอปล่อยให้เจสสิก้าเป็นแบบนี้อีกโดยที่ตัวเธอเองไม่ได้รู้เรื่องอะไรอย่างที่ควรเลย
...แกควรอยู่ข้างๆเจสสิก้าในเวลานั้นไม่ใช่เหรอแทงกู...

เจสสิก้าระบายลมหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอเองก็มีส่วนผิด ที่รั้นจะออกไปข้างนอกคนเดียวแบบนั้น ทั้งๆที่รุ้ว่าไม่ควรทำ
รู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเธอเองนั่นแหละที่เป้าหมายเลขหนึ่งของอะบีส



ปัง!

ผลัก!

ร่างบางของเจสสิก้ากระเด็นกลิ้งออกไปจากจุดที่เธอนั่งอยู่ก่อน ตามแรงผลักจากอีกคนที่นั่งอยู่ข้างกัน

"ฟานี่!"
ทั้งเจสสิก้าและซูยองอุทานขึ้นพร้อมกันเสียงดังลั่น เมื่อทั้งคู่ได้เห็นว่าลูกกระสุนสีนิลนั้นฝั่งเข้ากับอกข้่งซ้ายของทิฟฟานี่จนมิด
เพียงอึดใจเดียวต่อมาร่างเพรียวของทิฟฟานี่ก็หมดสติและทิ้งกายลงสู่พื้นคอนกรีตอีกครั้ง

เจสสิก้ารีบตะเกียกตะกายจากพื้นคอนกรีตเพื่อวิ่งกลับไปยังจุดที่ทิฟฟานี่นอนอยู่ กลีบปากบางประกบแนบลงยังส่วนเดียวกันของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
ไม่รู้หรอกว่าทิฟฟานี่จะแพ้ธาตุรวามมืดนั่นไหม รู้เพียงแต่ตอนนี้ทิฟฟานี่ถูกจู่โจมที่หัวใจ แต่ที่สำคัญร่างเพรียวนั้นหมดสติไป

ซูยองที่นิ่งไปชั่วขณะตกใจไม่น้อยเลยที่ทิฟฟานี่เลือกที่จะผลักเจสสิก้าออกจากเป้ากระสุนและใช้ร่างของตัวเองรับการจู่โจมนั้นแทน
และในตอนนี้เธอก็กำลังทำอะไรไม่ถูกความจริงตรงหน้านี้มันช่างตอกย้ำว่าเธอยิงเข้าที่หัวใจของเพื่อนสนิทคนสุดท้ายที่เธอเหลืออยู่
...ยัยบ้าเอ้ย ทำไมต้องปกป้องเจสสิก้าขนาดนี้ด้วย...

ความรู้สึกยังคงตีรวนอยู่ภายในอกของซูยอง ในสมองแทบไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว ขอบตาเริ่มร้อนผ่าว
สองขาเรียวสาวเท้าเข้าไปใกล้ทั้งสองร่างที่ยังคงอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
ตอนแรกเคยคิดว่าการที่เธอต้องฆ่าเจสสิก้านั้นมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆเลย ทั้งเพราะผู้คนรอบกายที่คอยปกป้องดูแลร่างบอบบางนั้น
ทั้งความีรู้สึกของตัวเธอเองที่คิดว่าเจสสิก้าเป็นคนดีและไม่สมควรที่จะไปรับชะตากรรมแบบนั้น
ใช่ในตอนนั้นซูยองเคยคิดว่าการที่เธอต้องฆ่าเจสสิก้านั้นมันเป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว
แต่ตอนนี้...
...ชั้นทำไม่ได้จริงๆ...

ยิ่งได้เห็นว่าเจสสิก้านั้นพยายามจะช่วยทิฟฟานี่ทั้งๆที่เค้าควรรีบหนีไปเสีย แต่เค้าก็ไม่ทำ
ทั้งๆที่ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นเป้าหมายเลขหนึ่ง แต่เจสสิก้าก็เลือกที่จะช่วยทิฟฟานี่แทนการหนีเอาตัวรอดคนเดียว
...เจสสิก้าเชลล่าร่างกายบอบบางแต่กลับได้รับสกิลที่ยิ่งใหญ่ไว้ในครอบครอง...

"กีกวัง! ...ไม่ไหวอ่ะ พาชั้นกับฟานี่ไปที่แล็บเดี๋ยวนี้เลย!"
เจสสิก้าผละริมฝีออกมาจากร่างเพรียวที่ยังคงนิ่งไม่ได้สติ และพยายามเปล่งเสียงออกไปเพื่อเรียกชายหนุ่ม
กีกวังปรากฎกายทันทีเมื่อได้ยินเสียงเล็กแหลมที่ติดจะสั่นระริกปนหอบหายใจนั้น เจสสิก้าสูญเสียพลังงานมากเกินไปแล้วเพื่อการฟื้นฟูร่างกายให้ทิฟฟานี่

"พาคุณทิฟ.../เดี๋ยวนี้!"
ยังไม่ทันที่กีกวังจะได้ถามจบ ว่าพาทิฟฟานี่ไปด้วยจะดีเหรอ เจสสิก้าก็โพร่งขึ้นตัดบทเสียอย่างนั้น
และกีกวังเองก็ไม่ได้มีทางเลือกมากมายนักคำสั่งของเจสสิก้าก็ไม่ต่างไปจากคำสั่งของแทงกูหรอก
แถมในเวลาแบบนี้ทั้งทิฟฟานี่และเจสสิก้านั้นอยู่ในขั้นเสี่ยงจะหมดลมหายใจไปตลอดกาลเสียอีก
สุดท้ายกลุ่มหมอกควันสีขาวขุ่นก็ปรกคุมร่างของทั้งสามคนเพียงพริบตาเดียวทั้งสามร่างก็หายวับไปเหลือเพียงกลุ่มหมอกควันจางๆฟุ้งอยู่ทั่วบริเวณ




"หมายความว่า ทิฟฟานี่ช่วยเธอไว้งั้นเหรอ"
แทงกูถามอย่างแปลกใจ ก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าทิฟฟานี่จะยอมทำขนาดนี้ ทั้งที่จริงๆแล้วเค้าเลือกที่จะไม่ทำก็ได้

"อืม แต่ไม่รู้จะฟื้นเมื่อไรนี้สิ"

แทงกูลุกขึ้นจากเตียงที่เจสสิก้านอนอยู่พลางเดินไปยังแคปซูนขนาดใหญ่ที่มีร่างของทิฟฟานี่แช่อยู่ภายใน
ดวงตาเรียวไล่สำรวจร่างเปลือยเปล่าที่แสนถูกใจ แล้วก็ต้องชะงักสายตาไว้ยังเนินอกข้างซ้าย
ที่ยังคงมีรอยบาดแผลที่ยังปิดไม่สนิทอยู่ ปืนที่ซูยองจะใช้เพื่อยิงหัวใจเจสสิก้านั้นแน่นอนว่าต้องเป็นธาตุ Darkness
ว่าแต่ในตัวทิฟฟานี่เองก็มีธาตุนี้เจือปนอยู่ด้วยก็ไม่น่าจะแพ้อะไรมาก แล้วถ้าโดนที่หัวใจล่ะ

"คงไม่หรอกมั้ง ดูแล้วเจ๊คงเอากระสุนออกไปแล้วแหละ"
แทงกูพยายามคาดคำนวนผลลัพธ์จากทั้งหมดที่ได้รับรู้มา อย่างทิฟฟานี่น่ะ ไม่ตายง่ายๆหรอก
สองขาเรียวสาวเท้ากลับมานั่งลงยังริมเตียงที่เดิม โน้มกายลงช้าๆกระซิบเสียงผละแผ่ว

"แต่คนสำคัญที่สุดของชั้นน่ะยังไงก็ต้องไม่เป็นไร"



...ตัดฉับ!...

เนื่องจากในเวอร์เต็มยาวเกินไปแล้ว แต่คลีนเวอร์สั้นมาก
๕๕๕๕๕๕๕๕๕




From Writer...

แชปนี้มาแบบ...ยุนแทง เต็มๆเลอ
แฮ่ เลยคิดว่าไหนๆจะแย่งซีนคนอื่นๆไปแล้วงั้นก็เอาให้เต็มทีเลยแล้วกัน
แชปนี้ยกให้ 555555 เรื่องตัวละครอื่นไว้เคลียร์แชปหน้า หึหึ
(ไม่ค่อยจะลำเอียงเลยเนอะ)
แต่จริงๆแล้วเราคิดว่าเอ็นซียุนแทงในแฃปนี้สื่อถึงอะไรหลายๆอย่างนะ
ตอนแรกก็ว่าจะตัดออกแต่ไปๆมาๆ ก็รู้สึกว่าลงดีกว่าเผื่อจะช่วยให้รีดเดอร์ได้รู้อะไรที่อยากรู้บ้าง
หรือสร้างข้อสงสัยให้รีดเดอร์มากขึ้นกันแน่ >< แฮ่
แต่ที่แน่ๆที่เราตั้งใจจะสื่อในเอ็นซีนั้นคือความเหมือนและความแตกต่างระหว่างแทงกูและแทยอน
จากรูปร่างลักษณะและจากความคิดความรู้สึกของยุนอา

แล้วก็มีส่วนต่อจากแชปที่แล้วมาหน่อยนึงหลังจากที่ซูยองยิงปืนออกไปนั่นสรุปว่าฟานี่นางแมนคร่าาาา
เขียนเองหมั่นไส้เองซะงั้นอ่ะ แฮ่


จะบอกว่าจากที่ตามอ่านคอมเม้นแล้วก็มีคนเดาเรื่องนี้ถูกเยอะนะคะ ^^"
เอาเป็นว่าขอสปอยล์นิดนึงว่าเดี๋ยวจะเฉลยแล้วว่าแทงกูกะแทยอนจะเป็นอะไรกันแน่ หุหุ


ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร
แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่



ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา

No comments:

Post a Comment