Saturday, January 12, 2013

۞Amulet Classic ۞ [Chapter XXIII]




Chapter XXIII







"ทิฟฟานี่...นี่เธอหลับเหรอเมื่อคืนมัวแต่ยั่วแทงกูอยู่หรือไง"
ฮยอนซึงเขย่าร่างบางที่เหมือนจะผลอยหลับไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ พอเขาขับรถมาถึงที่หมายกำลังจะเปิดประตูลงจากรถก็เห็นว่าสาวเจ้ายังไม่ปรือตาเลย
"ถึงแล้วเหรอ" ทิฟฟานี่ถามเสียงงัวเงียเหมือนเธอได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงเอง แต่จะโทษใครได้ล่ะก็ในเมื่อเธอเล่นยั่วแทงกูจนโดนเค้าดุเอาอ่ะถึงได้ยอมนอน
เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองนะว่าทำไมเวลาเห็นเค้าแล้วจะต้องโรคยั่วกำเริบมาคิดๆดูก็ตกใจตัวเองเป็นบ้าเลย
ไม่คิดไม่เคยฝันว่าตัวเองจะกลายมาเป็นคนแบบนี้ได้คิดแล้วก็ถอนหายใจเฮือกหันไปบอกฮยอนซึง
"ขอเวลาจูนแป๊บ" ชายหนุ่มก็ถอนหายใจเบาๆเชื่อมั้ยหมอนั่นมันยังบอกว่ามันตกใจเลยที่รู้ว่าเธอเป็นแบบนี้
แต่มันก็บอกว่ายังไม่ตกใจมากที่เธอเป็นกับแทงกูคนเดียวเพราะอย่างน้อยเธอก็เป็นเพราะความรักหรือเปล่าไม่แน่ใจ
แต่เธอคิดว่าเธอรักแทงกูนะหรืออาจจะเป็นเพราะความลุ่มหลง
อันนี้น่าจะมีเปอร์เซนเป็นไปได้เพราะฮยอนซึงก็บอกว่าเมื่อก่อนช่วงที่มันสนิทกับแทงกูอยู่ในระดับนึง
สาวๆที่มาคอยรอพลีกายให้เค้าก็เยอะพอๆกับตอนนี้แหละแล้วแบบอารมณ์ประมาณว่า
เมื่อก่อนพวกรับไนท์ช็อตมันได้นั่งอยู่ในจุดพักด้วยไงฮยอนซึงก็เลยเหมือนแบบอยู่ว่างๆกูไปคุยกับพวกมันหน่อยก็ได้
อะไรแบบนั้นไปๆมาๆเลยรู้จักกันในระดับนึงมันก็เลยพอรู้มาว่าแทบจะเกือบแปดสิบเปอร์เซนเลยมั้ง
ในพวกสาวๆที่รับไนท์ช็อตที่คลั่งใคร้หลงใหลแทงกูแม้บางคนเคยไปกับเค้ามาแล้วก็ยังอยากไปอีก
พอมานึกถึงจุดนี้เธอก็อดแปลกใจไม่ได้คิดดูสิถ้าแทงกูทำกับพวกรับไนท์ช็อตแบบในคลิปที่เค้าเปิดให้เธอดูมันน่าแปลกนะ
ที่สาวๆพวกนั้นจะติดใจน่ะแต่สาวๆพวกนั้นก็ยังยืนยันอยู่ดีว่าอยากได้เค้าอยากให้เค้าทำ
เออแปลกดีเธอเลยมาคิดๆดูงั้นเธอก็คงเหมือนสาวๆพวกนั้นแหละมั้งแต่บังเอิญว่าแทงกูให้เธอแบบพิเศษเธอก็เลยหลงเค้าแบบพิเศษ 555


ทิฟฟานี่และฮยอนซึงเดินเข้ามาในประตูรั้วสีดำที่ล้อมตัวคฤหาสน์หลังใหญ่ซึ่งเป็นที่เดิม
ที่ทิฟฟานี่เคยมาแล้วและรู้ดีว่ามันวุ่นวายมากแค่ไหนเราเราสองคนเดินต่อไปอยู่พักนึงก็ย่างเข้าใต้ชายคาคฤหาสน์
แต่ดูเหมือนว่ารอบนี้คงจะไม่วุ่นวายเท่ารอบแรกนะหึพลาดแล้วล่ะ
เพราะรอบนี้มีคนเดินคุมเข้ามาข้างในแค่คนเดียวเอง เธอก็เลยจัดการแอบทิ้งวัตถุเล็กๆสีดำไว้เรื่อยๆ
เพราะไอ้คนคุมมันก็คงจะจำเธอได้แหละรอบที่แล้วเจ้านายมันมากอดเธอซะขนาดนั้นนิรอบนี้มันเลยหักเหความสนใจไปเดินคุมฮยอนซึงแทนเลยไง
แบบนี้เธอก็ได้ลาบเลยดิเพราะไอ้พวกที่เธอทิ้งไว้น่ะมันก็คล้ายๆกับกล้องอันเล็กๆที่มีขาวิ่งได้เองน่ะแบบเดียวกับที่แจจุงเคยให้คนเอาไปติดไว้ในห้องของแทงกูที่โรงแรมXXX
และระบบของพวกมันก็ถูกตั้งมาให้พวกมันอยู่ห่างกันระหว่างตัวต่อตัวก็ประมาณสิบเมตรเห็นจะได้ พอมายืนรอแจจุงอยู่แถวๆหน้าลิฟท์เธอก็ทิ้งไว้อีก
แทงกูบอกให้ทิ้งไว้ในลิฟท์เยอะๆเดี๋ยวเค้าจะจัดการระบบมันเอง ซึ่งเธอก็ไม่รู้หรอกว่าเค้าจะทำยังไงและเธอก็มีหน้าที่แค่ทำตามที่เค้าบอก


"ว้ายย น้องฮยอนซึง!!"
นั่นไงออกจากลิฟท์มาแจจุงก็ถลารวบตัวฮยอนซึงไปกอดอย่างแนบแน่นแล้วก็ทำท่าตื่นเต้นโคตรอ่ะ
ปากก็พล่ามบอกคิดถึงอย่างนั้นคิดถึงอย่างนี้ ฮยอนซึงก็ทำกระแซะเข้าหาแจจุงเกาะแขนไว้แน่นอ้อนนู้นอ้อนนี่
ว่าแล้วก็ขำหน้าลูกน้องมันว่ะหน้ามันฟ้องแบบ เอ่อเจ้านายครับเก็บอาการหน่อย อะไรแบบนั้นมากอ่ะ

พอเดินเข้าลิฟท์มาทิฟฟานี่ก็ยืนด้านหลังคนเดียวไง ปล่อยให้ชายหน้าหวานสองคนเค้าได้กระแซะคุยกันไปตามประสา
เธอก็เลยทิ้งกล้องได้อย่างสบายใจ แทงกูจะค่อยๆบอกอยู่เรื่อยๆว่าต่อไปทำไงบ้างถ้าพวกเธอไม่ได้ทำแบบที่เค้าอยากได้น่ะนะ
แต่ถ้าเรื่องตอแหลนี่อย่าได้ห่วง 555 และที่เค้ารู้ว่าเธอทำอะไรถูกใจเค้ามั้ยเนียก็เพราะว่ากล้องจิ๋วที่เธอติดไว้ใกล้ๆหางตาด้านซ้าย
ทำให้แทงกูสามารถเห็นทุกอย่างตามที่เธอเห็นและโฟนก็เป็นแบบที่เค้าสามารถได้ยินทุกอย่างนั่นแหละ
คนอะไรก็ไม่รู้โคตรขี้โกง... จะว่าไปจริงๆแล้วแทงกูบอกว่าอันนี้เนี่ยมันคือแผนยูรินะ
แต่เธอก็เห็นว่ามีแต่เค้านั่นแหละที่เป็นคนกำหนดการทุกอย่าง เออพิลึกดีมั้ยล่ะ

พอเข้ามาในห้องเดิมแค่เปิดประตูเท่านั้นแหละยุนโฮก็มีอาการเดียวกับแจจุงเมื่อครู่เลยคือเอาง่ายๆคือ
ตอนนี้เหมือนเธอเริ่มจะกลายเป็นอากาศธาตุมากขึ้นเรื่อยๆแต่มันก็ตรงกับแผนดีแล้วเพราะเธอมีน่าที่ทิ้งวัตถุ555
ขณะที่ปล่อยให้สามคนนั้นก็เม้าส์มอยกันอย่างออกรสตามประสา...คนไม่ได้เจอกันมานานน่ะนะ 555
เธอส่องซ้ายส่องขวามองไปเรื่อยเพราะแทงกูบอกให้ถ่วงเวลาไว้ก่อนเพราะเค้าคงต้องใช้เวลาเตรียมการเพื่อไม่ให้มีอะไรพลาดได้
และตอนนี้ฮยอนซึงก็ทำน่าที่ได้ดีเลยทีเดียวหมอนั่นกำลังชวนแจจุงและยุนโฮคุยเรื่องย้อนรอยอดีตกันอยู่555
เพราะจริงๆแล้วเธอรู้จักกับแจจุงได้เพราะฮยอนซึงเนี่ยแหละ เมื่อก่อนเขาเป็นซี้ปึ้กกันตัวติดกันตลอด
จนแจจุงไปติดยุนโฮนั่นแหละถึงได้เริ่มจะห่างๆไป แล้วยุโฮได้เป็นใหญ่เป็นโตมากขึ้นก็ยิ่งขาดการติดต่อไปจนถึงปจุบันนี้เนี่ย


ผ่านไปสักพักใหญ่พอสามคนนั้นเริ่มหมดเรื่องจะคุยกันแล้ว แจจุงก็รีบกระโดดมาเกาะเธอทันที
ดีนะที่แทงกูคัดไฟล์รูปมาไว้ให้แล้วแถมบอกล็อคไฟล์แล้วเรียบร้อยแจจุงคงแฮ็คไม่ได้ง่ายๆ
ถ้ามันถามว่าเอามาจากไหนก็บอกไปว่าพวกนี้อ้ะเพิ่งถ่ายเอามาจากแทงกูเพราะใช้ไอโฟนของแทงกูถ่าย มันจะได้ไม่สงสัยมาก
"แกรูปอ้ะๆ" นี่คือจุดประสงค์หลักมันใช่ป่ะ แกล้งยู่หน้าไปนิดๆแล้วก็หยิบไอพอตออกมาและส่งให้มันไป
พอมันรับไปปึ๊บก็รีบกระโดดเอาไปดูกับยุนโฮอย่างไวแล้วก็วี๊ดว๊ายๆกันอยู่นั่นจนแทงกูแกล้งถามเธอว่าสองคนนั้นแอบเป็นเลสเหรอ เธอก็แทบหลุดขำ
พอมันดูหมดมันก็แกล้งหันมาแซวเธออีกว่าดีนะเธอไม่พาแทงกูมาไม่งั้นเสร็จ!!
ห๊ะ!! เธอก็ถลึงตาใส่เชิงว่าอย่านะเว่ยของกู ฮยอนซึงเห็นยังแอบหัวเราะออกมาเลย แต่เธอก็แอบแกล้งถามพวกนั้นไปว่า
อยากเจอมั้ยล่ะเดี๋ยวจะพามาเจอ มันก็ยังมีหน้ามาบอก เออเรียกมาตอนนี้เลยเร็วๆ บร๊ะ!!ดูมันซี่

แล้วแจจุงก็รีบจัดการเอาไอพอตไปเสียบกับแม็คบุ๊คตัวเองอย่างไว แล้วมันก็หันมาถามว่า
"เฮ้ย!...แกล็อคไฟล์ไว้เหรอฟานี่" เธอก็หันไปเลิกคิ้วทำหน้าเอ๋อใส่มัน "ทำไมมีอะไรเปิดไม่ได้เหรอ"
แจจุงทำท่าเหมือนงุงงิงๆที่เปิดไฟล์ในแม็คบุ๊คไม่ได้หันกลับมาบอก "เออเปิดไม่ได้รหัสอะไรอ่ะ"
เธอก็หน้าเอ๋อใส่ต่อไปบอก "อ่าวไม่รู้อ่ะไปขอมาจากแทงกู" มันก็เบี่ยงประเด็นมา
"ห้ะ!!นี่แทงกูคิดจะถ่ายเหรอฉันนึกว่าแกคิดนะเนี่ย" เธอก็พยักหน้าช้าๆ "เค้าชวนฉันถ่ายเลยแหละ"
มันก็บอกอีกว่า "ฉันเริ่มอยากจะเจอผัวแกขึ้นมาจริงๆแล้วสิ" เธอกับฮยอนซึงแทบอ้าปากค้างหันมามองหน้ากัน เมื่อได้ยินเสียงหัวคิกคักเบาๆจากคนในโฟน
เธอเลยหันไปถามแจจุงว่า "ให้ฉันลองชวนเค้ามามั้ยล่ะ" สองคนนั้นก็หันไปมองหน้ากันเหมือนแจจุงจะอยากเจอแทงกูมากเลยแหละ
หมอนั่นมันอ้อนยุนโฮใหญ่เลย ยุนโฮก็เหมือนจะถามมันประมาณว่าอะไรจะอยากเจอขนาดนั้น
แจจุงมันก็ขยับไปซุบซิบๆอะไรไม่รู้แล้วมันก็ฉีกยิ้มให้ยุนโฮ จนยุนโฮหันมาบอกเธอนั่นแหละ
"เออลองชวนเค้ามาสิถ้าเค้ามาแกก็ลงไปรับเค้าแล้วกัน" เธอก็อ้าปากค้างมองหน้ากับฮยอนซึงอีกครั้ง
แทงกูตอบมาแล้วแหละว่าเค้าจะมาแต่เค้าบอกว่าเธอต้องแสดงให้แนบเนียนด้วยการโทรไปถามเค้า
มือเรียวก็หยิบไอโฟนขึ้นมาเปิดเครื่องแล้วจิ้มๆอยู่แป๊บนึงก็ยกขึ้นแนบหู

"แทงกูคะว่างหรือเปล่า"
"ฉันอยู่ที่คฤหาสยีล์ดค่ะ"
"คือว่าคุณยุนโฮกับคุณแจจุงอยากพบคุณ"
"เลยให้ฉันมาชวนคุณน่ะค่ะ"
"คุณพอจะสะดวกมาหรือเปล่าคะ ...อ่า..ค่ะๆ"

หันกลับไปมองหน้าแจจุงเธอก็แทบหลุดขำหมอนั่นมันยืนลุ้นตัวโก่งเลยอ้ะ555 เธอเลยบอกไปว่า
"แทงกูจะปลีกตัวมาพบแต่มาได้ไม่นาน" แจจุงก็ยิ้มกว้างเลยดิ พอมันตั้งสติได้มันก็ถามว่า
"นี่เธอต้องคุยกับแทงกูด้วยภาษาสุภาพขนาดนี้เลยเหรอ" ร่างพยักหน้า
"ทำไมอ่ะคิดว่าฉันจะคุยกับเค้ายังไง" ก็หน้าจะเป็นกันเองกว่านี้อ่ะ เธอเลยยิ้มแห้งๆกลับไปแล้วบอกว่า
"เชื่อหรือยังล่ะว่าเธอไม่ได้มีสิทธอะไรมากมายจริงๆ" แจจุงก็หรี่ตาเชิงจับผิด
"นี่..แต่ไม่มีใครเคยมีเบอร์เค้าเลยนะ" เธอก็หัวเราะแล้วบอกว่า "ถึงมีได้ก็ใช่ว่าจะคุยกับเค้าได้ตลอดที่ไหน เมื่อครู่น่ะเพิ่งเป็นครั้งที่สามเองที่ฉันโทรหาเค้า
"ชายหนุ่มทั้งสองก็ทำหน้าอึ้งๆใส่เธอเหมือนไม่อยากเชื่อ

ยังไม่ทันไรไอโฟนเธอก็สั่นพอยกขึ้นมาจิ้มดูก็หันไปบอก "เค้าถึงแล้ว เดี๋ยวฉันลงไปรับเค้าก่อนแล้งกัน" แจจุงก็รีบพยักหน้าพร้อมไล่เธอให้รีบๆลงไปรับแทงกูขึ้นมาเร็ว
พอร่างบางวิ่งออกมาจากลิฟท์ก็ถามกระซิบถามแทงกูว่าอยู่ตรงไหนเค้าก็บอกว่าถอดรถอยู่หน้ารั้วเนี่ยอีลูกสมุนมันมองเค้าตาเขียวปั๊ดเลย
เธอก็หัวเราะบอก "เย็นใจๆค่ะอย่าเพิ่งหงุดหงิดฆ่าพวกมันเข้าล่ะฉันกำลังออกไป"

พอเดินมาถึงรั่วปึ๊บอีลูกสมุนมันก็ทำหน้างงที่เห็นชะเง้อหน้าเข้าไปคุยในรถแทงกูแล้วเค้าก็เลื่อนไปจอดข้างๆ
พอเดินเข้ามาสงสัยยุนโฮคงบอกลูกน้องมันแล้วมั้งถึงได้เลิกมองแถมไม่มีคนเดินคุมด้วย
เธอเลยแอบเดินไปเบียดๆเค้าหน่อยเค้าก็หันมาเลิกคิ้วใส่เธอ "คิดถึงคุณจัง" เค้าก็เปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วเชิงว่านี่มึงอารมณ์ไหนวะ
เธอเลยเนียนเอาแขนตัวเองสอดเข้าไปควงแขนเค้าไว้ ร่างเล็กก็หันมาขมวดคิ้วอีกแต่สายตา
เค้าเหมือนจะพยามบอกให้เธอโน้มหน้าไปใกล้ๆ "ตลอดทางมันมีกล้องและเครื่องดักฟัง"
เธอเบิกตากว้างทันทีที่โน้มหน้าลงไปแล้วได้ยินเสียงเค้าพูดแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินแถมเค้าแทบไม่ขยับปากเลยแต่เค้าบอกต่อว่า
"ควงแล้วก็ควงต่อไปเดี๋ยวพวกมันสงสัย" เธอก็เลยเนียนต่อ
"ขอหอมแก้มคุณทีสิคะคิดถึงคุณจะแย่" แกล้งทำเสียงกระซิบๆยั่วๆหน่อยพอเค้าครางอืมแล้วยื่นแก้มมาเธอก็รีบกดจมูกสูดกลิ่นหอมๆเข้ามาเต็มปอด
จริงๆแล้วเรารู้กันว่ามันเป็นการทำให้พวกนั้นไม่สงสัยว่าก่อนหน้านี้เรากระซิบอะไรกันแต่เธอก็ดูออกนะว่าแทงกูก็ชอบน่ะสายตาเค้ามันฟ้อง

พอออกจากลิฟท์เดินมาถึงหน้าประตูยุนโฮเธอก็เคาะไปสองสามทีก็ได้ยินเสียงตอบรับ
พอเดินเข้ามาแทงกูก็โค้งให้ยุนโฮเล็กน้อยเชิงเป็นมารยาทและหมอนั่นก็ทำเหมือนกัน
"นั่งก่อนสิแทงกู..ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ" ทิฟฟานี่และฮยอนซึงชะงักไปทันทีที่ได้ยินยุนโฮทักแทงกูแบบนั้น
หมายความว่าสองคนนี้รู้จักกันอยู่แล้วเหรอพอแทงกูนั่งปุ๊บแจจุงก็ทำตัวน่ากลัวขึ้นมาทันทีด้วยการกระโดดไปนั่งข้างแทงกู
แล้วก็จ้องหน้าร่างเล็กอยู่นั่นแทงกูก็เหมือนจะผงะไปเล็กน้อย แล้วก็หันไปคุยกับยุนโฮ

"แปลกใจนะเนี่ยที่พี่อยากเจอฉัน"
"เปล่า..รายนั้นต่างหากล่ะคลั่งใคล้เธออย่างกับแฟนเกิร์ล"
แทงกูหันกลับมาเลิกคิ้วใส่แจจุงอีกครั้ง แต่ทิฟฟานี่และฮยอนซึงยังเอ๋อรับประทานไม่เลิก สองคนนั้นต้องไม่ใช่แค่รู้จักกันแน่ๆต้องสนิทกันเลยมากกว่า

"แทงกูอาฉันชอบเธอ"
"ห่ะ! หมายความว่าไงเนี่ยแจจุง"
"ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละรู้มั้ยฉันตื่นเต้นจนพูดไม่ออกเลย"
"เชื่อเขาเถอะแทงกูเขาเพ้อถึงเธอให้พี่ฟังทุกวันแหละ"
"หึม..แล้วก็เลยให้พี่เรียกฉันมาว่างั้น"
"นี่แทงกูเธอรู้มั้ยฉันน่ะอิจฉาฟานี่มากเลยนะที่มันได้เป็นคนพิเศษของเธอน่ะ"
"นายพูดเหมือนอยากเป็นงั้นแหละ"
แจจุงพยักหน้ารัวๆแล้วดึงแทงกูเข้าไปกระซิบอะไรก็ไม่รู้ แต่ทิฟฟานี่กับฮยอนซึงคิดว่านั่นเหมือนจะเป็นแผนอะไรสักอย่างของหมอนั่นแน่ๆ
แต่เห็นแล้วเธอก็เริ่มหมั่นไส้แจจุงขึ้นมาตะหงิดๆ ดูสิมันจับมือแทงกูใหญ่เลยไม่ยอมปล่อยเลยอ้ะ
แล้วมันจะกระซิบอะไรยาวแท้วะกูหวงดูดิ๊ปลายจมูกโด่งๆของมันน่ะแทบจะเฉียดหน้าแทงกูอยู่แล้ว แต่สีหน้าแทงกูดูคิดๆเครียดๆยังๆไม่รู้แหะเค้าขมวดคิ้วแน่นเลย
"จริงเหรอ ไม่หน้าเชื่อนายเนี่ยนะ"
"จริงๆไม่เชื่อถามยุนโฮดูสิว่าฉันตามเธอมานานแค่ไหน"
"สามปีได้มั้ง"
"แล้วทำไมเวลาไปที่สนามไม่เรียกฉันไปพบล่ะ"
"ก็ฉันไม่อยากเหมือนคนอื่นนิ"
"แหม...ถ้าฉันรู้ว่านายสนิทกับทิฟฟานี่ขนาดนี้ฉันคงไปตีสนิทนายนานแล้ว555"
"นี่ฉันผิดเหรอ แล้วไม่คิดจะสนใจคนอื่นนอกจากยัยฟานี่เลยหรือไง"

ทิฟฟานี่และฮยอนซึงแทบจะหลับรอแต่ใจก่อยากรู้นะว่าแจจุงคิดอะไรอยู่ถึงได้ออกตัวแรงแบบพิลึกๆแบบนั้นน่ะ
แต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ที่แทงกูบอกแจจุงไปแบบนั้นมือเรียวก็แทบจะหยิกขาฮยอนซึงจนช้ำแล้วแหละ

"ก็ถ้ามีสวยกว่านี้เซ็กซี่กว่านี้ก็ไม่แน่นะ"

แค่นั้นแหละทิฟฟานี่เปลี่ยนสีหน้าท่าทางและอารมณ์ทันที แน่ะยังจะมีการหันมาทำเป็นขยิบตาใส่อีก
เดี๋ยวป๊ะๆแม่จะยั่วมันซะตรงนี้เลยดีมั้ยคะ ว่าแล้วก็พ่นลมหายใจออกทางจมูกแรงๆ ให้แทงกูเห็น
แล้วอีคุณแจจุงเนี่ยก็รักน้องมันดกเลยดิ มีบอกแทงกูว่าเดี๋ยวหาให้อีกนะ หึ๊ยย

ผ่านไปพักใหญ่แทงกูก็บอกขอตัวกลับก่อนพอดีมีนัดกับสาวๆ นั่น!ดูเค้าพูดสิทิฟฟานี่แทบอยากจะดึงเค้ามากดมันตรงนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
หึ้ย หมั่นไส้ผัว(?)โว้ย พอแทงกูลาสองคนนั้นเสร็จยุนโฮก็บอกให้ทิฟฟานี่ลงไปส่งร่างเล็ก ด้วยความหมั่นไส้เธอเลยเดินไปตีก้นเค้าไปทีนึง
เค้าก็หันมาชี้หน้าเชิงคาดโทษแต่เธอก็ฉีกยิ้มกลับไป เค้าก็มาขย้ำก้นเธอซะแทบสะดุ้ง

เดินกอดแขนเค้าออกมาจนถึงรถเค้าที่จอดอยู่ด้านหน้าเธอก็อ้อนให้เค้าจูบเธอหน่อยจะได้มีกำลังใจ
เค้าหรี่ตามองเธออยู่ครู่ก็ดึงเธอเข้าไปจูบซะดูดดื่มพอผละออกเค้าก็ตีก้นเธออีกพร้อมกระซิบบอก
"ไปทำงานก่อนค่อยมาเอารางวัลตอบแทน" ทิฟฟานี่ก็ฉีกยิ้มจนแก้มปริขโมยจุ๊บแก้มเค้าไปทีแล้วก็เดินกลับเข้ามาในคฤหาสน์
อีพวกลูกสุนมันก็มองหน้าเธอด้วยสายตากริ่มๆแต่เธอด๊นแคร์ค่ะ สะบัดบ๊อบเชิ่ดเดินเริ่ดๆมั่นๆไปจนถึงลิฟท์

"โอ๊ยฟาเน่!!!ดูสายตาที่แทงกูมองแกสิ"
พอเข้าห้องมาได้แจจุงก็พล่ามต่อยาวยืดเลย เอ๊ะหรือหมอนี่จะชอบแทงกูจริงๆ หึ๊ยบ้าน่ะไม่หรอกเธอก็ได้แต่ยิ้มแหะๆตอบไปไม่ได้พูดอะไรอีก
นั่งฟังแจจุงพล่ามต่อไปพักใหญ่ทิฟฟานี่ก็เลยหันไปถามยุนโฮบ้างว่าสนิทกับแทงกูเหรอยุนโฮก็ไม่ได้ปิดบังอะไรพยักหน้ารับบอก
"เป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ" เหยดดดดเข้...ทิฟฟานี่ฮยอนซึงไม่เว้นแม้แต่แจจุงนั่งติดสตั๊นนิ่ง หรือว่าเป็นเพราะแบบนี้แทงกูถึงไม่คิดจะจู่โจมพวกยิล์ดด้วยตัวเอง
พอทั้งสามเริ่มตั้งสติได้กลับเป็นแจจุงเสียอย่างนั้นที่โวยวายถามยุนโฮเชิงว่าทำไมไม่เคยบอกเลยอะไรประมาณนั้น
เธอแอบได้ยินเสียงแทงกูหัวเราะเบาๆอยู่โฟนแถมแซวมาอีก 'พยามรู้จนได้นะยัยแสบ' แล้วเค้าก็กำลังจะเริ่มนับถอยหลังให้ทำตามแผนได้


ฟลึบ!! ฟลึบ!! ฟลึบ!! ฟลึบ!!

"กรี๊ดด!!!อะไรน่ะ"
"โอ๊ย!!อะไรอ่ะแสบตาเป็นบ้าเลย"
"เฮ่ยใครยิงแก๊สน้ำตาวะ"
"ยุนโฮอยู่ไหนน่ะ"

ทั้งๆที่ใส่แว่นอยู่ทิฟฟานี่และฮยอนซึงเล่นละครได้อย่างแนบเนียนทำส่งเสียงโวยวายไปทิฟฟานี่ก็รีบพุ่งเข้าทางด้านหลังของยุนโฮ
เสียงร้องโอดครวญของชายหนุ่มดังขึ้นเมื่อมีเหล็กแหลมเสียบทะลุต้นขาทั้งสองข้างของเหลวสีแดงโกเมนกระเด็นเปรอะไปทั่วพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดสด
ร่างบางบิดข้อมือเล็กน้อยเพื่อฉีดสารพิษใส่ที่บาดแผลของยุนโฮก่อนจะชักแหล็กในมือกลับออกมาพร้อมกับเสียงโอดครวญของชายหนุ่มที่ดังขึ้นอีก
ก่อนจะกระแทกเสียบเข้าทะลุที่ต้นแขนเสียบคาไว้แบบนั้นแล้วก้าวมายืนประจันหน้าร่างสูงหยิบมีดสั้นออกมา
แล้วใช้มันกรีดผ่ากลางจากศีรษะไปที่กลางลำตัวจนสุดถึงระหว่างขาร่างของยุนโฮจนร่างของเขาเริ่มแหวกออกจนเห็นอวัยวะภายใน
ของเหลวข้นๆไหลทะลักออกมาจากร่างสูงมากมายจนนองอยู่ทั่วบริเวณที่ร่างของยุนโฮล้มพับลงไป

ส่วนฮยอนซึงที่วิ่งไปทางฝั่งแจจุงก็รีบฟาดคมมีดฝั่งลงที่ไหล่สองข้างจนสุดแรง ชายหนุ่มร้องโอดครวญออกมาด้วยความทรมาน
จนของเหลวสีแดงข้นไหลทะลักกระเด็นออกมาเต็มไปหมด มือเรียวกำลังจะหยิบมีดอันใหม่ขึ้นมาหวังจะกระแทกลงกลางศีรษะของชายหนุ่มแต่ก็ต้องชะงักไป

ซึบ ซึบ ซึบ ซึบ

ทิฟฟานี่และฮยอนซึงต่างก็รีบดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วแทบจะกระโดดหลบการจู่โจมปริศนานั้นไม่ทัน "เฮ่ยย!! ลูกธนูสีม่วง!!!...อีกแล้ว!!"
ทิฟฟานี่และฮยอนซึงมองหน้ากันอย่างอึ้งๆไม่มีใครไม่รู้เรื่องลูกธนูปริศนานี้หรอก...เค้ารู้กันข้ามประเทศ
"แทงกูคะมีลูกธนูสีม่วงอีกแล้วค่ะยิงโดนแจจุงกับร่างของยุนโฮที่ฉันคิดว่าน่าจะตายอยู่ก่อนแล้ว" ทิฟฟานี่เห็นอย่างนั้นก็รีบรายงานคนตัวเล็กทันที
แทงกูบอกว่าเดี๋ยวจะรีบขึ้นมาให้เธอรีบออกไปช่วยยูริกับยุนอาหน้าห้องก่อน
ส่วนฮยอนซึงแทงกูก็บอกว่าให้ลงไปอยู่กับเจสสิก้าไม่ต้องไปเจอยูริ ฮยอนซึงก็รู้ดีอยู่แล้วว่าถ้าเขาได้เจอยูริตอนนี้นะเรื่องใหญ่แหงๆเพราะเขาดันหนียูริมาอยู่กับแทงกูเสียอย่างนั้น
แม้ว่าทิฟฟานี่จะไม่รู้ว่ายูริกับยุนอาเข้ามาได้อย่างไรแต่เวลานี้เธอก็ไม่ควรจะยืนเอ๋อทั้งสองคนรีบวิ่งแยกออกไปที่ประตูและหน้าต่างทันที

ไม่นานแทงกูก็กระโดดเข้ามาทางหน้าต่างเดินตรงมายังร่างของชายหนุ่มที่คิดว่าน่าจะมีศรธนูสีม่วงปักอยู่
และก็เช่นเดิมลูกธนูมันหายไปแล้วแทงกูถอนหายใจออกมายาวๆพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อย
แล้วเบี่ยงความสนใจไปยังแมคบุ๊คของแจจุงที่เปิดค้างทิ้งเอาไว้ จัดการเช็คดูว่ามันมีความลับอะไรอีก
"แทงกู...นี่เธอ.."
แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรร่างเล็กก็ต้องหันขวับมองยังต้นเสียงแหบพร่าราวกับใกล้จะสิ้นลมหายใจในอีกไม่ช้านี้
ร่างเล็กขมวดคิ้วอย่างข้องใจไหนทิฟฟานี่บอกว่าแจจุงโดนลูกธนูสีม่วงไปแล้วไงแล้วทำไมเขายังไม่ตาย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะดูแล้วหมอนี่คงอยู่ได้อีกไม่ถึงนาทีหรอก
"คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านายกับยุนโฮลอบกัดอะไรฉันไว้" ความแค้นที่ฝั่งอยู่ลึกในอกของร่างเล็กได้ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกับน้ำเสียงเย็นยะเยือก
"อะ...บิส.." ซุ่มเสียงสุดท้ายก่อนที่ชายหนุ่มจะสิ้นลมหายใจนั้นทำเอาแทงกูขมวดคิ้วแน่นขึ้นอีก หมอนั่นพยามจะพูดอะไรกันแน่ แล้วพวกอะบีส เกี่ยวอะไรด้วย หรือว่า...มันอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง??....

ก่อนจะได้คิดอะไปมากกว่านั้นแทงกูก็ต้องหมุนตัวกลับไปมองที่หน้าต่างอีกครั้ง "ไอ้แทมิน!!...เดี๋ยว!!"
แทงกูพยามร้องห้ามเด็กหนุ่มเพื่อจะถามว่าเรื่องมันยังไงกันแน่แต่แทมินก็ไม่คิดจะหยุดฟังอะไรทั้งนั้นเขายกปลายนิ้วทั้งห้าขึ้นจ่อยิงเลเซอร์สีเขียวไล่ตามร่างเล็กที่พยามวิ่งหลบ
ทั้งพื้นทั้งผนังของห้องเริ่มละลายกลายเป็นของเหลวพายในพริบตาเมื่อถูกเลเซอร์นั้นไล่ผ่านเพียงฉาดเดียว
แทงกูรีบหยิบปืนสั้นขึ้นมาในระหว่างที่ยังวิ่งกระโดดหลบซ้ายขวาอยู่เธอพยามใช้พื้นที่กว้างๆในห้องให้เป็นประโยชน์ในการหลบหลีกการจู่โจม
ปากก็ยังพยามตะโกนถามคนที่ไล่ยิงเธออย่างไม่ใยดี "พวกอะบีสมันเกี่ยวอะไร" แทมินลอยเข้ามาหยุดอยู่กลางห้องไล่กวาดยิงร่างเล็กไปรอบๆ
แม้ว่าแทงกูจะโดนเลเซอร์เฉียดผ่านร่างจนรู้สึกแสบร้อนไปหมดแต่ร่างเล็กก็ยังมีสติพยามวิ่งหลบต่อไปพร้อมกับเหนี่ยวไกปืนใส่ชายหนุ่ม
ปัง ปัง ปัง ปัง

แม้มันจะช่วยทำให้แทมินชะงักไปได้บ้างแต่มันก็ยังไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มเป็นอะไรได้เขายังคงไล่ลำแสงสีเขียวใส่แทงกูอย่างรวดเร็ว
"ท..แทมิน!!! แทงกู!!"
ทิฟฟานี่เปิดประตูพรวดเข้ามาก็แทบหลบกลับไปยังหลังประตูไม่ทัน เมื่อเด็กหนุ่มกราดยิงลำแสงมาทางเธอ
แต่อย่างน้อยก็ยังทันเห็นว่าร่างกายของคนตัวเล็กนั้นเริ่มเหวอะหวะแล้วคราวนี้เธอก็มั่นใจว่าเลือดที่ท่วมร่างเค้าอยู่นั่นเป็นของแทงกูแน่ๆ
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง

ร่างบางรีบหันกลับมาจากหลังประตูแล้วลั่นปืนใส่ร่างของชายหนุ่มโดยอาศัยตอนที่เขาหันหลังไปยิงลำแสงใส่คนตัวเล็ก
ปัง ปัง ปัง

"ยิงต้นคอมัน!!!ทิฟฟานี่!!!" เสียงของแทงกูที่ฟังดูแหบพร่าราวกับขาดน้ำมาเป็นเวลานานกระซิบก้องอยู่ในหูจากโฟนที่ร่างบางติดไว้
เพียงแค่นั้นทิฟฟานี่ก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดบนร่างกายของคนตัวเล็กว่าเค้าทรมานมากแค่ไหน
ปัง ปัง ปัง ปัง

แทงกูพยามยิงล่อให้ชายหนุ่มหันมายิงตัวเองแทน และพอแทมินจะหันไปยิงทิฟฟานี่เธอก็ยิงเข้าที่มือของเด็กหนุ่มจนเขาชะงักไปแล้วหันกลับมายิงเธอแทน
แม้ว่าทิฟฟานี่จะทำแบบเดียวกันแต่แทงกูก็ไม่ยอมเปิดให้แทมินได้ยิงร่างบางเช่นกัน เพราะเธอไม่รู้ว่าทิฟฟานี่นั้นจะอึดแค่ไหนดูท่าแล้วหมอนี่อาวุธร้ายแรงมากเลยทีเดียว
แทงกูพยามจะวิ่งเข้าไปใกล้ๆร่างของแทมินเพื่อหมายจะปลิดชีวิตหมอนั่นซะ
แต่มันช่างยากเสียเหลือเกินเพราะเขาไล่ยิงเธอด้วยปลายนิ้วเรียวทั้งสิบเสียจนเธอไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้ในรัศมีหนึ่งเมตรเลย
ปัง ปัง ปัง ปัง


ซึบ!!



กริชเรียวยาวกระแทกเสียบจากท้ายทอยของเด็กหนุ่มจนทะลุโผลออกมายังลำคอด้านหน้า
พร้อมกับฝ่าเท้าของร่างสูงที่กระโดดมาเหยียบลงบนไหล่กว้างทั้งสองข้างของแทมิน
ของเหลวสีแดงข้นพุ่งกระจายไปรอบทิศทางเมื่อคมของกริชเรียวยาวนั้นถูกกระชากตวัดออกมาด้านข้าง
เหลืออีกเพียงนิดเดียวคอของชายหนุ่มก็จะขาดหลุดออกจากกันแล้วหลังจากนั้นกริชเล่มเดิมก็กระแทกลงไปกลางหน้าอกของแทมินอีกครั้ง
ก่อนที่ร่างของเขาจะตกลงมายังพื้นกริชเล่มยาวก็ถูกกระชากกลับออกมาจากอกแกร่งแล้ว

"ขอบใจที่นายมาทัน"
แทงกูเอ่ยเสียงแห้งๆก่อนที่ร่างบางรีบวิ่งจากประตูเข้ามาประคองร่างเล็กไว้อย่างรวดเร็ว
เคบีเห็นดังนั้นแล้วเขาคิดว่าแทงกูคงอ่อนแรงเกินไปถ้าจะพาไปไหนจึงเอ่ยบอกว่าเดี๋ยวเขาจะไปพาเจสสิก้าขึ้นมา
แทงกูรับคำสั้นๆพลางก้มลงมองร่างกายของตัวเองที่มีบาดแผลเหวอะหวะอยู่ทั่ว
"ดูดีไม่เบาเลยใช่มั้ยล่ะเวรเอ้ย" แทงกูบ่นออกมาเบาๆ ทิฟฟานี่มองร่างของแทงกูแล้วยังอดขนลุกไม่ได้
นึกสภาพแบบตามลำตัวเนื้อหลุดหายไปเป็นชิ้นๆ ไม่ก็หนังถลกเปิดออกมาบ้าง บางที่ก็เนื้อหายไปเลยเหลือเป็นเว้าๆเห็นเนื้ออ่อนข้างใน
แล้วยังมีบางจุดที่ผิวเนื้อเหมือนจะละลายกลายเป็นของเหลวปะปนอยู่กับเลือดจนเหมือนจะเป็นของเหลวข้นๆหนืดๆ

"แทงกู!! อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ คุณอย่าทำเหมือนอ่อนแรงไปขนาดนี้สิ แทงกู!!! แทงกู!!!"
ทิฟฟานี่แผรดเสียงออกมาด้วความตกใจที่จู่ๆร่างเล็กก็ดูอ่อนปวกเปียกจนแทบจะทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดพิงร่างเธอ
ทิฟฟานี่จึงช้อนกายร่างเล็กขึ้นมาอุ้มไว้ตอนนี้แทงกูดูคล้ายๆว่าเกือบจะหมดสติไป เธอจึงต้องพยามเรียกเค้าอยู่แบบนั้นเพื่อไม่ให้สติเค้าดับไป
"หมอนั่นมันธาตุอะไร" เสียงแห้งๆแหบพร่าเอ่ยถามอีกคนที่อุ้มร่างตัวเองอยู่อย่างแผ่วเบาคล้ายๆว่าเรี่ยวแรงที่เคยมีบัดนี้มันได้หมดเกลี้ยงไปแล้ว
ทิฟฟานี่ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะนึกหรอกนะว่าแทมินมันธาตุอะไร แค่เห็นว่าแทงกูดูอ่อนแรงไปขนาดนี้
เธอก็แทบสติแตกกระเจิงแล้วน้ำใสๆเอ่อล้นออกมาจากขอบตาที่ร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่ได้
ได้แต่ปล่อยให้มันไหลรินออกมาอาบพวงแก้มทั้งสองข้าง จนหยดลงบนใบหน้าของคนในอ้อมแขน
ได้ถามพาลถามปนกร่นด่าตัวเองอยู่ในใจทำไมต้องมีแต่แทงกูที่เจ็บตัวครั้งที่แล้วเค้าก็เจ็บตัวเพราะคุยกับเธอ
ครั้งนี้เค้าก็เจ็บตัวเพราะล่อมันไว้ไม่ให้มันหันมายิงเธอ เพื่อให้เธอได้มีโอกาสยิงมันได้ง่ายๆ แต่ทำไมเธอกลับทำอะไรมันไม่ได้เลย

"อย่าร้องสิฉันไม่เป็นไรหรอก" มือเล็กพยามจะเอื้อมขึ้นมาปาดน้ำตาของอีกคน แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงรู้สึกว่าแขนตัวเองมันหนักอึ้งจนแทบยกไม่ขึ้นแบบนี้
ทิฟฟานี่ทิ้งกายนั่งคุกเข่าลงที่พื้นอย่างเหนื่อยล้ามองหน้าคนในอ้อมแขนเพียงแค่เห็นว่าแทงกูบาดเจ็บมากแค่ไหนทิฟฟานี่ก็แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรแล้ว
ได้แต่คิดอยู่ในใจทำไมเคบีถึงยังไม่มาเนี่ยถ้าเธอกระโดดลงทางหน้าต่างชั้นสิบแปดได้เหมือนสองคนนี้ก็ดีสิ
"จูบฉัน..." เออใช่รอบที่แล้วเค้าก็ให้เธอจูบแล้วแผลเค้าก็หายไปบ้าง
ทิฟฟานี่โน้มใบหน้าลงไปประกบจูบลงยังริมฝีปากบางที่แห้งผากและซีดเผือกของคนในอ้อมกอดป้อนจูบเค้าอย่างคุ้นเคย
แต่แล้วทิฟฟานี่ก็ต้องขมวดคิ้ว อ๊ะ..ทำไมรู้สึกแสบๆที่ลำตัว แทงกูเบี่ยงใบหน้าออก
"พอแล้วเดี๋ยวเธอเจ็บมากกว่านี้" หมายความว่าไงเค้าดูดพลังเธอไปงั้นเหรอ
ลองๆไล่สายตามองไปตามร่างกายเค้าที่เต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะแล้วหันมาดูตามจุดเดียวกันบนร่างตัวเอง
โอ้ชัดเลยเธอก็มีเพียงแต่มันเล็กและน้อยกว่าของเค้าเท่านั้นเอง


"แท..ง!!!!!!"
เจสสิก้ารีบกระโดดลงมาจาท่อนแขนของเคบีแล้วโผลเข้ากอดร่างบางที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นอุ้มร่างของคนตัวเล็กไว้อยู่นั้น
เธอไล่สายตามองตามร่างเพื่อนสาวแล้วยอมรับเลยว่าช็อคมากจริงๆ
"สิก้า จูบ!! จูบ หมอนั่นมันธาตุอะไรไม่รู้" เจสสิก้ารีบก้มลงประกบจูบเพื่อนตัวเล็กทันทีที่รู้ว่าแทงกูอาจจะโดนอะไรที่เค้าอาจจะแพ้มา
ทิฟฟานี่พยามเบี่ยงหน้าหลบไม่อยากเห็น ถึงแม้ว่าเธอจะได้รู้แล้วว่าเหตุผลที่เจสสิก้ากับแทงกูต้องจูบกันเพราะรักษาแผลให้แทงกูก็ตาม
โธ่..ใครจะอยากทนเห็นกันล่ะก็เค้าต้องจูบกันดูดดื่มเอาเป็นเอาตายขนาดนั้นนิ ทั้งมือไม้ของเจสสิก้าก็ต้องไล่แตะสัมผัสไปตามบาดแผลเพื่อช่วยให้มันหายเร็วขึ้น

"พอแล้วๆฉันโอเคแล้วแหละดูทิฟฟานี่ทีสิเมื่อกี้ฉันดูดเนื้อเค้ามา"
แทงกูผละออกมาก่อนแม้จะรู้ว่าบาดแผลที่ร่างกายของตัวเองจะยังไม่หายดีก็เถอะก็มันเป็นห่วงอีกคนมากกว่านี่นาไม่รู้เค้าจะทนมันได้มากน้อยแค่ไหน
ยูริกับยุนอาและจุนซูที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ชักงักตกใจไปเล็กน้อยกับสภาพที่ได้เห็นว่าในห้องนี้เกิดอะไรขึ้นมากกว่าการฆ่าแจจุงและยุนโฮ
พอตั้งสติได้ยูริก็หันมาบอกว่าจัดการกับไอ้พวกข้างนอกหมดแล้ว แทงกูเลยบอกยูริว่าฝากให้คนของยูริช่วยเก็บซากพวกมันไปวิจัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งซากของแทมิน
และเก็บข้อมูลพวกมันไปด้วยซึ่งรู้กันดีว่าอันไหนสำคัญและสมควร



"แทมินงั้นเหรอ"
โบอาถามขึ้นอย่างแปลกใจขณะที่กำลังผสมสารรักษาให้แทงกูและทิฟฟานี่ เพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าหมอนั่นมันธาตุอะไรกันแน่
สองคนนั้นถึงได้ปวดแสบปวดร้อนเหมือนคนธรรมดาโดนน้ำกรดสาดใส่แบบนั้น แทงกูบอกว่าโดนแค่นิดเดียวก็แสบแทบบ้าจนอยากลงไปชักดิ้นชักงอแล้ว
แถมตอนที่ดูดเนื้อทิฟฟานี่มายังรักษาตัวเองได้น้อยกว่าที่ทิฟฟานี่เสียไปตั้งเยอะ เพราะงั้นที่แน่ๆคือทั้งสองคนต้องแพ้ธาตุนี้เหมือนกัน
เจสสิก้าบอกว่าตอนแรกที่เห็นสภาพแทงกูแล้วตกใจมากเพราะมันแลดูเหมือนคนใกล้ตายมาก
อีกอย่างแทงกูมันก็ไม่ค่อยเคยแพ้อะไรมากขนาดนี้เลยด้วย โบอาเลยตัดสินใจบอกให้ยูริส่งซากของแทมินมาเธออยากจะขอลองเช็คดูหน่อย
ยูริก็บอกมาว่าหมอนั่นมันยังไม่ตายเลยนะแต่เค้าทำให้มันสลบไปก่อนแล้วถึงจะส่งมา อยากจะบ้าตายมันคอจะหลุดออกจากกันอยู่แล้วเนี่ยยังไม่ตายอีก

เจสสิก้ายืนมองร่างของแทงกูและทิฟฟานี่ที่ถูกโบอาจับไปแช่สารภูมิต้านทานไว้ในหลอดแคปซูนขนาดพอดีตัวข้างๆกัน
แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา บางครั้งเธอก็คิดนะว่าเธออยากจะทำอะไรให้ได้มากกว่าแค่รักษา
แบบบางทีก็รู้สึกว่าอยากจะช่วยแทงกูสู้ได้บ้างแต่เธอก็รู้ตัวดีว่าร่างกายเธอมันเป็นอะไรเป็นยังไง
ที่แทงกูและโบอาไม่ยอมให้เธอสู้เพราะอะไร คิดไปก็เบื่อตัวเองเหมือนกันนะแม้ว่าทักษะที่เธอมีจะเป็นที่หมายปองของใครอีกหลายคน
แต่ถ้าไม่มาลองเป็นเธอก็ไม่เข้าใจหรอกว่าเวลาที่เห็นคนอื่นๆยอมเสียสละเพื่อสู้กับศัตตรู
ในขณะเดียวกันเธอก็ทำได้แค่หาที่หลบภัย กว่าจะได้มีบทบาทก็ต้องรอให้มีใครได้เจ็บได้ใกล้ตายก่อนทุกครั้งไป...










From...Writer




โว้วๆ ยุนโฮกับแจจุงตายไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้จะจบน๊าาา 5555+

มันเพิ่งเริ่มต่างหากล่ะ แอร๊ยยย งงกันล่ะสิ อิไรท์เล่นเขียนว่าซ้อตฟิคแต่ลงมา23แชปแล้วมาบอกว่ามันเพิ่งเริ่ม

หุหุ จริงๆและเรื่องนี้ยาวมากกกก ค่ะ แฮ่ แต่เกรียนกระแดะจั่วหัวว่าช็อตฟิคไปงั้นแหละ

เพราะงั้นรีดเดอร์ไม่ต้องแปลกใจว่า เอ๊ะนี่มันก็23แชปแล้วนะทำไมกูยังงงอยู่วะ




คำแนะนำ...ถ้ายังไม่เข้าใจเรื่องของตัวละครที่ตายไปแล้วเม้นท์ถามไว้ได้นะคะเพราะตัวที่ตายแล้วบีมสามารถตอบได้ค่ะ ^^"




ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร

แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่




ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา






No comments:

Post a Comment