Sunday, January 5, 2014
.....۞ Amulet Classic ۞..... [Chapter XXX]
Chapter XXX
"มีอะไรจะพูดก็รีบๆพูดฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากหรอกนะ"
ทิฟฟานี่สะบัดเสียงใส่ชายหนุ่มตรงหน้า หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากเขาซึ่งเขาโทรเข้าเบอร์ออฟฟิตของโรงแรมของเธอ
ก็เลยทำให้ร่างบางจำเป็นต้องรับสายเขา และพอรับปุ๊บก็เจอคำถามที่ว่าว่างหรือเปล่าออกมาเจอได้มั้ย
ทิฟฟานี่ได้ยินอย่างนั้นปึ๊บก็ถอนหายใจพรืดใส่โทรศัพท์แรงๆทันทีเชิงตั้งใจจะให้ปลายสายได้ยินแล้วก็สะบัดเสียงถามเขาต่อไปว่า
มีอะไร ...จะมาพูดหว่านล้อมอะไรเธออีกหรือจะมาเยาะเย้ยเธอเรื่องแทงกู เพราะทิฟฟานี่คิดว่าแทคยอนต้องมาพูดเรื่องแทงกูอีกแน่ๆและจากนิสัยของแทคยอนแล้วคงไม่พูดเรื่องดีๆหรอก
แต่พอได้ยินชายหนุ่มตอบมาร่างบางก็ขมวดคิ้วแน่น เปล่า...เรื่องเธอ ฉันรอที่เดิมนะ ว๊ากกอีตาฟันจอบนี่มันกล้าตัดสายใส่เธองั้นเหรอหึ๊ยย
มือเรียวกระแทกเครื่องมือสื่อสารลงกับฐานของมันอย่างไม่สบอารมณ์นักก่อนจะลุกพรวดเดินไปบอกวิคตอเรียว่าเดี๋ยวเธอจะกลับเข้ามาคงออกไปไม่นานนักให้เค้ารออยู่นี่แหละ
พอออกมาเจอหน้าแทคยอนร่างบางก็แว๊ดๆใส่ชายหนุ่มไปไม่ยั้งพร้อมปาระเบิดใส่เขาไปอีกลูกนึงเบาๆโทษฐานที่เขาบังอาจตัดสายใส่ก่อนที่เธอจะพูดจบ
ทิฟฟานี่โวยวายจนพอใจแล้วก็เลยพูดสะบัดเสียงถามชายหนุ่มไปแบบนั้น
แทคยอนก็ได้แต่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอะไรวะครับแค่กูชิ่งวางหูก่อนที่คุณนายนางจะพูดว่าไม่มา
กูกลับได้ระเบิดเป็นของแถมซะงั้นอ่ะ "โอ้..ทำไมดุจังเนี่ย" ชายหนุ่มถามไปเสียงเจื่อนๆอย่างไม่ค่อยสู้ดีนัก
"ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้อย่ามาหาเรื่องให้ฉันเสียเวลาได้ป่ะรีบๆพูดมาได้แล้ว" ร่างบางสะบัดเสียงอีกให้รู้ว่าเธอรำคาณเขาจริงๆ
ถึงแม้ว่าแทคยอนจะยังไม่ได้ทำอะไรให้ทิฟฟานี่ไม่พอใจก็ตามทีเพราะคงผิดตั้งแต่ที่เขาคือแทคยอนแล้วล่ะ ก่อนที่ร่างบางจะเริ่มเดินหนีชายหนุ่มไป
"โอเคๆ...ทิฟฟานี่ เธอรู้อะไรเกี่ยวกับวิคตอเรียบ้าง" แทคยอนคว้าข้อมือร่างบางไว้รั้งให้เธอหันเกลับไปมองหน้าเขา
"ทำไมอีกล่ะจะมาบอกว่าเค้ามีใครอยู่แล้วอีกเหรอฉันไม่แคร์หรอกนะเรื่องแบบนั้นของวิคตอเรียน่ะ" ทิฟฟานี่สะบัดข้อมือสุดแรงเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ
เพราะปกติแล้วทิฟฟานี่จะไม่ชอบและไม่ปลื้มเป็นอย่างมากถ้ามีใครมาแตะเนื้อต้องตัวเธอโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติ
"แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าผู้ชายผมสีบลอนด์คนที่สู้กับเธอวันนั้นน่ะก็เป็นคนของไวทัล"
ทิฟฟานี่หรี่ตาลงเล็กน้อยนึกย้อนกลับไปในเหตุการณ์เมื่อวันนั้นที่เธอสู้กับชายแปลกหน้า หมอนั่นน่ะเป็นใครเธอก็ยังไม่รู้ได้แน่ชัดเลย
จู่ๆเขาก็โผล่มาบอกว่าเธอไปลอบสังหารหมู่ครอบครัวเขา แล้วก็ไม่ให้โอกาสเธอได้พูดอะไรอีก ชายหนุ่มก็ลั่นไกปืนใส่เธอรัวๆเลย แต่จะว่าไปหลังจากวันนั้นหมอนั่นก็หายไปเลย
จนทิฟฟานี่เองก็แทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีภัยอันตรายจ้องจะทำร้ายเธออยู่
"เธอคงไม่รู้สินะฉันแค่จะมาเตือนเพราะฉันเป็นห่วงไม่รู้ว่ายัยนั่นมันจริงจังกับเธอแค่ไหนแล้ว
ฉันก็เดาไม่ออกเลยด้วยว่าถ้าวันนั้นแทงกูไม่เข้าไปช่วยเธอยัยนั่นมันจะช่วยใคร" ทิฟฟานี่นิ่งไปเล็กน้อยนี่เธอควรจะรอบคอบกว่านี้สินะ
เพราะครั้งนี้คำพูดของแทคยอนมันฟังดูมีเหตุมากพอ เพราะอย่างหมอนี่ถ้าเขาคิดจะกุเรื่องอะไรขึ้นมาเขาคงไม่พูดเข้าข้างแทงกูเป็นแน่
แต่นี่แทคยอนพูดมาเต็มปากเต็มคำเลยว่าแทงกูเข้ามาช่วยเธอ คงเพราะแทงกูอาจจะรู้อยู่แล้วหรือเปล่าไม่แน่ใจว่าสองคนนั้นอยู่ไวทัลเหมือนกัน
ระหว่างที่กำลังขับรถกลับไปยังโรงแรมหลังจากที่คุยกับแทคยอนเรียบร้อยแล้วทิฟฟานี่ก็ได้แต่คิดเรื่องนั้นซ้ำไปซ้ำมา
ถ้าวันนั้นแทงกูออกมาช้ากว่านั้นอีกหน่อยก็ดีสิเธอจะได้รู้ว่าวิคตอเรียจะเล่นงานเธอหรือหมอนั่น
ยิ่งเครียดปลายเท้าก็ยิ่งทิ้งน้ำหนักใส่คันเร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ดีหน่อยที่จุดนัดพบระหว่างเธอและแทคยอนนั้นห่างออกมาจากตัวเมืองไกลพอสมควร ถนนจึงไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านเท่าไร
ตุบ!
ขาเรียวกระตุกเหยียบเบรกภายในเสี้ยววินาทีเมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มผมสีบลอนด์สว่างในชุดสีขาวคนเดิมกระโดดมาเหยียบที่หน้ากระโปรงรถคันโปรดของทิฟฟานี่จนบุบยับ
ร่างบางกัดฟันกรอดแล้วจัดการรีบเปิดประตูก้าวลงไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับชักปืนออกมา
เดินไปยังร่างสูงใหญ่ที่กระเด็นลงมาจากหน้ากระโปรงรถเพราะแรงเบรกกระทันหัน ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ทิฟฟานี่รัวเหนี่ยวไกปืนใส่ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มไม่ยั้ง
เพราะอารมณ์ฉุนเคืองที่ชายหนุ่มนั้นริอาจกล้าทำรถคันโปรดเธอบุบเป็นรอยไป โดยที่ไม่ได้นึกถึงเรื่องบาดหมางอื่นๆในใจชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
ปัง ปัง ปัง ปัง ชายหนุ่มยิงสวนกลับมาไม่ยั้งเช่นกัน กระสุนอาบพิษสีดำนิลฝังลงยังร่างของทิฟฟานี่หลายจุด
ไม่ต่างไปจากร่างชายหนุ่มเท่าไรที่บนร่างเขาก็มีกระสุนสีแดงหม่นฝังอยู่หลายจุดเช่นกัน
ของเหลวสีแดงข้นไหลออกมาจากบาดแผลจนเยิ้มหยดลงที่พื้นไปทั่วทุกจุดที่ทั้งคู่ขยับร่างผ่านไปมา
เสียงลั่นไกปืนยังคงดังขึ้นไม่หยุดทิฟฟานี่ใช้มือซ้ายหยิบชิพออกมากหลายชิ้นแล้วพยามปาไปให้โดนร่างชายหนุ่ม
แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันเขารีบกระโดดหลบถอยห่างออกไปเพื่อไม่ให้ร่างบางเหวี่ยงวัตถุขนาดเล็กโดนร่างเขาได้ ทิฟฟานี่เลยจำต้องยิงไล่ตามร่างเขาไปอีก
ทิฟฟานี่พยามเคลื่อนไหวร่างกายให้เร็วที่สุดและไม่หยุดเป็นเป้านิ่งให้กับอีกฝ่าย แต่ร่างกายเธอเริ่มอ่อนล้ามากเกินไปแล้วเธอถูกจู่โจมหลายจุดเกินไป
ก่อนที่ชายหนุ่มจะยกปืนทั้งคู่ขึ้นมายิงใส่เธอซ้ำอีก จู่ๆก็มีเงาร่างปริศนาแว๊บไปแว๊บมาแถวๆร่างของชายหนุ่มและเพียงอึดใจเดียวร่างสูงใหญ่ของเขาก็ล้มลงคล้ายว่าจะหมดสติไป
ทิฟฟานี่ขมวดคิ้วแน่นมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจนัก อีกเพียงเสี้ยววินาทีเดียวบุคคลปริศนาคนนั้นก็หิ้วร่างของชายหนุ่มวิ่งหายไปด้วย
ผู้หญิงคนนั้น...ใครกัน... ถึงจะอยากรู้มากแค่ไหนแต่ตอนนี้เธอควรรีบกลับไปรักษาตัวก่อนเพราะพิษบาดแผลเริ่มจะเล่นงานเธอเข้าแล้ว
พอร่างบางเดินกลับมาถึงจุดที่รถจอดอยู่มือเรียวเอื้อมไปเปิดประตูขาเรียวก้าวเข้ามานั่งยังเบาะคนขับ
ใบหน้าหวานก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างแปลกใจที่เห็นว่ามีหลอดสารบางอย่างวางอยู่หน้าพวงมาลัย
มันมาได้ไงแล้วนี่มัน...สารฟื้นฟูนิ ใบหน้าหวานหันซ้ายหันขวาแถวนี้ก็ไม่มีใครแล้ว งั้นก็...ผู้หญิงชุดขาวคนนั้นใครกันนะเค้าช่วยเธองั้นเหรอ
มือเรียวหยิบหลอดสารขึ้นมาดูให้แน่ใจว่ามันไม่ใช่การหลอกตาว่าเป็นสารฟื้นฟูแน่ๆเมื่อเห็นอย่างนั้นแล้วจึงเปิดฝาออกแล้วจัดการหยดสารสีแดงใสๆลงตามปากแผลบริเวณจุดสำคัญก่อน
ซี๊ด ริมฝีปากอวบถูกกัดไว้แน่นสะกดกลั้นความเจ็บแปลบไว้ รอเพียงไม่นานปากก็เริ่มบีบตัวเข้าหากันจนกระสุนสีนิลไหลหลุดออกมาจากร่างเธอ
"ทิฟฟานี่!ไปโดนอะไรมาเนี่ย"
วิคตอเรียรีบวิ่งมาประคองร่างบางอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าร่างของทิฟฟานี่โชกเลือดมาขนาดนั้น
"ไม่เป็นไรฉันหยดสารไปบ้างแล้วแหละ"ทิฟฟานี่พูดด้วยเสียงปกติตอนนี้เธอเริ่มจะระแวงวิคตอเรียขึ้นมาแล้วสิ ถึงเธอพยามจะไม่คิดแล้วแต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ
ใบหน้าหวานนั่งมองร่างของอีกคนที่กำลังผสมสารรักษาให้ตัวเองอย่างชั่งใจ วิคตอเรีย...เธอจะซื่อสัตย์ต่อฉันอย่างที่ปากเธอพูดไว้จริงๆหรือเปล่า
"อ่ะฮึ๊ยย..ฉันตาฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย"
เจสสิก้าอุทานขึ้นเสียงแหลมปรี๊ดพร้อมกับทำตาโตเมื่อจู่ๆก็เห็นว่าร่างสูงเพรียวที่ช่างดูคุ้นตาแต่กลับไม่ใช่คนที่เธอคุ้นเคยกับการที่เค้ามาปรากฎตัวอยู่ในร้านเธอเนี่ย
ยูริยิ้มบางๆกลับไปให้ใบหน้าสวยที่เหลือกตามองหน้าเธออยู่นั่นพลางเดินตรงเข้าไปยังหน้าเค้าเตอร์ที่มีเจ้าของร้านสาวสวยยืนทำหน้างงๆใส่เธออยู่
"เธอไม่ได้ตาฝาดหรอกน่า..ฉันแค่อยากมาหาเธอบ้างไม่ได้หรือไงล่ะ หึ้มม"
ร่างสูงหย่อนกายนั่งลงกับเก้าอี้หน้าเค้าเตอร์สายตาคมกรีบก็เอาแต่จับจ้องใบหน้าของอีกคนไม่ละสายตา ไม่สิต้องเรียกว่าละสายตาออกมาไม่ได้น่าจะโอเคกว่านะ
เจสสิก้าได้ยินแบบนั้นก็รีบสะบัดหน้าเล็กน้อยเพื่อไล่ความมึนอึนงงของตัวเองแล้วหันกลับมายิ้มหวานๆให้คนตรงหน้าก่อนจะเอ่ยถามเค้าไปอย่างอารมณ์ดี
"อะไรกันคะ คนอย่างคุณยูริเนี่ยนะอยากจะมาหาฉัน ใครเค้าจะไปเชื่อคุณกันคะฉันไม่ได้เด็กๆแล้วนะ"
ใช่สิเธอไม่ใช่เด็กๆที่จะไม่รู้อะไรและก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สาเหตุจริงๆของยูริเสียเมื่อไรกันล่ะ
ท่าทีน่ารักน่าชังของคนตัวบางนั้นเล่นเอายูริแทบอยากจะฉุดเจสสิก้าเข้าห้องเสียจริงๆเลย เธอไม่แน่ใจหรอกนะว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อผู้หญิงตรงหน้านี้จะเรียกว่าอะไรดี
ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเธอแค่อยากได้เค้าหรือว่าเธอหลงรักเค้าไปแล้วก็ไม่รู้ หลังจากที่เธอใช้เวลาทบทวนกับตัวเองอยู่นานมากจนรู้สึกว่าเธอคงหาคำตอบด้วยตัวเองไม่ได้นั่นแหละ
เธอจึงตัดสินใจไปปรึกษาแทงกูดูว่าเธอควรจะเอาไงดีแต่แทงกูก็บอกว่าให้ลองมาใกล้ชิดกับเจสสิก้าให้มากขึ้นนั่นแหละมันน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว
"ฉันรู้ว่าเธอรู้น่า อย่าแกล้งทำเหมือนไม่รู้ไปหน่อยเลยเจสสิก้า เธอก็รู้ว่าฉันคิดยังไงกับเธอนี่" ยูริเลิกคิ้วเล็กน้อยสายตาก็ยังคงจับจ้องใบหน้าสวยอย่างไม่ปิดบัง
ไม่ว่าจะมองยังไงเธอก็ยังชอบผู้หญิงนี้คนนี้มากๆอยู่ดี มันคงจะเหมือนกับที่แทงกูชอบทิฟฟานี่ล่ะมั้ง
เจสสิก้าเผยยิ้มออกมาบางๆเธอไม่คิดจะปัดความสัมพันธ์จากยูริหรอกแต่เธอก็ยังไม่คิดว่าจะตอบเค้ายังไงเพราะในความรู้สึกเธอลึกๆก็ยังคงรักใครคนนั้นอยู่ไม่มากก็น้อย
แต่ที่แน่ๆก็คือยังคงตัดใจไม่ได้อย่างแน่นอนอีกทั้งเธอยังมองว่ายูริคือคนที่ไม่น่าไว้ใจมาตลอดอีก
แต่เธอก็ไม่รู้นะว่าอะไรทำให้เธอรู้สึกแบบนั้นทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลังจากที่แทงกูตอบรับเป็นพันธมิตรกับเยอนแล้วก็จะมีแต่แทงกูนั่นแหละที่โกงยูริอยู่ตลอด
แล้วเธอก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่ายูริรู้ตัวหรือเปล่า เพราะถ้าหากว่ายูริรู้แต่ทำเป็นไม่รู้นั่นคือลางบอกเหตุร้ายแน่นอน
"ก็ปกติคุณไม่เคยมาถึงที่นี่นี่คะ ฉันก็แค่แปลกใจเท่านั้นเอง" เจสสิก้าตอบไปตามตรงก็ปกติแล้วจะมีแต่ยุนอาเท่านั้นแหละที่จะมาหาแทยอน
ส่วนยูริปกติก็แค่คุยกันในแอปบ้างบางครั้งก็โฟนมาคุยด้วยบางครั้งก็โทรมาแต่ไม่เคยมาหาถึงที่ร้านแบบนี้
"แทงกูน่าจะบอกเธอหมดแล้วนี่นาเรื่องฉันน่ะ"
ยูริยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงขี้เล่นนี่ถ้าไม่ติดว่าเจสสิก้าคือคนสำคัญของแทงกูนะเธอคงลากเค้าไปกดนานแล้วไม่มามัวลังเลๆอยู่แบบนี้หรอก
เจสสิก้าพยักหน้าเล็กน้อยใช่แทงกูเล่าเรื่องยูริให้เธอฟังหมดแล้ว นึกๆอยู่ครู่ก็เริ่มรู้สึกได้ว่ามีสายตาคนจับจ้องมาที่เธอกับยูริมากเกินไปแล้ว
อาจจะเป็นเพราะยูริที่ถ่อมาหาเธอถึงร้านคุยกันด้วยเนื้อหาเชิงกรุบกริบแถมยังเอ่ยถึงชื่อแทงกูอีกร่างบางจึงได้เอ่ยชวนยูริไปคุยยังที่ลับตาคน
"นี่คุณรู้มั้ยไอ้แทงน่ะมันเล่าเรื่องคุณที่ไปปรึกษามัน พร้อมกับพูดติดตลกในความคิดหื่นๆของมันจนฉันแทบจะกลัวคุณแล้วนะ"
เมื่อพายูริเดินเข้ามาในห้องส่วนที่ไม่ได้เปิดให้ลูกค้าใช้บริการแล้วเจสสิก้าก็พูดออกมาอย่างไม่ได้ซีเรียสนัก
"อะไรกันนี่ฉันไปขอคำปรึกษาผิดคนหรือเปล่าเนี่ย"
ยูริก็รับได้อย่างไม่ติดขัด จริงๆแล้วเธอไม่ถือหรอกถ้าใครจะพูดถึงเธอในเรื่องหื่นๆจริงๆแล้วต้องบอกว่าเธอชอบด้วยซ้ำเพราะมันทำให้การวางตัวของเธอนั้นง่ายขึ้น
แต่ก็นั่นแหละความหื่นของเธอที่มันเคยใช้ได้ผลกับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมา แต่ตอนนี้กับผู้หญิงคนนี้เธอกลับต้องเก็บมันไว้ให้ลึกที่สุดของความรู้สึกเลย
ร่างสูงเดินตามอีกคนเข้ามาติดๆก็หย่อนกายนั่งลงข้างๆร่างบางอย่างใกล้ชิด ยกมือข้างนึงเท้าคางพร้อมหันไปมองใบหน้าสวยที่กำลังมองเธออยู่เช่นกัน
ดวงตาคมไล่สำรวจไปทั่วใบหน้าที่ชวนให้เธอลุ่มหลงจนแทบไม่เหลือสติอยู่กับตัวเอง
เจสสิก้าเห็นอย่างนั้นก็เผยยิ้มบางๆออกมา ไม่ใช่ว่ายูริไม่น่าสนใจนะ เพียงแต่ตอนนี้หัวใจของเธอยังไม่ว่างพอที่จะรับใครอีกคนเข้ามาเท่านั้นเอง
การแข่งที่มีลูกเล่นในสนามตอนนี้กำลังพาให้เหล่าบรรดานักแข่งให้ความสนอกสนใจกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดรายชื่อนักแข่งหลายร้อยคน
กำลังถูกสุ่มจับให้ไปแข่งในรอบคัดเลือกและอาจเป็นเพราะจำนวนที่มากกว่าปกติยูริจึงตัดสินใจให้รอบคัดเลือกนี้แข่งทีละห้าคันจากปกติที่แข่งเพียงรอบละสองคันเพื่อเซฟเวลาให้ได้มากที่สุด
ซึ่งจะเลือกเอาแค่สองคันแรกที่เข้าเส้นชัยก่อนเท่านั้นซึ่งทั้งผู้ชมและผู้แข่งก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ซอฮยอนเลยคิดว่าจัดโหวตเอาเลยหน้าจะโอเคกว่าเพราะอย่างน้อยคนอื่นเขาจะได้ว่าเราไม่ได้และผลการโหวตมันก็ยืนยันว่าให้เป็นแบบนั้นอยู่ดี
ยูริใช้เวลาเพียงสามเดือนเท่านั้นในการปรับแต่งระบบในสังเวียนนี้ทั้งสร้างสนามแข่งขึ้นมาใหม่ และก็มีแทงกูและยุนอาคอยทดสอบสนามให้อยู่เรื่อยๆ
เชื่อมั้ยขนาดแค่สองคนนั้นไปทดสอบสนามใหม่นะยังมีแฟนๆตามไปดูไปเชียร์เลย
จะว่าไปข่าวแทงกูน่ะก็ดังจนหลุดออกไปนอกวงโครจรเอเอ็มแอลไปแล้วจนตอนนี้แทงกูแทบคล้ายๆว่าจะเป็นดาราไปเลย
มีคนเข้ามาติดตามผลงานมากมายไม่ว่าจะเรื่องการแข่งการสู้หรือแม้กระทั่งเรื่องความรักก็ไม่เว้น
จากที่เช็คเมมเบอร์ในเว็บเอเอ็มแอลดูแล้วคนเพิ่มมาเป็นแสนเลย
"แกวันก่อนฉันเจอใครไม่รู้เว่ยผู้หญิงชุดขาวๆมีฮูดโคทยาวๆ อยู่ๆก็เหมือนมาช่วยฉันเฉยๆเลยอ่ะ"
หลังจากวันที่ทิฟฟานี่ออกไปเจอแทคยอนวันนั้นจนถึงวันนี้เธอก็ยังไม่ได้ออกไปไหนอีกเลยสองวันผ่านมาทิฟฟานี่เอาแต่นั่งหาข้อมูลเผื่อจะเจอใครที่มีลักษณะคล้ายหญิงสาวที่เจอในวันนั้น
แม้จะได้รายชื่อที่มีส่วนคล้ายมาบ้างแต่เธอก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่สักคนถึงจะมีที่รู้สึกว่าอาจจะใช่แต่มันก็ออกจะดูแปลกไปหน่อยหากเค้าจะมาช่วยเธออย่างนั้น
...กาฮี?ไม่ใช่แน่ๆเพราะเราก็เคยเจอกันรู้จักกันอยู่แล้วดูจากหุ่นแล้วกาฮีดูตัวสูงใหญ่กว่าเยอะ ลูน่า?คนนี้เหมือนจะเคยเจอผ่านๆหุ่นก็ใกล้เคียงแต่ลูน่าจะมาช่วยเธอทำไมกัน แถมยังไม่แสดงตัวอีก วิคตอเรีย?...ก็รู้ๆกันอยู่ แทยอน? ทิฟฟานี่คิดว่ายิ่งไม่น่าเป็นไปได้เข้าไปใหญ่ เพราะจากวีรกรรมหลายอย่างที่เธอสร้างขึ้นและมันก็ส่งผลกระทบถึงแทยอนอยู่เรื่อย
แถมแทยอนเองก็ยังเลือกจะเย็นชาใส่เธอมาโดยตลอด ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจอะไรในตัวเธอเหมือนกับครั้งแรกที่เราได้เจอกันอีก
ส่วนที่เหลือก็มีแต่ผู้ชายกับพวกละดับเริ่มต้นซึ่งดูแล้วพวกระดับเริ่มต้นไม่น่าจะจัดการกับหมอนั่นได้สบายๆขนาดนั้น
จนสุดท้ายของความพยายามแล้วทิฟฟานี่ก็ต้องหันไปปรึกษาซูยองแบบนั้น แล้วก็โดนไอ้เพื่อนตัวโย่งมันก็แซวมาทันทีเลยว่า
"ทำไม แกไปปิ๊งเค้าหรือไง" ดูมันสิตั้งแต่เธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจสสิก้าจนรวมไปถึงแทงกูไอ้โย่งมันก็แซวเชิงว่าเธอใจง่ายมาตลอด เฮ้อเพื่อนนะเพื่อน
"โอ๊ยเลิกว่าฉันซะทีเถอะฉันมีคนรักแล้วนะยะ" "เหรอ...แล้วใครวะที่มันเรียกฉันให้ไปนั่งฟังตัวเองร้องไห้งอแงเป็นเด็กอนุบาลวันนั้น"
"ชิส์ ก็แค่ห่างกันไปก่อนไม่ได้ตัดขาดอะไรกันสักหน่อย ...นี่แกเลิกพาฉันนอกเรื่องได้แล้วไม่รู้จะเดาว่าใครก็บอกมาตรงๆ"
"ก็ที่ฉันรู้แกก็รู้หมดแล้วอ่ะ ฉันว่ามันอาจจะคือหนึ่งในนั้นก็ได้แต่แกนึกไม่ถึง"
ซูยองพูดอย่างไม่ใส่ใจนักไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเรื่องแค่นี้ทำไมทิฟฟานี่จะต้องอยากรู้ขนาดนั้นด้วย ก็แค่บังเอิญมีพลเมืองดียื่นมือเข้ามาช่วยเนี่ย
ดูสิซีเรียสอย่างกับเค้าไปฆ่าพ่อมันอย่างนั้นแหละ ว่าแล้วก็แอบถอนหายใจเบาๆช่วงหลังๆมานี่เธอรู้สึกว่านอกจากทิฟฟานี่จะเปลี่ยนไปแล้วยังเข้าใจยากมากขึ้นอีก
ตั้งแต่เรื่องที่มันโทรมาบอกให้หาเบอร์ใหม่ของยุนอาให้หน่อย แล้วมาเรื่องที่มันมาโวายวายกับเธอว่าามันอยากได้แทยอนแล้วยังนี่ใครอีกล่ะคนปริศนาคนนั้นน่ะ
เฮ้อ...ชักจะเหนื่อยกับนังเพื่อนบ้าคนนี้แล้วสิ ไหนจะตามมันไม่ทันแถมถามอะไรไปก็ไม่ค่อยจะตอบตรงคำถามสักเท่าไร
"เออวันนี้ไปสนามป่ะ"
ทิฟฟานี่หันไปเลิกคิ้วใส่เพื่อนสาวเชิงว่านี่มึงอารมณ์ไหนมาถามกูว่าจะไปสนามมั้ยเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่ยักจะสนใจ แต่ใบหน้าหวานก็พยักขึ้นลงช้าๆเป็นคำตอบ
"เจสสิก้าแข่งทั้งทีไม่ไปได้ไงล่ะ" ตอบพลางส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เพื่อนสาวหมั่นไส้เล่น
"แหม...พูดเหมือนเค้าเป็นเด็กในสต๊อกแกเนอะ" ซูยองทำเสียงขึ้นจมูกจิกแขวะนังเพื่อนสาวคนสวยอย่างอดไม่ได้ รู้หรอกว่าจริงๆไปเพราะอยากเห็นหน้าแทงกู
หึ๊ย ทำเป็นมาพูดว่าเจสสิก้าแข่งน่าจับดีดหน้าผากให้หมดสวยจริงๆ
"ว่าแต่แกเหอะถามทำไมยะ" ซูยองส่ายหน้าอย่างเนือยๆเธอก็แค่ถามไปงั้นแหละอยากรู้ว่าทิฟฟานี่จะตอบว่าอะไร แต่ดูแล้วยัยนี่ท่าจะหลงรักแทงกูจริงๆแฮะ
"แทง...ฉันว่าเธอกลับไปคบกับทิฟฟานี่เถอะ ฉันไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนี้แล้วนะ"
เจสสิก้าเอ่ยขึ้นพลางผละใบหน้าให้ห่างออกมาเพื่อจะได้มองหน้าร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆได้ชัดขึ้น ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าแทงกูน่ะยังโหยหาทิฟฟานี่อยู่ไม่น้อยไปจากเดิมเลย
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วันกี่สัปดาห์หรือจะเป็นเดือนหรืออาจจะมากกว่านั้นในแววตาสีฟ้าของร่างเล็กนั้น
ก็ยังคงเจือปนความหม่นหมองที่ถูกเจ้าตัวพยายามจะปกปิดมันไว้ให้มิดชิดมากแค่ไหนแต่สุดท้ายเธอก็ยังเห็นมันอยู่ดี
"แต่ฉันว่าเธอเลิกพูดถึงเค้าเถอะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าอะไรที่ทำให้เธอเอาแต่คิดว่าฉันโหยหาทิฟฟานี่ ทั้งๆที่ฉันก็อยู่มาได้และมีความสุขดี"
แทงกูย่นคิ้วเล็กน้อยแล้วก็เอ่ยออกมาแบบนั้นให้เจสสิก้าต้องถอนหายใจออกมาเบาๆให้กับความปากแข็งของคนตัวเล็ก
เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆนะว่าทำไมแทงกูจะต้องทำอะไรที่มันฝืนความรู้สึกตัวเองขนาดนั้น
แต่เจสสิก้าเองก็ยอมรับว่ายังทำใจไม่ค่อยได้กับเรื่องของทิฟฟานี่ มันยังคงปวดหน่วงๆในใจทุกครั้งที่ได้รับรู้เรื่องของคนคนนี้
แม้ยามที่เธอพูดถึงเค้าในใจลึกๆก็ไม่อาจสุขสบายอยู่ได้อย่างปกติ เพียงแค่เวลานี้ยังมีสติไม่ฟุ้งซ่านเหมือนช่วงแรกๆที่เพิ่งห่างกันไปก็เท่านั้น
แต่ทว่าทุกเวลาที่ได้เห็นแววตาของเพื่อนรักคนสำคัญตรงหน้านี้ ในใจก็ไม่ได้เจ็บปวดไปน้อยกว่ากันเลย
"เธอก็พูดได้หมดแหละว่าเธอไม่ได้อะไร แต่ความรู้สึกจริงๆของเธอน่ะ..."
ยังไม่ทันที่เจสสิก้าจะได้พูดให้จบประโยคเสียงเล็กแหลมที่จะเอื้อนเอ่ยต่อก็ถูกกลืนกลับลงไปในลำคอ
เมื่อแทงกูจัดการกดริมฝีปากตัวเองเข้ามาบดเบียดกลีบปากบางของเธอที่กำลังจะเผยอขึ้นเพื่อพูดต่อให้จบ ร่างบางปิดเปลือกตาลงช้าๆก่อนจะขยับจูบตอบคนตัวเล็กไปอย่างเต็มใจ
เจสสิก้ารู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าแทงกูกำลังไม่พอใจเธออยู่ เพราะจากรสจูบที่หนักหน่วงนั้นแล้วเธอมั่นใจเลยว่าเค้าไม่พอใจจริงๆ โอเค...งั้นเธอก็จะไม่พูดถึงอีกแล้วกัน
"ไม่พอใจฉันเหรอ"
พอผละจูบออกมาเจสสิก้าก็แกล้งถามอย่างไม่จริงจังนัก แทงกูได้ยินอย่างนั้นก็ทำท่าแยกเขี้ยวใส่ร่างบางทันทีเลย
"เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่อยากผูกมัดตัวเองไว้กับใครอีก แล้วทิฟฟานี่น่ะจ้องจะเป็นเจ้าของฉันขนาดนั้น" แทงกูพูดไปตามความจริงเพราะยังไงชีวิตเธอก็ควรจะอยู่แบบโสดๆเนี่ยแหละเหมาะที่สุดแล้ว
เพราะเธอคงทิ้งเจสสิก้าให้อยู่คนเดียวไม่ได้ ถ้าหากเธอต้องมีใครในฐานะแฟนหรืออะไรก็ตามแต่
เพราะนั่นคือการบังคับให้ตัวเองได้มีเวลาให้เพื่อนรักคนนี้น้อยลงและเธอก็ไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
เจสสิก้าได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่เผยลอยยิ้มบางๆออกมาเล็กน้อยแต่ไม่สามารถบอกได้ว่ารอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้าสวยนั้นคือรอยยิ้มแห่งความสุข
เพราะเจสสิก้าก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะยินดีที่แทงกูคิดแบบนั้นหรือรู้สึกแย่ที่เพื่อนตัวเล็กนั้นต้องเสียความรู้สึกดีๆที่มีให้กับทิฟฟานี่ไปกันแน่
"ยังไงฉันก็บังคับอะไรเธอไม่ได้อยู่แล้วแต่ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องยอมสละคนที่ต้องการทิ้งไปอีก"
แค่นั้นแหละที่เจสสิก้าไม่เคยสบายใจเลยนับตั้งแต่ที่รู้ว่าแทงกูห่างจากทิฟฟานี่ไปจนถึงตอนนี้สองคนนั้นแทบเหมือนจะขาดกันไปเลยด้วยซ้ำ
เพราะเจสสิก้าเองก็ไม่ได้เห็นทิฟฟานี่มาเกือบเดือนแล้วเช่นกัน
แทงกูไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกได้แต่ปล่อยให้ความเงียบครอบคลุมไปทั่วทั้งห้อง ถึงแม้ว่าที่เจสสิก้าพูดจะถูกทั้งหมดแต่แทงกูก็ยังคงอยากจะพยายามตัดใจจากทิฟฟานี่อยู่ดี
แม้รู้ดีว่าจากวันแรกที่หลงไหลในเสน่ห์ของหญิงสาวนั้นจนภึงวันนี้ก็ยังมีมากเท่าเดิมไม่เคยลดน้อยลงไปมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ยิ่งได้มีช่วงเวลาที่ต้องห่างยิ่งตอกย้ำว่าตัวเองโหยหามากเพียงใด
แม้อาจได้พบเจอกันบ้างโดยที่ไม่มีใครรู้แต่นั้นก็เป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆที่มันไม่เพียงพอจะเติมเต็มความต้องการได้เลย
"เออแล้วคิดไงถึงได้ลงแข่งวันนี้อ่ะ"
หลังจากที่เงียบกันอยู่นานแทงกูก็เอ่ยออกมาเบาๆแต่เสียงของเค้าที่เจสสิก้าได้ยินนั้นมันชัดเจนมากพอ เนื่องจากใบหน้าของแทงกูนั้นยังคงซุกอยู่กับซอกคอเธอ
เจสสิก้าหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบไป "ก็มันเบื่อๆนี่แถมฉันเองก็ไม่ได้ลงแข่งมาตั้งนานแล้วด้วย ก็เลยอยากลงน่ะ"
พูดไปสายตาก็เหลือบมองคนในอ้อมกอดเล็กน้อยและ แทงกูก็ทันรู้ตัวเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอหรี่จับผิดราวกับว่าแทงกูนั้นพยามจะจับความหมายที่เธอแอบแฝงไว้ในประโยคนั้นให้ได้
คิ้วเรียวถูกร่างเล็กยกขึ้นเล็กน้อยเชิงจะถามอีกคนว่าใช่แค่นั้นแน่เหรอ คล้ายๆว่าแทงกูแอบรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เจสสิก้าซ่อนมันไว้อยู่ภายใต้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้น
แต่เอาเถอะเธอจะไม่ถามหรือสงสัยอะไรเค้าแล้วกันไว้ไปที่สนามเดี๋ยวก็คงรู้เองแหละ
ณ สนามแข่ง นั่นไงแทงกูคิดไว้อยู่แล้วเชียวว่ามีอะไรไม่น่าไว้วางใจสักเท่าไร เพราะเจสสิก้าคงรู้อยู่แล้วว่าถ้าเจ้าตัวลงแข่งทิฟฟานี่จะต้องมาเพราะเป็นรู้ๆกันอยู่ว่าแทงกูต้องมากับเจสสิก้าแน่นอน
และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆเสียด้วยถึงแม้จะได้รับรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ที่ทำให้ร่างเล็กต้องชะงักนั่งไปจากทิฟฟานี่แล้ว
แต่แทงกูก็ได้แต่เมินหน้าหนีไปทางอื่นเพราะคิดไว้แล้วว่าจะต้องไม่สนใจหรือข้องเกี่ยวอะไรด้วยอีกอยู่แล้ว และในตอนนี้เธอก็มีทั้งกยูริและนิโคลที่นั่งขนาบสองข้างกายอยู่
เจสสิก้าเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆกับความพยายามปิดกั้นตัวเองของเพื่อนสาว แต่เธอก็ไม่คิดจะไปยุยงบีบบังคับอะไรแทงกูอีกอยู่แล้วปล่อยให้เค้าทำในแบบที่เค้าอยากทำไปเถอะ
ว่าแล้วร่างผอมบางก็เดินเข้ามาหายูริที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากแทงกูมากนักแต่สาวๆนี่รุมล้อมกันเป็นพวงเลยนะ พอยูริเห็นว่าเธอเดินเข้ามาในวงล้อมสาวๆของเค้าแล้วใบหน้าคมก็นิ่งไปอยู่หลายอึดใจ
"จำไม่ได้เหรอคะว่าฉันมีแข่งวันนี้" แกล้งเอ่ยร่างสูงหน้าถอดสีเล่นไปอีกหน่อย ก็แหมมันน่าหมั่นไส้ป้ะล่ะตอนอยู่กับเธอนะก็เอาแต่พูดว่าสนใจเธอคนเดียวจะไม่ชายตาแลใครเลยอะไรมากมาย
แต่ดูตอนนี้สิ ไม่ใช่เธอหึงหวงหรอกนะมันแค่หมั่นไส้เฉยๆ
"แหม...ทำไมจะต้องจำไม่ได้ด้วยล่ะคะหึ้ม นั่งด้วยกันก่อนสิ" ยูริปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะเอ่ยชวนร่างบางพลางสายตาบอกให้สาวๆคนอื่นออกไปก่อน
เจสสิก้ายิ้มหวานออกมาอีกครั้งแล้วหย่อนกายนั่งลงข้างๆร่างสูงที่นั่งคีบยาสูบอยู่นั่น
"คุณยูริคะฉันแพ้ของพวกนี้" เจสสิก้าทำท่าเหมือนจะหายใจไม่ออกจนบูริแทบดับยาสูบในมือไม่ทันแต่พอดับได้ปุ๊บใบหน้าสวยก็หัวเราะออกมาเสียอย่างนั้น
ยูริขมวดคิ้วมองหน้าคนตัวบางอย่างงอนๆ "แกล้งฉันเหรอ" ใบหน้าคมยื่นเข้าไปใกล้อีกคนอย่างรวดเร็ว หากแต่เจสสิก้าก็ไม่ได้มีท่าทีจะเกรงกลัวอะไรเธอยังคงยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
"แกล้งอะไรกันคะ ฉันแค่ไม่อยากให้เสียสุขภาพเท่านั้นเอง" ร่างบางพูดจบก็แกล้งส่งจุ๊บให้ร่างสูงติดสตั๊นไปสิบวิ กว่ายูริจะเรียกสติกลับมาได้เจสสิก้าก็เดินไปนั่งตักแทงกูเสียแล้ว
...ยั่วฉันเหรอเจสสิก้า ให้ตายเถอะผู้หญิงบ้าอะไรวะทำไมถึงได้น่ากินขนาดนี้
ยูรินั่งมองเจสสิก้ากับแทงกูหยอกล้อกันเช่นทุกครั้ง เชื่อมั้ยสองคนนี้น่ะเหมือนแฟนกันมากเลยนะยิ่งได้ใกล้ยิ่งรู้สึก
นี่ถ้าไม่ได้รับคำยืนยันจากเจ้าตัวหนักแน่นขนาดนั้นเธอคงคิดว่าเค้าเป็นแฟนกันไปแล้วล่ะ ร่างสูงหยุดความคิดลงเมื่อจู่ๆก็ได้รับแรงสะกิดเบาๆที่ไหล่ผาย
พอหันไปดูเจ้าของมือเรียวก็อดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นใบหน้าหวานของคนคนนี้ที่นี่และตอนนี้อีก ก่อนจะรีบลุกขึ้นพร้อมฉุดข้อมือเรียวของอีกฝ่ายเพื่อลากสาวเจ้าออกไปให้พ้นจากบริเวณนี้ทันที
"มีอะไร เธอก็น่าจะรู้ว่าเธอไม่ควรเข้าไปในนั้น" พอเดินออกมาต่างจากจุดพักพอสมควรแล้วร่างสูงเพรียวก็หันขวับแหวใส่สาวสวยทันที
"อ้าว...แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ" เสียงหวานเอ่ยเชิงวีนๆเล็กน้อย ก็นั่นน่ะสิเธอไม่รู้จะทำยังไงแล้วนี่ถึงได้เสี่ยงเดินเข้าไปแบบนั้น
"ก็ฝากยูอีมาขอพบฉันก็ได้นิ ฉันไม่ได้รังเกียจเธอหรอกน่ะ ทิฟฟานี่" ทิฟฟานี่เลิกคิ้วขึ้นข้างนึงเชิงว่านี่เอาอะไรคิดเนี่ยว่าเธอจะแคร์ว่ายูริจะรังเกียจเธอหรือเปล่า
จากการกระทำหลายๆอย่างแล้วควรจะเป็นเธอมากกว่าไหมที่รังเกียจยูริ
"ช่างเถอะว่าแต่เพื่อนเธอน่ะเค้าไม่คิดจะสนใจฉันเลยหรือไง" ยูริได้ยินแบบนั้นมุมปากก็กระตุกขึ้นทันที เธอจะตอบทิฟฟานี่ไปว่าอะไรดีนะ
"นี่...ใครๆก็ดูออกว่าแทงกูน่ะแปลกไปมากแค่ไหนตั้งแต่ที่มีเธอเข้ามาและตอนนี้ที่เธอต้องห่างออกไป" ร่างสูงไหวไหล่เบาๆพร้อมกับพูดไปอย่างไม่ใส่ใจนัก
ทิฟฟานี่ถอนหายใจยาวๆไม่ใช่เธอไม่รู้เพราะเธอก็สนใจไปตามสืบประวัติของแทงกูอย่างละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้อยู่เหมือนกัน
"ถ้าฉันอยากคุยกับแทงกู เธอคิดว่าเค้าจะยอมคุยกับฉันมั้ยล่ะ" "แล้วถ้าฉันช่วยเธอ ฉันจะได้อะไร" ทิฟฟานี่หรี่ตาจับผิดคนตัวสูงกว่าอย่างไม่ไว้ใจ
อย่างยูริ...จะอยากได้อะไรล่ะเธอนึกออกเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแหละ และมันก็เป็นสิ่งที่เธอจะไม่ยอมให้เค้าง่ายๆแน่ แต่จะคิดเองเออเองร่างบางก็เพยิดหน้าเชิงถามว่าแล้วอยากได้อะไร
"ก็ไม่อะไรมากทำงานให้ฉันก็อย่างซื่อสัตย์ก็พอ รับลองว่าฉันไม่ใช้งานเธอหนักหรอก" ทิฟฟานี่ได้ยินยูริพูดออกมาแบบนั้นก็ต้องขมวดคิ้วอดแปลกใจไม่ได้
ราวกับว่ายูริคิดเอาไว้แล้วว่าจะให้เธอทำอะไรงั้นแหละแต่เธอไม่ได้ทำให้เค้าสักที "ทำงานนี่งานอะไรหวังว่าคงจะไม่ใช่งานบนเตียงหรือเรื่องอย่างว่าหรอกนะ"
"ใจคอจะคิดแต่เรื่องแบบนั้นหรือไง ไม่ใช่หรอกนะแต่ถ้าเธอยังไม่เลิกคิดน่ะก็ไม่แน่" ร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆให้ตายสินี่ทิฟฟานี่มองเธอหื่นขนาดนั้นเลยหรือไงเห็นแบบนี้น่ะ
เธอคิดว่าเธอคงไม่หื่นเท่าเวลาที่แทงกูเจอคนที่ถูกใจแล้วกันน่ะ ยูริยืนทำข้อตกลงอยู่กับทิฟฟานี่ต่ออีกเพียงไม่นาน ก็เดินกลับเข้าไปในจุดพักหลังจากที่เชื่อมโฟนกับทิฟฟานี่แล้ว
ร่างสูงเดินตรงเข้ายังจุดที่แทงกูนั่งอยู่ก้มลงกระซิบเพียงประโยคสั้นๆ
"ถ้าทิฟฟานี่ขอพบคุณจะโอเคมั้ย" แทงกูหันมาเลิกคิ้วเชิงว่า ทำไมจู่ๆยูริถึงได้ถามเธอแบบนั้น ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่เพยิดหน้าเชิงขอคำตอบ
แทงกูเม้มปากเล็กน้อยจะค่อนข้างคิดหนักว่าจะเอายังไงดีใจหนึ่งก็อยากเจอเพราะคิดถึง ส่วนอีกใจไม่อยากเจอเพราะกลัวทนความรู้สึกตัวเองไม่ไหว
From...Writer
ฮี่ๆตกใจ+แปลกใจกันล่ะซี่ที่เจอเรื่องนี้อัพ แฮ่ ไม่แน่ใจว่ารีดเดอร์จะลืมกันไปหรือยังนะ
เราก็ไม่ได้อยากดองเลยแต่อาการตันมันก็ไม่เคยปราณี
แอร๊ยยยย แชปนี้...จะลุ้นให้แทงกูใจอ่อนหรือจะเชียนให้ทิฟฟานี่ไปสนใจผู้หญิงชุดขาวอย่างที่ซูยองแซวดีน๊าาา
จะว่าไปเขียนเองก็หมั่นไส้แทงกูเองเหมือนกันอ่ะนะ คนอะไร๊ ขี้เก๊กกก 5555
สงสัยต้องโดนทิฟฟานี่ทิ้งก่อนเนอะจะได้รู้สึก หึหึ (ยกยิ้มชั่วร้ายย)
ยูริก็....จะวางแผนอะไรไว้คงต้องรอติดตามกันไปเรื่อยๆแล้วล่ะเนอะ
ไปๆมาๆแทงสิคเริ่มลึกซึ้งเนอะว่ามะ เค้ารู้~มีหลายคนแอบเชียร์อยู่ใช่ไหมล๊าาา เอิ๊กสสส (เอ๊ะหรือเชียร์ยูลสิคกันมากกว่านะ-.-")
ไม่รู้แชปนี้จะชวนให้รีดเดอร์งงอะไรเพิ่มขึ้นหรือน้อยลงหรือเปล่านะ แต่ยังไงคอนเซ็ปของเรื่องนี้คือ.. งง แฮ่
------------------------------------
ต้องกราบขออภัยรีดเดอร์งามๆเลยนะที่ช่วงนี้เหมือนจะเริ่มมาอัพเรื่องนี้ช้าถึงช้ามากกกก แฮ่
สาเหตุนั่นมาจากเราดันทำเนื่อเรื่องส่วนที่เหลือหายไปหมดเลย T^T
(คร่ำครวญกับมันไปหลายวันอยู่)
เพราะตอนแรกเขียนจบไปแล้ว พอหายเลยต้องมาเขียนใหม่ อ๋อยย
ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร
แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่
เนื้อหาทุกส่วนที่ถูกตัดออกจะปรากฎอยู่ในเล่มนะคะ
ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
เย้ \0/ เนื่องนี้มาแล้ววววว ^____^ ขอบคุณค่ะ
ReplyDelete