Sunday, February 17, 2013

.....۞ Amulet Classic ۞..... [Chapter XXVIII]


Chapter XXVIII


วันนี้แทยอนบอกว่าจะมาหายุนอาที่คฤหาสน์ซึ่งตอนแรกเธอก็โดนสามีเด็กตัวสูงนั่นมันบ่นเอาว่าจะมาทำไมเดี๋ยวเค้าจะมาหาเธอเองอะไรงุงงิงๆของเค้าไป
รอจนเด็กน้อยมันบ่นเสร็จแล้วเธอก็บอกมันไปว่าใกล้จะถึงแล้ว
เด็กร่างสูงมันก็โวยวายใหญ่จนเธอแอบขำไม่รู้มันจะหวงอะไรเธอนักหนากับอีแค่พี่มันที่เจ้าชู้น่าม่อเนี่ย
แทยอนว่ายูริไม่ได้ครึ่งของเธอด้วยซ้ำ พอขับเข้ามาถึงก็ดูเหมือนว่าเด็กรับใช้ของที่นี่จะจำรถเธอได้แล้วมั้งก็รีบเปิดให้อย่างไว
เธอก็เลื่อนกระจกลงทักทายขอบคุณมันไปหน่อยมันก็ยิ้มหวานเยิ้มกลับมาเลยจอดรถเสร็จก็ก้าวเข้าไปในตัวคฤหาสน์(อย่างกับบ้านตัวเอง)
แล้วก็เจอซอฮยอนนั่งอยู่ที่เดิมที่เจอวันนั้นแล้วก็หันมาทักเธอเหมือนเดิมเป๊ะ เธอเลยนั่งคุยอยู่กับซอฮยอนไปก่อน
เพราะไอ้เด็กน้อยมันเหมือนจะงอนที่เธอแรดมาถึงคฤหาสน์มันวันที่ยูริอยู่นี่ขนาดยูริเป็นเพื่อนเธอนะนี่ถ้าไม่รู้จักกันจะเป็นยังไง
รอจนยูริเดินลงมาก่อนก็เลยได้นั่งเม้าส์มอยกันโดยที่ไม่มีเด็กน้อยมันแว๊ดขัดจังหวะขึ้นมาอีกคุยกันจนเหมือนหมดเรื่องจะคุยแล้ว
ไอ้เด็กบ้ามันก็ยังไม่ลงมาจนยูริบอกเธอว่าขึ้นไปจิกหัวมันบนห้องเลยก็ได้นะ
เธอเลยหัวเราะบอกไปว่าไม่หรอกหาเรื่องแกล้งดีกว่ายูริกับซอฮยอนก็ดูเหมือนจะงงๆ แล้วเธอก็ลุกไปนั่งข้างยูริบอกมันว่าถ่ายรูปกันเดี๋ยวเธอจะส่งไปแกล้งยุนอา
ดูเหมือนยูริมันจะเข้าใจจุดประสงค์เธอดีนะเพราะมันถามว่ายุนอามันงอนที่เธอมาใช่มั้ยเธอหัวเราะแล้วก็พยักหน้าตอบ
ยูริมันเลยรู้เห็นเป็นใจไปกับเธอด้วยซะเลยถ่ายแม่มเอาแก้มแนบแก้มกันเลยเนี่ยแหละเสร็จแล้วก็กดส่งทันทีและก็นั่งขำคิกคักกันอยู่สามคน


"พี่แทยอน!!จะยั่วเค้าหรือไง"
น่านรวดเร็วทันใจดีมั้ยล่ะมันลงมาพร้อมกับเสียงแหลมๆของมันพอขายาวๆก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอกับยูริมันก็ยืนเท้าสะเอวหาเรื่องเธอต่อ
"นี่ถามจริงเหอะเธอจะงอนอะไรห๊ะแค่พี่มาหาที่บ้านเนี่ย"
เออถามมันไปตรงๆนั่นแหละเวลาเด็กมันก็ตุ๊บป่องอย่างน่ารักอ่ะเวลามันงอนแบบนี้แล้วเธอช๊อบชอบ นี่เธอโรคจิตรป่ะวะ
"เค้าก็บอกพี่ไปแล้วไง" แน่ะมันยังจะย้ำอีกว่ามันยังคิดแบบนั้นอยู่ แทยอนเลยถอนหายใจยาวๆ "น้องแกมันกลัวเรากิ๊กกันว่ะลิง"
หันไปกระทุ้งศอกใส่ร่างสูงข้างๆยูริได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
"แบบนี้ฉันว่าเราน่าจะกิ๊กกันเลยนะมันจะได้ไม่ต้องคิดไปเอง"
พูดจบก็หัวเราะออกมาอีกทั้งเธอทั้งยูริทั้งซอฮยอนจะเว้นก็แต่เด็กน้อยของเธอนั่นแหละที่ยังยืนทำหน้าเป็นตูดกวางอยู่นั่น
แทยอนเลยถอนหายใจออกมาเบาๆอีกครั้งหันไปกระซิบบอกยูริว่า "งั้นฉันขออนุญาติแรดอ่อยน้องแกตรงนี้เลยนะ" มันก็หัวเราะบอก"เอาเลยจะรอดู"
ว่าแล้วคนตัวเล็กก็ผุดลุกขึ้นก้าวเนิบๆไปยังร่างสูงที่ยังยืนเท้าสะเอวอยู่นั้นวาดแขนโอบรอบคอเด็กขี้งอนไว้รั้งให้ร่างเราแนบชิดกัน
แล้วส่งสายตาหวานเยิ้มไปยกยิ้มมุมปากน้อยๆให้เด็กมันต้องแอบกัดริมฝีปากไว้

"จะหายงอนมั้ยคะ...ถ้าไม่ พี่จะกลับ"
ยุนอาเลิกคิ้วเชิงงงๆหมายความว่าไงวะ กูงอนเพราะมึงมาแล้วมึงมาบอกว่าถ้าไม่หายงอน มึงจะกลับนี่มึงง้อหรือมึงประชดหรือมึงทำอยากตามที่กูอยากให้ทำวะคะหรืออะไร
ยุนอาก็ยังคงยืนเงียบอยู่แบบนั้นจนแทยอนเริ่มจะเซ็งในความซึนของเด็กมันแล้วนะเนี่ย
"ไอ้ยุนแกอย่าบอกนะว่าแกไม่เข้าใจน่ะ"เออขอบใจว่ะยูริที่ถามมันแบบนั้นแล้วพอเด็กมันพยักหน้าปึ๊บแทยอนก็ถอนหายใจพรวดผละออกมาทิ้งตัวนั่งลงข้างยูริตามเดิม...เซ็งค่ะ
"เอ้า...ก็มันไม่เข้าใจนี่นา" ยุนอาเลิกคิ้วพูดน้ำเสียงแบบเค้าผิดเหรอเค้าไม่รู้นี่
"โอ๊ย...ยุนอานี่เธอคาสโนวี่ยังไงของเธอเนี่ยแค่นี้ไม่เข้าใจ" เอออดแว๊ดมันไม่ได้เลยจริงๆ ยูริหันมากระซิบว่าจะลากมันขึ้นไปเคลียร์บนห้องก็ได้นะ
แทยอนเลยแบบถ้าอย่างนั้นยังไงเธอก็โดนมันกดน่ะสิโอ๊ยไม่เอาอ่ะอารมณ์เสียหันไปกระซิบยูริกลับ
ฝากอัพเกรดความคาสโนวี่มันหน่อยเหอะซึนไปมันน่าหงุดหงิด พูดจบก็ลุกพรวดบอกยูริกับซอฮยอนว่าขอตัวก่อนแล้วก็สะบัดหน้าเชิ่ดๆเดินออกไป

"ไอ้น้องบ้า ทำซะฉันขายหน้าไปด้วยเลย เค้าบอกให้ฉันอัพเกรดความคาสโนวี่แก"
ยุนอาหันไปมองหน้ายูริทำตาปริบๆ หลังจากที่มองตามแทยอนที่เพิ่งเดินชับๆออกไปจากคฤหาสน์
"แกไม่รู้เหรอว่าเมื่อกี้ถ้าแกหายงอนแกก็จะได้อุ้มเค้าขึ้นห้องไปแต่ถ้าไม่หายเค้าก็จะกลับไปแล้วแกก็ต้องตามไปง้อเค้า
และถ้าฉันเป็นแกฉันก็จะเลือกอุ้มเค้าขึ้นห้องไป ไม่ใช่มายืนทำหน้าเอ๋ออยู่แบบนี้"
ดูมันยังมีหน้ามาทำหน้าเอ๋อใส่อีก เฮ่ยนี่น้องเธอมันซึนขนาดนี้เลยเหรอวะ เห็นบางทีมันก็ดูเจ้าชู้ร้ายจะตายนี่สรุปมันยังไงกันแน่เนี่ย
แทยอนยั่วมันขนาดนี้แล้วทั้งสายตาท่าทางทุกอย่างมันฟ้องหมดแต่ไอ้น้องบ้านี่มันก็ยังไม่เข้าใจ
เธอล่ะแทบอยากจะตบหน้าผากเหม่งๆของมันให้เหม่งกว่าเดิมจริงๆเลยให้ตายสิ
แต่แทยอนก็ดูเหมือนจะยั่วเก่งใช่เล่นเลยนะนั่นคิดแล้วก็แอบอยากได้ หึหึ คิดอะไรเลวๆอีกแล้วกู...แค่คิดนะไม่ทำหรอก

ร่างเล็กขับรถออกมาจากคฤหาสน์ยูริด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อยมันอารมณ์แบบเหมือนเสียเซล์ฟอะไรแบบนั้น
แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรจนถึงขั้นโกรธเคืองอะไรแบบนั้นหรอก แอบคิดว่ายุนอาจะไม่เข้าใจมุขแค่นั้นจริงๆน่ะเหรอมันไม่น่าเป็นไปได้นิแค่มุขตื้นๆ
เอ๊ะ...หรือว่ายุนอาจะแกล้งไม่รู้ เพื่ออะไรกันล่ะ

ยังไม่ทันได้อะไรมากกว่าแทยอนก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างแปลกใจแต่ก็ปนตกใจอยู่หน่อยๆ
...นี่คิดอะไรอยู่กันแน่ แทยอนได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจ เลิกคิ้วเชิงสงสัยเพียงอึดใจเดียวก็ต้องถอนหายใจออกมา
เมื่อมีร่างบางของใครบางคนยืนขวางหน้ารถเธออยู่ แม้แทยอนจะไม่อยากจอดสาวเจ้าก็คงกระโดดเกาะรถเธอได้อยู่ดี

"ไม่กลัวว่าจะมีใครมาเห็นเอาแล้วก็เป็นข่าวหรือไง"
แทยอนเอ่ยเสียงเรียบถามหญิงสาวที่เพิ่งเข้ามานั่งข้างๆ ทั้งที่สายตาก็ยังจับจ้องอยู่กับเส้นทางด้านหน้าอย่างแน่นิ่งและไร้ความรู้สึกใดๆ
"เธอกลัวหรือไง"ทิฟฟานี่ถามกลับมาเสียงหวาน "ฉันมีอะไรต้องกลัวเหรอจะมีก็แต่เธอนั่นแหละระวังตัวไว้เถอะ..."
หญิงสาวนิ่งไปพร้อมเม้มปากแน่นมองหน้าคนตัวเล็กด้วยสายตาไม่เข้าใจ"ฉันมาหาเธอแต่เธอกลับพูดอะไรไม่น่ารักเลยนะ" แทยอนถอนหายใจราวกับเหนื่อยหน่ายในใจ
แม้ออกจะแปลกใจอยู่หน่อยที่เห็นว่าทิฟฟานี่เปลี่ยนลุคไปเล็กน้อย เรือนผมยาวสลวยสีเพลิงที่เคยดูร้อนแรงในเวลาที่ผ่านมานั้น
ตอนนี้เหลือเพียงผมสั้นประบ่าสีดำนิลแม้จะดูเร่าร้อนได้ไม่เท่าสีเพลิง หากแต่แบบนี้ก็ดูเซ็กซี่ใช่เล่นเลย

"ก็ฉันไม่จำเป็นต้องทำตัวน่ารักกับเธอนิ ...มีอะไรอีกล่ะ"
แทยอนยังคงพูดนิ่งๆไร้ปฏิกริยาตอบรับใดๆเธอไม่อยากเจอผู้หญิงคนนี้และเธอก็ไม่รู้ว่าเค้าจะมายุ่งกับเธอทำไม
"อยากมาหาไม่ได้หรือไงล่ะเธอบอกไม่ให้ฉันเข้าทางโน้นฉันก็ไม่เข้าแล้วไง"
ร่างบางยังคงเอ่ยเสียงหวานราวกับจะหว่านล้อมเธอให้หลงกลเค้าอย่างนั้นแหละ

มือเล็กเลื่อนไปหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ามันกำลังกรีดร้องช่วยชีวิตเธออยู่แต่พอเห็นรายชื่อคนโทรเข้ามาก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง ...เอาไงดีวะเนี่ย
"รับไปสิคะฉันไม่วุ่นวายเธอหรอก" ร่างบางพูดออกมาแบบนั้นเพราะเค้าคงคิดว่าเธอกำลังลังเลว่าจะมีเสียงเค้ารอดเข้าไปสินะ
แต่ที่แทยอนลังเลเนี่ยก็เพราะว่ากำลังคิดว่าอยากให้มีเสียงเค้ารอดเข้าไปเนี่ยสิ
"เธออยากได้อะไร ถ้าฉันจะขอให้เธอช่วยทำให้มีเสียงเธอรอดเข้าไปแค่อย่าให้ปลายสายรู้ว่าเธอคือใคร"
ร่าบางหันมามองหน้าเธออย่างไม่เข้าใจแล้วทำหน้าครุ่นคิด "แค่เธอเปิดโอกาสให้ฉันก็พอ"
เธอหันไปเลิกคิ้วเชิงว่านี่มึงคิดอะไรอยู่วะ แต่เอาเหอะเธอก็แค่เปิดโอกาสแต่ไม่ได้เปิดใจสักหน่อยนิ
"งั้นช่วยแกล้งถามว่าฉันคุยกับใครแล้วกันนะขอแบบให้เหมือนมีซัมติงหน่อย"เค้ายิ้มหวานแล้วพยักหน้ากลับมา

"ว่าไงคะ"
'พี่อยู่ไหนอ่ะยุนมาที่ร้านก็ไม่เจอ'

"หึมมไปทำไมล่ะคะ"
'ก็มาง้อพี่ไงเค้าขอโทษนะ'

"อ่า..ตอนนี้พี่ยังไม่ว่างน่ะเดี๋ยวพี่โทรกลับนะ"
มือเล็กยกขึ้นกระดิกนิ้วเล็กน้อยเชิงส่งสัญญาณให้คนข้างๆพูดออกมา

"ที่รักคุยกับใครอยู่คะ"
"อ่ะเอ่อ..เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ"
'พี่อยู่กับใครน่ะ'

"เอาน่าเดี๋ยวกลับไปเล่าให้ฟังแค่นี้ก่อนนะคะ"
'ไม่พี่...'
นิ้วเรียวกดวางสายทันทีตามด้วยกดปิดเครื่องต่อไปติดๆแล้วยกยิ้มอย่างพอใจ "เธอจะเลิกกับเค้าหรือไง" หญิงสาวคนข้างๆเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง
แทยอนไม่แปลกใจหรอกนะว่าทำไมทิฟฟานี่ถึงถามแบบนั้น ก็ดูเธอทำสิอย่างกับอยากจะทะเลาะกับอีกฝ่ายงั้นแหละ
"ไม่รู้สิ...แล้วเธอน่ะจะเอายังไงฉันไม่ได้มีเวลามากหรอกนะ" ร่างบางถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ฉันน่ะไม่ยังไงหรอกถ้าเธออยากให้ฉันกลับตอนนี้ฉันก็จะไป" ร่างเล็กพยักหน้าโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้าอีกคน
แทยอนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังไม่ไล่ทิฟฟานี่ไปทั้งๆที่เค้าก็พูดมาแบบนั้นแล้ว
แทยอนเม้มปากแน่น..นี่อย่าบอกนะว่าเธอจะใจอ่อนให้เค้าน่ะไม่มันต้องไม่เป็นแบบนั้นสิ
เธอรู้สึกว่าเค้ากำลังมองเธออยู่ตลอดเวลาเลยยิ่งรู้สึกแบบนั้นความปั่นป่วนมันก็ยิ่งก่อตัวขึ้นเงียบๆ
เฮ้อ...ทำไมเราไม่เจอกันให้เร็วกว่านี้นะก่อนที่ฉันจะเป็นของใคร



"นังเตี้ย!!เธอไปไหนมาห๊ะเธอรู้มั้ยว่ายุนอามารอเธอนานแค่ไหนพอโทรไปมันก็บอกว่าเหมือนมีเสียงใครอยู่ด้วยเรียกที่รักๆ
เธอรู้มั้ยน้องมันร้องไห้หนักแค่ไหนที่โทรไปอีกแล้วเธอปิดเครื่องใส่มันน่ะ"
โอ้..เงิบคร่ะถ้านางจะสวดขนาดนี้ทำไมนางไม่เอาเงิงมาเฉาะกระบาลเธอเสียเลยล่ะคะ แทยอนชะงักไปเล็กน้อย
นี่เธอเล่นแรงไปสินะเฮ้อทำไงได้ล่ะบางทีก็อยากให้เค้ารู้ไว้บ้างนี่ว่าเธอไม่ใช่คนดีประเสริฐเริ่ดเลออย่างที่เค้าคิด
"แล้วนี่ยุนอาอยู่ไหนอ่ะกลับไปแล้วเหรอ"
เจสสิก้าเพยิดหน้าเชิงว่าเด็กร่างสูงอยู่บนห้องเธอเลยพยักหน้ารับแล้วรีบวิ่งขึ้นไป

แทยอนขมวดคิ้วแน่นเม้มปากเมื่อเปิดประตูห้องนอนตัวเองเข้ามาก็เห็นว่าร่างสูงนั่นนอนขดอยู่บนเตียงเธอโดยไร้ซุ่มเสียงใดๆ...ยุนอาหลับไปเหรอ
เรียวขาสั้นๆสาวเท้าก้าวเพียงแผ่วเบาเดินเข้าไปยังเตียง "ยุนอา...ยุนอาคะ" ลองเรียกชื่อพลางเอื้อมมือไปเขย่าร่างเค้าเบาๆก็ไร้ปฏิกิริยาตอบรับ
แทยอนใช้ปลายนิ้วเกลี่ยปอยผมที่ปรกใบหน้าดูดีของร่างสูงออกแล้วก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นสูง "โธ่เด็กน้อยของพี่ร้องไห้จนหน้าบวมเลยพี่ขอโทษนะ"
พูดเบาๆก่อนจะโน้มตัวลงไปประทับกลีบปากเรียวบางลงยังแก้มนุ่มๆที่ยังร้อนผ่าวเพราะผ่านการร้องไห้มายุนอาคงเหนื่อยจนหลับไปจริงๆนั่นแหละ
เฮ้อจะรู้สึกผิดมันก็รู้สึกนะที่แกล้งยุนอาแบบนั้นแต่เธอก็ไม่คิดนิว่าเค้าจะคิดมากขนาดนี้
แทยอนค่อยๆพลิกร่างสูงให้นอนหงายจับใบเค้าหันขึ้เพดานห้องสีฟ้าสว่างคล้ายกับมีก้อนเมฆลอยผ่านไปมาก่อนจะลุกเดินเข้าห้องน้ำไป

ผ่านไปครู่เดียวร่างเล็กก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆและจะนั่งลงข้างๆร่างสูงอีครั้ง
แล้วค่อยๆประคบผ้าลงบนใบหน้าเค้าเบาๆให้ความเย็นของน้ำช่วยให้เค้ารู้สึกดีขึ้น

เสร็จแล้วเธอก็นอนตะแคงหันไปหาเค้ามือเล็กก็ลูบไล้ใบหน้าเค้าอย่างเบามือ
"ยุนอาพี่รักเธอนะแต่บางทีพี่ก็ไม่อยากให้เธอดีกับพี่มากไป..."...เพราะพี่อาจจะแย่ว่าที่เธอคิด...
เสียงใสเอ่ยแผ่วเบาไม่รู้หรอกว่าเค้าได้ยินหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่ได้หวังจะให้เค้าได้ยินเท่าไร
แทยอนขยับกายเข้าใกล้เด็กร่างสูงก่อนจะประทับริมฝีปากลงกับจุดเดียวกันของเค้าดูดดุนกลีบปากเค้าเบาๆแต่ไม่ยอมผละออกสักที
จนสังเกตุเห็นว่ายุนอาเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเธอไปรบกวนการพักผ่อนของเค้า

"อื้อ..พี่ไปไหนมา"
พอยุนอาครางท้วงแทยอนจึงผละออกมาแล้วร่างสูงก็ถามเธอแบบนั้นเสียงเค้าเหมือนกำลังตัดพ้อเธอมากๆเลยทั้งแววตาเค้าก็ดูเว้าวอนปนโศกเศร้าเช่นกัน
ร่างเล็กเลยยิ้มบางๆให้เค้าไป "ถ้าพี่บอกแล้วเธอจะเชื่อพี่เหรอ" เออนั่นแหละเธอไม่อยากมานั่งพูดอะไรมากมายหรอกนะ ถ้าพูดไปแล้วเค้าจะไม่เชื่อเนี่ย
"ถ้ามันน่าเชื่อก็จะเชื่อ" ถ้ายุนอาพูดมาแบบนี้เค้าคงไม่เชื่อเธอแน่ๆว่ามันไม่มีอะไรเลย แทยอนถอนหายใจเบาๆอีกครั้ง
"แล้วถ้าพี่บอกว่าพี่แค่ไปขับรถวนไปวนมาล่ะ" ลองบอกร่างสูงไปแบบนั้นเค้าก็หลับตาลงเหมือนพยามกลั้นน้ำตาไว้เธอเลยขยับไปใกล้ๆเค้าอีกหน่อย
"แล้วพี่ไปกับใครคะ...เสียงนั้นน่ะ" เอ่อนั่นสิทีนี้จะบอกว่าเป็นใครดีล่ะถ้าบอกว่าเป็นใครคงจะไม่ดีมั้ง
เพราะถ้าบอกว่าเป็นคนคนนั้นยุนอาจะต้องคิดมากและถามอีกแน่ว่ามันอะไรยังไง

"พี่แค่เตี๊ยมกับเพื่อนไว้ว่าจะแกล้งเธอเล่นๆน่ะพี่ไม่รู้ว่าเธอจะคิดมากแบบนี้...พี่ขอโทษนะ"
เออแทยอนคงจะบอกยุนอาได้แค่นี้แหละแต่ร่างสูงจะเชื่อมั้ยเนี่ยมันก็เรื่องของเค้าแล้ว "แต่เสียงนั้นมันทำให้อดคิดไม่ได้นี่คะว่าต่อจากนั้นพี่จะทำอะไรกับเค้า"
แทยอนเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้นะว่าตอนนั้นเสียงของใครอีกคนที่อยู่กับเธอน่ะมันยั่วยวนได้อารมณ์มากจริงๆแต่จะให้เธอยืนยันยังไงล่ะว่าเธอไม่ได้อะไรเลยจริงๆ
"จะให้พี่พิพิสูจน์ยังไงคะหึ้ม ว่าพี่ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากขับรถและคุย"
ลองถามเค้าไปอย่างนั้นก็เธอไม่รู้นี่ว่ายุนอาจะคิดมากขนาดนี้แต่แทยอนก็ยินดีนะถ้าร่างสูงอยากจะให้เธอพิสูจน์อะไร
มือเรียวดึงใบหน้าใสเข้าไปใกล้ๆกวาดสายตามองทั่วทั้งใบหน้าจนเธอกัดริมฝีปากแน่นเวลาที่ได้เห็นใบหน้าเค้าอยู่ใกล้ๆแบบนี้มัน..
"ยุนอาจ้องหน้าพี่แบบนี้พี่จะทนไม่ไหวแล้วนะ" ใช่เห็นหน้ายุนอาใกล้ๆแบบนี้แล้วมันอยากจะดึงเค้ามาจูบแรงๆอยากจะขย้ำเค้ามันเสียตอนนี้เลยจริงๆนะ

"ขอลวนลามหน่อยนะคะ"แม่ะดูสิยุนอาพูดอะไรออกมาเนี่ยปกติเค้าไม่ขอเธอก็ให้เค้าอยู่แล้วนี่
เอ้าๆรีบอะไรขนาดนั้นอ้ะ... แทยอนกัดริมฝีปากไว้แน่นเหลือบมองเรียวแขนสลับกับใบหน้าเค้า
เมื่อจู่ๆยุนอาก็สอดมือเข้ามาใต้กางเกงเธอแค่นั้นเธอก็จะหลุดครางออกมาแล้ว "พี่อย่าเพิ่งหื่นสิ"
เอ้าเฮ่ยมันห้ามได้เหรอวะไอ่เด็กบ้านิ แล้วยุนอาก็จับขาเธอให้ชันเข่าขึ้นข้างนึง "อื้มยุนอาเธอทำแบบนี้พี่จะไม่หื่นได้ไงล่ะ" โอ้ยเธอจะไม่ไหวแล้วนะ
มือเรียวลูบขาอ่อนด้านในเธอจนถึงมาถึงขาหนีบวินาทีนี้เธอครางเรียกชื่อเค้าไปเรียบร้อยแล้ว
เค้าเพียงแค่ลากปลายนิ้วผ่านกลางกายของเหลวที่ถูกเก็บกักไว้ก็ไหลทะลักออกมา
"ยุนเชื่อค่ะว่าพี่ไม่มีอะไรกับเค้า" เธอเลิกคิ้วใส่ร่างสูงเล็กน้อย "นี่คิดจะเช็คสภาพการใช้งานพี่เลยเหรอหึ้ม" ยุนอายิ้มกริ่มในขณะที่นิ้วเค้าก็ยังลากเน้นย้ำๆอยู่ที่เดิม

...cut

"ทำไมทีแบบนี้คิดได้ล่ะว่าจะเช็คแบบนั้น" หลังจากที่ยุนอาส่งแทยอนถึงปลายทางแล้วเธอก็เอ่ยถามร่างสูงไปอย่างนั้น
"ก็คิดว่าถ้าพี่มีอะไรกับใครมาก่อนนี้จริงๆยังไงมันก็ต้องแฉะบ้างแหละ"
แทยอนยกยิ้มแหมเอาเหอะถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าถ้าเธอจะมีอะไรกับใครมาก่อนจะที่มาเจอร่างสูงเธอคงไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้เค้าจับได้หรอก
แต่นี่มันไม่มีไงก็เลยไม่คิดจะพูดอะไรออกมาให้ยุนอาต้องคิดมากอีก




"พี่ว่าตัวเองสู้เก่งมั้ย" แทยอนขมวดคิ้วมองหน้าเด็กน้อยเชิงแปลกใจ "ทำไมจู่ๆมาถามเรื่องนี้ได้คะ" เด็กตัวสูงยิ้มบางๆแล้วขยับมาหอมแก้มเธอไปฟอดใหญ่
"ก็เค้าอยากสู้เก่งๆบ้างง่ะอยากจะปกป้องพี่ได้บ้าง"
แหมคนน่ารักนี่มันทำอะไรก็น่ารักจริงๆเลยดูเค้าพูดสิได้ยินแบบนี้แทยอนก็อดยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้จริงๆ
"โอ้ยแค่นี้พี่ก็รู้สึกว่าเธอดีเกินไปแล้วถ้าเธอดีกว่านี้พี่อาจจะไม่กล้าคบเธอต่อก็ได้นะ"
เธอพูดทีเล่นทีจริงให้ร่างสูงต้องยู่ปากใส่ แต่แทยอนก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆนะเธอคงไม่อยากฉุดคนดีๆอย่างยุนอาให้ต้องมาจมปักอยู่กับผู้หญิงอย่างเธอหรอกนะ
"แล้วทำไมเธอถึงคิดว่าเธอปกป้องพี่ไม่ได้ล่ะ"เออนั่นสิทำไมเค้าถึงคิดอย่างนั้นทั้งๆที่เค้าก็พยามปกป้องเธอมาตลอด
"ก็ตั้งแต่รอบนั้นที่เราไปค่ายนั่นน่ะฉันก็รู้สึกว่าฉันปกป้องพี่ไม่ได้มาตลอด" แทยอนได้ยินแบบนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
"อันนั้นน่ะเค้าไม่เรียกว่าปกป้องไม่ได้หรอก แต่มันคือการที่เธอนึกไม่ถึงเท่านั้นเอง" ยุนอาเลิกคิ้วขึ้นสูงเชิงว่าหมายความว่าไงนึกไม่ถึง
"งั้นถ้ามันมีเรื่องนึกไม่ถึงเกิดขึ้นอีกฉันก็ไม่สามารถปกป้องพี่ได้อีกน่ะสิ"แทยอนถอนหายใจออกมาเบาๆนี่เค้าซื่อจริงๆใช่มั้ยเนี่ย
แต่ทำไมเค้าถึงได้ซื่อขนาดนี้นะ "พี่หมายความว่าเธอนึกไม่ถึงว่าช่วงเวลานั้นเธอควรทำอะไรต่างหากเล่า
บางครั้งเธอก็ควรจะมีเล่ห์เหลี่ยมเขี้ยวเล็บบ้างแต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นคนไม่ดีแค่มีไว้ป้องกันตัวน่ะ" เค้ามองหน้าเธอทำตาปริบๆ

"เอางี้ตอนแรกที่เจอพี่เธอคิดว่าพี่จะเป็นคนยังไง ก็ซื่อๆอ่อนแอน่าดูแลถนุถนอมน่ารักน่าเอ็นดูใสๆแบ้วๆ" "แล้วความจริงล่ะ"
"ตรงกันข้าม""อื้มนั่นแหละแต่ไม่จำเป็นว่าเธอจะต้องเป็นขนาดนั้นนิแค่ร้ายให้เป็นบ้างก็พอ
เพราะเราควรจะเห็นแก่ตัวก่อนจะไปเห็นแก่คนอื่น" "หมายความว่าไง"
"ก็อย่างวันนั้นเธอก็โดนล็อคตัวพี่ก็โดนล็อคตัวถึงเธอจะอยากปกป้องพี่แทบตายเธอก็ไม่มีทางปกป้องพี่ได้
ถ้าเธอไม่ปกป้องตัวเองทำให้ตัวเองหลุดออกมาได้ก่อนจริงมั้ยล่ะพี่ว่าจริงๆแล้วไอ้พวกนั้นมันสู้เธอไม่ได้หรอก "
ร่างสูงทำท่าครุ่นคิดอยู่พักนึงก็ซุกใบหน้าลงกับซอกคอเธอราวกับจะออดอ้อนเธออย่างนั้นแหละ






ปัง!
"เฮ่ย มีอะไรวะ"
ยูริโพร่งขึ้นทันทีหลังจากที่เสียงลั่นไกปืนดังขึ้นและทุกคนรีบลุกพรวดแล้ววิ่งออกมาดูก็เห็นมีหญิงสาวร่างบางสวมเสื้อโค้ทสีดำตัวโคร่งมีฮูทบดบังใบหน้าส่วนบนไว้
และชายหนุ่มร่างสูงผมสีสีบลอด์สว่างในชุดขาวสู้กันอยู่อย่างดุเดือด
เสียงลั่นไกปืนยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพาเอาเหล่าแฟนๆตื่นตระหนกบ้างก็ฮือฮากันยกใหญ่ "จะห้ามหรือเปล่า" แทงกูหันไปถามยูริ
ร่างสูงเพียวส่ายหน้าเบาๆ "ปล่อยไปก่อน มีใครใกล้ตายหรือมีการรุมกันค่อยช่วย" ร่างเล็กพยักหน้าเธอคิดว่าแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน
ปล่อยให้เค้าเคลียร์ปัญหากันไปเองก่อนถ้ามีใครเล่นสกปรกค่อยไปช่วยอีกฝ่าย เพราะถ้าเข้าไปช่วยก่อนก็จะกลายเป็นว่าสร้างศัตรูให้ตัวเองเปล่าๆ

ยืนมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจนตอนนี้เห็นว่าร่างของทั้งคู่เริ่มมีบาดแผลและอ่อนแรงลงไปบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะมีใครหยุดลง
ทั้งคู่เริ่มมาสู้กันในระยะประชิดตัวต่างฝ่ายต่างสะบัดคมมีดฟาดเชือดเฉือนอีกฝ่ายอย่างดุเดือด
แทงกูเริ่มรู้สึกตะหงิดๆว่าอีกสักพักจะต้องเกิดอะไรสักอย่างแน่ๆ มือปลายนิ้วหยิบมีดเล่มเล็กออกมากำไว้แน่น
เพื่อเตรียมพร้อมไว้ก่อนโดยที่ยังไม่มีใครทันสังเกตุเห็นว่าเธอหยิบมีดออกมาตั้งแต่เมื่อไร
ฟลึบ! ร่างเล็กกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อจู่ๆก็มีร่างของหญิงสาวอีกคนกระโดดออกมาจากมุมไหนสักมุมนึง
ผ้าคลุมไหล่ที่โผล่สะบัดออกมาพริ้วไหวและมันก็ปรกคลุมขึ้นมาถึงศีรษะของร่างเล็กนั้นพอจะช่วยให้ผู้คนที่ไม่ทันสังเกตุจำเธอได้น้อยลง
เคร้ง! คมมีดของเธอแรงเค้าปะทะกับเต็มแรงจ้องใบหน้ากับผ่านโลหะมีคมที่เกี่ยวกันอยู่
เคร้ง! มืออีกข้างตวัดมารับคมมีอีกครั้งที่ช่วงล่าง ก่อนจะใช้เรี่ยวแรงที่มีเหวี่ยงร่างของหญิงสาวลงไปจมที่พื้น
ฟลึบ! เท้าแตะพื้นไม่ทันไรก็มีร่างบางที่มีบาดแผลอยู่บนกายอีกคนพุ่งตัวเข้ามายังร่างเธออย่างรวดเร็ว
หมับ! มือเล็กคว้าข้อมืออีกคนไว้ก่อนที่คมมีดจะฝั่งลงบนกลางอก เพียงแค่สายตามาบรรจบสบเข้าหากัน
ของมีคมในมือเรียวก็ล่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างง่ายดาย "แทงกู" ร่างเล็กกระตุกมุมปากเล็กน้อย
เพียงอึดใจเดียวแทงกูก็ดีดตัวขึ้นสูงอีกครั้ง แล้วม้วนตัวลงมาฟาดท่อนขาเข้าไปเต็มใบหน้าของหญิงสาวอีกคนที่พุ่งมาทางด้านหลังเธอเมื่อครู่
ร่างของหญิงสาวกระเด็นกลิ้งไปที่พื้นตามแรง ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินไปยังร่างของชายหนุ่มที่พยามยันกายลุกขึ้น

"มีปัญหาอะไรกัน"
แทงกูตามเสียงเรียบชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดูท่าแล้วเขาคงลุกไม่ขึ้นแน่ๆ
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันก่อนจะหันขวับแล้วเบี่ยงตัวไปด้านซ้ายเพื่อหลบมีดที่พุ่งมาจากทางด้านหลัง
"ฉันไม่ได้จะสู้..." หมับ! หมับ! ยังพูดไม่ทันจบก็โดนยั่วโมโหด้วยการไม่ฟังและเหวี่ยงคมมีดใส่อีกแบบนี้
แถมมันยังเฉียดผ่านใบหน้าเธอจนมีเลือดซึมออกมาเป็นทางยาวร่างเล็กกัดริมฝีปากร่างไว้แน่นสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นเคืองไว้
แต่ดวงตาสีฟ้าแวววับราวกับมีประกายไฟประทุอยู่ในนั้น "ยูริคุณช่วยดูผู้ชายคนนี้ทีเขาลุกไม่ไหวหรอก"
เมื่อเห็นว่ายูริวิ่งเข้ามาแล้วร่างเล็กจึงหันกลับมาที่หญิงสาวตรงหน้าที่ช่างดื้อรั้นพยามจะจู่โจมเธอให้ได้
"เตือนดีดีไม่ชอบใช่มั้ย" มือเล็กที่กำข้อมืออีกคนไว้แน่นพยามบีบจนอาวุธเค้าล่วงหล่นลงสู่พื้น จากนั้นก็รวบสองมือของร่างบางไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว

แทงกูกระตุกยิ้มมุมปากให้สาวเจ้าได้เห็นเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ปลายนิ้วของเธอจะสัมผัสเข้าที่ขมับซ้ายของเค้า
แล้วจัดการปล่อยให้อีกคนเป็นอิสระ แต่เหญิงสาวกลับทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นราวกับไร้เรี่ยวแรงใดๆ ร่างเล็กย่อตัวลงเพื่อมองหน้าหญิงสาวและเค้าก็จ้องเธออยู่เช่นกัน
"ฉันไม่ได้อยากมีเรื่องกับเธอ...วิคตอเรีย" หญิงสาวเบิกตากว้างทันทีเค้าคงคิดว่าเธอไม่รู้จักเค้าล่ะมั้ง
แทงกูยิ้มมุมปากอีกครั้งพอเก๋ๆแล้วสะบัดก้นเดินกลับไปหาเจสสิก้า ปลายตามองร่างบางอีกคนที่ยื่นนิ่งงันอยู่ที่เดิมเล็กน้อย
ก่อนจะตวัดสายตากลับยิ้มให้เพื่อนสาวที่ยกมือขึ้นมาลูบแก้มด้านขวาของเธอที่มีรอยกรีดด้วยของมีคมยาวจนเกือบถึงใบหู

"เป็นอะไรหรือเปล่าฉันห้ามทำไมไม่ฟังฉันบ้างนะ"
ทิฟฟานี่รีบวิ่งมาประคองร่างของหญิงสาวทั้งที่ร่างของตัวเองก็เต็มไปด้วยบาดแผลอยู่เช่นกัน
เธอพยามห้ามวิคตอเรียไว้ไม่ให้มายุ่งกับแทงกูแล้วแต่สาวเจ้าก็ไม่ยอมฟัง ผลจึงกลายมาเป็นวิคตาเรียนั่งคุกเข่าไร้เรี่ยวแรงอยู่อย่างนี้
"เค้ารู้จักฉันได้ไงน่ะ" วิคตอเรียเอ่ยน้ำเสียงแหบแห้งราวกับขาดน้ำมาเป็นเวลายาวนานเธอไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะยกแขนตัวเองด้วยซ้ำ
"เค้าไม่เคย...ไม่รู้อะไรหรอก" นั่นแหละคำตอบสำหรับคนที่รู้จักแทงกูดีพอ
"สักวันฉันจะฆ่าเค้าให้ได้" ร่างบางชะงักไปเธอฟังออกว่าวิคตอเรียพูดจริงและเค้าต้องทำจริงแน่ๆแต่จะทำสำเร็จมั้ยเธอไม่แน่ใจ
เธอไม่รู้ว่าวิคตอเรียเก่งแค่ไหนแต่เธอรู้ว่าตอนนี้ทั้งเธอแล้วเค้าสองคนรวมกันยังไม่อาจจะสู้คนคนนั้นได้เลย
ก่อนจะฉุดร่างของวิคตอเรียให้ลุกขึ้นทิฟฟานี่ก็จัดการแก้พิษให้หญิงสาวไปเค้าดูจะแปลกใจอยู่หน่อยที่เธอรักษาพิษอัมพาตชั่วขณะได้
แต่ทิฟฟานี่ก็ไม่คิดจะพูดอะไรออกไปว่าเธอวิธีแก้พิษนี้ได้...ก็เพราะแทงกูอีกนั่นแหละ


หลังจากที่ฟังชายหนุ่มบอกเหตุผลของเขามาแทงกูก็ต้องขมวดคิ้ว เขาบอกว่าร่างบางที่เขาสู้ด้วยนั้นเคยรอบสังหารหมู่ครอบครัวเขา
และเขาก็เพิ่งตามตัวเจอ แต่ที่แทงกูสงสัยตอนนี้น่ะ "ชอนดุง...นายอยู่ไวทัลไม่ใช่เหรอ" ชายหนุ่มหันมาเลิกคิ้วเชิงว่ารู้ได้ไงแต่เขาก็ยอมพยักหน้ารับ
"ถ้าเมื่อครู่ฉันไม่เข้าไปยัยนั่นจะเก็บนายหรือเปล่า" เขาก้มหน้าลงหลบสายตาแล้วถอนหายใจเบาๆ
"ผมก็ไม่แน่ใจแต่ที่ผมรู้คือคุณวิคคลั่งผู้หญิงคนนั้นมาก" แทงกูพยักหน้ารับถ้าจะฆ่าได้แม้กระทั่งคนในสังกัดตัวเองนี่...ไม่ไหวมั้ง
"ถ้านายฆ่าวิคตอเรียได้นายจะฆ่าเค้าหรือเปล่า" ชายหนุ่มขมวดคิ้วหันมามองหน้าเธออีกครั้งแล้วส่ายหน้าช้าๆ
"ผมทำอย่างนั้นกับผู้มีพระคุณกับผมไม่ได้หรอก" แทงกูเลิกคิ้วขึ้นข้างนึงผู้มีพระคุณงั้นเหรอ "หมายความว่าไง"
"คุณวิคเก็บผมมาเลี้ยงหลังจากที่ครอบครัวผมโดนรอบสังหาร" "แล้วแบบนี้นายจะทำไงต่อไปล่ะในเมื่อดูแล้ววิคตอเรียไม่ช่วยนายเลย"
ชายหนุ่มถอนหายเลยออกมาอีกครั้งแล้วส่ายหน้าช้าๆ



"ทำไมถึงจะฆ่าเค้าล่ะ"
หลังจากที่กลับมาถึงห้องแล้ววิคตอเรียก็จัดการฉีดสารฟื้นฟูให้ทิฟฟานี่จนตอนนี้บาดแผลก็หายหมดแล้ว
พออาบน้ำเสร็จก็มานอนคลอเคลียร์กันอยู่บนเตียงเธอก็พาลนึกถึงคนคนนั้นขึ้นมาอีกแล้วนึกถึงรอยยิ้มมุมปากแบบนั้นของเค้า..
และเมื่อนึกถึงคนตัวเล็กนั่นแล้วเธอเลยอดสงสัยไม่ได้ตอนที่วิคตอเรียพูดว่าเค้าจะฆ่าคนคนนั้นเธอเลยถามออกไปตรงๆ
"เค้าทำเธอเสียใจ" คำตอบสั้นๆที่ทำเอาความรู้สึกแปลกๆวูบเข้ามาในร่างกายทิฟฟานี่นิ่งไปอยู่หลายอึดใจพอตั้งสติได้ก็เริ่มถามเค้าต่อ
"ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ...แต่ถ้าเค้าไม่ทำแบบนั้นเราก็จะไม่ได้เจอกันนะ"ถามทั้งไที่ใบหน้ายังซุกอยู่ที่เนินอกของอีกคนเธอไม่กล้าสบตาเค้าหรอก
ยังไม่กล้าให้เค้ารู้หรอกว่าเธอยังรักแต่คนคนนั้นอยู่เต็มหัวใจ "แล้วมันมีอย่างอื่นให้คิดด้วยเหรอ..."
"ฉันคิดว่าการที่รู้ว่าเธอมีความสุขดีบางครั้งมันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีมากกว่าที่ต้องรู้ว่าเธอเสียใจแล้วฉันจะได้อยู่ข้างๆเธอนะ"
ทิฟฟานี่เม้มปากแน่นเธอไม่อยากให้เค้าเข้าใจคนที่เธอรักแบบผิดๆแต่เธอก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงถึงแม้ว่าวิคตอเรียจะดีกับเธอมากก็เถอะ

"เธอคิดว่าเค้าทิ้งฉันเหรอ" ทิฟฟานี่เองก็อยากรู้นะว่าคนอื่นที่เค้าไม่ได้รู้เรื่องวงในเค้าจะคิดยังไงวิคตอเรียครางรับสั้นๆ ร่างบางถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ฉันไม่อยากให้เธอเข้าใจผิดอยู่แบบนี้ แต่ฉันไม่รู้จะบอกเธอยังไงดีเอาง่ายๆคือฉันทำตัวเอง"
ใช่เธอทำตัวเองเธอผิดที่เธอพลาด...เธอพลาดที่ปล่อยให้เจสสิก้ารักเธอมากไป พลาดที่เผลอใจไปรักแทงกูก่อนจะรู้ตัว
พลาดที่ยอมให้อารมณ์หึงหวงครอบงำจนไปล่วงระเมิดสิทธิของเจ้าของเธอ ในขณะที่แทงกูพยามทำให้เธอหลุดพ้นจากความผิดข้อแรก
แต่เธอกลับสร้างความผิดข้อที่สองที่ร้ายแรงกว่าเดิมขึ้นมาอีก เฮ้อ...
"หมายความว่าไงทำตัวเอง"วิคตอเรียยังคงไม่เข้าใจและทิฟฟานี่ก็ไม่แปลกใจที่เค้าจะงง
"ฉันบอกเธอไม่ได้จริงๆแต่แทงกูมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้และเหตุผลพวกนั้นฉันเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเองเค้าไม่ได้ทิ้งให้ฉันเสียใจ
แต่เค้าขอให้เราห่างกันเพราะเหตุผลพวกนั้น"ทิฟฟานี่คิดว่าแบบนี้วิคตอเรียน่าจะเข้าใจที่สุดแล้วนะ
หญิงสาวพยามครุ่นคิดตามที่อีกคนพูดมาแม้ว่าจะอยากรู้ว่าเหตุที่ทิฟฟานี่พูดถึงนั้นมันคืออะไรแต่ในเมื่อสาวเจ้าก็พูดมาแล้วว่าบอกไม่ได้

ทิฟฟานี่เองก็ไม่รู้ว่าเธอจะพยามปกป้องคนคนนั้นทำไม แต่แววตาเค้าที่เธอได้เห็นวันนี้มันไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย
ถ้าคิดเข้าข้างตัวเองเธอรู้สึกว่าแววตาเค้ากำลังจะบอกเธอว่าเค้าคิดถึงเธอมากแค่ไหน
อีกทั้งเค้ายังเลือกที่จะใช้มือเปล่ารับการจู่โจมของเธอทั้งๆที่เค้าไม่จำเป็นต้องรีบเก็บอาวุธเร็วขนาดนั้นก็ได้
เฮ้ยยเดี๋ยวนะ..งั้นก็หมายความว่าตั้งแต่แรกแล้วเค้า...จำเธอได้งั้นเหรอ



From...Writer

อ๋อยยย อยากจะกลับมาเขียนเรื่องนี้ให้มันจบๆแต่นึกไม่ค่อยออก
555555+
มาถึงตอนนี้ชี้แจงนิดนึงว่า ทิฟฟานี่ไม่รู้นะคะว่าจริงๆแล้วแทงกูรู้เรื่องนางเมื่อไร
แต่นางเชื่อว่าแทงกูรู้อยู่ก่อนแล้ว นางก็แเลยรวบยอดบอกวิคตอเรียไปอย่างนั้น

ตอบคุณ realboon :ฟานี่นางไม่ได้ยอมง่ายหรอกค่ะแต่นางไม่กล้าก่อคดีเพิ่มให้ตัวเอง เลยจำใจต้องยอม 555+

------------------------------------

ต้องกราบขออภัยรีดเดอร์งามๆเลยนะที่ช่วงนี้เหมือนจะเริ่มมาอัพเรื่องนี้ช้า
สาเหตุนั่นมาจากเราดันทำเนื่อเรื่องส่วนที่เหลือหายไปหมดเลย แฮ่
(คร่ำครวญกับมันไปหลายวันอยู่)
เพราะตอนแรกเขียนจบไปแล้ว พอหายเลยต้องมาเขียนใหม่ อ๋อยย

แล้วยังกระแดะไปเปิดเรื่องใหม่อีกนะ 5555
เรื่องเก่าก็ดองอยู่ แฮ่

ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร
แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่

เนื้อหาทุกส่วนที่ถูกตัดออกจะปรากฎอยู่ในเล่มนะคะ

ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา

1 comment:

  1. ไรเตอร์ทำไมไม่ลงต่อหล่ะค่ะ?!
    จะขาดใจอยู่แล้ว TT

    ReplyDelete