Tuesday, June 12, 2012

[FiC 1-Shot] ~๐ Take A Bow ๐~ [TaeYeon X TiffaNy] NC18+

                           


  Take A Bow



                              





 ฟังเพลงพร้อมคำแปลที่นี่เลย จะได้เข้าถึงอารมณ์กันแบบสุดๆ





            





1ปีกับ7เดือนแล้วสินะที่เรารักกันมา แล้วเขาคนนี้ก็ได้ทำให้เธอเชื่อใจและมั่นใจในตัวเขาเป็นที่สุด
ว่าเขาจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีที่สุกและอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป....

เธอรักเขามาก มากจนไม่รู้ว่าเธอจะรักใครได้อีกหรือเปล่า
แล้วเธอก็เชื่อว่าเขาก็รักเธอมากเช่นกัน เธอเชื่อแบบนั้นเสมอ



แต่ทุกอย่างมันก็คงจะเป็นได้แค่ความฝัน เมื่อจริงๆแล้วทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลย
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีเธอแค่คนเดียวอย่างที่เธอรู้มาตลอด เขายังไม่เคยหยุดความเจ้าชู้ไว้ที่เธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว





" แท..ฟานี่ไม่ได้มีแกคนเดียวจริงๆนะเว่ย"




" แท..เผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะเรื่องฟานี่น่ะ"




" แท..ฉันเห็นฟานี่นั้งงอยู่กับใครก็ไม่รู้"




" แท..แฟนแกอ่ะร้ายใช่เล่นเลยนะ"




" แท...................."



'ไม่หรอกฟานี่รักฉันจะตายเขาไม่ทำแบบนั้นหรอก เขาคงเป็นเพื่อนแกแหละอย่าคิดมากน่า'



ถึงแม้ว่าผู้คนสนิทรอบกายจะพยามบอกกล่าวหรือเตือนเธอแล้ว...
แต่เธอก็กลับเลือกที่จะเชื่อผู้หญิงที่ชื่อ ทิฟฟานี่ เพียงคนเดียว





และเมื่อวานนี้เองที่ความจริงปรากฎขึ้นให้แทยอนได้ตาสว่างสักที
ภาพที่เขาเห็นทิฟฟานี่กับใครอีกคนที่มีท่าทีสนิทสนมกันมากเกินกว่าเพื่อน....



แทนนี้ที่เดินอย่างอารมณ์ดีมาหยุดที่บานประตูห้องทำงานของทิฟฟานี่ก่อนจะเอื้อมเปิดมันเบาๆ
วันนี้แทยอนตั้งใจมาชวนทิฟฟานี่ไปกินข้าวเย็นด้วยกันก่อนจะกลับบ้าน
ตอนแรกเธอว่าว่าจะโทรมาชวนแต่คิดไปคิดมาพอดีวันนี้งานเสร็จเร็วก็เลยกะจะมาเซอร์ไพรส์เขาเสียหน่อยให้เขาดีใจเล่น



แต่....



ภาพตรงหน้าหลังจากที่เปิดบานประตูเข้ามาแล้วปรากฎให้เห็นนั้น...มันทำให้แทยอนได้แต่ยืนนิ่ง
ทำอะไรไม่ถูก ทุกความคิดถูกลบออกไปจนหมดทันที หัวสมองของเธอขาวโพลน

ความรู้สึกจุกแน่ที่ในลำคอ ก้อนเนื้อในอกกะตุกวาบราวกับจะหยุดนิ่ง
มันเจ็บ....เจ็บจนชาไปทั้งร่างกาย ขาเรียวทั้ง2ข้างแทบทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนล้า
ภาพตรงหน้าที่เห็นชัดเจนทุกการกระทำนั้นมันทำให้เธอทำอะไรไม่ได้เลย..
ถึงแม้ว่าจะอยากวิ่งเข้าไปแล้วกระชากทั้งคู่ออกจากกันมากแค่ไหน
แต่ก็ทำได้แค่ยืนมองภาพนั้น....ให้มันบาดตาและทิ่มแทงลึกลงในใจนั้นนิ่งๆ





ทิฟฟานี่........คนรักของเธอที่รักเขามากเสียยิ่งกว่าอะไร




.....กับใครอีกคนนั้น.....




คนที่เธอเชื่อ....มาโดยตลอดว่าเขาคนนี้คือเพื่อนสนิทของคนรักเธอ




และเขา...ทั้ง2คน...



กำลังประกบริมฝีปากเนิบนาบป้อนจูบที่แสนหวานเยิ้มให้กันอยู๋
เหมือนกับที่...ทิฟฟานี่และแทยอนนั้นได้ทำกันอยู่บ่อยๆ






ฟานี่รักแทคนเดียวนะคะ......




"ท..แทยอน"
ทิฟฟานี่เอ่ยขึ้นเธอตกใจมากเมื่อเปิดตาขึ้นมา ก็เห็นภาพของแทยอนที่ยืนนิ่งน้ำตาไหลอาบแก้มขาวใสนั้นไม่หยุดสาย
ฝ่ามือเล็กกำเข้าหากันแน่นจะสั่นระริกอยู่ข้างๆลำตัว


และเมื่อเสียงหวานที่แหบพร่านั้นได้ฉุดสติของแทยอนกลับมาให้รู้สึกตัวและตกย้ำอีกครั้งว่าสิ่งที่เธอเห็นมันคือความจริง
เมื่อเขาทั้ง2ยังนั่งอยู่ด้วยกันแบบนั้น...
เธออยากหนี....หนีไปให้ไกลพอที่จะไม่ต้องมารับรู้เรื่องนี้


หนี....


หนีไป.....เมื่อคิดได้แบบนั้นร่างเล็กก็หมุนตัวและวิ่งออกจากห้องนั้นไปทันทีโดยที่ไม่รอฟังคำแก้ตัวจากอีกคน
ทิฟฟานี่ที่ตกใจไม่แพ้กันนั้นก็รีบรวบรวมสติแล้วลุกขึ้นวิ่งตามออกไป
โดยที่ไม่ต้องรอพร่ำบอกใครอีกคนที่ยังนั่งอยู่บนโซฟา เพราะเขาก็รู้ดีทุกอย่าง

......ว่าตัวเองก็เป็นได้แค่ชู้ 



ทิฟฟานี่วิ่งตามแทยอนไปจนถึงลานจอดรถและมันก็ช้าไปเมื่อแทยอนขับรถออกไปแล้ว...








ทำไม




ทำไม




ทำไมกัน




ทำไมเธอ...เฮ้อออ




ทำไมนะ....




ทำไมฉันไม่....เชื่อ....




ตลอดระยะทางจากบริษัทในหัวสมองของร่างเล็กก็มีแต่คำๆเดียววนไปวนมาอยู่แบบนั้นทั้งทีน้ำตายังคงไหลออกมา
มือเล็กกำพวงมาลัยไว้แน่นข่มอารมณ์ไว้เธอพยามตั้งสติให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เธอขับรถกลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย

แทยอนเองก็ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกร้อนราวกับมีใครมาสุ่มไฟไว้ในร่างกายของเธอนั้นมันคืออะไร
โกรธ? เธอโกรธ? โมโห? อึกอัด? เพราะทิฟฟานี่หรือเธอแค่ตกใจ แต่ที่แน่ๆที่เธอมั่นใจคือเธอ ...เจ็บ...






เจ็บ..จนไม่รู้ว่าเจ็บที่ส่วนไหนกันแน่




เจ็บมาก...จนไม่อยากทำอะไร




มากจน....ไม่อยากจะรู้สึกอะไร






มันเจ็บมาก........จนเธอไม่อยากแม้แต่จะ....หายใจ......





แทยอนปล่อยโฮออกมาทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้านเธอทิ้งตัวลงกองกับพื้นเอนร่างพิงแระตูไม้สีน้ำตาลไว้ ทิ้งทุกสิ่งไว้รอบกาย..
ไม่เคยคิดเลย ไม่เคยแม้แต่จะเอะใจด้วยซ้ำว่า....สิ่งที่คนอื่นทุกคนพยามพร่ำบอกเธอมามันจะเป็นความจริงไม่เคยคิดเลยแม่แต่นิด

ถ้าวันนี้เธอเลือกจะโทรไปบอกทิฟฟานี่ แทนที่จะเดินไปหาด้วยตัวเองแทยอนก็คงต้องโง่ไปจนวันตายแน่ๆ

เจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้ว เพราะผู้หญิงคนนี้นอกจากไม่เคยทำให้เธอต้องเสียใจหรือแม้แต่ขัดใจเธอก็แทบไม่มี
เขาไม่เคยทำตัวแย่ๆกับเธอ ไม่เคยงี่เง่า ไม่เคยขึ้นเสียงกับเธอด้วยซ้ำ ทิฟฟานี่ดีกับเธอ ดีกับเธอมากเหลือเกิน

แต่ตอนนี้...ทิฟฟานี่คนที่รักเธอและดีกับเธอ..เขาหายไป? เขาหายไปไหน คนใจร้ายคนั้นเธอไม่รู้จัก เธออยากรู้จักเขา
มันเหมือนกับว่าเธอนั้นโดนวางระเบิดให้หัวใจดวงเล็กๆที่เคยพองโตมานับปีของเธอแตกสลายไปไม่มีชิ้นดี
หรือเป็นใครคนนั้นที่เธอเจอเมื่อเย็น เขาเพียงยื่นเข็มเล็กๆเข้ามาทิ่มในหัวใจที่อัดแน่นไปด้วยความรักนั้น..
..ให้แตกกระจายออกไปโดยไม่มีวันที่จะกลับมาพองโตได้อีกครั้ง

เสียงสะอื้อของคนตัวเล็กยังคงดังอยู่เรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ




ฉันจะทำไยังดี...






ฉันควรทำอะไรต่อจากนี้....




แทยอนค่อยๆเปิดตาขึ้นอีกครั้งเมื่อจู่ๆ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังเข้ามาในโสตประสาท
มือเล็กยกขึ้นมานวดขับเบาๆ เนื่องจากอาการปวดหนึบๆในหัวเล่นงาน



'นี่ฉัน...หลับไปเหรอเนี่ย'



แทยอนพยามยันกายลุกขึ้นเต็มความสูง แต่ก็ยังไม่ทันได้เดินไปไหนหรือทำอะไร ภาพเดิมๆมันก็ฉายขึ้นมาให้เธอเห็น...




ทุกฉาก....เนิบนาบ






ทุกการเคลื่อนไหวของคนรักของเธอ






ทุกสัมผัส....ที่ใครคนนั้นมอบให้กับคนของเธอ




ทุกอย่างมันชัดเจนราวกับย้อนกลับไปยืนอยู่ที่จุดนั้นอีก ขาทั้ง2ข้างของแทยอนแทบจะทรุดลงไปอีกครั้ง
เมื่อความรู้สึกเจ็บแปร๊บๆแล่นไปทั่วร่างกาย ร่างเล็กหลับตาแน่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วผ่อนออกช้าๆ รวบรวมสติอีกครั้ง
ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวเองที่เดินเซไปเซมา และนั่งลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรง ร่างกายเหนื่อยล้าราวกับทำงานไม่ได้พักผ่อนมาหลายวัน
โดยที่ไม่สนใจว่าจะมีใครอีกคนที่ตะโกนร้อนเรียกเธอจากหน้าบ้าน ยิ่งได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนั้นเอ่ยเรียกเธอ
ขอโทษเธอ บอกเธอว่าเขาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น คำพูดเหล่านั้นมันเป็นเสมือนของมีคมชั้นดี....
ที่รวมตัวกันพุ่งเข้าใส่ก้อนเนื้อในอกที่บอบช้ำไปด้วยรอยแผลมากมายนั้น
ย้ำเข้าไปในรอบช้ำพวกนั้นอีกเรื่อยๆ จนน้ำตาที่เคยอดกลั้นไว้ไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้


'เธอจะมาบอกฉันทำไมทิฟฟานี่ ถ้าฉันไม่เข้าไปเห็นเธอก็คงไม่คิดจะบอกหรอก'



เธอไม่ได้เสียใจเหมือนฉันจริงๆหรอกทิฟฟานี่....



ทิฟฟานี่ยังคงตะโกนเรียกคนที่อยู่ในบ้านไม่หยุดไม่หย่อน เธอรู้ว่าเขาอยู่ในบ้าน ไฟก็เปิดอยุ่และรถของเขาก็จอดอยู่
ทั้งกะโกนเรียก บีบแตรรถ เขย่ารัว กดออดก็แล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววของร่างเล็กเลย เธออยู่ยืนตรงนี้แบบนี้มา4ชั่วโมงแล้ว
เพื่อรอให้เขาออกมาแค่หวังว่าเขาจะใจอ่อนบ้างและยอมพบหน้าเธอ แต่รอแล้วรอเล่าแทยอนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะทำแบบนั้น
เธอเองก็คิดไม่ถึงว่าอีกคนจะเข้าไปหาเธอทั้งๆที่เขาก็ไม่เคยเข้าไป เธอรู้ว่าแทยอนเจ็บแค่ไหนเธอรู้ดีเพราะตอนนี้เธอก็เจ็บไม่ต่างจากเขาเท่าไร
แค่เธอได้เห็นน้ำตาของร่างเล็กนั้นหัวใจเธอก็แทบหยุดเต้น จุกแน่นหน้าอกขึ้นมาเสียดื้อๆ
เพราะตั้งแต่คบกันมาเธอเคยเห็นตาน้ำของคนตัวเล็กแทบนับครั้งได้


"แทยอน!!...ฉันขอโทษออกมาหน่อยได้ไหม" ทิฟฟานี่ยังคงตะโกนเรียกคนที่อยู่ในบ้าน จนตอนนี่เธอแทบไม่มีเสียงแล้วแสบคอไปหมด

จนสุดท้ายเธอก็เห็นว่าร่างเล็กนั้นยืนมองเธออยู่ทั้งน้ำตาที่ไหลรินจนเสื้อเชิ้ตตัวบางที่เขสใส่ออกไปทำงานนั้นเปียกชุ่มไปหมด
เขายังร้องไห้อยู่.....เขาร้องไห้ตั้งแต่ตอนเย็น....จนถึงตอนนี้....ฉันจะทำยังไงดีให้เขาหาย ให้เขาไม่ต้องมาเจ็บแบบนี้

"กลับไปก่อนเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว" แทยอนพยามทำเสียงให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มันก็ยังติดจะสั่นๆอยู่บ้าง
เธอไม่อยากให้ร่างบางรู้ว่าเธออ่อนเพียงใด ไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาเพื่อเขา ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอยังรักเขาอยู่ไหม

"ไม่..ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าเธอจะฟังฉันอธิบาย" ทิฟฟานี่เอ่ยไปอย่างร้อนใจ มือเรียวก็กำรัวเหล็กตรงหน้าไว้แน่น
ถ้าที่ตรงนี้มันสว่างกว่านี้อีกเพียงเล็กน้อย แทยอนก็คงจจะเห็นว่าอีกคนทำหน้าอย่างไร เสียใจแค่ไหนร้องไห้อยู่หรือเปล่า

"มันไม่มีอะไรให้เธออธิบายหรอกทิฟฟานี่ ทุกอย่างมันชัดเจนจนฉันเข้าใจทุกอย่างหมดแล้ว" พูดจบแทยอนก็เดินหายกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ทิ้งให้ร่างบางยืนมอบเงาอีกคนไปจนรับตา
รู้สึกชาวาบกับคำพูดประโยคเมื่อครู่ของร่างไม่น้อยน้ำใสๆที่เคยไหลลินมันยังคงไหลออกมาเรื่อยๆและมากขึ้นเรื่อยๆ

ทิฟฟานี่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพ่นออกมาอย่างเหนื่อยล้า แค่คำพูดเพียงประโยคเดียวแต่ทำไมมันถึงฟังแล้วเหนื่อย....
...เสียยิ่งกว่าที่วิ่งตามร่างเล็กมาอีกนะ อาจเป็นเพราะเราคบกันมานานเกินกว่าที่จะรับได้ถ้าเธอจะต้องไม่มีเขา
เธอเองก็รู้ว่าเธอผิดเต็มๆ ที่เธอไม่เคยซื่อสัตย์ต่อแทยอนเลยตั้งแต่คบกันมา
แต่ยังไงแล้วสำหรับทิฟฟานี่...แทยอนก็ยังเป็นที่1ของเธอเสมอ เธอรักเขามาก รักเขาที่สุด และเขาก็สำคัญที่สุด





ไม่อยากเชื่อเลย....






แทยอนเจ็บแค่ไหน....






เจ็บจนเขาร้องไห้ออกมาเสียเฉยๆ...



ฉันควรทำอย่างไงดี..เพื่อล้างความผิดนี้ออกไปจากใจเธอ....ฉันเสียคนที่เป็นทุกอย่างของฉันไปไม่ได้จริงๆ

เธอก็แค่อยากจะขอโอกาสแก้ตัวจากแทยอน เธอจะทำมันให้ดีที่สุด เธอจะไม่มีใครอีก เพื่อเขา.....
ทิฟฟานี่ยื่นนิ่งอยู่พักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจกลับขึ้นรถไป ได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าพรุ่งนี้แทยอนอาจจะอารมณ์เย็นลงกว่านี้
และอาจจะยอมพบยอยคุยด้วยหรือยอมให้เธอเข้าไปในบ้านก็ได้ เมื่อร่างบางคิดได้อย่างนั้นจึงออกรถไป






เช้าวันรุ่งขึ้น




และก็เป็นอีกครั้งที่แทยอนต้องปรือตาตื่นขึ้นเพราะเสียงใครบางคนที่อยู่หน้าบ้านของเธอ แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรความเจ็บปวดแปร๊บๆก็แล่นเข้ามาอีกจนร่างเล็กต้องยกมือขึ้นกุมขมับหลับตาแน่น.......



หลังจากที่เธอเดินกลับเข้ามาในบ้านก็ปล่อยโฮออกมาอีก เพียงแค่เพราะได้เห็นหน้าเขา ได้ยินเสียงที่ร้อนรนใจของเขานั้น
เธอก็เอาแต่เสียใจฟุ้งซ่านจนแทบเสียสติ และความเจ็บปวดที่มากมายนั้น... มันได้รับการแทนที่ด้วยความเฉยชา...
.....ที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามาในหัวใจที่แหลกสลายนั้นไปเรียบร้อยแล้ว
ร่างเล็กปรือขึ้นช้าๆอีกครั้งก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเนิบนาบเข้าห้องน้ำไป



ซ่าา



เสียงน้ำไหลออกจากฝักบัวที่อยู่สูงเหนือหัวกระทบผิวขาวเนียนเบาๆ อาบน้ำเพื่อให้ร่างกายได้สดชื่นขึ้นมาบ้าง
โดยที่ไม่ได้แคร์ว่าคนที่ตะโกนเรียกเธออยู่หน้าบ้านนั้นจะรอนานไหมหรือจะร้อนหรือเปล่า




แทยอนยืนเงยหน้ารับน้ำจากฟักบัวเพื่อหวังว่ามันจะช่วยชำระล้างความรู้สึกแย่ๆให้มันหมดไป
และมันก็ทำให้เขาได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างระดับนึงเชียวล่ะ มือเล็กลูบไล้ไปทั่วร่างเพื่อทำความสะอาด
ปล่อยสมองให้ว่างเปล่า แล้วหันมาให้ความสนใจกับการชำระล้างร่างกายแทน



ผ่านไปพักใหญ่แทยอนก็เดินออกมจากห้องน้ำพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวและเกงกางขาสั้น สบายๆ
วันนี้คงไม่มีอารมณ์ไปทำงานหรอกและเธอก็ยังไม่พร้อมที่จะเจอใครเท่าไร



"แทยอน!! ฉันขอโทษให้ฉันเข้าไปหน่อยได้ไหม" เสียงที่ดังมาจากหน้าบ้านทำให้แทยอนเดินไปที่หน้าต่างและยืนดูนิ่งๆ
นึกขำเล็กน้อยเมื่อเห็นน้ำตาของผู้หญิงคนนั้น ถ้าเป็นเมื่อคืนเธออาจจะใจอ่อนก็ได้ถ้าได้เห็นมันแบบนี้
แต่ในเมื่อมันคือตอนนี้ตอนที่คนตัวเล็กนั้นมีสติครบถ้วนและพอควบคุมมันได้มากพอตัวแล้ว



'เธอร้องไห้เหรอทิฟฟานี่ เธอดูทุเรศเป็นบ้าเลย เธอร้องไห้เพราะสิ่งที่เธอทำเนี่ยนะ เหอะ'



สุดท้ายแทยอนก็ต้องออกไปปรากฎตัวให้ทิฟฟานี่เห็นอีกครั้ง


"แทยอน...ฉันขอโทษ..."


"ฉันรักเธอนะ"


"แทยอน..ให้ฉันเข้าไปนะ ฉันเสียใจจริงๆ" เมื่อเห็นว่าร่างเล็กเดินออกมาจากตัวบ้านได้ไม่ถึงก้าว
ทิฟฟานี่ยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าตัวเอง และรีบเอ่ยออดอ้อนขอความเห็นใจคนตัวเล็กนั้นทันที


แทยอนเดินมาหยุดที่หน้ารั่วบ้านตัวเองอย่างนิ่งๆ ช้อนขึ้นตามองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย
ทิฟฟานี่พยามเอื้อมมือเข้ามาในรั้วเพื่อจะคว้ามือเล็กไว้ แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเล็กนั้นสะบัดหนีไปอีกทาง
หัวใจกะตุกวูบอีกครั้งความรู้สึกจุกแน่นในลำคอนั้นมันทำให้ร่างแทบจะทรุดตัวลงกองกับพื้นเสียให้ได้
เพราะตัวเล็กนั้นไม่เคยปฏิเสธเธอเลย แม้โกรธกันหรือจะเวลาที่เคยทะเลาะกันไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
และไม่ว่าใครจะเป็นคนผิด แต่เขาก็จะเป็นคนมาง้อเธอ แต่ครั้งนี้เขาไม่เป็นทำแบบนั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาดูเย็นชากับเธอมากขนาดนี้ ใบหน้าหวานเงยหน้าสบตากับอีกคนแววตาสั่นระริกอย่างไม่ปิดบัง
ความกังวนกับท่าทีที่ดูเปลี่ยนไปของแทยอนนั้นมันทำให้เธอกลัว..กลัวว่าเธอจะเสียเขาไป ริมฝีปากอวบเม้มแน่นเป็นเส้นตรง


"แท...." เสียงหวานแหบเอ่ยแผ่วเบาราวกับเรี่ยวแรงที่เคยมีนั้นมันจางหายไปกับอากาศ
สีหน้าของแทยอนไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว ยังคงเรียบเฉยนิ่งงัน ไม่พูดไมจา
มีเพียงสายสายเท่านั้นที่ทำให่ร่างบางดูว่าเขายังหายใจอยู่แต่ก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าภายใต้ดวงตาบวมช้ำนั้น
เขาคิดอะไรอยู่ เขาจะทำอะไรต่อไป จะให้โอกาสเธอไหม เธอไม่อาจคาดเดาได้เลย




'มันหมดแล้วทิฟฟานี่ ความรู้สึกดีดีที่มีให้เธอ มันหมดไปกับรสจูบของเธอที่มอบให้ใครคนนั้นแล้ว'




ร่างเล็กหมุนตัวเดินกลับไปนิ่งๆก่อนจะกดรีโมทเพื่อเปิดประตูให้ร่างบางนั้นเดินตามเข้ามาอย่างหวั่นๆ
เธออยากจะรู้จริงๆว่าทิฟฟานี่จะแก้ตัวว่าไง ที่บอกว่าจะอธิบายน่ะเขาจะพูดอะไร
แต่ถึงยังไงจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็ตัดสินใจไว้แล้ว ไม่ว่าร่างบางนั้นจะทำยังไงก็ตาม

ทิฟฟานี่เดินตามแทยอนเข้ามาในบ้าน ซึ่งร่างเล็กก็เดินไปหย่อนตัวนั่งลงที่โซฟา แล้วเธอก็นั่งลงข้างๆเขา
ใบหน้าหวานหันไปมองคนข้างๆนึกอยากรู้ขึ้นมาจริงๆแล้วว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้ดูนิ่งไปขนาดนี้

"แท..ฉัน..ฉันรู้ว่าเธอโกรธ ฉันเสียใจ ฉันขอโทษ ฉันจะไม่ทำอีก ขอร้องล่ะช่วยพูดอะไรหน่อยได้ไหม"
ทิฟฟานี่เอ่ยทุกคำช้าๆชัดๆเพื่อย้ำให้คนที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆมั่นใจ และใจอ่อนลงบ้าง

"เธอจะให้ฉันพูดอะไรล่ะ...ก็เธอบอกเองไม่ใช่หรือไงว่าให้ฉันฟังเธออธิบาย...แล้วไหนล่ะ?...คำอธิบาย?"
แทยอนสวนกลับไปเสียงแข็งแต่ถึงจะอย่างนั้นใบหน้าใสก็คงมองตรงไปข้างหน้า ไม่หันมาสบตามีแต่สีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ใดใด
และนั่นมันก็ได้ทำให้ร่างบางนั่งไปชั่วครู่ทั้งน้ำเสียงและเนื้อหาใจความประโยคที่ร่างเล็กพ่นมันออกมานั้น มันทำให้เธออึกจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด


"ฉ...ฉัน..ไม่..ด..ได้..ตั้งใจ....../หยุดพูดเถอะ" เสียงหวานที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินแถมยังอึกอักไร้ซึ่งความหนักแน่น
ไม่ต้องรอให้ร่างบางได้พูดอะไรออกมาอีกเสียงเรียบนั้นก็เอ่ยขึ้นตัดบทอีกคนทันทีพร้อมใบหน้ามสที่หันกลับมามองอีกคน
ทำให้ทิฟฟานี่ที่นั้งก้มหน้าอยู่ต้องเงยหน้าสบตากับใบหน้าเรียบเฉยนั้น
เธอดูไม่ออกเลยว่าเขาคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ ในแววตาแบบนั้นของเขามันช่างคาดเดายากเหลือเกิน



'อะไรกัน..ทิฟฟานี่..แค่นี้เธอจะเลิกแสดงผลงานของเธอต่อแล้วหรือไงกัน'



"แท...ฉันรักเธอนะ...ฉันรักเธอเดียวจริงๆนะ...คิม แทยอน เธอคนเดียวที่ทำฉันรักมากจนขาดเธอไม่ได้" ร่างบางเอ่ยราวกับคนไร้สติ
แขนเรียวสองข้างก็คว้าเอาคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่นราวกับจะย้ำบอกเขาว่าเธอไม่อยากเสียเขาไปจริงๆ




'เธอก็รักฉันคนเดียวมาตลอดแล้วนี่นะ..ทิฟฟานี่ เธอไม่เคยขาดฉันได้ตั้งแต่แรกแล้ว......ความจริงแค่ลมปาก'








'ขอบคุณสำหรับบทเรียนดีๆที่เธอให้ฉันมาโดยตลอดแล้วกัน'




"มันจบแล้วล่ะ" ทิฟฟานี่ตัวชาวาบขึ้นมาทันทีที่ยินผละใบหน้าออกมามองหน้าคนในอ้อมกอด อย่างไม่เข้าใจ
เธอนิ่งไปพักนึงกับคำพูดที่แผ่วเบาที่หลุดออกจากปากของแทยอน ใบหน้าเรียบเฉยยังจ้องมองเธออยู่ไม่ห่าง
ภาพของคนตรงหน้าเริ่มพรากมัวเพราะน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ทิฟฟานี่ค่อยๆหลับตาลงเพื่อพยามรับรู้
และข่มใจให้เข็มแข้งไว้ ริมฝีปากล่างถูกกัดแน่นจนซีดเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น



แต่แล้วดวงตาสวยก็ต้องเบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง เมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ริมฝีปากเธอ ใช่แทยอนจูบเธอ
และเป็นจูบที่อ่อนโยนที่สุดที่เธอเคยได้รับจากเขา ความคิดและความรู้สึกมากมายตีกันรวน แต่นั่นมันไม่สัำคุัญแล้ว
เมื่อคนตรงหน้านี้กำลังสัมผัสเธอ เขาสัมผัสเธออยู่จริงๆ....เมื่อตั้งสติได้แขนเรียวก็วาดโอบรอบคอคนตัวเล็กไว้อย่างเคยชิน
ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นก็ค่อยๆขยับจูบตอบเขาให้อ่อนโยนที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้เช่นกัน




'เธอ...ให้โอกาสฉันแล้วใช่ไหมแทยอน เธอยังรักฉันเหมือนเดิมใช่ไหม'




เธอยังคงต้องการเขาเสมอและเขาเองก็รู้ดี จากจูบที่อ่อนโยนเริ่มกลายเป็นจูบที่ยั่วยวนมือเรียวก็ลูบไล้ต้นคอเขาอย่างปลุกเร้า
แทยอนถอนจูบออกมามองใบหน้าหวาน ที่ตอนนี้ใบหน้าหวานนั้นก็มองเธออยู่สายตาหวานเยิ้มและเย้ายวนที่ถูกส่งมาจากร่างบางนั้น
ไม่ต้องบอกแทยอนเองก็รู้ดีว่าเธอต้องการอะไร มือเล็กยกขึ้นมาโอบเอวบางไว้เหลวมๆก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาอีกคน
และประกบริมฝีปากเรียวบางเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่มอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้กลับเป็นรสจูบร้อนแรงที่ร่างบางตั้งใจป้อนกลับมาให้เธอ
ลิ้นเรียวถูกส่งเข้าไปในช่องปากของร่างเล็กเพื่อกวาดชิมความหอมหวานอย่างโหยหา



















มือเรียวที่เคยลูบไล้ต้นคอของคนตรงหน้านั้นเลื่อนมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางที่เขาใส่อยุ่ ทีละเม็ด ทีละเม็ดจนหมด
ก่อนใจไล้มือไปตามไหล่ขาวเนียนนั้นเพื่อลากปกเสื้อทั้ง2ข้างออกเหลือเพียงบารสีเข้มที่คนตัวเล็กใส่อยู่
มือเรียวรั้งคออีกคนให้เอียนตามร่างของเธอลงมานอนกับโซฟาในขณะที่ริมฝีปากครั้งคู่ยังคงป้อนจูบกันอย่างร้อนแรง


มืเล็กเลื่อนไปที่เนินอกที่โผล่พ้นเสื้อคอกว้างเปิดไหล่นั้นก่อนจะเกี่ยวรั้งคอเสื้อให้ล่นต่ำลงมาริมฝีปากเรียวบางนั้นพรมจูบไล่ลงมาจากคางมน
ไปที่ซอกคอขาวและมาหยุดที่เนินอกที่มีบราสีเข้มที่ดูตัดกับสีผิวนั้นปกปิดอยู่ มือเล็กเกี่ยวเอาสายบราข้างนึงให้ตกลงมาอยู่ที่ต้นแขนของร่างบาง
ก่อนจะเลื้อยไปรั้งเอาบราสีเข้มนั้นให้ล่นตามลงมาอยู่ใต้เนินอกสวยเรียวปากบางขมเม้มไปทั่วเนินอกจนขึ้นรอยสีสวย
ลิ้นร้อนค่อยโลมเลียยอดอกที่ชูชันอย่างเย้ายวน ทิฟฟานี่แอ่นกายเล็กน้อยเพื่อรับสัมผัสจากคนบนร่างมือเรียวยังคงลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนของเขาอยู่
มือเล็กเอื้อมไปลูบไล้ไปมาที่ต้นขาของร่างบาง เรียวขาทั้งสองข้างค่อยๆแยกออกจากกันอย่างเชิญชวน
เมื่อเขาพามือวนมาที่ขาอ่อนด้านในก่อนจะหายเข้าไปใต้ชายกระโปรงของเธอ


"อื้มม" เสียงหวานครางในลำคอเมื่อนิ้วเรียวของแทยอนนั้นลากผ่านจุดอ่อนไหวของเธอที่ตอนนี้ชื้นแฉะไปด้วยน้ำหวานที่ถูกหลั่งออกมาตามอารมณ์ความต้องการ ถึงแม้จะยังมีผ้าชิ้นบางปกคลุมอยู่แต่ความชื้อแฉะนั้นมันมีมากพอที่จะทำให้นิ้วเรียวรู้สึกได้ถึงความต้องการของเธอ แต่เขายังคงวนนิ้วนวดคลึงอยู่บนปุ่มอ่อนไหวของเธอ ไม่นานเขาก็เกี่ยวดึงผ้าชิ้นบางนั้นออกมาและรูดไปจนสุดปลายเท้า แล้วกลับมาสนใจที่จุดอ่อนไหวของเธออีกครั้ง ในขณะที่ลิ้นร้อนยังคงทำหน้าที่หยอกล้อกับยอดอกเธอได้ดี แต่ก็มีบ้างครั้งที่เขาจะดูดดุนยอดอกเธอเพื่อสร้างความเสียวซ่านให้เพิ่มมากขึ้น

"อ๊ะ...อื้ออ" เสียงหวานครางกระเส่าเมื้อนิ้วเรียวของเขาจมหายเข้าไปในช่องทางฉ่ำเยิ้มของเธอช้าๆ แล้วเขาก็ค่อยเร่งจังหวะขึ้น
มือเรียวที่เคยลูบไล้แผ่นหลังคนบนร่างนั้นเปลี่ยนเป็นจิกข่วนเสียจนขึ้นรอบแดงเต็มแผ่นหลังที่ข้าวเนียนประดุจน้ำนมนั้น
แทยอนเลื่อนใบหน้าขึ้นมาป้อนจูบทิฟฟานี่อีกครั้ง

"อื้ออ..." เสียงครางที่เล็ดลอดออกมาอย่างห้ามไม่ได้นั้นทำให้แทยอนเร่งจังหวะที่ข้อมือข้างขวาอีก ส่วนมือข้างซ้ายก็บีบเคล้นเนินอกของคนใต้ร่าง
แทยอนถอนจูบออกมาและก้มลงซุกไซร้ที่ซอกคอขาวนั้นแทน


" อ๊ะ..อื้ม...ทะ..แท..อื้ออ" เสียงครางยังดังขึ้นให้ได้ยินตลอด หน้าท้องหดเกร็งบ่งบอกได้ว่าเธอใกล้จะถึงปลายทางแล้ว
 ข้อมือเล็กยังคงเร่งจังหวะเร็วและแรงขึ้น มือเรียวจิกหลังคนบนร่างไว้แน่


" แท๊..อ๊า" สิ้นสุดเสียงครางร้องร่างบางกะตุกถี่ๆ ก่อนจะรั้งตัวคนบนร่างให้ทิ้งตัวลงมาทับเธอ
มือเรียวลูบไล้แผ่นหลังเขาช้าๆ










"ฉันมีความสุขจังเวลาที่เธอสัมผัสฉัน" ทิฟฟานี่เอ่ยขึ้นในขณะที่ยังโอบกอดคนบนร่างไว้แน่น ร่างกายทั้งคู่แนบชิดกัน
จนแทบไม่มีที่ให้อากาศผ่านได้



"มีความสุข....ก็ดีแล้ว" ร่างเล็กเอ่ยเสียงเรียบ กะตุกยิ้มทีมุมปากเล็กน้อย
ก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่งมองร่างบางที่กำลังลุกขึ้นนั้งตามอย่างยิ้มๆ แขนเรียวยังโอบกอดร่างเล็กไว้เหมือนทุกครั้ง
ร่างบางโน้มตัวเข้าไปประกบจูบที่ริมฝีปากเรียวบางของแทยอนอีกครั้ง แล้วก็เป็นแทยอนที่ผละออกมาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพ่นออก





'ฉันยอมรับนะว่าฉัน...ยังหยุดรักเธอไม่ได้จริงๆ'








ทั้งคู่สบตากัน...





.








.




" เพราะนี่คือรางวัลยอดเยี่ยมสำหรับคนโกหกอย่างเธอ"



"ที่ทำให้ฉันเชื่อสนิทตลอดมาว่าเธอจะซื่อสัตย์กับฉัน"




"แต่ตอนนี้"




"การแสดงของเธอมันควรจะจบได้แล้ว...."



"กลับไปเถอะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีก ทิฟาฟานี่ ฮวัง " 






No comments:

Post a Comment