คำเตือน อาจมีการใช้คำไม่เหมาะสม(เล็กน้อย) ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน 555
"ว่างอยู่ใช่ป่ะ"
เสียงหวานเอ่ยห้วนๆเมื่อเดินมายังหน้าเค้าเตอร์ที่ยูรินั่งอยู่ ร่างสูงพยักหน้าเบาๆพลางกลืนน้ำลายเอื้อก
เมื่อรู้สึกเหมือนเพื่อนสาวหน้าหมีนั้นองค์(?)ลงอีกแล้ว ทิฟฟานี่เพยิดหน้าเล็กน้อยเชิงบอกให้ร่างสูงตามเธอมา
"ทำไมต้องในห้อง"
ทันทีที่ร่างบางเดินนำมาหยุดที่หน้าห้องของอีกคน เจ้าตัวก็เอ่ยถามอย่างหวาดหวั่น พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยผ่านมา
และเธอคงไม่โชคดีไปทุกครั้งอย่างรอบที่แล้วดีหน่อยว่าแทยอนขึ้นมาช่วยลากทิฟฟานี่ออกไป
แต่รอบนี้คงไม่มีใครมาช่วยเป็นแน่ หน้าหวานเพียงหันไปเลิกคิ้วใส่นิ่งๆ
ร่างสูงก็รีบเปิดประตูให้ทันที ร่างบางก็เดินนำเข้าไปพลางยิ้มเล็กน้อย
ที่เห็นท่าทางแบบนั้นของคนที่เคยเอาแต่ยั่วโมโหอย่างยูริ ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงยังริมเตียง
ร่างสูงที่ปิดประตูเสร็จก็สูดหายใจเข้าเต็มปอด เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจรอรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
"ฟานี่ยา~เค้าขอโทษน๊าา ช่วยอย่านิ่งแบบนี้เลยได้โปรด"
รวบรวมความกล้าแล้วรีบเอ่ยดักไว้ก่อนเผื่อมันจะช่วยอะไรได้บ้าง ค่อยๆก้าวเข้ามาเตียงช้าๆ
ทิฟฟานี่ปรายตามองเล็กน้อยแล้วลุกพรวดก้าวฉับๆมือเรียวดันไหล่ของร่างสูงไปเต็มแรง
จนแผ่นหลังของยูริกระแทกเข้ากับประตูห้องอย่างจัง
ใบหน้าคมเม้มปากแน่นความรู้ปวดหนึบๆที่แล่นอยู่ทั่วแผ่นหลังนั้นแทบไม่มีผลอะไรอีกต่อไป
เมื่อร่างของทิฟฟานี่ที่กดไหล่เธอไว้นั้นขยับแนบชิดเข้ามา เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าหวานที่อยู่ใกล้แค่คืบลมหายใจก็เริ่มติดขัด
มุมปากที่กะตุกนกขึ้นนั้นเล่นงานหัวใจของร่างสูงให้กะตุกวูบไปเช่นกัน ความรู้สึกมากมายเริ่มก่อกวนจิตใจ
เมื่อร่างบางนั้นยังขยับเบียดกายเข้ามาอย่างเนิบนาบ พลันให้ความคิดความสับสนเข้ามากอบกุมหัวใจ
ยูริไม่อาจคาดเดาได้เลยว่ารอยยิ้มแบบนั้นที่ปกติได้เห็นแล้วก็ต้องยิ้มตาม
แต่ในตอนนี้รอยยิ้มนั้นมันกลับสร้างความกังวนให้วาดระแวง ร่างสูงกลืนน้ำลายที่เหนียวหนืดลงคอไปอย่างยากลำบาก
ยิ่งได้เห็นดวงตาหวานแต่กลับคมกริบนั้น เรียวแรงที่มีก็พลันจางหายไป
แม้ว่าทิฟฟานี่จะหยุดเบียดกายเข้ามาแล้ว แต่ตอนนี้ร่างของทั้ง2ก็แนบชิดกันจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้อากาศผ่านได้
ยูริที่พยามข่มอารมณ์ไว้ไม่ให้ฟุ้งซ่าน ความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้ามาอย่างห้ามไม่ได้นั้นมันเริ่มกดความหวาดกลัวลงไปเรื่อยๆ
"ฟ..ฟานี่..จะทำอะไร"
ร่างสูงพยามเอ่ยให้น้ำเสียงนั้นฟังดูเป็นปกติที่สุด แต่ก็คงได้แค่พยาม
หน้าหวานตวัดสายตาสบเข้ากับคนตรงหน้าที่ดันเผลอกลับจ้องรอคำตอบนั้นทันที
ราวกับโดนสะกดยูรินิ่งไปเพียงแค่ได้สบเข้ากับดวงตาหวานคมนั้น
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนกันมานานพอสมควรแต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ยูริได้ใกล้ชิดกับทิฟฟานี่ขนาดนี้
และได้เห็นใบหน้าหวานนั้นในระยะประชิดแบบนี้ ทำให้ยูริมั่นใจมากว่าเพื่อนสาวเธอคนนี้ทั้งสวยและมีสเน่ห์มากแค่ไหน
ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันแต่เธอก็ไม่อาจห้ามไม่ให้หัวใจมันเต้นแรงแบบนี้ได้
"แล้วแกคิดอะไรล่ะ?"
เสียงหวานเอ่ยนิ่งๆ ความหมายของประโยคนั้นแทบพาให้ยูริหยุดหายใจ ร่างบางนั้นถามราวกับรู้ว่าเธอรู้สึกและคิดอะไรอยู่
ความกังวนเริ่มกลับมาครอบงำจิตใจอีกครั้งในเมื่ออีกฝ่ายรู้อย่างนั้นแล้วจะโกรธเธอมากกว่าเดิมอีกหรือเปลา
กลัวว่าถ้าเกิดอะไรถึงในตอนนี้เธอคงไม่มีแรงแม้แค่จะขยับกาย
ทิฟฟานี่ยังคงจิกตามองใบหน้าคมอยู่แบบนั้นมุมปากก็ยังคงยกยิ้มอยู่เหมือนเดิมตลอด
ทิฟฟานี่เองก็รู้ดีว่ารอยยิ้มและดวงตาของเธอน่ะเปรียบเสมือนอาวุธชั้นเยี่ยมที่มีอนุภาพทำลายร้างสูง
เพราะแม้แต่แทยอนที่ได้เจอกับมันมาตลอดระยะเวลาหลายปีจนถึงทุกวันนี้ก็ยังต้องยอมแพ้มัน
ทิฟฟานี่ค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้หน้าคมอีกอย่างช้าๆ ให้ลมหายใจเป่ารดแก้มเนียนสีน้ำผึ้ง
และรู้สึกถึงการหายใจที่ผิดปกติของร่างสูง ยูริตัดสินใจปิดเปลือกตาลง เธอไม่อาจสู้ดวงตาหวานคมนั้นได้
"กลัวฉันเหรอ"
เสียงกระซิบเอ่ยขึ้นแผ่วเบา เรียกให้เปลือกตาที่เคยปิดสนิทนั้นเบิกกว้างขึ้นมา
กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างบางกับภาพซอกคอขาวๆที่ตัดกับผมสีแดงเพลิงยาวสลวยนั้น
กำลังจะทำให้ยูริสติแตกกระเจิง ร่างสูงกำหมับไว้แน่นเพื่อยับยั้งอารมณ์ที่เริ่มฟุ้งซ่าน
"ฟ..ฟานี่.."
เอ่ยเรียกชื่ออีกคนอย่างเพ้อๆ เมื่อมือเรียวที่เคยดันไหล่เธออยู่นั้นเริ่มขยับลากขึ้นมายังลำคอระหงเนิบนาบและเย้ายวน
ใบหน้าคมเชิ่ดขึ้นเล็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้ แต่สายตาก็ยังพยามจับจ้องใบหน้าหวานนั้นอยู่ สันกรามถูกขบแน่นข่มอารมณ์ไว้
ปลายนิ้วเรียวที่ไล้ใบหูอย่างเชื่องช้านั้นมันพาให้ความร้อนในร่างกายเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างอดไม่ได้
ร่างสูงเริ่มหอบหายใจแรงขึ้นไปตามอารมณ์ที่เริ่มสร้างความปั่นป่วนในจิตใจและร่างกาย
ไม่เคยคิดเลยว่า จะมีวันที่เธอรู้สึกว่าอยากจะกลืนกินร่างบางตรงหน้านี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นก็ค่อยๆขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนเหลือระยะห่างไม่ถึง5เซนกับจุดเดียวกัน
ยูริหลับตาแน่น และแทบไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
!!!!!
"โอ๊ยยยย!!!!"
เสียงร้องโอดครวญของยูริดังขึ้น พร้อมร่างที่เซถลาล้มไปกองกับเตียง
โดยแรงบิดที่ใบหูและมือเรียวอีกข้างของทิฟฟานี่ที่ยกขึ้นมาคว้าเสื้อของร่างสูง
แล้วกระชากเหวี่ยงไปร่างของยูริไปบนเตียงสุดแรง
ก่อนที่ขาเรียวจะก้าวฉับๆตามขึ้นเตียงไป ขยับกายเข้าใกล้เข้าหาร่างของอีกคนที่ลูบหูตัวเองป้อยๆ
เห็นแบบนั้นยูริก็พยามจะถอยหนีคนตรงหน้าที่ยังเลื่อนกายประชิดเข้ามาอยู่นั้น
จนสุดท้ายแผ่นหลังของร่างสูงก็ชนกับหัวเตียง และอาจจะเป็นเพราะความหวาดกลัว
ที่มันบังคับให้สายตาคมจับจ้องและสำรวจร่างที่กำลังเคลื่อนกายเข้ามาหาตัวเอง
แต่แล้วยูริก็ต้องกลืนน้ำลายเอื้อกอีกระลอก แต่ก็ละสายตาออกมาจากสิ่งที่เห็นไม่ได้
ทิฟฟานี่ที่ท้าวแขน2ข่างลงกับเตียงและค่อยๆย่างกายเข้าไป
เธอเห็นและรู้แล้วว่าคนตรงหน้านั้นมองอะไรอยู่ และมันก็เป็นไปตามแบบที่เธอคิดไว้
แล้วทิฟฟานี่ก็ยกแขนทั้ง2ข้างขึ้นวางไว้บนไหล่ของอีกคน เรียวขาก็ยกคร่อมหน้าขาที่เยียดตรงของยูริไว้
และการที่ทิฟฟานี่ทำแบบนั้นร่างสูงก็ถึงกับอ้าปากค้าง เพราะใบหน้าคมนั้นอยู่ตรงพอดีกันเนินอกอิ่มที่โผล่เพ้นเสื้อคว้านคอนั้น
แล้วยิ่งตอนนี้ร่างบางนั้นค้อมตัวลงมาทำให้ภาพตรงหน้าชัดเจนขึ้น พาให้หัวใจของร่างสูงนั้นเต้นถี่รัวอย่างห้ามไม่ได้
มันไม่ใช่ความรู้สึกทางจิตใจ แต่ที่หัวใจมันเต้นรัวอยู่แบบนี้ก็เพราะความต้องการที่ถูกฉุดให้พุ่งขึ้นสูงโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว
และตอนนี้อีก1อย่างที่ร่างสูงได้เห็นนั้นก็คือริมฝีปากอวบอิ่มที่โน้มเข้ามายกยิ้มเล็กน้อย
"หื่นมากเลยเหรอ"
ทิฟฟานี่กระซิบเสียงแหบพร่า ให้คนฟังนั้นต้องสะดุ้งเล็กน้อยเพิ่งจะรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆที่ไหลออกมา
ร่างสูงยกมือขึ้นปาดมันออกมาดู
!!!!!
'เวรเอ๊ย จะไหลออกมาทำไม'
ร่างสูงทิ้งฝ่ามือที่เปรอะคราบเลือดลงกับเตียงพลางสูดของเหลวที่เหลืออยุ่เล็กน้อยในโพรงจมูก
แล้วเงยหน้ามองตัวต้นเหตุอย่างไม่เข้าใจ เธอไม่รู้ว่าทิฟฟานี่ต้องการอะไรกันแน่ เดี๋ยวก็ทำเหมือนยั่วอีกแว๊บก็เหมือนจะฆ่า
"ก็รู้อยู่ว่าฉันเป็นยังไง"
ยูริเอ่ยเสียงแผ่ว ใช่ที่เพื่อนๆทุกคนรู้ว่าเธอหื่นแค่ไหนแล้วมาเจออะไรแบบนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกที่เธอจะหื่นขนาดนี้ ก็ในเมื่อมันไม่ได้รับการปลดปล่อยสักที
แถมยังถูกฉุดให้ความต้องการนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีก และเธอก็เชื่อว่าทิฟฟานี่ก็คงเข้าใจ
"หื่นอะไร ไม่เห็นจะมีอะไรให้น่าหื่น"
ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงเรียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"นี่รู้ป่ะว่า ถ้าอิคนตรงหน้าฉันนี่มันไม่ใช่แก ฉันจับกดไปตั้งแต่หน้าประตูแล้ว"
ยูริที่สติแตกกระเจิงเอ่ยเสียงแข็งอย่างลืมตัว ความร้อนในร่างกายมันพาให้ลืมนึกว่าคนตรงหน้านั้นอันตรายแค่ไหน
ทิฟฟานี่หัวเราะหึ พลางผละใบหน้าออกมาสบตากับร่างสูงพลางคิดว่า ถ้าอีกคนนั้นโต้ตอบบ้างมันก็คงจะสนุกขึ้น
แต่ยูริก็หลุบตาลงต่ำไม่กล้าสบตาอยู่ดี
"แล้วทำไมพอเป็นฉันถึงไม่กดล่ะ"
ว่าแล้วก็เปลี่ยนโหมดอารมณ์ให้ดูเย้ายวนขึ้น พอให้อีกฝ่ายนั้นงุนงงเล็กน้อยเพราะตามอารมณ์นางไม่ถูก
ใบหน้าคมเหลือบตาขึ้นมองร่างบางเล็กน้อย กับคำถามนั้นแล้วเธอเองก็ไม่แปลกใจอะไรหรอกที่ทิฟฟานี่ถามแบบนั้น
แต่ที่แปลกใจน่ะก็คือทำไมเธอถึงหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร
....ยังเดาอารมณ์ไม่ถูกเหรอ ไม่เกี่ยวหรอก
หรือกลัว....กลัวอะไร กลัวว่าทิฟฟานี่นั้นจะอาละวาดอีกงั้นเหรอ
ยูริได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบให้ทิฟฟานี่นั้นนึกขัดใจที่ร่างสูงนั้นไม่ได้ตอบมาอย่างที่เธอคิดไว้
"แกจะทำอะไรกันแน่ ฟานี่"
เอ่ยถามอีกครั้งอย่างไม่มั่นใจ เมื่อเห็นสายเย้ายวนที่ถูกส่งมาจากใบหน้าหวานนั้น
หัวใจก็เริ่มทำงานหนักอีกแล้วในเมื่ออารมณ์เก่ายังไม่ทันดับไป นี่จะสร้างอารมณ์ใหม่ขึ้นมาอีกเหรอ
ร่างบางไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยกยิ้มที่ใครๆเห็นก็จำต้องละลายไป1ที เพื่อสะกดให้ยูรินั้นนิ่งไปอีกครา
มือเรียวทั้ง2ข้างยกขึ้นประครองใบหน้าคมไว้ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้อีก
ร่างสูงที่เคยจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นก็รีบหลับตาไว้แน่น เมื่อสิ่งที่จ้องมองนั้นมันเคลื่อนเข้ามาใกล้
จนหัวใจเต้นถี่รัว ไม่นานยูริก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆเป่ารดใบหูเธอ
"คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ...ว่าแกคิดอะไร"
เสียงกระเส่าที่แผ่วเบาอยู่ข้างหูนั้นทำเอาสติที่พยามรวบรวมไว้ของร่างสูงนั้นขาดผึ่งทันที
มือเรียวที่เคยทิ้งให้ว่างก็ยกขึ้นโอบเอวบางไว้ พยามดึงรั้งให้ร่างของอีกคนแนบชิดเข้ามา
แต่ทิฟฟานี่ก็ใช้มือดันไหล่ของร่างสูงไว้เพื่อไม่ให่เนินอกเธอแนบชิดเข้ากับใบหน้าของอีกฝ่าย
ก่อนที่นิ้วเรียวนั้นจะเลื่อนไปแตะที่ริมฝีปากอิ่มของร่างสูง เชิงให้เย็นไว้ก่อน
แล้วเลื่อนมือลงมาปลดกระดุมเสื้อของคนตรงหน้าช้าๆเนิบนาบ
ใบหน้าหวานยังคงยิ้มเย้ายวนให้คนที่เห็นนั้นต้องกัดริมฝีปากล่างไว้แน่นเพื่อข่มอารมณ์
ไม่นานปกเสื้อทั้ง2ข้างของร่างสูงก็ถูกแหวกออกโดยปลายนิ้วเรียว
ที่ลากไล้ผ่านเนินอกอวบทั้ง2ข้างที่โผล่พ้นบราสีเข้มนั้นจนมาถึงไหล่แล้วลากกลับไปที่กลางอก
ใบหน้าคมเงียหน้าขึ้นพิงหัวเตียวไว้หอบหายใจอย่างรุนแรง มือเรียวที่เคยโอบเอวบางไว้ก็เริ่มลูบไล้ลงมายังสะโพกผาย
บีบเคล้นมันเบาๆ เมื่ออารมณ์ความต้องการยังคงเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
ทิฟฟานี่ใช้ปลายนิ้วเกี่ยวเอาเส้นสีดำบนไหล่ของร่างสูงออกทั้ง2ข้าง
ก่อนจะดึงรั้งให้บราสีเข้มนั้นล่นลงมาอยู่ใต้ก้อนเนื้อที่กระเพื่อมไปตามลมหายใจที่หอบถี่
เพียงปลายนิ้วเรียวนิ้วไล้เฉียดยอดอกสีสวยนั้นร่างสูงก็เกร็งกระตุกขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับเสียงครางต่ำในลำคอ
ทิฟฟานี่หย่อนบั้นท้ายลงนั่งคร่อมหน้าขาของร่างสูงไว้
เมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือเรียวทั้ง2ข้างของยูรินั้นเริ่มสอดเข้าไปใต้ขากางเกงที่สั้นแค่คืบของเธอ
ใบหน้าคมที่เงยพิงหัวเตียงอยู่นั้นก็ค่อยๆก้มกลับมามองใบหน้าหวานที่ยังคงส่งสายตายั่วยวนกลับมาอยู่นั้น
ทิฟฟานี่พาปลายนิ้วที่เคยลากไล้อยู่แถวเนินอกของร่างสูงมายังหน้าท้องแบนราบ
ลูบไล้กร้ามเนื้อที่แข็งแรงนั้นช้าๆราวกับว่าเธอหลงไหลมันสายตาก็จับจ้องอยู่บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของคนตรงหน้า
ใบหน้าหวานกัดริมฝีปากล่างอย่างเย้ายวนให้คนที่เห็นนั้นแทบคลั่ง ก่อนที่มือเรียวนั้นจะเลื่อนไปปลดกระดุมกางเกงของร่างสูง
ปลายนิ้วก็เกี่ยวให้มันล่นต่ำลงมาอีกเล็กน้อย
ดวงตาหวานเยิ้มละสายตาจากใบหน้าคมแล้วโลมเลียเรือนร่างที่เกือบจะเปลือยเปล่าท่อนบนของยูริ
ละหยุดสายตาไว้ที่จุดต่ำสุดที่เห็นเป็นผิวสิน้ำผึ้งนั้น
ปลายนิ้วก็ลาตามสายตาลงไปยังเนินเนื้อเบื้อนล่างที่โพล่พ้นขอบเอวกางเกงที่ล่นลง
ร่างสูงบิดเร้าเล็กน้อยเมื่อความวาบหวามนั้นถูกสาดเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ทิฟฟานี่ตวัดสายตากลับขึ้นไปมองใบหน้าคมที่ยังคงจับจ้องใบหน้าเธออยู่นั้น
พลางยกนิ้วเรียวข้างที่เคยทิ้งให้ว่างขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากอิมของตัวเองเชิงครุ่นคิด
ส่วนปาลายนิ้วอีกข้างก็ยังคงไล้วนไปมาอยู่แถวเบื้อนล่างอย่างเนิบนาบ
"ขอ..สำรวจมากกว่านี้ได้ไหมคะ คุณควอน"
ร่างบางเอ่ยเสียงกระเส่าและนั่นทำเอาคนที่ได้ยินนั้นต้องรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ใบหน้าหวานเห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มอย่างพอใจ
พลางยกบั้นท้ายขึ้นจากหน้าขาของอีกคน เพื่อให้เจ้าของเรียวขายาวๆนั้นได้จัดการกับกางเกงได้สะดวกขึ้น
"จะสำรวจแค่ไหนล่ะจ๊ะคนสวย"
ยูริเอ่ยถามเสียงกระเส่ามือเรียวก็จัดการกับเสื้อผ้าตัวเองไป
"ทั้งหมดเลยค่ะที่รัก"
ศัพท์ที่ร่างบางเลือกมาใช้นั้นช่างกระชากอารมณ์ของคนถูกขอให้ทำตามอย่างว่าง่าย
ไม่นานร่างของยูริก็เปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าเธอ
ก่อนที่ทิฟฟานี่จะแทรกกายเข้าระหว่างขาเรียวทั้ง2ข้างที่ชันเข่าขึ้นและแยกออกจากกันช้าๆ เพื่อให้ร่างบางนั้นแทรกกายเข้าไป
'อีลิงนี่เซ็กซี่กว่าที่คิดไว้เยอะเหมือนกันแฮะ'
สายตาหวานเยิ้มโลมเลียเรือนร่างเปลือยเปล่าของอีกคนช้าๆ มือเรียวก็ยกขึ้นลูบไล้เรียวขาสีน้ำผึ้งอย่างเย้ายวน
ปลายนิ้วของร่างสูงนั้นถูกยกขึ้นไล้บนแก้มนุ่มของหน้าหวานแผ่วเบา สายตาคมจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่ม
ก่อนจะลากปลายนิ้วมาสัมผัสที่กลีบปากอวบนั้น นึกอยากจะประกบจูบลงไปดูดดุนเมื่ออยากจะรู้ว่ารสชาติของมันจะน่าหลงไหลแค่ไหน
ไม่ทันที่ยูริจะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นสติที่พอมีเหลืออยู่ต้องแทบแตกกระเจิงอีกครั้ง
เมื่อทิฟฟานี่เผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยและส่งลิ้นร้อนออกมาตวัดไล้ปลายนิ้วเธออย่างยั่วยวน
ก่อนที่มือเรียวของร่างบางนั้นจะลูบไล้สูงขึ้นมายังขาอ่อนด้านใน
ก็เจอกับความแฉะชื้นของน้ำที่ถูกหลังไหลออกมามากมายตามอารมณ์ความต้องการจนเลอะออกมาถึงโคนขา
"ฟานี่ยา~ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ"
ร่างสูงเอ่ยเสียงกระเส่าบอกคนกำลังสำรวจเรือนร่างเธออยู่นั้น
"อยากให้ฉันเอา หรืออยากเอาฉันล่ะ"
ร่างบางถามเสียงกระเส่าไม่แพ้กัน
"อยากทั้ง2อย่างเลยได้ไหม"
เอ่ยจบมือเรียวที่เคยไล้อยู่บนใบหน้าหวานนั้นก็รั้งให้คนตรงหน้าโน้มตัวเข้ามาใกล้มากขึ้น
แต่ไม่ทันที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะสัมผัสกัน
นิ้วเรียวที่แฉะเยิ้มไปด้วยน้ำหวานนั้นก็ทาบลงบนกลีบปากอิ่มของร่างสูงเชิงปราม
ยูริผ่อนแรงที่ฝ่ามือไว้แล้วส่งปลายลิ้นออกมาและเล็มของเหลวบนเรียวนิ้วที่แตะอยู่ที่ริมฝีปาก
"อยากรู้ใช่ไหมว่าฉันจะทำอะไร"
ทิฟฟานี่ยังคงเอ่ยเสียงกระเส่าสายตาก็จับจ้องใบหน้าคมอยู่อย่างนั้น
พลางวนเรียวนิ้วหยอกล้อกับปลายลิ้นที่ตวัดไปมา
ร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนดูดนิ้วเรียวนั้นเข้าไปในโพรงปาก
ใบหน้าหวานเห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มยั่วยวนก่อนจะโน้มตัวเข้าหาร่างของคนตรงหน้าช้าๆ
"เชือด!..แกไง"
!!!!!
ร่างสูงเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินประโยคที่ร่างบางนั้นกระซิบเสียงแหบพร่า
ก่อนจะชักนิ้วกลับออกจากโพรงปากของเธอ
ยูรินิ่งไปเนื่องจากตกใจเล็กน้อยถึงปานกลางกัาเรื่องที่คาดไม่ถึง
ทิฟฟานี่ก็แอบขำเบาๆที่แผนการของเธอสำเร็จ พลางขยับกายออกจากระหว่างขาของอีกคน
แล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปพลางคิดว่าปล่อยให้อีกคนมันได้จัดการกับตัวเองไปก่อน
"นี่ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแกเคะเป็นด้วย"
ผ่านไปเกือบ15นาที ร่างบางก็เดินออกมาจากห้องน้ำพลางเอ่ยกลั้วหัวเราะแซว
คนที่ได้สติและรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างเปลือยเปล่าของตัวเองแล้วนอนขดอยู่นั้น
"แกทำแบบนี้เพื่ออะไรวะฟานี่"
ยูริถามขึ้นคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเพราะไม่เข้าใจกับร่างบางตรงหน้า
"แกไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้"
"ไม่-รู้"
"ฉันบอกว่าฉันจะเคลียร์กับแกไช่ไหม"
ยูริพยักหน้าตอบ
"ก็นี่ไงสิ่งที่ฉันลงโทษแก โทษฐานที่แกทำกับอีเป็ดแบบนั้น แล้วก็ที่กวนประสาทฉันเมื่อวาน"
"เดี๋ยวๆฉันไปทำอะไรสิก้า ฉันยังไม่รู้เลย แล้วมันเรื่องเดียวกับที่สิก้างอนด้วยใช่ไหม"
ร่างสูงดูจะแปลกใจปนไม่เข้าใจกับสิ่งที่ทิฟฟานี่เอ่ยออกมาเท่าไร
"โอ๊ยย!!ขอด่าหน่อยเหอะ อีโง่!!! นี่มึงไม่รู้เลยหรือไง"
ทิฟฟานี่วีนขึ้นทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ยูริถามออกมา แทบจะบ้าที่มันไม่รู้ตัว แล้วนั่นยังจะมาทำหน้าซึนพยักหน้าอีก
'นี่กูต้องเล่าวีรกรรมของมึง ให้มึงฟังจริงๆเหรอวะเนี่ย"
"ก็ที่มึงจะเอาแล้ว ไม่เอามันสักทีนั่นไง มันบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอ"
"หือ? นี่แค่เรื่องนั้นจริงๆเหรอ ฉันไม่คิดว่าสิก้าจะงอนเรื่องนั้นจริงๆนะ"
"นั่นแหละกูถึงใช้วิธีนี้ลงโทษมึงไง เผื่อจะรู้ว่าเวลาอยากโดนแล้วไม่ได้โดนสักทีน่ะมันเป็นไง"
"แล้วๆฉันต้องทำไงสิก้าถึงจะหายงอนฉันอ่ะ"
"เรื่องนั้นฉันไม่รู้ แต่ฉันจะเตือนแกอีกเรื่องนึงคือ
กลับไปทำกับอิเป็ดแบบตอนก่อนที่พวกแกจะคบกันถ้าไม่อยากให้มันปันใจให้ใครไปจริงๆ"
ร่างสูงนิ่งไปหลายอึดใจครุ่นคิดกับสิ่งที่ทิฟฟานี่บอก แล้วเมื่อนึกบางอย่างก็เงยหน้าขึ้นถามอีกคนทันที
"งั้นก็แปลว่าแกไม่โกรธฉันแล้วใช่ป่ะ"
ได้อย่างนั้นร่างบางก็เลิกคิ้วขึ้นสูงแปลกใจเล็กน้อยที่ร่างสูงถามออกมาแบบนั้น แต่ก็พยักหน้าให้เป็นคำตอบ
"เชื่อป่ะตั้งแต่รู้จักกันมาเพิ่งจะมีวันนี้แหละที่ฉันรู้สึกว่าแกสวยแถมน่าเอามากกว่าสิก้า"
"เหรอ คงจป็นเพราะแกตาไม่ถึงมั้งเลยไม่เคยมองเห็น"
"แหม ชมนิดชมหน่อยเอาใหญ่เลยนะยะ"
"ก็มันจริง โอ๊ยย ฉันจะไปยั่วอิเตี้ยและ ยั่วแกแม่งไม่มันเลยว่ะ"
"อ้าวว นี่ถามหน่อยเวลาแกยั่วอิเตี้ยเนี่ยแกห้ามมันแตะตัวแกแบบนี้ป่ะ"
"555 ก็นั่นมันผัวฉัน แต่แกไม่ใช่นิ แล้วเรื่องอะไรฉันจะต้องไม่ให้มันจับล่ะ"
"เออใช่ซี๊ ฉันคงไม่เร้าใจเท่ามันหรอก"
"เออจริง ระวังนะอิเป็ดมันจะโดนอิเตี้ยงาบไปอีกคน"
เอ่ยเตือนไปก็เท่านั้นก็ในเมื่อ2คนนั้นก็คงมีอะไรกันไปแล้ว ถึงจะยังไม่มีก็ต้องมีอยู่ดี5555+
"อย่าพูดงั้นดิ แค่นี้อิเตี้ยมันก็มีคนเรียงคิวรอพลีกายให้มันเยอะและ"
"555 งั้นแกก็ควรจะเร้าใจให้มากๆแล้วกันนะ เพื่ออิเป็ด ฉันไม่อยากเห็นมันทำหน้าแบบเมื่อวานอีก"
พูดไว้แค่นั้นร่างบางก็ก้าวฉับๆออกจากห้องไปทันทีโดยที่ไม่รอฟังอะไรอีก

No comments:
Post a Comment